ประเทศไทย
ยังเหมือนเดิมเลยนะ
ยังร้อนเหมือนเดิม เฮ้อ...เมื่อไหร่จะเย็นบ้างล่ะเนี่ย มาเมื่อไหร่ก็ร้อนมากขึ้นทุกที
ผมบินด่วนจากฮ่องกงมาไทยโดยเครื่องบินส่วนตัวของครอบครัว ป๊ากับม๊าดูดีใจมากที่ผมยอมมาเมืองไทย ท่านจัดเตรียมของให้ผมราวกับผมเป็นเด็กน้อย ถามโน่นนี่ว่าเอาของไปครบไหม ถ้าไม่ครบก็ซื้อใหม่ไปเลย รู้ว่ารวยครับ แต่ไม่เห็นต้องผลักไสลูกขนาดนี้เลยนี่นา
อ๋อ ยัยน้องสาวของผมอยากจะขอมาด้วยนะ แต่ป๊าไม่ให้มา ว่าแต่ เมื่อไหร่รถที่บ้านอาตินจะมารับนะ
รถหรูขับมาจอดตรงหน้าผมก่อนจะบีบแตรใส่ผมเสียงดัง ใช่รถของบ้านอาตินไหมนะ ผมมองด้วยความสงสัยไม่นานกระจกรถหรูก็ค่อยๆลดลง ก่อนที่คนในรถจะชะโงกหน้าพูดกับผม
“ขึ้นรถ” ผมยืนนิ่งเมื่อรู้ว่าใครมารับ
ยัยเนเน่เด็กสกปรกนั่นเอง
“เฮีย รีบขึ้นมา ร้อนเว้ย!” โวยวายใส่ผมอีก ทำไมวะ มาถึงเมืองไทยทั้งทีขอเป็นวันที่ดีไม่ได้เลยเหรอ ทำไมต้องให้เนเน่มารับผม และสิ่งที่ผมโคตรจะไม่ชอบใจมากๆคือ เนเน่ยังอยู่ในชุดนอน หัวฟูอย่างกับคนโดนผีหลอก
ถามจริง ออกจากบ้านมาได้ไง
เมื่อเห็นว่าผมไม่ขึ้นรถตามคำสั่งเนเน่ก็ทำเสียงฮึดฮัด ทำหน้าไม่พอใจก่อนจะลงจากรถยืนเท้าสะเอวมองหน้าผม
“จะไปไหม? ถ้าไม่ไปก็จะให้ไปเองนะ”
โคตรไร้มารยาทเลยวะ
“เอ้า! มองหน้าอีก จะนอนที่สนามบินรึไงวะเฮีย!”
เนี่ยนะเหรอคู่หมั้นผม ผมกลับฮ่องกงตอนนี้ได้ไหมวะ ไม่อยากยุ่งกับยัยสกปรกนี่แล้ว
“จิ๊! ลีลา ต้องให้ทำให้ทุกอย่างเลยรึไงเนี่ย!” มือเรียวคว้ากระเป๋าเดินทางของผม
“ไม่ต้อง เดี๋ยวทำเอง” ผมพูดเสียงนิ่ง ผมมองใบหน้าขาวที่มีขี้ตาติดที่หางตาด้วยความเอื่อมระอา อยากจะพาเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำฉิบ
สกปรกไม่พอ ยังซกมกอีก
“ทำเองก็รีบๆเอากระเป๋าใส่รถสิวะ ร้อนเว้ย!”
ผมว่าผมคงอยู่กับเนเน่ได้ไม่นานหรอก ผมเป็นคนรักสะอาด ในขณะที่เนเน่โคตรจะซกมกสกปรก
หลังจากที่เอากระเป๋าใส่รถผมก็นั่งในรถเงียบๆ
“เบาเพลงหน่อยได้ไหม หนวกหู” ผมพูดขึ้น เนเน่เปิดเพลงเสียงดังลั่นรถเลย
“อ๋อๆ” เนเน่พยักหน้าเหมือนเข้าใจ แต่ทว่า...มือเรียวกลับเร่งเสียงเพลงให้ดังขึ้นกว่าเดิม
กวนตีนกูฉิบหาย
ผมไม่พูดอะไรหันหน้ามองนอกรถ ที่หันหน้าหนีแบบเงียบๆไม่ได้อะไรหรอก กลัวตัวเองจะบวกกับเนเน่ต่างหาก ขอสงบสติอารมณ์ร้อนในใจก่อน ไม่อยากทะเลาะกับเนเน่ตั้งแต่มาถึงเมืองไทย
“จะไปไหน นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเธอนิ” ผมว่าขึ้นเมื่อเห็นว่าเส้นทางที่เนเน่กำลังขับรถพาไปนั้นไม่ได้เป็นเส้นทางไปบ้านของอาติน
“ไปคอนโดเน่ พ่อบอกว่าเฮียจะไปนอนด้วย”
เดี๋ยว มาถึงก็จะให้อยู่กับเนเน่เลยงั้นเหรอ ทำไมไม่ให้เตรียมตัวก่อน
“ใครจะอยู่ บ้านของฉันก็มี ไปส่งฉันที่บ้าน”
“ไม่ไป ขี้เกียจยูเทิร์นรถกลับ เปลืองน้ำมันรถ” เพราะทางไปคอนโดของเนเน่กับทางไปบ้านของผมมันอยู่คนละทาง ผมขบกรามแน่นได้แต่นั่งกำหมัดนับหนึ่งถึงล้านอยู่ในใจ
ใจเย็นไว้เสือ ยัยสกปรกนี่แค่กวนตีนธรรมดา
ไม่นานรถหรูก็ขับมาจอดใต้ตึกสูง คอนโดหรูดีนิ
“ขนของเองนะเฮีย ไปก่อนล่ะ ง่วงนอน หาวววว...” ว่าแล้วเนเน่ก็เปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในตึก มือเรียวขยี้ผมตัวเองจนฟู
“ล็อกรถให้ด้วยนะเฮีย” คนง่วงนอนไม่วายหันมาตะโกนบอกผม
แค่วันแรก ผมก็นับเลขถึงล้านแล้วนะ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าวันที่สองที่สาม ผมจะนับเลขถึงแสนแสนล้านไหม แล้วไงล่ะ ทิ้งให้ขนของล็อกรถเองแต่ไม่บอกว่าห้องอยู่ชั้นไหน ห้องไหน โอ๊ยยย...อยากกลับฮ่องกงโว้ยยยย
ผมต้องโทรถามอาตินว่าห้องเนเน่อยู่ชั้นไหน เลขอะไร อาตินบอกหมด แต่ก่อนจะวางสายอาตินบอก อาฝากดูแลน้องด้วยนะเสือ น้องอาจจะดื้อไปหน่อย แต่น้องน่ารักนะ
น่ารักกับผีอะไรล่ะ
ติ่งต๊อง
ผมกดกริ่งหน้าห้อง ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับเจ้าของห้องที่กำลังหยิบขนมในมือเคี้ยว คือหน้าก็ไม่ได้ล้าง ฟันก็ไม่ได้แปรง แต่กินขนมแล้ว
“เข้ามาดิ ยืนแก๊กหล่ออยู่ได้” เจ้าของห้องว่าใส่ผม
ปึง!
ก่อนจะใช้เท้าถีบประตูห้องให้เปิดกว้าง
หืมมมม...ผมจะทำยังไงกับยัยนี่ดี มารยาทก็ไม่มี ความกุลสตรีก็ไม่ต้องพูดถึง ความสะอาดนี่หาไม่ได้เลย
ผมลากกระเป๋าเข้ามาในห้องของเนเน่ เห็นสภาพห้องคือเบิกตากว้างมาก เสื้อผ้าพาดกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ถุงขนม กระป๋องเบียร์ของต่างประเทศเกลื่อนห้อง
สาบานว่านี่คือห้องไม่ใช่โรงเก็บขยะ
“โทษทีนะเฮีย เมื่อคืนมีปาร์ตี้น่ะ ไม่ทันได้เก็บห้อง ห้องรกหน่อยนะ” ไม่หน่อยแล้ว
“ถ้าอะไรมันเกะกะก็เอาตีนเขี่ยได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” ขอเอาเท้าเขี่ยเจ้าของห้องก่อนได้ไหมวะ สกปรกกว่าห้องมาก
“จะให้นอนห้องไหน?” ผมถามเจ้าของห้องก่อนจะมองรอบๆห้องไม่มีคำว่าสะอาดเลยวะ
“ไม่มีห้อง”
“หะ!?”
“มีห้องเดียว คือห้องนอนเน่”
“อ้าว แล้วฉันจะไปนอนที่ไหน?”
“ก็นอนที่โซฟาไง” ใครจะนอนกันวะ
“ฉันไม่นอน ถ้าเธอไม่มีห้องให้นอน ฉันก็จะไปอยู่ที่บ้าน”
“ทำไมเรื่องมากจังวะเฮีย เข้าใจว่ารักสงบ รักสะอาด แต่โซฟามันก็กว้างพอที่เฮียจะนอนได้เลยนะ”
“ฉันไม่ได้เรื่องมาก แต่ฉันไม่อยากนอนโซฟาสกปรกๆนั่น” ผมชี้ไปที่โซฟาที่มีเศษขนมตกใส่เต็ม
“ถามจริง อยู่ได้ไง ห้องโคตรสกปรกเลย”
“เดี๋ยวให้แม่บ้านมาทำความสะอาดให้ เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องเน่ก่อน”
“อือ” ผมลากกระเป๋ามาที่ห้องนอนของเนเน่ จะเอามือจับลูกบิดประตูก็กลัวจะติดความสกปรก ผมเลยเอานิ้วชี้ดันประตูห้องให้เปิดออกเพราะประตูมันปิดไม่สนิท พอประตูห้องเปิดออกผมก็ชะงักค้างกลางอากาศทันที
นี่มันอะไรกันวะ!
ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างของผู้หญิงสองคนนอนหลับอยู่บนเตียงนอนโดยที่ร่างกายของพวกเธอสวมใส่แค่ชุดชั้นในเท่านั้น
โอ๊ยยยยย...
“เอ้า! เน่ลืมบอกว่าเมียเน่นอนอยู่”
เมียเน่?
สองคนเลย?
ผมหันมองเจ้าของห้องก่อนจะลากกระเป๋าออกมาจากห้อง ผมว่าผมอยู่ไม่ได้วะ ผมอยู่ไม่ได้จริงๆ
ผมอยู่กับเนเน่ไม่ได้!
ผมจะกลับฮ่องกง!
---
ห้องของเนเน่สะอาดภายในพริบตาเมื่อแม่บ้านของคอนโดขึ้นมาทำความสะอาดห้องให้ อ๋อ ส่วนผู้หญิงสองคนที่เนเน่อ้างว่าเป็นเมียนั้น เธอได้กลับบ้านไปแล้ว พวกเธอตกใจที่เห็นผม ยกมือไหว้พร้อมกันก่อนจะกลับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นี่ใช่ไหมที่เขาพูดกัน คนศีลเสมอกันมันอยู่ด้วยกันได้
“พอใจรึยังเฮีย”
“พอใจอะไร?”
“ก็รู้ว่ารักสะอาด รีบให้แม่บ้านมาทำความสะอาดให้เลย โซฟาที่เฮียจะนอนอะสะอาดวิบวับ กลิ่นก็ห๊อมหอมแล้ว”
“อือ” ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลากกระเป๋าไปเก็บในห้องนอนของเนเน่
ฮ่องกงก็ไม่ได้กลับ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะยัยสกปรกเนเน่นี่ไง หน้าที่มันต้องมาไง ผมไม่เคยละเลยหน้าที่ ฉะนั้น ผมต้องกัดฟันอยู่กับยัยทอมซกมกนี่จนกว่าเธอจะเปลี่ยนใจหันมาชอบผู้ชาย
“หิวปะ” สาบานนี่คือคำถามจากคนอายุน้อยกว่าเอ่ยถามคนอายุมากกว่า
เพื่อนเล่นเหรอวะ
“ฉันอายุมากกว่าเธอกี่ปี พูดอะไรให้มันมีความเคารพหน่อย” ผมเตือนเนเน่
“ทำไมเรื่องมากอะ ก็คุยแบบนี้มาตลอด ทำไมวันนี้บอบบางจังวะเฮีย” ไม่เคารพเหมือนเดิม เฮ้อ...ผมควรจะจัดการเนเน่ตรงไหนก่อนดี ความสกปรกซกมก ความไร้มารยาทกับคนที่อายุมากกว่า มารยาททางสังคม หรือความกุลสตรี
ทำไมคนคนหนึ่งมันมีข้อเสียเยอะขนาดนี้วะ ไม่เอะใจในตัวเองบางเลยเหรอว่าเกิดมาแล้วเป็นแบบนี้น่ะ
“พูดดีๆ ฉันไม่ชอบเด็กปีนเกลียว”
“อะหะ” ฟังกันซะที่ไหน
ปวดหัวโว๊ย!
“เฮีย ถามจริง ทนอยู่กับตัวเองได้ไงอะ ไม่รู้สึกรำคาญความเนียบของตัวเองบางเลยเหรอ” ผมมองเนเน่ที่ยืนกอดอกมองผมปัดโซฟาที่ตัวเองกำลังนอน
ถึงแม่บ้านจะทำความสะอาดแล้วก็เถอะ แต่ในสายตาของผมมันก็ยังไม่สะอาด
“ใครจะไปซกมกแบบเธอ”
“เน่ไม่ได้ซกมกซะหน่อย” ไม่ซกมกเลยเนอะ กินขนมทั้งๆที่ฟันก็ยังไม่ได้แปรง ไปรับที่สนามบิน สถานที่สาธารณะไม่ล้างหน้า ไม่เปลี่ยนชุด ตื่นมาสภาพไหนก็ออกมาสภาพนั้น เนี่ยนะไม่ซกมก
“แล้วนี่เฮียจะมาอยู่ไทยนานปะ?”
“พูดกับฉันกรุณามีหางเสียงด้วย ฉันไม่ชอบเด็กไร้มารยาท”
“โด่ เฮียยยย...จริงจังปะเนี่ย” พูดจบเนเน่ก็เดินมากอดคอผมทำเหมือนผมเป็นเพื่อนของเธอ ผมปัดท่อนแขนเล็กออกจากคอ
“สกปรก” ผมหันไปว่าเนเน่หน้านิ่ง เนเน่ยังไม่ทำอะไรเลย ยังอยู่ในสภาพเดิม ชุดนอนหัวฟูๆ หน้าตาก็ยังไม่ได้ล้าง ฟันก็ยังไม่ได้แปรง เนื้อตัวก็มีกลิ่นเหล้าอ่อนๆ
“โห้ แรงวะเฮีย”
“ไปหาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันซะ เห็นแล้วขัดหูขัดตา”
“จ้า จ้า จ้า พ่อคนสะอาด จ้าาาาาาา” แล้วเนเน่ก็หายเข้าไปในห้องครู่ใหญ่ก่อนจะเดินออกมาในสภาพใหม่
“่หล่อพอใจรึยังเฮีย” เนเน่หมุนตัวให้ผมดู เนเน่ใส่เสื้อยืดสีขาวธรรมดากับกางเกงยีนแบรนด์ดัง ผมก็ถูกเซธให้ดูเท่
“อือ”
“แล้วเฮียอะ จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารึเปล่า”
“อือ”
“งั้นก็เชิญคร้าบ” เนเน่ผายมือเชิญให้ผมเข้าไปในห้องของเธอ
Nene’ s Part
ฉันมองร่างสูงที่เดินเข้าไปในห้องก่อนที่ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ยินเสียงล็อกประตูจากด้านใน เฮียเสือ อ่า จริงๆ เฮียแกชื่อไทเกอร์ แต่ฉันเรียกเฮียเสือตามคนอื่นเรียก ฉันรู้จักกับเฮียเสือมาตั้งแต่เด็กๆ เฮียแกมีนิสัยรักสะอาดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดีกับทุกคนนะ ยกเว้นฉัน งงเลยดิ ทำไมอยู่ใกล้ฉันแล้วชอบทำหน้านิ่งทำหน้าดุ ไม่เข้าใจเลยวะ
หรือจะเป็นเพราะยังเจ็บใจที่ตอนเด็กๆโดนฉันแกล้งบ่อยวะ คือเห็นคนสะอาดแล้วขัดใจไง เลยแกล้งเล่น แรกๆที่แกล้งก็รู้สึกผิดนะ แต่พอแกล้งไปเรื่อยๆ เออสนุกดีวะ ฮ่าๆ
ติ่ง!
ใครทักมาวะ
‘พี่ชายมึงหล่อวะเน่’
‘ใช่ๆ หล่อเชี่ยๆ แต่หน้านิ่งไปอะ น่ากลัว’
‘เขามีเมียยังอะ?’
บทสนทนาอย่างดี้ด้าที่ส่งผ่านมาทางตัวหนังสือ ฉันรู้เลยว่าเพื่อนของฉันมันแรดแค่ไหน อ่า คงจะงงล่ะสิว่าทำไมพวกมันเคยเห็นหน้าเฮียเสือ ก็วีนากับดารินคือผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของฉันเมื่อเช้าไง มันสองคนเป็นเพื่อนสนิทของฉันเองแหละ ฉันขอให้มันช่วยให้พวกมันทำยังไงก็ได้ ให้เฮียเสือมันยอมถอนหมั้นกับฉัน
ใช่ ฉันรู้ว่าเฮียเสือจะมาเมืองไทยเพราะพ่อเรียกฉันไปคุยเมื่อวาน พ่อบอกกับฉันว่าฉันคือคู่หมั้นของเฮียเสือ และเฮียกำลังจะมาไทยให้ฉันดูแลว่าที่ลูกเขยของท่านให้ดี อย่าไปแกล้งหรืออย่าไปทำให้ว่าที่ลูกเขยของท่านปวดหัว ฉันโวยวายยกใหญ่ที่จู่ๆ มารู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้น แถมยังเป็นเฮียเสืออีก มันไม่ใช่อะ
ฉันเลยไปปรึกษาเพื่อน ขอให้พวกมันแกล้งมาเป็นเมียหลอกๆ จริงๆจะให้เพื่อนเป็นเมียแค่คนเดียว แต่คนเดียวมันดูเบสิคไป ให้พวกมันเป็นเมียฉันสองคนไปเลย พวกมันก็ร่วมมือกับฉันเป็นอย่างดี โคตรชอบวะ ฉันไม่เคยมีแฟนหรอก โสดน่ะ มีแต่พ่อนั่นแหละที่คิดว่าวีนากับดารินเป็นเมียของฉัน โอเคคิดแล้วฉันก็ปล่อยเลยตามเลยให้ท่านคิดไป ขี้เกียจอธิบาย
‘โสด’ ฉันพิมพ์ตอบเพื่อนไป
แล้วพวกมันก็ส่งสติ๊กเกอร์เต้นมาให้ เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้เลย นอโผล่อิพวกนี้
แอดดด
ฉันหันมองประตูห้องที่ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเฮียเสือที่อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดใหม่ อิจฉาวะ ทำไมคนเราต้องเกิดมาหล่อ สูง รวย ครบเครื่องแบบนี้ด้วยวะ
“มองทำไม” เอ้า! มองก็ไม่ได้เหรอ
“มีตาก็มองดิ” พูดจบฉันก็ยักคิ้วใส่เฮียเสือ ร่างสูงฉายแววตาดุใส่ฉัน จ้องหน้าฉันเขม็งเลย จะถามว่ากลัวไม่
ไม่จ้า
เห็นแววตานี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และก็ไม่เคยกลัว มันดูตลกมากกว่า คนอะไรขู่ทางสายตาเก่งจริงๆ
“ฉันอยากไปซื้อของใช้”
“โอเค เดี๋ยวเน่พาไป”
ฉันขับรถพาเฮียเสือมาที่ห้าง ร่างสูงไม่พูดอะไรตั้งแต่ออกมาจากคอนโด คงจะกลัวดอกพิกุลล่วงออกมาจากปากมั้ง
“จะซื้ออะไรก็ซื้อเลยนะเฮีย ถ้าซื้อของเสร็จแล้วอยากกลับก็โทรหาเน่นะ มีเบอร์เน่ปะ”
“ไม่มี”
“เอามือถือของเฮียมา” ร่างสูงยื่นโทรศัพท์มือถือให้ฉัน ฉันกดเบอร์ให้ก็ยื่นมือถือคืนเฮียเสือไป
“ซื้อของเสร็จก็โทรมานะ”
“แล้วเธอจะไปไหน”
“แยกย้ายกันเดินไง”
“ทำไมต้องแยกกันเดิน” ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วใส่ฉัน
“ก็ดูเหมือนเฮียจะไม่แฮปปี้สักเท่าไหร่ถ้ามีเน่เดินด้วย”
“อือ” ยอมรับด้วยวะ โคตรเฟลเลย เน่ไม่ดีตรงไหนวะ ออกจะหล่อ
“เฮีย ขอถามได้ปะ”
“อะไร?”
“ทำไมเฮียดูไม่ซีเรียสเรื่องที่เป็นคู่หมั้นกับเน่เลยอะ?”
“...”
“เฮียอยากได้เน่เป็นเมียงั้นเหรอ?”
“ใครจะอยากได้เธอเป็นเมียกัน ยิ่งมีเมียเป็นเธอ ยิ่งไม่อยาก”
“ใจเราก็ตรงกันนี่ เรามาร่วมมือกันพยศใส่พ่อแม่กันเถอะ พยศจนพวกท่านยอมให้เราถอนหมั้นกัน”
“ไม่ ฉันไม่ใช่เด็กๆที่จะพยศใส่ผู้ใหญ่แบบนั้น มันเสียมารยาท”
“เออ! งั้นก็ไม่ต้องพยศ งั้นเฮียก็รอวันที่เราต้องแต่งงานกันได้เลย อ๋อ แต่เน่บอกเลยนะ เน่ไม่มีวันยอมเป็นเมียใครหรอก เน่จะเป็นผัวเฮีย!”
“...”
“ในวันแต่งงานเน่จะใส่ชุดเจ้าบ่าว แล้วจะให้เฮียใส่ชุดเจ้าสาว!”
“พร่ำเพ้อพอยัง ฉันจะไปซื้อของ ไม่มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระกับเธอตอนนี้”
“เน่ไม่อยากหมั้นกับเฮีย ไม่อยากแต่งงานกับเฮีย เน่ไม่อยากมีผัวเว้ย เฮียเข้าใจไหม!” ฉันโวยวายใส่เฮียเสือยกใหญ่
“พูดมากน่ารำคาญ”
เอ้า!
เอ้าาาาาาา!!!
อะไรวะ มาบอกน่ารำคาญแล้วเดินหนีเนี่ย!!!
“เฮีย! ถ้าเฮียไม่ยอมถอนหมั้นกับเน่ เน่จะแกล้งเฮียเหมือนตอนเด็กๆนะ จะเอาให้ร้องไห้กลับฮ่องกงไปเล้ย!” ฉันโวยวายตามหลังร่างสูงไป เฮียเสือหยุดเดินก่อนจะหันหลังมองหน้าฉัน
“เธอคิดว่าฉันจะยอมให้เธอแกล้งเหมือนตอนเด็กๆรึไง”
“คนอย่างเฮียจะทำอะไรเน่ได้ นอกจากทำหน้านิ่งทำหน้าดุใส่ กลัวตายแหละ”
“เธออย่าลืมว่าฉันเป็นใคร...” เฮียเสือพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาฉัน
“ขู่เหรอ ไม่กลัวหรอกเว้ย!” ฉันเชิดหน้าใส่ร่างสูง เข้ามาดิ พร้อมสู้เว้ย จะแตะให้ไข่แตกเลยแม่ง!
“ฉันน่ะ...สามารถทำให้เธอท้องได้”
“!!!”
“ต่อให้ใจของเธอเป็นชายล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ร่างกายของเธอเป็นผู้หญิง...อย่าลืม”
“อะ...ไอ้!”
“ถ้ายังพูดมาก ระวังจะไม่ได้เป็นทอม...แต่จะกลายเป็นเธอ”
ไอ้เฮียเสือ ไอ้เหี้ย!