“ช่วงนี้ว่างเหรอก้อย”
“ค่ะ ก้อยลาออกจากงานที่บริษัทแล้วล่ะค่ะ กะว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนให้รู้สึกดีกว่านี้อีกสักหน่อยแล้วจะกลับมาหางานทำใหม่”
“ไม่ต้องหาหรอก ถ้าพักจนสบายใจแล้วก็มาทำงานกับผมสิ ตอนนี้ผมกำลังต้องการเลขา พอดียัยแอ้มขอลาออกไปช่วยงานพ่อเธอแล้ว” ได้โอกาสก็ทาบทามคนที่ไว้ใจได้ทำงานเสียเลย เพราะสิ้นเดือนนี้อารียาลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เตรียมตัวไปบริหารงานโรงแรมกับพ่อของเธอหลังจากฝึกทำงานเป็นเลขาอยู่กับเขาได้สักระยะแล้ว
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะภู”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว”
กวินตราพยักหน้าพร้อมฉีกยิ้มน้อยๆ เป็นการขอบคุณน้ำใจของภูมินทร์ ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยเธอในฐานะเพื่อนเสมอ แบบนี้เองเธอถึงได้ยกให้เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเสมอมา
พราวฝนกลับจากโรงแรมที่ฝึกงานในช่วงเย็นเธอก็นั่งรถแท็กซี่ตรงมายังบ้านของภูมินทร์ เธออยากจะมาเยี่ยมพี่สาวหลังจากไม่เจอกันร่วมอาทิตย์ เพราะปกติแล้วเธอจะพักอยู่ที่โรงแรมที่ตัวเองฝึกงาน เนื่องจากโรงแรมนั้นเป็นของ เพชร ไชยกมลพรรณ ลุงแท้ๆ ของภูมินทร์ เธอเลยได้สิทธิพิเศษอยู่ที่นั่นฟรี เพราะตอนนี้อยู่ในการปกครองของภูมินทร์
สาวแว่นหน้าตาจิ้มลิ้มตัวเล็กในชุดพนักงานโรงแรมลงจากรถได้ก็รีบสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในบ้านหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร สีหน้าของเธอระรื่นเมื่อรู้ว่าจะได้พบพี่สาว
แต่เข้าบ้านมาเจอภูมินทร์ได้ไม่ถึงห้านาทีพราวฝนก็เริ่มหน้าเสีย เพราะรู้ว่าพลอยฟ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ทั้งยังรู้ว่าพี่สาวของเธอปฏิเสธการรักษาทุกอย่างจากหมอ ทั้งที่ผ่าตัดอีกครั้งดวงตาก็น่าจะหายเป็นปกติแล้ว
“พี่พลอยไม่ยอมรักษาต่อจริงๆ เหรอคะ ทำไมถึงได้ตัดสินใจแบบนั้นกัน”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพี่คุณถึงได้ตัดสินใจแบบนั้น แต่ผมเลือกที่จะตามใจเธอ เพราะไม่อยากให้เธอเครียด”
“เข้าใจแล้วค่ะ พราวขอตัวกลับก่อนนะคะ” พราวฝนร่ำลาภูมินทร์เรียบร้อยเธอก็เดินเหม่ออยู่ข้างถนนพักใหญ่ คิดไม่ตกว่าอะไรทำให้พลอยฟ้าตัดสินใจแบบนี้
พราวฝน กิตติพรรณวิไล หญิงสาวตัวเล็กวัย 21 รูปร่างหน้าตาน่ารักน่าชังราวกับตุ๊กตา ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโต เรียกได้ว่ามีใบหน้าน่ารักน่าชังไม่ต่างไปจากพี่สาว แค่เป็นคนสายตาสั้นจนใส่แว่นหนาเตอะเท่านั้น บุคลิกลักษณะนิสัยเรียบร้อย อ่อนหวานเช่นเดียวกับคนเป็นพี่เหมือนกัน แค่แอบดื้อตาใสกว่าคนเป็นพี่นิดหน่อยเท่านั้น
ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน เพราะกำลังจะเรียนจบระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพมหานคร เธอตั้งใจว่าหากเรียนจบแล้วก็จะรีบหางานทำและเลี้ยงตัวเองให้ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระของภูมินทร์ให้รู้สึกเกรงใจมากนัก แต่เรื่องที่ทำให้เธอเครียดมากที่สุดตอนนี้กลับไม่ใช่เรื่องของเธอ ทว่าเป็นเรื่องของพี่สาวมากกว่า
เธอจำได้ว่าพลอยฟ้าเคยพูดว่าอยากรักษาดวงตาให้หายเร็วๆ หลังจากนั้นเธอก็จะได้รีบทำงานหาเงินใช้เองโดยที่ไม่ต้องรบกวนภูมินทร์
แต่คำพูดของภูมินทร์ที่มาบอกเธอว่าพี่เธอปฏิเสธการรักษาและอยากอยู่เพียงลำพังคนเดียวที่บ้านพักตากอากาศหลังเก่าของพ่อ เธอเองก็ยิ่งแปลกใจ เห็นทีคงจะต้องเดินทางไปหาเพื่อถามความเป็นไปเป็นมาด้วยตัวเองเสียแล้ว
พลอยฟ้าพยายามใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่เคยเต็มไปด้วยความสุขเมื่อมาเยือน แต่ตอนนี้หญิงสาวแทบจะมีน้ำตาทุกวินาทีเมื่ออยู่ที่นี่ ไม่เพียงแค่ถูกภูมินทร์กระทำย่ำยีพรากความบริสุทธิ์จนไข้ขึ้น เธอยังต้องหาทางเอาชีวิตรอดเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวในขณะที่ตาของเธอมองอะไรไม่ค่อยจะเห็น
ยังนึกไปในแง่ดีที่ในบ้านยังพอจะมีอาหารประทังชีวิต แม้จะเป็นแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋องก็เถอะ เธอต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ เพราะคนที่ห่วงที่สุดคือพราวฝน น้องสาวของเธอที่ยังเรียนไม่จบ หากพราวฝนเรียนจบมีงานทำดูแลตัวเองได้ เธอจะไม่ห่วงขนาดนี้เลย
แค่ไม่เหลือพ่อกับแม่เป็นที่พึ่งก็เศร้าใจพอตัวแล้ว เธอยังต้องมาบาดเจ็บจนตาไม่สามารถมองเห็นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซ้ำยังถูกรังแกจากคนที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนดี ชีวิตของเธอทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย
ฟู่ ฟู่ อี๊ด... เสียงของกาน้ำร้อนที่เธอตั้งเอาไว้บนเตาแก๊สเริ่มดังขึ้นเป็นสัญญาณให้พลอยฟ้ารู้ว่าเธอต้องรีบปิดเตาแก๊ส ไม่เช่นนั้นอีกไม่กี่วินาทีน้ำในกาต้มก็คงจะเดือดทะลักออกมา แล้วจะเสี่ยงให้เธอโดนน้ำร้อนลวกด้วย
“อ๊าย” ไม่ทันความคิดพลันมือก็ถูกลวกด้วยน้ำเดือดขณะกำลังคลำเพื่อจะปิดเตาแก๊ส และเป็นขณะเดียวกันที่พราวฝนเข้ามาในครัวพอดี
“พี่พลอย!” สาวเจ้าตกใจหน้าตาตื่นเรีบเข้าไปปิดเตาแก๊สก่อนจะรีบปิดวาล์วในเวลาอันรวดเร็ว
“มาที่นี่ได้ยังไงพราว คุณภูพามาเหรอ” โพล่งเสียงดังด้วยความตกใจที่รู้ว่าน้องสาวของเธออยู่ที่นี่ ไม่ใช่ภูมินทร์พาน้องของเธอมาที่นี่เพื่อกระทำอย่างที่ทำกับเธอล่ะ
“เปล่าค่ะ พราวมาคนเดียว”
คำตอบของพราวฝนพอจะให้พลอยฟ้าหายใจหายคอได้คล่อง
“เดี๋ยวพราวพาพี่พลอยไปทายานะคะ ดูซิเนี่ยมือแดงหมดเลย” พูดจบก็จูงมือพี่สาวออกไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นและรีบกุลีกุจอหากล่องปฐมพยาบาลมาปฐมพยาบาลให้พี่สาว
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”