Namfon talk.
ฉันกำลังนั่งมองมือถือที่เงียบสนิทจนฉันคิดว่าฉันปิดเครื่องไว้รึป่าว
“เจ้เมื่อกี้ผมเจอพี่ต้าร์ด้วยนะ ชวนมากินข้าวที่บ้านแต่พี่เขาปฏิเสธวะ นี่ยังไม่ดีกันอีกหรอวะ” ไอ้ขิงที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านมันก็ถามฉันที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” ฉันว่ามันไปแบบนั่นแหละ ที่จริงก็อยากรู้เหมือนกันทำไมพี่ต้าร์ถึงไม่มา ไอ้ขิงมันส่ายหน้าก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน ปกติพี่ต้าร์จะทักไลน์มาหาฉันตลอด นี่ตั้งแต่ฉันวางสายใส่เขาเมื่อตอนบ่ายเขายังไม่ไลน์มาหาเลยนะ
Namfon: ทำไรอยู่คะ
Keta: เพิ่งถึงห้องค่ะ
Namfon: กินข้าวยังคะ
Keta: ยังคะ หนูกินหรือยัง
Namfon: ไอ้ขิงมันชวนมากินข้าวที่บ้านทำไมพี่ไม่มาอ่ะ
Keta: อยากให้พี่ไปรึป่าวคะ
Namfon: แล้วแต่พี่ดิ
Keta: งั้นเดี๋ยวพี่ไปหา
“นั่งยิ้มอะไรคนเดียววะเจ้ พ่อโทรมาบอกว่ากลับดึก ให้กินก่อนเลย” ไอ้ขิงมันแซวคงเห็นฉันนั่งคุยไลน์กับพี่เขา มันเปลี่ยนชุดเรียบร้อยคงจะอาบน้ำแล้ว
“กินก่อนเลยกูยังไม่หิววะ”
ไอ้ขิงมันพยักหน้าก่อนจะไปกินข้าวคนเดียว สักพักรถคันหรูสีดำก็มาจอดหน้าบ้านฉัน คนขับยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย
“อ้าวพี่ นึกว่าไม่มา มากินข้าวกันพี่” ไอ้ขิงมันทักคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน แต่เขาไม่ได้ตอบมันกลับเดินมาหาฉัน
“กินข้าวรึยังคะ”
“รายนั่นเขายังไม่ได้กินหรอกพี่เห็นเอาแต่มองมือถืออย่างเดียว”
“พูดมาก” ฉันว่าน้องชายตัวฝาแฝด ก่อนจะเดินไปร่วมโต๊ะอาหารพร้อมกับพี่ต้าร์ พอไอ้ขิงกินเสร็จมันก็ขอตัวขึ้นไปอ่านหนังสือ เหลือแค่ฉันกับพี่ต้าร์สองคนพี่เขานั่งดูบอล
“ไอ้จิวมารับกี่โมงคะ”
“หนูให้มันมารับสามทุ่ม”
“งั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อนแล้วกันนะ” เขาว่าก่อนจะเดินออกไป พักนี่เขาชอบทำท่าแปลกๆ
“เดี๋ยวสิคะ พี่ต้าร์เป็นอะไรรึป่าว”ฉันเรียกพี่ต้าร์ไว้ก่อนเขาจะเดินออกไปข้างนอก ฉันง้อคนไม่เป็นหรอกนะบอกเลย
“ป่าวค่ะ พี่ไม่ได้เป็นอะไร พี่แค่อยากบอกหนูว่า ถ้าหนูอยากถอนหมั้นวันไหนบอกพี่นะคะ”พอได้ยินแบบนี้ ฉันกลับรู้สึกใจหาย อิสระที่ฉันคาดหวังมาตลอด พอจะได้คืนมา ทำไมฉันไม่รู้สึกดีใจเลยให้ตาย พี่กีต้าร์ไม่ได้หันมามองฉันอีก เขาเดินออกไปขึ้นรถแล้วขับไปเลย ฉันได้แต่มองด้านหลังรถของเขาที่ขับไปตามถนน ปกติเขาไม่เคยพูดแบบนี้กับฉันสักครั้ง เขามักแสดงออกว่าคิดยังไงกับฉัน ทั้งที่ฉันก็คิดไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด แค่ฉันไม่แสดงออก ไม่กล้าเปิดเผยกับคนอื่น ฉันกลัวคนอื่นรู้ กลัวทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม ทั้งเพื่อนที่ฉันรัก ทั้งเขาด้วย
“คิดมากน่ายัยฝน” ฉันพึมพำปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัว ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วด้วยเดี๋ยวไอ้จิวมารอแล้วฉันจะโดนมันด่าอีก
“มึงมั่นใจ จะไปชุดนี่ใช่ไม” ไอ้จิวเวอรี่มันทำหน้าไม่ค่อยพอใจใส่ฉัน
“เออ”ฉันตอบมันด้วยความรำคาญ กับแค่ชุดที่ฉันใส่จะอะไรนักหนา ฉันแค่ใส่เสื้อรัดรูปสีน้ำเงิน กับกางเกงขาสั้นสีขาวที่สั้นเลยเข่าขึ้นมาสองคืบ แล้วก็สวมรองเท้าส้นสูงเข้าชุดแค่เนี่ย
พวกเพื่อนสนิทของฉันมันชอบบ่นเวลาฉันใส่ชุดแบบนี้ โดนเฉพาะไอ้อาร์มมันไม่ชอบเวลามีคนมาขอเบอร์หรือวุ่นวายกับฉันพวกมันหวง ฉันว่ามันรำคาญมากกว่า ฉันล่ะอยากจะบ้าตายนี่คิดอยู่เหมือนกันว่าฉันเป็นเพื่อนหรือเป็นเมียพวกมันกันแน่ แต่เป็นเมียคงไม่ได้ พวกมันนะมีคนของใจกันหมดแล้ว
“มึงเลิกทำหน้าแบบนี้ได้ล่ะ กูจะหมดความมั่นใจเพราะหน้ามึงเนี่ยแหละ เพื่อนมึงออกจะสวยไอ้สัส”
“กูไม่ได้บอกว่ามึงไม่สวย แค่ก็กลัวผับเพื่อนกูแตกเพราะผู้ชายแย้งกันจีบมึง”
“มีเพื่อนสวยต้องทำใจไอ้เหี้ย”
ไม่นานไอ้จิวมันก็ขับรถมาถึงผับ พอเข้าไปด้านไหนไอ้จิวมันก็รีบลากฉันขึ้นไปนั่งชั้นสอง เพราะมีแต่คนมองมาที่ฉัน
“โห…เมียกูแต่งตัวโคตรเอ็กซ์” ไอ้เอกมันแซวฉันก่อนจะทำท่าเคลิ้ม
“หึ…ไอ้เหี้ย” ฉันด่ามันไม่ได้จริงจังเท่าไรนัก เพราะรู้ว่ามันตอแหลแกล้งทำท่าเคลิ้มใส่ ฉันกับพวกมันสี่คนสนิทกันตั้งแต่มัธยมต้นเลยรู้นิสัยกันดี
“กูว่ากูจะปิดผับเพราะมึงเนี่ยแหละไอ้น้ำฝน” ไอ้อาร์มมันว่า
“อะไร กูมาเรียกแขกให้ไม่ดีรึไง” ฉันถามมันกลับ
“ไม่ดี มึงแต่งตัวแบบนี้ที่ไรผับกูจะแตกทุกที”
“พอๆ แดกๆ คืนนี้กูกลับดึกไม่ได้” ไอ้สายน้ำมันว่า
“ทำไม พ่อจะมารับก็บอก” ไอ้เอกมันพูดแซว
“ผัวกูดิจะมารับ” สายน้ำมันพูดไปก่อนจะกระดกแก้วเหล้าของตัวเองเข้าปาก
พวกฉันนั่งดื่มนั่งฟังเพลงจนนี่เกือบเที่ยงคืนล่ะไอ้สายน้ำก็โดนลากกลับไปแล้ว ทำไมคืนนี้พี่มันไม่มา ฉันมองหาเท่าไรก็ไม่เจอ จนใกล้ร้านปิดไอ้จิวมันก็พาฉันกลับ ที่จริงพวกฉันไม่ค่อยดื่มเหล้าหรอก มานั่งเป็นเพื่อนเจ้าของผับมันมากกว่า เพราะบ้านมีมันไม่ยอมกลับ กินนอนอยู่แต่ที่ผับอย่างเดียว แล้วก็บ่นว่าเหงาให้พวกฉันมานั่งเป็นเพื่อนมันแบบนี้