เข้าหอ

1219 Words
แม้ว่างานฉลองมงคลสมรสในตอนเย็นจะไม่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แต่กว่าที่คู่บ่าวสาวจะได้พักผ่อนกันตามลำพังก็เกือบเที่ยงคืน เฌอมาวีร์ถึงกับถอนหายใจยาวหลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายออกจากห้อง “อาบน้ำก่อนพี่เลยนะ ดึกแล้ว จะได้รีบนอน” พริษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยล้าพอสมควร เฌอมาวีร์เลยรีบลุกจากเตียงอยากจะรีบอาบน้ำให้เสร็จ ไม่ให้เขารอนาน หากก็ยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะหนึ่งเพราะไม่รู้ว่าต้องไปตรงไหนต่อ ร่างสูงลุกจากเตียงตามๆ กัน จูงแขนเธอไปที่ตู้เสื้อผ้า “พี่ก็ไม่ค่อยได้มานอนที่ห้องเท่าไหร่ตั้งแต่ย้ายไปอยู่คอนโด” ตระกูลเขาทำธุรกิจหลายอย่าง และธุรกิจคอนโดเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งพอเข้ามาทำงานกับครอบครัวคุณพ่อก็ให้เขาเข้ามาดูแลงานตรงนี้ พริษฐ์เองใช้ชีวิตระหว่างบ้านกับคอนโดตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว พ่อแม่ให้อิสระในการใช้ชีวิตพอสมควร ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวให้เธอ รวมถึงชุดนอนของเขาด้วย “ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาไว้ในห้องใช่ไหม” “ยังค่ะ” เพราะยังไม่รู้เลยว่าหลังจากผ่านงานแต่งไปตัวเองกับเขาจะยังไงต่อ “ก็ยังไม่ต้องเอามาไว้ก็ได้ พรุ่งนี้เราก็กลับคอนโดกันแล้ว ขนไปที่คอนโดครั้งเดียว คืนนี้ก็ใส่เสื้อพี่นอนก่อน” เฌอมาวีร์เผลอเอียงคอมองอีกคนด้วยความแปลกใจเล็กน้อย เขาพูดแบบนี้หมายถึงจะให้เธอไปอยู่คอนโดกับเขาอย่างนั้นเหรอ “ให้เฌอไปอยู่คอนโดพี่พร้อมเหรอคะ” “อืม ทุกวันนี้พี่ก็อยู่คอนโด นานๆ ทีจะกลับมานอนบ้าน” เขารู้ว่าเฌอมาวีร์หมายถึงอะไร เจ้าตัวอาจจะยังคิดว่าเราแค่แต่งงานให้งานแต่งมันไม่ล่ม แต่หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างไป...แต่พริษฐ์ไม่คิดว่ามันควรเป็นแบบนั้น ยังไงเขาก็จ่ายค่าสินสอดให้พ่อกับแม่เธอไปแล้ว ไม่น่าจะได้คืนในเร็วๆ นี้ด้วย ถ้าเขาปล่อยเธอกลับบ้าน...ก็เท่ากับเสียเปรียบสิ “ใส่เสื้อพี่นอนไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ไปอาบน้ำเถอะ” “เอ่อ ค่ะ” “ถอดชุดได้ไหม พี่ช่วย” เขาไม่ได้รอให้เธอตอบ จับไหล่เนียนแล้วหมุนตัวให้ได้องศาที่เขาจะสามารถช่วยรูดซิปให้ แล้วก็ดึงซิปลงมาเลย เฌอมาวีร์ก็ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะหนึ่ง กว่าสมองจะคิดได้ว่าชุดนี้เธอน่าจะถอดเองได้พริษฐ์ก็ช่วยรูดซิปลงมาครึ่งทางแล้ว ค่อยๆ ดึงลงช้าๆ ให้เหตุผลตัวเองว่าไม่อยากกระชากให้เฌอมาวีร์รู้สึกว่าเขาดึงแรงจนเกินไปก็เท่านั้น หากสายตาเขาจดจ้องแผ่นหลังขาวนวลที่รู้สึกจะผุดผ่องเหลือเกิน จนอยากสัมผัสให้รู้แล้วรู้รอดว่าจะเนียนละเอียดแค่ไหน “ขอบคุณค่ะ” พอเขาปล่อยมือจากตัวก็เอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว หอบผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนของเขาเข้าห้องน้ำอย่างรีบๆ พอมาถึงอ่างล้างหน้าก็ต้องใช้มือยันขอบอ่างไว้ เพราะหัวใจยังเต้นรัวแรง จนเหมือนจะยืนไม่อยู่ หากเฌอมาวีร์ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองคิดอะไรฟุ้งซ่านได้นาน รีบทำธุระให้เรียบร้อยเพราะดึกมากแล้ว ไม่อยากให้เขารอนาน เฌอมาวีร์เช็ดตัวให้แห้งและสวมชุดนอนในห้องน้ำเลย พริษฐ์หยิบแต่เสื้อให้ ซึ่งพอเธอสวมลงบนตัวมันก็ยาวเกือบๆ เท่าชุดนอนเธอแล้ว ชายเสื้อเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อยเอง พริษฐ์แอบมองคนที่สวมเสื้อนอนเขาออกจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกที่อยากมองให้นาน มองขาอ่อนที่พ้นชายเสื้อนอน มองสูงขึ้นไปจนแอบคิดว่าน่าจะหยิบสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำเงินเข้มตัวนี้ให้ เขาน่าจะมีสีขาวหรือสีครีมอยู่บ้าง พริษฐ์ส่ายหัวให้ความคิดพิเรนทร์ของตัวเอง ก่อนจะลุกเข้าไปอาบน้ำบ้าง “เธอนอนก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ พี่อาบน้ำก่อน ถ้านอนไม่หลับก็ปิดไฟไว้เลย พี่เปิดไฟหน้าห้องน้ำไว้ พอมองเห็น” “ค่ะ” เฌอมาวีร์เลือกที่จะปิดไฟห้องตามคำแนะนำของเขา เพราะคิดว่าความมืดอาจจะทำให้เธอแอบทำเป็นหลับได้เนียนๆ รู้สึกว่าหัวใจตั้งรับไม่ไหวกับบรรยากาศระหว่างเขากับเธอในคืนนี้...ก็คนมันรักอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสใกล้ชิดมันก็แทบจะบังคับจิตใจไม่ให้อ่อนไหวไม่ได้ แล้วพริษฐ์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับเธออย่างที่หวาดกลัว ตลอดสี่ห้าวันจนถึงงานแต่ง แม้เขาจะมีอาการตึงๆ บ้าง ไม่ได้หยอกล้อเล่นกันเป็นกันเองเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ห่างไกลจากคำว่าใจร้ายอยู่มากโข ซ้ำบางจังหวะยังเย้าแหย่เกินความสัมพันธ์ที่เคยมีด้วยซ้ำ เป็นการหยอกเย้าที่ทำให้หัวใจแอบคิดไปไกล วันนี้เป็นวันที่เธอรู้สึกกลัวมากที่สุด งานแต่งใหญ่โต แขกร่วมพันที่มาร่วมงานย่อมมีคนที่พอรู้ว่าเจ้าสาวถูกเปลี่ยนตัว แม้ในงานจะไม่มีใครมาเสียมารยาทถามเรื่องไม่ควรถาม แต่ด้วยความที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไรก็ทำให้เธอไม่กล้าจะสู้หน้าใครได้เต็มที่ มันกลัว กังวล และละอาย และคนที่ทำให้เธอสามารถยืนในงานได้จนจบงานกลับเป็น เจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเสมอ แม้ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจความรู้สึกเธอแค่ไหน แต่การที่มีเขายืนอยู่ใกล้ๆ จับมือเธอไว้ในบางครั้งก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจ คนที่เธอกลัวที่สุดว่าเขาจะทำหน้าบูดบึ้งหรือโกรธเกรี้ยวในงานแต่ง กลับเป็นคนที่ทำให้ทุกอย่างมันราบรื่น เฌอมาวีร์หลับตาลง รู้ว่าคงไม่สามารถข่มตาให้หลับก่อนที่เขาจะอาบน้ำเสร็จแน่ๆ แต่ก็คิดว่าควรต้องนอนแล้ว ถ้าเขาออกมาจากห้องน้ำก็ไม่รู้ว่าจะเหลือสติหรือความคิดอะไรไปพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ ยังไม่ทันที่เธอจะหายฟุ้งซ่านพริษฐ์ก็ออกมาจากห้องน้ำ ทันทีที่รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในห้องเฌอมาวีร์ก็พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด จนตอนที่อีกคนมานอนข้างๆ แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน ก็รู้สึกจะเกร็งไปหมด จนแทบจะลืมหายใจ พริษฐ์เหลือบมองคนที่นอนหลับอยู่ข้างๆ แบบที่รู้ว่าเจ้าตัวแค่แกล้งหลับแล้วก็ถอนหายใจ เขาหลับตาลงบ้าง หากก็เป็นอีกคนที่นอนไม่หลับเหมือนกัน ยิ่งไม่สนใจก็ยิ่งได้กลิ่นหอมหอมสดชื่นจากร่างบาง ที่มันทำเอาเขาปั่นป่วนไปหมด พยายามข่มตาข่มอารมณ์ไม่ให้ปลุกเธอขึ้นมาถามว่าใช้สบู่อะไร...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD