ข่าวลือของเกี๊ยว 1/2

910 Words
เกี๊ยว… ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้ฉันจะตื่นสายทั้ง ๆ ที่มีเรียนเช้า ส่วนคนที่ตื่นก่อนก็ไม่ได้ปลุกฉันทั้งที่รู้จักตารางเรียนฉันดีพอ ๆ กับฉัน พี่เขาตื่นขึ้นมาแล้วก็กินข้าวแต่งตัวพร้อมไปเรียนแล้วก็นั่งดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบ ดีที่เพื่อนรักเข้าเรียนก่อนแล้วโทรมาปลุกฉันถึงได้ตื่นขึ้นมา แต่ก็คงเข้าเรียนวิชานี้ไม่ทันแล้วแหละเพราะจะหมดชั่วโมงแล้ว “ปกติเห็นตื่นก่อนฉัน เมื่อคืนนี้หลับฝันดีหรือไงเช้ามาถึงได้ตื่นสายน่ะ” คนข้าง ๆ ที่กำลังเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าตึกคณะเรียนของฉันพูดขึ้น วันนี้เพราะความเร่งรีบของฉันพี่เขาจึงเข้ามาส่งที่หน้าตึก ต่างจากวันก่อนที่มาส่งแค่หน้ามหาลัย ส่วนพี่เขาก็แค่ไปส่งงานที่มหาลัยไม่ได้มีเรียนเลยดูไม่รีบร้อนเหมือนฉัน “ถ้านอนกอดฉันแล้วฝันดี คราวนี้ฉันหักเงินเธอนะ” คนข้าง ๆ หันมากระตุกยิ้มให้ขณะที่หยุดรถหน้าตึกคณะ ฉันไม่ได้พูดอะไรเรื่องเมื่อคืนกับพี่เขาเพราะรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเมื่อนึกถึง ในใจก็รู้สึกหมั่นไส้ที่พี่เข้าเอาแต่แซวฉันเรื่องตื่นสายเพราะได้นอนกอดเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่านอนกอดพี่เขาแล้วรู้สึกหลับสบายกว่าทุกครั้ง “เกี๊ยวไปแล้วนะคะ ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” ฉันหันไปตอบคนข้าง ๆ ทั้งที่พยายามทำสีหน้าให้ดูเป็นปกติเพราะเรื่องเมื่อคืนยังวนเวียนอยู่ในหัว “เดี๋ยวฉันแวะไปส่งงานที่มหาลัยเสร็จแล้วจะแวะมาที่นี่เรื่องค่าเทอมเธอ ไม่มีใครทวงใช่มั้ยวันนั้นฉันแค่ให้คนโทรมาคุยกับมหาลัยแต่ยังไม่ได้จ่ายน่ะ” อ่อ ฉันก็คิดว่าพี่เขาจ่ายไปแล้วเสียอีก “ไม่มีใครทวงค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ฉันตอบพร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ ให้พี่เขาก่อนจะหันเปิดประตูรถ หมับ! ทว่ามือใหญ่ของคนที่นั่งอยู่กลับรั้งแขนข้างหนึ่งของฉันเอาไว้จนต้องหันไปสบตากับเขา และนี่คงเป็นอีกครั้งที่ฉันกับพี่เขาเราจูบกัน “อื้อ ไม่ อื้ม” “ไม่เป็นไร คนข้างนอกไม่เห็นหรอก” เหมือนพี่เขาจะรู้ว่าที่ฉันขัดขืนเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าเขาบอกว่าไม่เป็นไรก็คงต้องปล่อยให้พี่เขาทำตามใจสินะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ไว้ใจพี่เขานัก แต่พอนึกถึงคำพูดที่บอกว่าจะดูแลฉันก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา “อื้ม” รสจูบนุ่มละมุนต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ทำให้ฉันเริ่มผ่อนคลายจากอาการเกร็งเพราะกลัวเจ็บ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่โชยออกมาจากตัวพี่เขาทำให้ฉันเคลิ้มตาม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ฉันนั่งนิ่งรับรสจูบหวานละมุนที่คนตรงหน้าป้อนมา รู้ตัวอีกครั้งก็สบตากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ผละออกจากจูบละมุนนั่นแล้ว “รอยยิ้มเมื่อกี้นี้… เป็นของฉัน…” คนที่วาดวนปลายนิ้วบนเรียวปากของฉันพูดเสียงแผ่วทั้งที่ยังจ้องมองกันอยู่ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พี่เขาพูดนักแต่พอได้ฟังกลับรู้สึกดีขึ้นมาและไม่รอช้าที่จะตอบกลับ “ค่ะ” ฉันส่งยิ้มบาง ๆ ให้พี่เขาอีกครั้งก่อนจะลงจากรถและยืนมองรถของเขาเคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา แต่แล้วพอหันกลับมาลูกปลาก็ยืนยิ้มกรุ่มกรุ่มอยู่ด้านหลังฉันแล้ว “ก็ว่ารถใครทำไมสวยจัง ที่ไหนได้รถผู้ชายของเพื่อนเรานี่เอง” เพื่อนซี้ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ก่อนจะเดินมาควงแขนฉันให้เดินขึ้นไปบนตึกเรียนเพราะวิชาต่อไปกำลังจะเริ่มแล้ว “ว่าแต่ทำไมรถจอดตั้งนานแล้วเพื่อนรักของลูกปลาถึงยังไม่ลงมาจากรถล่ะคะ” เพื่อนซี้หันมาขยิบตาให้ขณะที่ควงแขนฉันเดินไปด้วย ไม่ใช่ว่าลูกปลาน่ะเห็นอะไรหรอกนะ แต่พี่เขาบอกว่าไม่เห็นนี่นา “ปลาเลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วน่าไม่มีอะไรสักหน่อย แค่คุยธุระกันแป๊บเดียวเอง” ฉันตอบเพื่อนรักทั้งที่ริมฝีปากยังอมยิ้มอยู่เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรถ “แล้วทำไมถึงหน้าแดงอะ มีลิปสติกเลอะด้วยนะเนี่ย” เพื่อนรักยังไม่หยุดเซ้าซี่จนฉันต้องหยิกแขนนางไปแรง ๆ หนึ่งที “อยู่กับพี่เขาเกี๊ยวโอเคใช่ปะ เขาไม่ได้ทำร้ายหรือทำอะไรรุนแรงใช่มั้ย” คราวนี้เพื่อนรักเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นพร้อมกับมองฉันด้วยแววตาห่วงใย ฉันรู้ว่าลูกปลายังคงรู้สึกผิดที่แนะนำให้ฉันทำแบบนี้และยังเป็นห่วงฉันเพราะกลัวว่าจะเจอคนไม่ดีเข้า “อื้ม พี่เขาดูแลเกี๊ยวดีมากแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ลูกปลาสบายใจได้” ฉันตอบเพื่อนรักก่อนจะเดินควงกันเข้าห้องเรียนไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD