บทที่ 2.3 – สั่งสอนด้วยจูบ (หยาบคาย) (จบตอน)

1021 Words
ปิ่นมุกยืนทำสมาธิอยู่หน้าห้องก่อนตัดสินใจผลักบานประตูเข้าไปยังด้านใน หญิงสาวในชุดสูทช่างสง่าผ่าเผย โครงหน้าสวยหมดจดสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ผมยาวสลวยมัดเกล้าเป็นหางม้ารวบตึงไปยังด้านหลัง หล่อนดูเหมือนนางแบบที่เตรียมมาเดินแฟชั่นโชว์มากกว่าจะเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ด้วยซ้ำ “ผมเพิ่งรู้ว่าผมต้องสละเวลาอันมีค่าเพื่อพูดคุยกับพนักงานนอกเวลางาน” เฟอเดอริกยกมือดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู “ดิฉันกราบขอประทานโทษค่ะ” มือเรียวยกไหว้อย่างนอบน้อม ร่างสูงใหญ่หมุนเก้าอี้โยกไปมาพลางพยักหน้าแบบไม่ยี่หระ ก่อนผายมือเชิญให้เธอพูดธุระของตัวเอง “มีอะไรก็ว่ามา” น้ำเสียงเข้มเสริมให้บุคลิกดิบเถื่อนในมาดนักธุรกิจของเขาดูน่าเกรงขาม “ตามที่เราตกลงกันไว้ทางบริษัทฯ จะหักเงินเดือนของดิฉันเดือนละหกสิบเปอร์เซ็นต์ทุกเดือนจนกว่าหนี้สินจะหมดไป” “แล้ว?” เฟอเดอริกยักไหล่ อมยิ้มนิดๆ ที่เห็นริ้วรอยแห่งความกรุ่นโกรธบนใบหน้าหวาน “แต่เดือนนี้ดิฉันถูกหักเงินมากถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยกัน” ปิ่นมุกพยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้ดูแข็งกร้าวแม้จะไม่พอใจต่อการกระทำดังกล่าว เพราะถึงอย่างไรชายผู้นี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านาย เป็นผู้บังคับบัญชาที่เธอต้องให้ความเคารพยำเกรง “งั้นเหรอ” เฟอเดอริกยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางนั่งไขว่ห้างแล้วฮัมเพลงมีความสุข “ผมผิดหรือที่อยากให้หนี้สินมันหมดไวๆ” “แต่เราตกลงกันแล้วว่าแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์นะคะท่าน” ปิ่นมุกไม่เห็นด้วย “ดิฉันเป็นเพียงพนักงานระดับล่าง เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะแยะอะไร ถูกหักถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์มันไม่มากไปหน่อยหรือคะ” ถูกหักเงินเดือนทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้โกงมันก็แย่พอทนแล้ว ใจคอเขาจะไม่ให้เธอเหลือเงินซื้อข้าวกินประทังชีวิตเลยหรือไร “คุณจะคิดมากทำไม ถ้าเงินไม่พอใช้ก็ขอเสี่ยสิ” น้ำเสียงเหยียดหยันแกมดูถูก “หมายความว่ายังไงคะ” ปิ่นมุกไม่เข้าใจ เสี่ยหรือ? เธอน่ะหรือมีเสี่ยเลี้ยง นี่ท่านประธานไปเอาเรื่องบ้าๆ แบบนี้มาจากไหนเนี่ย “สวยๆ อย่างคุณคงไม่ตรากตรำทำงานอยู่ด้านเดียวหรอกจริงไหม” หนุ่มใหญ่พูดไปยิ้มไป สีหน้าท่าทางกวนประสาทสุดๆ “หรือว่าที่มาดิ้นเร่าอยู่ตอนนี้ก็แค่ต้องการทำตัวให้ดูน่าสงสาร แต่แท้จริงแล้วมีเงินใช้มือเปิบจากการขาย…” เคลื่อนสายตามองต่ำไปยังจุดอ่อนไหวแห่งสตรี แก้มนวลร้อนผ่าวราวถูกไฟแผดเผา เกิดมาไม่เคยถูกใครดูถูกคุณค่าความเป็นคนเท่านี้มาก่อน “ท่านประธาน!” ปิ่นมุกถลันเข้าไปตบสั่งสอนคนปากไม่รู้กาลเทศะ เฟอเดอริกหน้าหันเพราะไม่ทันตั้งตัว ตวัดสายตาดุดันจ้องมองร่างบางที่กล้าลงไม้ลงมือกับคนระดับเขา หนุ่มใหญ่กระชากแขนเรียวรั้งแม่คนอวดเก่งเข้าหาตัว อกแกร่งดุจหินผาเบียดชิดอกนุ่มจนสาวเจ้าวูบวาบไปทั้งกาย พยายามดันคนตัวโตออกห่างแต่ไม่เป็นผล เขาแรงเยอะจนเธอหมดกำลังจะต่อสู้ “ปล่อยนะ” “คิดดีแล้วใช่ไหมที่กล้าตบฉัน!” สรรพนามเปลี่ยนไป แววตาเสือร้ายสร้างความหวาดหวั่นต่อลูกแกะน้อย ปิ่นมุกกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านประธานแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดถึงเพียงนี้ “ท่านดูถูกดิฉันก่อน” ปิ่นมุกให้เหตุผล แต่ดูเหมือนความโกรธที่สุมอกอยู่ในตัวของเฟอเดอริกจะไม่รับรู้อะไรนอกจากขยี้เหยื่อสาวให้สาสมกับความผิดฐานทำร้ายเขาให้ต้องเจ็บตัว “ปล่อยนะคะ” มือน้อยๆ ทุบตีไปทั่ว เขากอดกระชับร่างบางแนบชิดยิ่งกว่าเก่า “ท่านจะทำอะไรดิฉัน ยะ อย่านะ โอ๊ย!” เฟอเดอริกดันร่างบางติดกำแพงแล้วล็อกต้นคอตรึงใบหน้าหวานอยู่กับที่ ประกบเรียวปากบดขยี้กลีบปากนุ่มสุดแรง จูบดุเดือดราวกับตายอดตายยาก ไม่เว้นช่วงให้หญิงสาวได้พักหายใจหายคอเลยสักนิด ปิ่นมุกจำต้องรับสภาพถูกรังแกอย่างโหดร้าย เขากระแทกกระทั้นรอยจูบเพื่อต้องการสั่งสอนให้รู้สำนึกว่าอย่าริอ่านทำร้ายผู้ชายอย่างเขาอีกเด็ดขาด “แค่กๆ ปะ ปล่อย อื้อ!” ลิ้นสากร้อนสอดแทรกเข้าไปอีกครั้ง เกี่ยวตวัดลิ้นเล็กดูดดึงจนผู้เป็นเจ้าของแทบสิ้นสติ มือน้อยๆ ถูกรวบไว้ที่ด้านหลัง ไม่มีช่องทางให้ปัดป้องนอกจากยอมรับชะตากรรมที่เขาเป็นผู้ก่อ ทางด้านของหนุ่มใหญ่เริ่มมัวเมาในรสชาติหวานละมุน คราแรกต้องการมอบบทลงโทษแก่เหยื่อสาว ทำไปทำมาหัวใจของเขากลับไม่รักดี ชิมรสชาตินุ่มลิ้นเข้าไปก็เริ่มเกิดความต้องการอันมากล้น มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่สอดเข้าไปใต้เสื้อสูทได้รูป กอบกุมทรวงอกกลมกลึงผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน ออกแรงบีบขยำให้คนตัวเล็กได้สะท้านนิดๆ ฝ่ามือร้อนระอุไม่ต่างอะไรกับไฟฟ้าแรงสูงที่ปลุกจิตใต้สำนึกของเธอให้หลุดจากภวังค์หวามอีกครั้ง “อื้อ! อย่า ปล่อยนะ” ปิ่นมุกรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้ายผลักคนตัวโตกระเด็นไปไกล ผมเผ้ายุ่งเหยิงจากการดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต น้ำตารินไหลอาบแก้ม เฟอเดอริกตกใจไม่น้อยที่เห็นเธอร้องไห้ แต่คนเหย่อหยิ่งอย่างเขาไม่มีวันแสดงอาการด้านลบออกไปเด็ดขาด “สิ่งที่ท่านกระทำต่อดิฉันในวันนี้มันน่ารังเกียจ!” เสียงหวานด่าทอปากคอสั่น มือเรียวเช็ดรอยจูบซ้ำๆ แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอขยะแขยงสัมผัสของเขาเพียงใด เฟอเดอริกกัดฟันกรอด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนรังเกียจรสจูบของเขา แล้วแม่นี่เป็นใคร ช่างกล้านัก “ดิฉันขอลาออก!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD