“แม่งบอกมาญี่ปุ่นกูก็นึกว่าจะได้ไปย่านคาบูกิโจที่ไหนได้มาสวนสนุก แล้วกูจะดั้นด้นมาทำไมกัน”
เดวาที่กำลังนั่งงับวาฟเฟิลที่ห่อด้วยกระดาษสุดน่ารักเกือบสำลักขนม เมื่อได้ยินเสียงบ่นแสนหดหู่ของพี่ลูแปงเพื่อนสนิทในกลุ่มของพี่ราม ก่อนจะตวัดสายตามองคนที่นั่งทำหน้าเย็นชาอย่างไม่สบอารมณ์ …อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่ามันย่านอะไร
และแน่นอนว่าคนสัญชาตญาณฉับไวอย่างรามิลมีหรือจะไม่รู้ เขาเห็นสายตาดุดันของเดวาก็ยกมุมปากขึ้น ก่อนจะยื่นมือออกมาหยิกแก้มของเธออย่างอดไม่ได้ จนสาวเจ้าทำปากคว่ำถลึงตาใส่ เขาแกล้งเธอจนพอแล้วก็หันไปตบหัวลูแปงอย่างแรง
“หุบปากแล้วแดกไป”
“ไอ้สัดราม!”
ลูแปงจอมโวยวายก็หันไปตวาดเพื่อนทันที ก่อนจะถูกสายตาเจ้าหน้าที่ และผู้คนรอบข้างหันมามองลูแปงจึงสงบลง ก่อนจะทำปากขมุบขมิบ และหยิบน่องไก่งวงรมควันขึ้นมากินอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงแม้มันจะเป็นเมนูยอดฮิตของสวนสนุก แต่ลูแปงก็หงุดหงิดเกินกว่าจะกินลง
“เบียร์มาแล้วค่า”
“น้องดาน่าคือความหวังของพี่เลยค่ะ”
ลูแปงเมื่อได้ยินเสียงสดใสของน้องสาวของเดวาก็หันไปรับแก้วสีขาวในมือของเธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานเมื่อเจอคนสวยแตกต่างกับตอนโวยวายลิบลับ
“ความหวังของมึง แต่มึงไม่ไปถือของช่วยน้องนะไอ้สัด” แบร์ที่เดินถือแก้วตามหลังดาน่ามาก็เอ่ยอย่างหมั่นไส้ พอดีกับที่อาไกแทรกตัวนั่งลงบนเก้าอี้แล้วหยิบน่องไก่มากิน
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนทั้งดาน่าแบร์ และอาไกอาสาไปซื้อเบียร์มาให้ทุกคน เพราะพวกเราได้น่องไก่งวงรมควันจึงอยากได้เครื่องดื่มมากินคู่กัน และแน่นอนว่าน้องสาวตัวดีของเธอเป็นคนเสนอ และยังอาสาไปซื้อให้อีกด้วยเพราะใช้เงินของรามิล
“โถ่ กูเดินแบกของขาแทบลากให้กูนั่งพักเถอะ” ลูแปงเถียงทันควัน เพราะต้องคอยเดินแบกถุงให้ดาน่าและเดวา ที่ช็อปปิ้งอย่างเมามันจนลืมดูสังขารลูแปง นึกแล้วเคืองเลยหันไปทำหน้าโกรธใส่รามิลที่เป็นตัวต้นเรื่องจับไม้สั้นไม้ยาว
“เดินแค่ทำบ่นเหมือนจะตาย” อาไกเอ่ยขึ้นมา
“ถูกค่ะ ไหนพี่ลูแปงบอกถือของแค่นี้สบายมากไง” เดวากลอกตาทันทีที่ได้ยินน้องสาวตัวแสบดักคอลูแปง เรื่องชอบหลอกใช้ชาวบ้านเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายของดาน่าเลยจริง ๆ
“พี่พูดเล่นได้กินเบียร์เย็น ๆ ชื่นใจพร้อมไปทุกที่เพื่อน้องดาน่า”
“ดีค่ะ” เจ้าของใบหน้าน่ารักถึงกับส่ายหน้า เมื่อเห็นดาน่ายิ้มหวานตาเป็นประกาย ไร้พิษสงแต่ถ้ารู้จักตัวตนจริง ๆ จะรู้ว่าท่าทางสงบเสงี่ยมยิ้มหวานอย่างนี้มันอาบยาพิษไว้ชัด ๆ
“มัวแต่มองวาฟเฟิลหายร้อนหมดแล้ว”
“อ๊ะ”
เพราะมัวแต่สนใจบทสนทนาเดวาจึงลืมทาน รามิลที่คอยสังเกตอยู่ตลอดเวลา จึงเอ่ยเสียงเข้มพลางยื่นมือออกมาเกลี่ยผมเส้นเล็ก ๆ ออกจากแก้มของเธอไปด้วย
ใบหน้าหล่อเหลาแต่เย็นชาเมื่อคนรอบข้างเห็นเขาปฏิบัติกับหญิงสาวในชุดสีชมพูท่าทางน่ารัก ก็อดจะอิจฉาขึ้นมาไม่ได้
“แล้วพี่รามไม่กินหรือไง ไหนบอกกินเบียร์แล้วจะอุ่นขึ้น”
เธอเองก็เหลือบตามองไปที่แก้วตรงหน้ารามิลเหมือนกัน เลยเห็นว่ามันไม่ลดลงเลย หรือเขาไม่ได้อยากจะกินแต่แรก
“ใส่ใจด้วยหรือยังไงเห็นเอาแต่มองไอ้แปงอยู่ได้”
“เอ๊ะ ไม่ใช่สักหน่อย” ก็แค่หันไปมองดาน่าที่นั่งข้างเพื่อนเขาต่างหาก อย่าบอกนะว่าที่นั่งแผ่รังสีอำมหิตคือกำลังเคือง เพราะเข้าใจว่าเธอมองเพื่อนเขาน่ะ
“เธอจ้องมันตาเป็นมันขนาดนั้น พี่ไม่ได้ตาบอด” เสียงเย็นนี่มันอะไรกัน เขาหัดขี้น้อยใจตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่ไม่เชื่อเดหรือไง อีกอย่างพี่รามหล่อกว่าตั้งเยอะ มีใบหน้าล่อลวงคนแบบนี้ยังจะไปอิจฉาคนอื่นอีกเหรอ” เธอหัวเราะคิกคักก่อนจะขยิบตาส่งอีกที เห็นอย่างนั้นคนที่กำลังตีหน้าตายก็ยกมุมปากขึ้นก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิท
“ไอ้แปง”
“อะไร” คนที่กำลังดื่มด่ำกับอาหาร และสาวสวยมากมายในอาคารก็ตอบเสียงห้วนทันที
“เดวาบอกว่ามึงหน้าเหี้ย”
พรวด!
เพราะคนเย็นชาโพลงขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และคำพูดของเขายังทำเอาตะลึง ดาน่าที่กำลังยกเบียร์ขึ้นมาจิบจึงพ่นมันออกมาใส่หน้าลูแปงอย่างห้ามไม่อยู่
“ขอโทษค่ะ ๆ คือน่ากลั้นขำไม่ไหว”
“นะน้อง…” ลูแปงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห หน้าตาของสาวสวยรุ่นน้องไม่มีตรงไหนที่รู้สึกผิดสักนิด เพราะมันออกจะดูสะใจเสียมากกว่า เมื่อลูแปงหันมามองตัวต้นเรื่องอย่างรามิล ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มเย้ยอย่างไรอย่างนั้น…เขาไปทำอะไรให้มัน!
“ฮ่า ฮ่า หมดสภาพเลยนะไอ้เดือนวิศวะ” แบร์ที่กำลังกินขาไก่งวงร่มควันเงียบ ๆ ยังขำพรืดอย่างอดไม่อยู่ ส่วนอาไกก็ยื่นกระทิชชูให้ดาน่าช่วยซับใบหน้าของลูแปง
“ไอ้เหี้ยแบร์หุบปากไปเลยมึง”
“ก็จริงนี่ดูเสื้อมึงดิ จากสีครีมนี่เหลืองเชียว”
“ไอ้สัด!” ลูแปงเอ่ยอย่างโมโห
“ขอโทษจริง ๆ นะคะน่าไม่ได้ตั้งใจ ฮ่าฮ่า” ดาน่าเองยังอดหัวเราะไม่ไหวเมื่อเห็นสภาพของลูแปง จึงกดทิชชูซับตามเสื้อผ้าของรุ่นพี่อย่างแรงจนเจ้าตัวร้องลั่นอย่างโมโห
“โอ๊ยยย…มะไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวพี่ไปล้างห้องน้ำเอง เก็บมือสวย ๆ ของน้องดาน่าไว้เถอะ” ถ้าเป็นเพื่อนลูแปงคงตะโกนดังลั่นแล้ว แต่นี่คือสาวสวยรุ่นน้อง จะใจร้ายใจดำได้ยังไงกัน
“โอเคค่ะ งั้นเดินดี ๆ นะคะ” อดีตเดือนวิศวะยิ้มแห้ง ก่อนจะรีบลุกออกจากโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกอย่างขมขื่น ทุกอย่างเพราะรามิลคนเดียวเลย
“แม่ตัวดีหยุดหัวเราะเลย” เดวาเอ่ยปากดุน้องสาวตัวดีอย่างดาน่า เมื่อเห็นเจ้าตัวหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เมื่อพ้นหลังลูแปง
“ก็มันไม่ได้นี่”
“เรานี่มันตัวแสบจริง ๆ ไอ้แปงงี้เลอะยิ่งกว่าลูกหมา”
“พวกพี่สะใจก็พูดมาเถอะ” ดาน่ายักคิ้วให้อาไก เมื่อได้ยินรุ่นพี่เอ่ยปากแซว ที่จริงพวกเขาสองคนต่างก็หมั่นไส้ที่ลูแปงทำเนียนไม่ยอมไปซื้อของ ทั้งที่ก็หิ้วของช่วยกันทั้งวัน
“ทำดี” แบร์หัวเราะก่อนจะยกนิ้วโป้งมาตรงหน้าดาน่า ท่าทางเข้าขากันอย่างนั้นเดวาถึงกับส่ายหน้าทันที ก่อนจะหันหน้ากลับมาสนใจวาฟเฟิลในมือ และพบว่าสายตาคมกริบของรามิลกำลังจับจ้องมองมาที่ตัวเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เปล่า”
“แล้วมองทำไม” มองขนาดนี้ไม่เขมือบหัวของเธอเลยละ แล้วสายตาของเขามันธรรมดาที่ไหนกัน…ร้อนแรงจนเธอทำตัวไม่ถูก
“มองเพราะ…อยากจะมอง” รามิลยกมุมปากขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเลิ่กลั่กของเธอ บ้า! คำตอบอะไรของเขากัน มองเพราะอยากจะมองไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหนเลย
“ถ้างั้นเดก็จะจ้องบ้าง” เธอลดวาฟเฟิลมาวางบนตัก พลางจ้องหน้าของเขาคืนอย่างไม่ลดละ ก่อนจะอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นรามิลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ชั่วขณะนั้นหัวใจของเธอกลับเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาเมื่อเขาฉวยโอกาสจุมพิตที่หน้าผากของเธอ
แชะ!
เสียงชัตเตอร์ปลุกให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อคิดจะขยับออกเธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะถูกสายตาคมกริบของเขาตรึงไว้ราวกับมนต์สะกด