ตอนที่ 7 พบหมอ 1/2

966 Words
หลายเดือนที่ผ่านมาชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายจนผิดวิสัยปกติ เพราะอะไรอย่างนั้นเหรอ ทุกวันนี้เขารู้สึกเหมือนมีกล้องวงจรปิดติดตามตัวจนเกิดอาการหลอนไม่กล้าทำอะไร จะไปกินเหล้าก็เหมือนมีคนตาม พอถึงบ้านก็โดนสายตาพิฆาตจากผู้เป็นแม่ มาวินนั่งนวดขมับพลันสายตาก็ตรวจเอกสารที่ฝ่ายบัญชีส่งมาให้ เรื่องงานเขาไม่เคยต้องมานั่งเครียดเพราะแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาเครียดเพราะเรื่องครอบครัวต่างหาก บริหารงานมากี่ปีจนบริษัทเติบโต แต่พ่อดันไว้ใจน้องชายที่ขาดลามาสายเกือบทุกวันมากกว่าเขา มือหนาเลื่อนเอกสารรายงานบัญชีมาจนหน้าสุดท้าย ยกยิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ของตัวเอง เมื่อสมองกำลังคิดวางแผนอะไรใหม่ได้ หึ! ดูถูกเกินไป คิดว่าเขาคงไม่มีทางทำมันได้สินะ ถึงกล้าเอาเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขต่อรอง บริษัทเขาสร้างมาด้วยสองมือและมันสมองของตัวเอง มีหรือจะปล่อยให้ไอ้น้องชายเอาไปทำพัง ไม่ได้อิจฉา แต่แค่เสียดาย! พลันมือหนาก็ยกโทรศัพท์กดต่อสายหาอาชิน เมื่อครู่ที่ด่าไป คือด่าในใจ แต่ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือจากมันนิดหน่อย แม้จะไม่อยากเอ่ยคุยกับมันก็ตาม “หมามึงอ่ะ เอามายืมหน่อย” (มึงจะบ้า...มีด้วยเหรอ ใครเขายืมหมากันวะ) “สองหมื่น” ในเมื่อไม่อยากให้เหตุผล ก็เอาเงินมาล่อ เขารู้ดีว่าน้องชายชอบอะไร ยิ่งเรื่องเงินฟรีไม่ต้องทำงาน ของหวานปากของมันเลย.. นี่แหละจะให้เขาไว้ใจมันคุมบริษัทได้ยังไง (โอนตอนนี้) “บอกว่าไม่สบายแต่เรื่องเงินมึงไวจัด” (กูน้องมึงนะ) “โอนแล้ว แต่งตัวมาทำงานด้วย แล้วรีบเอาหมามาให้กูที่ห้องตอนบ่าย” อาชินก้มดูหน้าจอมือถือที่แจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายยิ้มกระหยิ่มเพราะเหมือนได้เอาชนะพี่ชายตัวเอง แม้จะต้องแลกโดยการให้มันยืมเจ้าแพนด้าที่กำลังซุกอยู่ในอ้อมอกของเขา แต่สองหมื่นทำงานสองนาทีคุ้มสุดๆ (ตอนนี้พี่ชายให้เงินเดือนเขาเดือนละสามหมื่นห้า มันจะไปพออะไร แค่ซื้อเลโก้กับโมเดลก็หมดแล้ว) ไม่ใช่อาชินไม่รู้ว่าพี่ชายของเขาคิดจะทำอะไร เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก และที่ผ่านมาเขาจับได้ตลอด อยากรู้จริงๆว่าครั้งนี้พี่เขากำลังจะเล่นแผนไหน พลางคิดสมเพชพี่ชายตัวเองในใจ ว่าทำไมมันต้องทำถึงขั้นนั้น พ่อแม่ก็ไม่ได้จะใจร้ายจนถึงไม่ให้อะไรเลยหรือเปล่า แต่ก็เถอะสันดานชอบเอาชนะ เสียหน้าไม่ได้ มันติดตัวมาตั้งแต่เกิด ‘เกมส์นี้กูชนะ’ ‘มึงขี้โกงอ่ะ มึงหลอกกูให้เล่นฝั่งทีมกาก’ ‘มึงโง่เอง คราวหลังก็หัดเรียนรู้บ้างว่าตัวไหนเก่ง’ ‘กูจะฟ้องแม่!’ ‘ดีแต่ฟ้องแม่นะมึง’ ‘ก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงวิน...อ๊ากกกก’ ‘อย่ามาแยกเขี้ยวใส่กูนะ ไอ้น้องเวร!’ อาชินแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์สมัยเด็กของเขาและพี่ชาย ความที่ต่างฝ่ายต่างเป็นคนไม่ยอมใคร ทะเลาะกันเป็นประจำจนพ่อแม่ต้องจับแยกให้อยู่ห้องนอนคนละฝั่ง เพราะตื่นมาเจอหน้ากันมีหวังได้สร้างเรื่องใหม่ในทุกเช้า แต่คงจะเป็นการใจร้ายเกินไปถ้าเขาไม่พูดเรื่องดีๆของมันบ้าง ซึ่งมันมีเยอะกว่านิสัยชอบเอาชนะคนอื่น อย่างน้อยมันก็เป็นคนรักครอบครัว รักเพื่อนฝูง ชอบช่วยเหลือคน แต่ขอโทษนะ ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ สมน้ำหน้า! “รอบนี้จะเล่นเป็นคนรักสัตว์เหรอครับพี่วิน” อาชินยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองกำลังพยายามเปิดตะกร้าแล้วช้อนอุ้มเจ้าแพนด้าขึ้นมาด้วยท่าทีหวาดหวั่น “อย่ายุ่งเรื่องของกูให้มันมาก!” สายตาพิฆาตส่งมายังน้องชายตัวดีของเขา บุคคลผู้รู้ดีในทุกเรื่อง ยกเว้นชีวิตของตัวเอง แต่ถ้ามันรู้แล้วก็เรื่องของมันเถอะแค่อยากปากมากไปพูดมั่วๆ กับที่บ้านก็พอ “ห้าหมื่น” กัดฟันกรอด! เมื่อเห็นคนที่กำลังยื่นข้อเสนอให้เขาอยู่ ถือวิสาสะไปนั่งบนเก้าอี้โต๊ะทำงานของเขา มันกล้าดียังไงนี่ถ้าไม่เห็นมันตั้งแต่เกิดเขาคงคิดว่าแม่เก็บมันมาเลี้ยงจากถังขยะข้างทาง “โอนแล้ว! ปิดปากให้ดีนะมึง” สุดท้ายก็ยอมจำนนให้น้องชายตัวเอง วันนี้เขาเสียเงินให้มันเกือบหนึ่งแสน ครั้งแรกค่ายืมหมา ครั้งสองค่าปิดหูปิดตา อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเองก็มีเรื่องเลวระยำซ่อนเอาไว้ เดี๋ยวพ่อจะจัดชุดใหญ่แฉให้เลยคอยดู พลางยืนมองอาชินเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าระรื่นชื่นบาน !!!!!! ช่วงเย็นหลังเลิกงานมาวินขับรถมายังจุดหมายที่ปักหมุด เขาลังเลอยู่นานว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ แต่เพราะไม่มีทางออกเป็นอย่างอื่นเลยต้องรีบตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นคงจะโดนที่บ้านกดดันอีกหลายรอบ “เป็นเด็กดีของพ่อวินหนึ่งวันนะลูก” มาวินลูบหัวเจ้าหมาน้อยเบาๆ ก่อนจะยกอุ้มเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD