ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกตะลึงระคนยินดี เมื่อเห็นปราสาทขนาดใหญ่ราวกับในเทพนิยาย ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าของเธอ และมันยังล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของต้นไม้สีเขียวขจีดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นภาพฝันในวัยเด็กที่เธออยากจะมา
“อ๊ะ”
เดวาฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนจะสะดุ้งและอุ่นวาบตรงข้างแก้ม เมื่อมีแก้วนมอุ่นแบบกระดาษเก็บความร้อนแนบลงมา ยิ่งผิวกายปะทะอากาศเย็นแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้น เธออมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะหันไปขอบคุณเจ้าของนมอุ่น
“ขอบคุณค่ะ ของพี่รามได้อะไร?”
“เอสเย็น”
ร่างสูงเอ่ยอย่างเฉยชาแต่แววตากลับอ่อนโยนเมื่อจ้องมองมาที่เธอ ก่อนจะชูแก้วเอสเพรสโซร้อน ๆ ในมือให้เดวาดู อากาศในช่วงนี้กำลังเย็นสบายไม่ได้หนาวมาก
หลังจากปิดเทอมแค่ไม่กี่สัปดาห์ รามิลก็เสนอทริปไปเที่ยวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ แน่นอนว่าเธอเองก็อยากจะเก็บบรรยากาศและความทรงจำกับแฟนหนุ่มเช่นกัน แต่จะไปยันยุโรปก็รู้สึกไกลไปรวมถึงระยะเวลา ทริปนี้จึงจบลงที่ญี่ปุ่นในช่วงปลายฝนต้นหนาวของเดือนตุลาคม
“ตอบเย็นชาเหมือนอากาศเลยค่ะ” เห็นคนหน้านิ่งตอบแข็งทื่ออย่างนั้น เธอจึงแกล้งแซวเล่น ๆ ทำให้รามิลปรายตามองก่อนจะยกมุมปากขึ้นมา พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“แล้วต้องตอบยังไงถึงฟังดูอบอุ่น”
“ก็ตอบว่า เอสเพรสโซ่ครับที่รัก” เดวาเอ่ยออกมาอย่างน่ารัก ดวงตาของเธอสดใส จนเขาอดไม่ได้ที่กดจมูกโด่งลงบนแก้มนวล
“อ๊ะ” เธอเผลอร้องอย่างตกใจ และรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาทั้งใบหน้า
“ทำบ้าอะไรเนี่ยอายคน”
“ไม่เห็นจะต้องอาย” รามิลยักคิ้วเมื่อเห็นเดวาบ่นอุบอิบ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกสีข้างของเขา แต่คนหน้ามึนทำเพียงรวบมือบางไว้แน่น และจัดการดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมแขน
“พี่ราม!”
“นิ่ง ๆ ไว้จะได้อบอุ่น” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาเหนือศีรษะ หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเมื่อถูกเขาดึงเข้ามากอด แม้อากาศภายนอกจะเย็นสักแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าภายในหัวใจของเธออบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เพียงเพราะถูกโอบรัดด้วยท่อนแขนกำยำ มือบางถูกเขากุมไว้แน่นเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่น
“อุ่นจริง ๆ ด้วย”
เธอช้อนตามองเสี้ยวหน้าคมของเขาอย่างอ่อนโยน และมีความสุข เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาหลุบตาลงมามองเธอเช่นกัน ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาแต่แววตาอ่อนลงกำลังทอดสายตามองเธอก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
“ที่จริง ยังมีอย่างอื่นที่อุ่นกว่านี้” ได้ยินเขาเอ่ยอย่างนั้นเธอจึงถลึงตาใส่ ก่อนจะเม้มปากแน่นท่ทาทางน่าเอ็นดู
“จริงเหรอคะ ไม่เห็นรู้เลย”
“หึ” ปากบอกไม่รู้แต่ใบหน้ากลับเห่อร้อน เขาเชื่อตายแหละ
แชะ! แชะ! แชะ!
“ถ่ายไปให้พ่อดูดีกว่า”
บรรยากาศแววแหววของคู่รักเป็นอันต้องชะงัก เมื่อมีเสียงหวานใสแสนซนของใครบางคนดังขึ้น หลังจากกดชัตเตอร์เก็บภาพคู่รักไว้ได้สองสามภาพ
“ดาน่า”
เดวามองค้อนน้องสาวก่อนจะขยับตัวออกจากอ้อมกอดของรามิล แต่แน่นอนว่าคนหน้ามึนไม่สนใครอยู่แล้ว ดาน่าอยากจะถ่ายไปฟ้องตาแก่นั่นก็ทำเถอะ รามิลยกมุมปากพลางรวบคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมแขนแน่นขึ้น
“อร้ายพี่รามทำอะไร ปล่อยนะ” เดวาดิ้นหนีอย่างอับจนหนทาง อายก็อายเพราะน้องสาวตัวแสบยังยืนมองอยู่
“นี่เห็นคนเขาสวีตกันยังจะยืนดูอีกเหรอ?” รามิลเห็นน้องสาวของเดวายืนกอดอกมองเขาจึงเลิกคิ้วถาม พลางตีหน้าเย็นชา เพราะไม่ว่าใครเจอก็ล้วนแต่ต้องหลบหลีกให้ไกล
“ทำไมอะ ไม่อยากให้ดูก็เอาเงินมาปิดปาก!” ดาน่ายิ้มชั่วร้ายพลางแบมือออกมาตรงหน้า เป็นเชิงขอค่าปิดปากอย่างไม่ละอาย เดวาก็เบิกตากว้างทันที เธอยังไม่เคยขอเงินรามิลแม้แต่บาทเดียวแต่ยัยตัวดีกล้าขอค่าปิดปาก โดนรามิลตีมาไม่รู้ด้วยนะ
“เดี๋ยวโอนให้อยากได้อะไรก็หยิบ” เจ้าของใบหน้าแสนเย็นชาเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ ทำให้คนที่แบมือรอดวงตาเบิกกว้างก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณอย่างตื่นเต้น ช่วงนี้ดาน่าใช้เงินเยอะจริง ๆ เพราะต้องเอาไปทำอะไรบางอย่าง
“ขอบคุณค่ะพี่เขย น่าจะปิดปากให้สนิทและจะคอยถ่ายภาพพวกพี่ไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย!ที่ระลึกให้ด้วย”
“ยัยดาน่า” เดวาตาโตทันทีเมื่อได้ยินน้องสาวจอมแสบเอ่ยอย่างนั้น จะว่ากล่าวอะไรก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะดาน่าวิ่งฉิวไปอีกด้านที่เพื่อนของรามิลยืนอยู่ พลางส่งเสียงพูดคุยอย่างร่าเริง
“พวกพี่ ๆ ตอนเที่ยงเรามีคนจ่ายค่าอาหารให้แล้วค่ะ”
“ทำดีมากไอ้น้อง” เสียงของแบร์ดังขึ้นมาติด ๆ
เดวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะหันมาตีแขนรามิลอย่างไม่สบอารมณ์ น้องสาวของเธอน่ะดื้อมากแล้วเขายังจะไปให้ท้ายอีก แบบนี้ต่อไปต้องเสียคนแน่ ๆ
“ต่อไปพี่รามห้ามทำแบบนี้อีกนะ”
“ทำไม น้องสาวเธอก็เหมือนน้องสาวพี่”
“ขอความจริง” รามิลเนี่ยนะจะเห็นยัยตัวแสบเป็นน้องเป็นนุ่ง เขาไม่ชอบเด็ก และยังรำคาญคนพูดมาก มันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน แต่ไม่ใช่เรื่องชู้สาวหรอก
“ฮ่า ฮ่า เดี๋ยวนี้เธอก็ชอบจับผิดพี่แล้ว?” รามิลแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ พลางจ้องมองเดวาอย่างเอ็นดู
“จริงไหมละ”
“ถือว่าให้รางวัลน้องสาวของเธอที่ทุบรถลูกรักไอ้คิลล์” เดาไว้ไม่มีผิดเลยจริง ๆ ส่วนเรื่องนี้ก็ทำให้เธอปวดหัวมากเลยล่ะ ได้ยินพี่รามบอกว่าคนชื่อคิลล์ร้ายกาจมาก และมีอิทธิพลทั้งในมหา’ลัยแอลและสนามแข่งรถ เดวากลัวว่าเขาจะสร้างปัญหาให้ดาน่า
“เฮ้อ พูดถึงเรื่องนี้แล้วเครียดเลย”
“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องคนอื่นหรอก ไปดูตรงนู้นกันเถอะไหนว่าอยากมาหาตัวกระต่ายที่ชอบ”รามิลยกนิ้วชี้ขึ้นมาจิ้มคิ้วที่ผูกกันเป็นโบว์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนมือมาโอบไหล่พาเดินไปยังโซนที่มีกลุ่มตัวละครในชุดมาสคอต
“นั่นเรียกน้องลูต่างหาก” เธอทำปากคว่ำ เพราะเขาลืมชื่อตัวที่เธอชอบในแก๊งดัฟฟี่ตัวกระต่ายสีม่วงคือที่สุด ดังนั้นเมื่อเราจัดทริปมาที่ญี่ปุ่น เธอจึงขอเขาให้พามาที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และแน่นอนว่าคนอย่างรามิลต้องตามใจอยู่แล้ว
เมื่อเรากำหนดวันและสถานที่ได้ บรรดาเพื่อนของเขาโดยเฉพาะพี่ลูแปงก็อยากจะมาด้วย เพราะทนลูกตื้อไม่ไหวเธอเลยเผลอพยักหน้าตกลงทั้งที่รามิลตาเขียวปั้ดแต่ทำอะไรไม่ได้ น้องสาวอย่างดาน่าก็ร่ำร้องจะมาด้วยเพราะอยู่ว่าง ๆ
สุดท้ายทริปนี้ของพวกเราจากสองคนจึงกลายเป็นหก เพื่อนของรามิลสามคนเธอและดาน่า ส่วนเจแปนรายนี้ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวที่ซินเจียง
“ว้าวน่ารักจังเลย น้องใส่ชุดคอลวินเทอร์ด้วยเหรอเนี่ย” หญิงสาวร่างบอบบางเอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ดวงตากลมโตลุกวาวพลางจ้องมองตัวมาสคอตสีม่วงหูยาวที่กำลังจับมือกับจิ้งจอกเดินเล่นไปมา ที่นี่จะมีสองโซนคือ Disneyland กับ DisneySea
ซึ่งโซนแรกที่เรามานั้นจะเป็นส่วนของ DisneySea เพราะเธออยากจะมาหาสเตลล่าลูหรือน้องลู และช็อปปิ้งพวงกุญแจ ตุ๊กตาคอลใหม่ที่กำลังจะวางขายไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้วจะพลาดได้ยังไงกัน เดวาคิดในใจอย่างอารมณ์ดี ระหว่างนั้นคนที่ยืนอยู่ข้างกายกลับเอ่ยขึ้นมาทำให้เธอชะงัก
“น้องใส่ชุดคล้ายเธอเลย อยากไปถ่ายรูปไหม?”
“เหมือนตรงไหนน้องใส่โบว์กับกระโปรงแดง” เดวาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเขาบอกว่าชุดเหมือนกับน้องสเตลล่าที่สวมสเวตเตอร์สีขาวลายคริสมาสต์แดง กับโบว์และกระโปรงสีแดง
รามิลเหลือบมองเดวาตั้งแต่หัวที่สวมหมวกบักเก็ตสีครีม เลือนผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนดูหวานละมุนเข้ากับใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ท่อนบนเธอใส่เสื้อสีครีมทับด้วยเสื้อแขนยาวเข้ารูปสีชมพูอ่อนตกแต่งขอบเสื้อด้วยขนแกะสีขาว ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงระบายเป็นชั้น ๆ สีขาวมันน่ารัก แต่ก็สั้นมากจนเขาขมวดคิ้ว
“ไม่เหมือนจริงด้วย” น้ำเสียงของรามิลเย็นลงเหมือนอุณหภูมิของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เดวารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ
“แล้วไหนว่าเหมือน”
“ไม่เหมือนเพราะนั้นขาปลอม ส่วนเธอขาจริง” ไม่ว่าเปล่านัยน์ตาคมสีเหล็กกล้าก็จับจ้องมองมาที่ขาเรียวภายใต้กระโปรงสั้น ๆ เดวาได้ยินก็ตาเบิกกว้างทันที ก่อนจะทำปากคว่ำใส่แฟนหนุ่ม
“ไม่ใช่สักหน่อย พี่รามไม่เห็นเหรอว่าเดใส่ฮีทเทค” เขาเอาตาไหนดูนี่ยังมีฮีทเทคสีขาวอีกชั้น จะมาเห็นขาอ่อนของเธอได้ยังไงกัน
“เหมือนกันนั่นแหละ”
“ไม่เหมือน!” รามิลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทันที ที่สาวน้อยของเขากล้าเถียงคำไม่ตกฟาก เขาจึงใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะยื่นมือออกมาหยิกแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยว
“ดื้อ!”
“นี่อย่ามาว่าเดนะ”
เธอยื่นมือออกมาปัดป้องมือหนาเป็นพัลวัน และยังสู้กลับด้วยการอ้าปากงับมือของเขาด้วย ทำให้รามิลคำรามในลำคอเมื่อถูกท้าทาย ก่อนจะรวบเอวบางเข้ามากอดรัดไว้แน่น ทั้งที่เธอพยายามจะดิ้นรนขัดขืน
“ปล่อยนะอายคน”
“สมน้ำหน้า” รามิลยกยิ้มอย่างร้ายกาจพลางรวบเอวบางอุ้มจนเธอตัวลอย ก่อนจะเหวี่ยงไปมาอย่างสะใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กโมโหแต่ไม่กล้าส่งเสียงดัง แต่บริเวณที่เราอยู่คนน้อยมาก เพราะเข้าพักโรงแรมในเครือของสวนสนุกทำให้ได้สิทธิพิเศษเข้าก่อนเวลา ไม่ต้องไปรอต่อแถวเพื่อซื้อบัตร
“เดอายคน พี่รามกระโปรงเดจะเปิด” ร่างบางถูกอุ้มจนตัวลอยก็เกิดอาการทั้งโมโหและอับอายตวัดขาไปมาเพื่อให้เขาปล่อย ก่อนจะเผลอร้องอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่ากระโปรงที่ใส่มามันเลิกขึ้นสูง แม้แต่รามิลที่กำลังจัดการสั่งสอนคนก็ยิ่งหน้ามืดครึ้ม ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าคนอื่นจะมองแฟนตัวเองจึงรีบวางเธอลงทันที
“คนบ้าเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” เมื่อยืนอย่างมั่นคงเดวาจึงดุเขา
“เธอทำพี่โมโห”
“สมน้ำหน้า” เดวาถลึงตาใส่และไม่รู้สึกยี่หระต่อคำพูดของเขา ชุดวันนี้เซฟที่สุดแล้วและยังน่ารักมากอีกด้วย
“ปากดีระวังดึก ๆ จะไม่ได้นอน” รามิลเอ่ยเสียงเข้มจดบัญชีแค้นในใจ เพราะเมื่อวานเรามาถึงญี่ปุ่นก็เช็กอินนอนโรงแรมในเครือของสวนสนุกซึ่งเหลือไม่กี่ห้องเดวาจึงนอนกับน้องสาว แต่คืนนี้เรานอนกันโรงแรมข้างนอก และเขาจองห้องแยกให้ทุกคน คืนนี้เดวาจะไม่มีโอกาสได้หนีรอดแน่นอน
“ทะลึ่ง!” สายตาร้อนแรงของเขาทำให้เธอขนลุกเกรียว แต่ก่อนจะได้เอ่ยต่อก็มีเสียงชัดเตอร์ดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากใคร
“พี่เขยพี่สาวยิ้มมมมม”
แชะ!