16.เทศกาลโคมไฟ กับเขาผู้นั้น

911 Words
หลายวันผ่านไป สายลมเอื้อย ๆ พัดกลิ่นบุปผา กับเสียงหัวเราะในยามสาย ตลาดกลางนครเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อใกล้ถึงเทศกาลโคมไฟ หอประโลมรัก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำก็เริ่มเปิดม่านรับแสงอรุณเช่นกัน แต่วันนี้ กลับไม่เห็นเงาของบุรุษใดเข้าออกห้องของนางคณิกาเจียวลี่ดังเคย เจียวลี่หยุดรับแขกมาหลายวันแล้ว เป็นการหยุดที่เจ้าของหออย่างซูเยก็ไม่อาจทัดทาน นางบอกว่าใกล้ถึงเทศกาลโคมไฟ ต้องพักฟื้นร่างกายให้สมบูรณ์ แต่ใครจะรู้ ว่าจริง ๆ แล้วในใจของเจียวลี่นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการฟื้นกาย หากแต่ต้องการฟื้นใจด้วยเช่นกัน วันนี้นางสวมชุดผ้าแพรบางสีครามอ่อน ลวดลายบุปผากลีบบัวปักด้วยไหมทอง ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นครึ่งศีรษะด้วยปิ่นเงินลายเมฆหมอก ต่างหูหยกขาวแกะลายระยับเมื่อสะท้อนแสง เจียวลี่ในยามไม่มีเครื่องแต่งประดับมากมาย กลับยิ่งงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวพรรณที่ได้รับการบำรุงด้วยน้ำมันดอกเหมย ขาวละมุนราวกลีบบุปผายามเช้า ริมฝีปากแต้มสีแดงจางจากน้ำชาดอกคำฝอย มอบความหวานเย็นให้กับใบหน้าที่งามอยู่แล้วให้เหมือนภาพวาดจากฝีมือเทพ “เจี่ยวลี่เจ้าจะไปตลาดคนเดียวหรือ” ถิงถิงเอ่ยถามด้วยสายตากังวล “มีแต่คนหมายปองเจ้าเต็มเมืองไปหมด หากมีใครคิดร้าย...” “ข้าจะพาอาเจี้ยนไปด้วย” เจียวลี่ตอบพร้อมรอยยิ้มบาง อาเจี้ยนเพื่อนคณิกาของนางอีกคน “เขาตัวใหญ่พอจะข่มสายตาคนทั้งเมืองได้อยู่หรอก” ตลาดยามสาย… คึกคักและอบอุ่น แผงขายโคมกระดาษ โคมแก้วเริ่มตั้งเรียงรายบนถนน เสียงเรียกลูกค้าแว่วเป็นจังหวะ กลิ่นของขนมถั่วแดงปิ้งและเกี๊ยวทอดลอยตามลม เด็ก ๆ วิ่งถือโคมรูปสัตว์ไปมา แม่ค้าแต่งตัวสดใส เรียกชักชวนอย่างคึกครื้น เมื่อเจียวลี่ก้าวเข้าสู่ถนนสายหลัก เสียงหนึ่งก็เงียบลงชั่วขณะ ไม่ใช่เพราะใครสั่งหยุด แต่เพราะภาพของนาง สะกดทุกสายตา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นางออกจากหอ แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่นางเดินทางมาเยือนตลาดกลางนครอีกครั้ง ใคร ๆ ก็เคยได้ยินชื่อเจียวลี่ หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งหอประโลมรัก ผู้เคยปรนนิบัติแม่ทัพเผย และทำให้แม่ทัพเจ๋อหมิงคลั่งไคล้ แต่เพียงแค่เคย “ได้ยิน” ไม่มีใครเคยเห็น “นางจริง ๆ” กับตา จนวันนี้ “นั่นนางใช่หรือไม่…?” “ใช่เจียวลี่แน่ ๆ งามเสียยิ่งกว่าเล่าลือ…” เสียงกระซิบกระซาบลอยผ่านในหมู่บุรุษ บางคนหน้าแดง บางคนยิ้มเก้อ หลายคนเพียงยืนนิ่ง มองนางราวกับกลัวว่าหากกระพริบตา นางจะหายไปจากโลกใบนี้ เจียวลี่ไม่สนใจสายตาเหล่านั้น นางยิ้มบางให้กับแม่ค้า หยิบเลือกแป้งหอมชนิดที่นางชอบ กลิ่นโบตั๋นขาว จ่ายเงินอย่างนุ่มนวล แล้วหันไปเลือกชาดที่ตั้งเรียงเป็นกระป๋องไม้ ก่อนจะซื้อดอกไม้แห้งสำหรับอบเสื้อผ้า และน้ำมันสำหรับหวีผม นางเดินอย่างสง่า กลิ่นบุปผาลอยตามทุกย่างก้าว แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็เหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลงเพื่อไม่ให้เงาของนางเลือนหายเร็วเกินไป เวลาพรบค่ำเมื่องานเทศกาลใกล้เริ่ม เสียงไม้ไผ่กระทบกันเบา ๆ เป็นจังหวะ เมื่อสายลมพัดผ่านแผงขายโคมไฟเล็ก ๆ ริมทาง โคมกระดาษหลากสีสัน ทั้งรูปกระต่าย ปลา เต่ามังกร แขวนเรียงรายอยู่ใต้ชายคา สีแดงสดของโคมในยามพรบค่ำ ยิ่งขับให้ผิวของเจียวลี่ที่ขาวราวหยกน้ำนม ยิ่งดูงามราวกับเทพธิดาที่เหยียบย่างลงมาเยือนโลกมนุษย์ นางหยุดยืนหน้าร้านนั้นเนิ่นนาน ไม่ได้เลือกซื้ออย่างเร่งร้อน หากแต่ละสายตาดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นอย่างใส่ใจ “แม่นางจะเลือกโคมไปแขวนในห้องหรือเจ้าคะ” เสียงแม่ค้าสูงวัยผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ ใบหน้าเปื้อนยิ้มยามสบตากับนางผู้เลอโฉม เจียวลี่หันกลับมาเล็กน้อย “ข้าอยากได้โคมที่มีลวดลายกระต่ายเจเาคาะค่ะ ไม่ทราบว่าท่านมีหรือไม่” “โคมบายกระต่ายหรือ แม่หนูช่างตาถึงนัก” แม่ค้าหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยิบโคมหนึ่งขึ้นจากด้านใน มันเป็นโคมทรงกลมขนาดย่อม พื้นสีฟ้าหม่น วาดลายกระต่ายดวงตาสีขมพู “น่ารักยิ่งนัก” เจียวลี่พึมพำ มือเรียวขาวสัมผัสเนื้อผ้าเบา ๆ ดวงตาของนางไม่ต่างจากกลีบดอกเหมยแย้มบานในยามรุ่งสางอ่อนโยน และเจือความเหงาอย่างประหลาด นางยื่นเงินค่าของพร้อมกล่าวขอบคุณ กำลังจะเดินจากไป แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “ใต้ฟ้านี้โคมงามมีมากมาย แต่ไม่มีชิ้นใดเทียบได้กับโฉมงามผู้ถือโคมได้เลย” เจียวลี่ชะงัก หันกลับช้า ๆ เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง ชุดขาวสะอาดตา มีลายกลีบบัวปักที่ชายเสื้อ เขาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับทหารหรือบุรุษนักรบ แต่รูปร่างสมส่วน ดวงหน้าขาวสะอาด คิ้วเรียว และตาอ่อนละมุน…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD