“เช่นนั้นรึ?” “เพคะ ในห้องนอนนี้แม้จะเปิดโล่งแต่ยังคงมีคนเฝ้ามอง ไม่เพียงแต่เพิ่มความเครียด อาการที่น่าจะดีอาจจะแย่ลงกว่าเดิม” เสียนเฟยเริ่มคล้อยตาม มันจริงที่ว่าตั้งแต่ขันทีน้อยที่นางรักเหมือนน้อง ตกต้นหมางกั่ว นางสั่งให้นางกำนัลจับตาดูหวู่ซื่อทุกฝีก้าว มิใช่ว่ากลัวอีกฝ่ายจะทำความผิด แต่กลัวจะทำสิ่งที่เป็นอันตรายเพราะขาดสติ หรือเพราะนางคิดน้อยเกินไป ไม่เพียงแต่หวู่ซื่อกล่าวคำมิรู้ความ อีกฝ่ายยังมีท่าทีต่อต้าน แววตาแข็งกระด้าง ต่างจากขันทีน้อยของนางคนเดิมลิบลับ “เช่นนั้นเจ้าก็พาหวู่ซื่อออกไปด้านนอกเถิด” ผู้เป็นเจ้าของตำหนักเดินนำออกไป ตามด้วยนางกำนัลอีกสามนางและโม่โฉว ไป๋มี่อิงกำลังจะพยุงขันทีบนเตียง ไม่เพียงอีกฝ่ายชักมือหนี ยังมองนางด้วยหางตา จริตเช่นนี้คลับคล้ายคลับคลาเหมือน…สหายในภพเดิม “เดินเองได้” ขันทีหวู่ซื่อลุกออกจากเตียงแล้วเดินตามกลุ่มของสนม? ชุดรัดกุมที่สวมใส่มิได้ช่วยให้จิต

