บทที่6 ความลับเกือบหลุดเพราะความฟิน

1101 Words
น้ำอิง ตื่นมาช่วยป้าอิ่ม จัดเตรียมอาหารเหมือนกับทุกเช้า ทั้งที่เมื่อคืนนี้ เธอแทบจะไม่ได้นอน หลังกลับออกมาจากห้องของอมรแล้ว เด็กสาวหลับตาไม่ลง เธอนอนคิดมากจนฟุ้งซ่าน ว่าตัวเธอกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ แต่จนแล้วจนรอด เด็กสาวก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้อยู่ดี อมรเดินเข้ามาในห้องอาหาร เขาตวัดสายตา มองดูน้ำอิงที่ก้มหน้ารอรับใช้ทุกคนอยู่ตรงนั้น เขาเหลือบมองเธอเพียงเสี้ยววินาที แล้วรีบตวัด สายตากลับเพราะกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องของเขากับน้ำอิง เมื่อคืนนี้ เขานอนสลบสไล จนไม่รู้ว่าน้ำอิงออกจากห้องไปตอนไหน เด็กคนนี้ก็อึดจริงๆ โดนหนักขนาดนั้น เธอยังตื่นมาทำอาหารช่วยป้าอิ่มได้เป็นปกติ ป้าอิ่มนำอาหารเช้า เข้ามาเสิร์ฟคุณๆโดยมีน้ำอิงคอยช่วยเหมือนทุกวัน วันนี้มีข้าวต้มกุ้ง หน้าตาน่ารับประทาน พร้อมทั้งกาแฟ และ American Breakfast ที่ต้องมีติดโต๊ะอาหารในทุกๆเช้าอยู่แล้ว อมรมองดูข้าวต้มกุ้งในถ้วย ที่หน้าตาน่ารับประทานนั้น แล้วตักมันเข้าปากหนึ่งคำ รสชาติของมันใช้ได้เลย เขาจึงเอ่ยถาม ป้าอิ่มว่าไปว่า "ใครเป็นคนลงมือทำข้าวต้มกุ้งวันนี้ ครับ" "หนูน้ำอิงค่ะ รสชาติใช้ได้ไหมคะคุณใหญ่" เขาตวัดสายตา มองไปทางน้ำอิง เห็นเด็กสาวได้แต่ก้มหน้ามองที่พื้น ไม่หันมาสบตาเขาสักนิด เขานึกอยากแกล้งเธอขึ้นมา จึงตอบป้าอิ่มไปว่า "ถึงหน้าตามันจะจืดไปหน่อย แต่ลองกินแล้วก็แซ่บดีเหมือนกันครับ" "ฮะ..อะไรนะตาใหญ่ อะไรนะที่แซ่บน่ะ" แต่กลับเป็นคุณหญิงกัลยาที่ตกใจ อยู่ดีๆลูกชายคนโตของเธอก็บอกว่าข้าวต้มในถ้วยจืดๆที่ยังไม่ได้ปรุงรสนั้นรสแซ่บ อมรพึ่งรู้ตัวว่าเขาเกือบเผลอหลุดพูดความลับระหว่างตัวเองกับน้ำอิงออกไปเสียแล้ว จึงพูดแก้เก้อออกไปว่า "ผมหมายถึงข้าวต้มในถ้วยนี้ครับ ถึงมันจะจืดไปหน่อย แต่ถ้าเราปรุงดีๆ มันก็อร่อย เหมือนกับอาหารจานอื่นๆนั่นแหละ" พูดแล้วก็ชำเลืองมองดู ปฏิกิริยาของคนทำข้าวต้มว่าเธอจะสนใจเขาบ้างไหม แต่น้ำอิงก็ยังทำหน้านิ่ง ไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังก้มหน้ามองที่พื้นอยู่เหมือนเดิม "อ้อ อย่างงั้นเหลอลูก ถ้าชอบก็ทานให้เยอะๆ น้ำอิง มาตักข้าวต้มให้คุณใหญ่เพิ่มเร็วสิ" คุณหญิงกัลยาดีใจที่ลูกชายของเธอ ชอบทานอาหารเช้าที่บ้าน ปกติแล้วอมรจะรับแค่กาแฟในตอนเช้า อาหารมื้อเช้านี้สำคัญ ระดับผู้บริหารที่ต้องใช้สมองเยอะอย่างเขา ต้องทานอาหารเช้าให้เยอะๆ น้ำอิงถือโถข้าวต้ม เดินมาเติมให้กับอมร ตามคำสั่งของคุณหญิงกัลยา แต่เธอก็ไม่ยอมมองหน้าเขาอยู่ดี เธอรู้สึกประหม่าไปหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จนไม่กล้ามองแม้แต่หน้าเขา เมื่อเติมเสร็จ เด็กสาวก็เตรียมจะเดินถอยออกไป แต่มือใหญ่ ของอมร กลับจับรั้งแขนของเธอเอาไว้ก่อน "เดี๋ยวก่อนสิ อย่าพึ่งไป" ตอนนี้ทั้งคุณหญิงกัลยา และท่าน สส .เจริญ ต่างมองเขาเป็นตาเดียวกัน ที่ชายหนุ่มดันไปทำรุ่มร่าม ดึงแขน ของเด็กในบ้านอย่างนั้น อมรรู้สึกตัวว่าทุกคนกำลังมองดูการกระทำของเขาอยู่ จึงพูดแก้เก้อขึ้นมาว่า.. "ผมแค่อยากให้น้ำอิง ช่วยไปชงกาแฟอย่างเข้มสุดมาให้ผมน่ะครับ เมื่อคืนผมรู้สึกเหนื่อย จนนอนไม่เพียงพอ" "อ้อ..อย่างงั้นเหรอลูก น้ำอิงรีบไปชงกาแฟเข้มๆมาให้คุณใหญ่เขาเสียสิ" คุณหญิงรีบไล่ น้ำอิงไปชงกาแฟทันที เพราะกลัวว่าลูกชายคนโปรดของเธอ จะรอนาน เห้อออ... น้ำอิงถอนหายใจอย่างยืดยาว เมื่อเธอเดินออกมา จากความอึดอัดนั้นเสียได้ นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่นะน้ำอิง เด็กสาวถามตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย เธอต้องการหาความลับ ที่ครอบครัวนี้ปกปิดเอาไว้ เกี่ยวกับการตายของพ่อเธอไม่ใช่หรือ แต่ไปๆมาๆ กลับกลายเป็นว่า เธอกลายมาเป็นของเล่น ให้ลูกชายเจ้าของบ้านเสียอย่างงั้น ถ้าคุณหญิงกัลยา จับได้ว่า เธอแอบไปมีอะไรกับลูกชายคนโตของเขา คุณหญิงคง ไม่เลี้ยงเธอเอาไว้แน่ เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะไปอยู่ที่ไหนนะ เด็กสาวคิดอย่างหดหู่ เพราะเธอไม่มีญาติที่ไหนเลย แถมอายุยังแค่ สิบเก้าปีเอง เรียนก็ยังไม่จบ ถ้าคุณหญิงไม่เลี้ยงเธอไว้แล้วเธอจะทำอย่างไร เพราะแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอนในตอนนี้ ค่าเล่าเรียน หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เธอก็ล้วนได้รับมาจาก ท่าน สส. เจริญทั้งนั้น หลังจากที่เสิร์ฟอาหาร และเก็บห้องครัวช่วยป้าอิ่มจนเสร็จแล้ว น้ำอิงก็เดินเข้ามาในห้องของตัวเอง อย่างเหนื่อยอ่อน เพราะเธอโดนเขาสะกรำมาทั้งคืน แถมเมื่อคืนยังนอนไม่หลับเพราะคิดมากอีก โชคดีนะที่วันนี้ เธอมีเรียนในช่วงบ่าย จึงมีเวลาได้พักนิดหน่อย ตึ้ด! เสียงไลน์ของน้ำอิงดังขึ้น หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้องแล้ว "เธอ หลบหน้าฉันทำไม ไปยืนรอฉัน ตรงป้ายรถเมล์ที่เดิม" น้ำอิงมองดูข้อความที่อมรส่งเข้ามานั้น แล้วเกิดใจเต้นแรงขึ้นมา อย่างห้ามไม่อยู่ เขาทำเหมือนกับว่า เขาอยากอยู่กับเธออย่างงั้นแหละ แต่ว่า... "คือ วันนี้หนูมีเรียนตอนบ่ายค่ะคุณใหญ่" อมรมองดูข้อความที่เด้งขึ้นมานั้นอย่างหงุดหงิด เขามองไปทางโซนห้องนอนของน้ำอิง ที่อยู่ทางด้านหลังของห้องอาหารนั้น ขายาวของเขากำลังจะก้าวบุกเข้าไปหาเธอ แต่ก็หยุดตัวเองเอาไว้ได้ทัน เมื่อเขาคิดได้ว่าไม่ควรมาเสียเวลาทำอะไรอย่างนี้ เพราะถ้าคุณหญิงแม่ของเขาเกิดจับได้ขึ้นมา เด็กมันจะเดือดร้อนเอาเปล่าๆ เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็เลยเดินออกจากบ้าน แล้วขึ้นรถไปทำงานเหมือนกับทุกวัน ???????
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD