bc

เด็กของท่านคิงส์

book_age18+
335
FOLLOW
1.1K
READ
mafia
detective
like
intro-logo
Blurb

ผมชื่อภีมครับ ตอนนี้ชีวิตของผมเดินทางมาถึงช่วงตกต่ำที่สุด เพราะพ่อแม่ผมดันมาเสียชีวิตกะทันหันในขณะที่ผมยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ผมไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากตัวเปล่า ๆ กับหนี้กองโต นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจมาขายตัว แล้วแขกคนแรกของผมในค่ำคืนนี้ก็คือ 'ท่านคิงส์' ผู้ทรงอิทธิพลที่ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัว

นึกไม่ถึงเลยว่าการตัดสินใจของผมในครั้งนี้ จะเปลี่ยนชะตาชีวิตผมไปตลอดกาล...

chap-preview
Free preview
ลูกค้ารายแรก
เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราจะเข้มแข็งได้แค่ไหน จนกระทั่งความอดทนเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องมี… สวัสดีครับ ผมชื่อภีม เด็กม.6 ที่เพิ่งย่างเข้าอายุ 18 มาหมาด ๆ แต่ก็ดันโชคร้าย พ่อแม่มาตายพร้อมกับทิ้งภาระหนี้สินไว้ให้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย ผมจะเรียกมันว่าสมบัติหรือภาระดีล่ะ ในเมื่อมันทำให้ผมไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งบ้าน เขาจะมายึดคืนเมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้ รวมไปถึงค่าเทอมงวดสุดท้ายที่จะหมดเขตจ่ายพรุ่งนี้แล้ว นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเย็น ๆ นี้ ห้องที่ถูกประดับและตกแต่งหรูหราในผับดังที่มีชื่อเสียง เรื่องมันเกิดจากเมื่อช่วงกลางวันผมไปได้ยินเพื่อนที่โรงเรียนคุยกันว่า พวกเขาแอบมาใช้บริการเด็กขายตัวที่นี่ ผมจึงต้องมาที่สถานที่แห่งนี้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันนะครับ ผมไม่ได้มาเพื่อซื้อบริการ แต่ผมมาเพื่อขายบริการต่างหากล่ะ…. เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนผมมาสมัครงานกับเจ๊เจ้าของผับ เริ่มแรกแกก็ตกใจมากส่ายหน้าพัลวันคัดค้านหัวชนฝา บอกว่าผมยังเด็กเกินไป แต่ผมก็ดื้อดึงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ผมก้มลงกราบขอร้องให้แกเห็นใจอยู่พักใหญ่ ๆ จนกระทั่งมีลูกน้องของแกวิ่งหน้าตั้งเข้ามารายงานว่าท่านคิงส์จะเข้ามาในวันนี้ ผมไม่รู้หรอกนะว่าท่านคิงส์คือใคร เคยได้ยินชื่อผ่านหูบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนสนใจโลกภายนอกอยู่แล้ว แต่ดูท่าเขาคงมีอิทธิพลไม่น้อยเลยล่ะ เพราะเจ๊เจ้าของร้านดูมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด วันนี้เด็กในร้านดันลาป่วยพร้อมกันหมด แกจึงต้องจำยอมให้ผมรับงานนี้อย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกำชับผมซ้ำ ๆ ว่าอย่าทำให้ท่านคิงส์โกรธ เขาสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าเขาโมโหขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ ไม่ใช่แค่ผมที่จะโดนฆ่าตาย แต่เราจะตายยกร้านกันหมด ผมรีบตอบรับเจ๊เจ้าของผับด้วยความดีใจ แกจึงไม่รอช้า จับผมมาแต่งองค์ทรงเครื่องพรมน้ำหอมจนกลิ่นหอมฟุ้งกระจายแล้วพาผมมานอนรอในห้อง vip. ห้องนี้ทั้งกว้างใหญ่และหรูหรา มองดูด้วยตาก็รู้ว่าของพวกนี้มีราคามากแค่ไหน ผมพยายามนั่งนิ่ง ๆ ไม่ไปสัมผัสอะไรมาก กลัวจะทำข้าวของตกแตกเสียหายแล้วจะไม่มีปัญญาจ่าย นาทีนี้แอร์เย็น ๆ กระทบตัวไม่ได้ทำให้เหงื่อในมือลดน้อยลงเลยแม้แต่นิด ยิ่งใกล้เวลาเข้ามาเรื่อย ๆ ผมยิ่งรู้สึกขี้ขลาดจนอยากจะถอนตัว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะยังทันมั้ย ถ้าผมผลักประตูแล้ววิ่งออกไปเลย เจ๊เจ้าของร้านจะซวยหรือเปล่า ครืดดด!! เสียงประตูเคลื่อนออกทำหัวใจผมตกไปอยู่ตาตุ่ม ผมนั่งตัวสั่นริก ๆ ที่ปลายเตียง รู้สึกคอมันแห้งผากจนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนกำลังก้าวเข้ามาประชิดตัวผมช้า ๆ ยิ่งกระตุ้นให้หัวใจผมเต้นระรัวขึ้นเช่นกัน ผมไม่กล้าแม้แต่จะเชยหน้าไปมองบุคคลตรงหน้าเอาแต่ก้มหน้าจ้องปลายเท้าตัวเองนิ่งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ไม่นานคนมาใหม่ก็เดินเข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะจับปลายคางของผมเชยขึ้นมาปะทะหน้าเขาจนมองเห็นใบหน้าอย่างถนัด ผู้ชายคนนี้หรือที่ผู้คนเรียกกันว่าท่านคิงส์? ผู้ชายร่างใหญ่ใส่ชุดสูทสีดำลับกับรองเท้าหนังขัดจนขึ้นเงาวาววับเล่นแสงกับไฟจนแสบตา ผมแปลกใจเล็กน้อยที่เขายังดูหนุ่มอยู่เลย น่าจะอายุประมาณ 30 ต้น ๆ ทำไมถึงเรียกว่าท่าน นึกว่าจะอายุประมาณ 60 กว่าซะอีก แถมยัง… หล่อชะมัด สันจมูกโด่งลับกับตาคมจนน่าหลงใหล แต่มีอะไรบางอย่างในตัวเขาที่มองแล้วทำให้รู้สึกน่าเกรงขามจนไม่กล้าสบตา “ชื่ออะไร” “ชะ ชื่อภีมครับ” “ถูกหลอกมารึเปล่า” เขาถามออกมาเสียงเรียบนิ่ง “ปะ เปล่าครับ ผมมาสมัครงานเอง” ผมตื่นเต้นจนตอบตะกุกตะกัก “ตัวแค่นี้ อายุถึง18 แล้วหรอ” ท่านคิงส์จ้องมองผมอย่างสำรวจอีกครั้งด้วยสายตาจับผิด ผมเป็นคนหน้าหวานเหมือนแม่แถมยังตัวเล็กนิดเดียว ไม่แปลกหรอกที่ผมจะดูเด็กเกินวัย “ถึงแล้วครับ ถ้าคุณ เอ๊ย!! ถ้าท่านไม่เชื่อเดี๋ยวผมไปหยิบบัตรประชาชนมาให้ดู” ผมรีบค้นตามตัวเพื่อหากระเป๋าตังค์ แต่ก็ต้องหัวเสียเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เอ่ออ… พอดีว่าก่อนเข้าห้อง เขาให้ผมเอาของไว้ข้างนอกหมดเลย ท่านรีบมั้ยครับเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม “ช่างมันเถอะ แล้วทำไมถึงมาทำงานที่นี่ พ่อแม่รู้จะเสียใจรู้มั้ย” เขาพูดเชิงตำหนิหน้าดุ “พ่อแม่ผมเพิ่งเสียเมื่อเดือนที่แล้วเองครับ ผมมาหาเงินจ่ายค่าเทอม” “หึ” ทันทีที่ผมพูดจบเขาก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมกับมองบนเล็กน้อย “มุกเดิม ๆ” เขาว่าก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ผม ผมไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะผมกำลังรวบรวมสติไม่ให้แตกกระเจิงอยู่ “ฉันอยากดื่ม ไปเทเหล้าให้หน่อย” เขาพยักเพยิดหน้าไปที่โต๊ะใกล้ ๆ ที่จัดชุดเครื่องดื่มไว้อย่างสวยงาม ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นไปเทเหล้าให้เขาอย่างเอาใจ ผมเทเหล้าในขวดลงใส่แก้วในมืออย่างบรรจง แต่กะปริมาณไม่ถูกว่าต้องเทเยอะแค่ไหน ก็เลยเทเหล้าลงจนปริ่มปากแก้ว ก่อนจะค่อย ๆ เดินถือแก้วไปให้เขาเพราะกลัวมันจะหกระหว่างทาง “เหล้ามาแล้…เฮ้ย!!” ผมตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะผมดันไปทำเหล้าหกใส่เสื้อสูทราคาแพงของเขาจนเปียกโชก “ผะ ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมรีบก้มลงเอาเสื้อตัวเองไปซับเหล้าออกให้เขาอย่างลนลาน ไม่กล้าหันไปสบตาเขาเพราะรู้ดีว่าตอนนี้เขาคงกำลังโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้าแน่ ๆ “เฮ้ออ!!” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหงุดหงิดเต็มทน “ไม่เป็นงาน!” คนตรงหน้ากดเสียงต่ำจนผมใจกระตุกวูบ ใต้ขอบตามันร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้ออกมา อยากจะพาตัวเองวิ่งออกไปจากจุดนี้ชะมัด แต่แล้วอยู่ ๆ ท่านคิงส์ก็ถอดเสื้อสูทออกก่อนจะขว้างมันทิ้งอย่างไม่ใยดี “ดะ เดี๋ยวผมเอากลับไปซักให้นะครับ” หมับ!! ไม่ทันที่ผมจะเดินไปหยิบเสื้อสูท ข้อมือหนาก็คว้าแขนผมเหวี่ยงลงเตียง จนหน้าจมลงใส่ผ้าห่มนุ่ม ๆ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงกระดกเหล้าที่เหลือครึ่งแก้วเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนจะหันมากระชากเสื้อออกจนกระดุมกระเด็นกระดอนลงพื้น ผมใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บไปหมด รีบถอยหลังโดยอัตโนมัติแต่ก็ถูกเขารวบขาดึงลงมา “หึ จะหนีไปไหน ยังไม่ทำอะไรเลยกลัวแล้วหรอ?” เขาว่าพร้อมกับเหยียดยิ้ม “ปะ เปล่าครับ ผมไม่ได้กลัว” บ้าจริง ทำไมผมถึงไม่ตอบไปว่าใช่ล่ะ ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเองจริง ๆ แต่ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วก็… เอาวะ!! ไม่น่าจะถึง 20 นาที กลั้นใจแค่แป๊บเดียวคงเสร็จแล้ว สู้หน่อยสิไอ้ภีม! คิดได้ดังนั้นผมก็นั่งใช้เข่าตั้งพื้นก่อนจะถอดเสื้อออก เผยให้เห็นร่างบางสีขาวลับกับหัวนมสีชมพูระเรื่อ ท่านคิงส์นิ่งไปชั่วขณะพร้อมกับจ้องผมด้วยใบหน้าเรียบเฉย ยอมรับเลยว่าสายตาคู่นี้มันยากที่จะคาดเดาจริง ๆ ผมไม่สามารถอ่านแววตาเขาได้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ถอดกางเกงด้วย” “อะ เอ่ออ… ปิดไฟได้มั้ยครับ” ผมพูดเสียงแผ่วเบา เกรงว่าจะทำให้เขาโมโหขึ้นมาอีก เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเพียงแค่หยิบรีโมทขึ้นมาแล้วจิ้มกดลงไปสองสามทีไฟในห้องก็ลดความสว่างลงครึ่งหนึ่ง แม้ไม่ได้ดับไปสนิทแต่ก็พอแก้เขินอายได้บ้าง ในเมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็ต้องฮึบสู้เท่านั้น อีกนิดเดียวไอ้ภีม สู้!! ผมค่อย ๆ ถอดกางเกงออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะพับอย่างเรียบร้อยไว้ที่ด้านล่างเตียง ยอมรับเลยว่ากำลังถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด แอร์เย็น ๆ สาดเข้ามาใส่ร่างบางจนทำให้ผมหนาวสั่นระริกราวกับลูกหมาตกน้ำ จนต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุ่มอก “ฉันไม่ได้ใจดีถึงขนาดที่ฟังปัญหาชีวิตนายแล้วจะให้เงินไปจ่ายค่าเทอมฟรี ๆ หรอกนะ” “ครับ ผมเข้าใจ” เขาถอดกางเกงลงต่อหน้าผมอย่างจงใจ จนผมรีบเสมองทางอื่นอย่างลน ๆ เขาไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือไงที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าคนแปลกหน้าอย่างนี้ “หนาวหรอ?” เขาถามขณะที่เลื่อนมือเข้าลูบไล้ต้นขาขาวผมจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว “นะ นิดหน่อยครับ” ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เมื่อเขาเริ่มเลื่อนมือเข้ามาที่ก้นงอนของผมก่อนจะออกแรงบีบเคล้นเต็มแรง “อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเฮือกกำผ้าห่มในมือไว้แน่น “รออีกนิด เดี๋ยวก็ได้ร้อนแล้ว” เขากระซิบข้างหูก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้ามาประกบปากผม พร้อมกับสอดปลายลิ้นเรียวเข้ามาตวัดเลียในโพลงปาก เริ่มแรกเหมือนจะเป็นการจูบที่ทะนุถนอมก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นรุนแรงและดุดัน เขาเริ่มดูดเม้มริมฝีปากผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกเจ็บแปรบขึ้นมาที่ริมฝีปากล่าง ท่านคิงส์เอื้อมมือหนาเข้ามาจับฝ่ามือเล็กของผมเข้าไปทาบที่ตรงกลางลำตัวของเขา แต่ผมดันตกใจจึงรีบชักมือกลับจนเขาชักสีหน้าหงุดหงิด “เป็นอะไร?” เขาว่าอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษครับ ผมไม่นึกว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้” ผมตอบไปตามความจริงก่อนจะยอมเลื่อนมือไปจับแก่นกายเขาที่มันตั้งชูอยู่ด้านล่าง แท่งใหญ่เบ้อเริ่มขนาดนี้มันจะเข้าไปอยู่ในตัวผมได้ยังไงกัน คิดภาพยังไงก็คิดไม่ออก ผมรวบแก่นกายนี้ไว้ในมือหลวม ๆ ก่อนจะเริ่มรูดรั้งขึ้นลงช้า ๆ “ชะ ช้า ๆ ก่อน” เขาพูดเสียงติดขัดพร้อมกับหอบหายใจถี่ “อมให้หน่อย” “ห้ะ?! หมายถึงอมไอ้นี่น่ะหรอครับ” ผมหน้าเหวอเล็กน้อย ไม่คิดว่าต้องทำถึงขนาดนี้ เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเพียงแค่กดหัวผมลงไปด้านล่างจนผมจำใจต้องอ้าปากครอบแก่นกายนี้ไว้อย่างยากลำบาก “ซี๊ดดด!! อย่างงั้นแหละดีมาก อ้าา~” เขาครางกระเส่าอย่างพอใจ “โอ๊ย!!” ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อเขากระชากหัวผมให้นอนราบไปกับเตียงก่อนจะหยิบถุงยางขึ้นสวมใส่ ท่านคิงส์จับขาผมถ่างออกก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลาง เขาเอื้อมมือเข้ามารูดรั้งแก่นกายของผมที่อยู่ตรงหน้าอย่างชำนาญดูท่าทางคงมีประสบการณ์ไม่น้อย “อึก อ๊ะ อ้าา~” ผมเผลอครางออกมาก่อนจะเม้มปากไว้แน่นเมื่อเขารูดรั้งแก่นกายอย่างรู้จุดสำคัญ “ชอบมั้ย” “ชะ ชอบครับ” ผมเบือนหน้าหนี เพราะยิ่งเห็นหน้าเขายิ่งรู้สึกเหมือนมันเสียวมากกว่าเดิม ผมไม่อยากครางเสียงที่มันน่าอายนั่นออกมา เพียะ!! “อ๊ะ!!” เขารวบขาผมยกขึ้นก่อนจะวาดฝ่ามือลงก้นงอนเสียงดังสนั่น เจ็บชะมัด! ท่านคิงส์หยิบเจลที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาเปิดฝาออกพร้อมกับบีบมันลงบนปลายนิ้ว แล้วนำมาทาวนที่ช่องทางด้านหลังผม จนรู้สึกเย็นวูบวาบ ผมกัดปากแน่นรู้สึกแปลก ๆ เมื่อมีอะไรมาโดนจุดนี้ เขาไม่รอให้ผมได้ตั้งหลัก รีบสอดนิ้วเข้ามาภายในช่องด้านหลังช้า ๆ จนผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ “อะ เจ็บ!!” ผมกำที่นอนไว้แน่น “เตรียมใจไว้รอเลย นี่เพิ่งเข้าไปแค่นิ้วเดียวเอง” เขาว่าพร้อมกับชักมือเข้าออกช้า ๆ “อ๊ะ อ้าา~” ผมครางกระเส่าเมื่อเขาเพิ่มนิ้วเข้ามาถึงสองนิ้ว และสามนิ้วในที่สุด “อย่าทำหน้าแบบนี้นายจะยิ่งเจ็บตัว” ผมพยายามเบือนหน้าหนี ไม่รู้ว่าต้องทำหน้าแบบไหน คนมันเจ็บก็ต้องทำหน้าแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ท่านค่อย ๆ ถอดนิ้วออกก่อนจะแทงแก่นกายขนาดใหญ่เข้ามาแทน สวบ!! “อ้าาา~ โคตรแน่น แน่นจนเจ็บไปหมด” “ฮึก อ๊ะ เจ็บบ!!” ผมดิ้นพล่านเมื่อมีแท่งขนาดใหญ่ยัดเข้ามาในตัว มันทั้งจุกทั้งเจ็บและเสียวในคราเดียวกัน “อย่าเกร็ง มันเข้าไม่ได้” เขาพูดเสียงดุ ก่อนจะดึงแท่งร้อนออกมาแล้วเสียบเข้าไปใหม่ “อ๊ะ ทะ ท่านคิงส์ เบา ๆ ครับ ฮึก” ผมดึงผ้าปูในมือจนมันยับยู่ยี่ “ซี๊ดดด!! ในตัวนายโคตรดี ฉันเชื่อแล้วว่านายเป็นของใหม่จริง ๆ” เขาว่าพร้อมกับเชิดคางขึ้นแล้วเอื้อมมือมาบีบคอแล้วเน้นน้ำหนักไปที่สันกรามผมเพื่อระบายความเสียว “ฉันบอกว่าอย่าทำหน้าอย่างนี้ไง มันยั่ว!! เดี๋ยวฉันก็ยั้งมือไม่อยู่หรอก” ไอ้หน้าแบบนี้มันคือหน้าแบบไหนกันล่ะเนี้ย “อ๊ะ อ้าา~” ผมครางกระเส่าเมื่อเขาโน้มตัวลงมาไล่เลียตุ่มไตสีชมพูที่มันตั้งยอดอยู่ขณะที่ยังกระแทกสะโพกเข้ามาเรื่อย ๆ “อ้าา~ รู้สึกยังไงบ้าง” เขาถามเสียงแหบพร่า “จะ เจ็บครับ!!” “แค่นั้นหรอ” “สะ เสียวด้วยครับ” “หึ หึ อย่าหนีบขา ฉันกระแทกไม่สะใจ” เขากระแทกเข้ามาเน้น ๆ โดนจุดกระสันด้านในจนผมครางลั่นห้อง “อ๊ะ อ้าา~ ท่านคิงส์ อื้ออ เสียว อ้าาา~” ผมจิกเล็บลงแผ่นหลังเขาเพื่อระบายอารมณ์ “อ้าา~ ครางชื่อฉันอีกสิ ฉันชอบ” เพียะ!! เขาตบมาที่ก้นเด้งจนผมสะดุ้งเฮือก “อ้าาา~ ท่านคิงส์” ผมเอื้อมดันตัวขึ้นไปรวบคอเขาไว้แน่น “อ้าา~ ทำไมยั่วขนาดนี้วะ” เขาว่าก่อนจะกระแทกเข้ามาแรง ๆ ก่อนจะจับผมพลิกหันหลังอยู่ในท่าคลานเข่าแล้วเสียบแก่นใหญ่อันใหญ่เข้ามาอีกครั้ง มือก็รั้งเอวผมไว้ไม่ให้เซล้มไปด้านหน้า ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!! “อ๊ะ อ้าาา~ ทะ ท่านคิงส์ ผมเจ็บครับ” ผมรีบพูดเสียงติดขัด รู้สึกเจ็บหน่วงช่องทางด้านหลังรามมาถึงช่วงท้อง “อ้าา~ กลั้นใจหน่อย พยายามเร่งให้อยู่” เขาว่าพร้อมกับตบก้นงอนเสียงดังลั่นจนเกิดรอยฝ่ามือขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “อ้าา จะไม่ไหวแล้ว ฮึก อ๊ะ อ้าา~“ ผมเริ่มหมดแรงและเซไปด้านหน้าแต่ยังมีมือของเขารั้งเอวไว้จึงไม่ได้ล้มลงไป “อีกนิด อ้าาา~ จะเสร็จแล้ว” เขากระแทรกเข้ามาแรง ๆ จนผมปวดหนึบไปทั้งตัว มือที่กำผ้าปูไว้เริ่มอ่อนแรงเต็มที น้ำตาหยดใส ๆ เริ่มปริ่มที่ขอบตา พร้อมสมองของผมที่กำลังประมวลเหตุการณ์ช้า ๆ นี่ผม….กำลังทำบ้าอะไรอยู่ ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!! “ซี๊ดด อ้าาาา~” เขาครางเสียงต่ำก่อนจะกระแทกเข้ามาจนมิดด้าม พรึบ!! ผมรู้สึกเหมือนปวดร้าวทั้งตัว มันหนักอึ้งขึ้นมาถึงสมอง ก่อนที่ร่างผมจะล่วงลงที่นอน “ภีม ภีม! ตื่นสิ ไอ้เด็กนี่ทำไมอ่อนแอจังวะ” นี่คือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่ภาพตรงหน้าจะเลือนลาง และดับไปในที่สุด… ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างอยากลำบากภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่คุ้นตา นี่ผมกลับมาบ้านได้ยังไงเนี่ย ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเมื่อคืนผมอยู่ที่ผับ แล้วก็… บ้าจริง!! ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยครับ ผมทำมันลงไปจริง ๆ ใช่มั้ย ผมทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ว่าแต่ผมกลับมาที่นี่ได้ยังไง ผมไม่ได้บอกใครว่าบ้านผมอยู่ตรงไหน ใครพาผมมาส่งหรอ? ก่อนที่ผมจะคิดอะไรร้อยแปดไปมากกว่านี้พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยท่าทางที่ดูพิลึกไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ข้าวต้มที่ยังมีควันลอยขึ้นมา บ่งบอกว่ามันยังร้อน ๆ อยู่เลย แถมมีน้ำและยาแก้อักเสบที่วางอยู่ข้าง ๆ ผมคงไม่ได้หิวถึงขนาดรีบกินของที่ไม่รู้ที่มาที่ไปหรอกนะ เอะ!! แล้วนี่กระดาษอะไร ผมไม่รอช้ารีบหยิบกระดาษที่แนบอยู่ด้านล่างขึ้นมาเปิดดู ‘ใบเสร็จชำระค่าเทอม’ ผมเบิกตาโพลง ขยี้ตารัว ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด พ่อแม่ผมอยากให้ผมมีอนาคตดี ๆ จึงจับเข้าโรงเรียนมีชื่อเสียง ซึ่งค่าเทอมก็แพงริ้ว ผมถอดใจแล้วด้วยซ้ำกะว่าจะไปลาออก แม้จะเหลือแค่เทอมสุดท้าย ไม่นึกไม่ฝันว่าเหตุการณ์เมื่อคืน จะทำให้ผมได้เรียนต่อ ผมไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรมาก ในเมื่อจ่ายค่าเทอมแล้วผมก็ต้องไปเรียน ผมรีบกินข้าวกินยาแล้วออกไปโรงเรียนทันที วันนี้ที่โรงเรียนก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เรียนคาบเช้าเสร็จก็กินข้าว กินข้าวเสร็จก็เรียนคาบบ่าย ผิดปกติตรงที่ผมไม่มีสมาธิเรียนเลย ในหัวมันนึกถึงแต่เรื่องเมื่อคืน ผมจะเอายังไงต่อดี จะกลับไปทำงานที่นั่นต่อดีมั้ย แต่ตอนนี้ก็ยังเจ็บหนักอยู่ คงทำงานไม่ได้ซักพักใหญ่ ๆ ทั้งวันผมเอาแต่เหม่อลอยคิดเห็นภาพผู้ชายคนนั้นขึ้นมาในหัว นึกถึงหน้าเขาตอนกระแทกแล้วมัน… รู้สึกเสียวที่ท้องน้อยยังไงไม่รู้ ผมพยายามควบคุมสมาธิตัวเอง ให้จดจ่อกับครูที่กำลังสอนอยู่หน้ากระดานจนถึงเวลาเลิกเรียน ตุ๊บ!! “โอ๊ยย!!” ผมหัวโยกเซล้มไปกับพื้น เมื่อเดินผ่านสนามฟุตบอลแล้วมีก้อนกลม ๆ ลอยมากระทบหัวจนมึนไปหมด “ฮ่า ฮ่า โทษทีว่ะ กูไม่เห็นว่ามีคนอยู่” นึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นไอ้มีโอลูกปลัดอำเภอที่มันชอบกลั่นแกล้งผมเป็นประจำ มองดูก็รู้ว่ามันตั้งใจเตะชัด ๆ เพื่อนมันอีกสามสี่คนเดินเข้ามาเตะบอลอัดผมซ้ำ ๆ พร้อมกับหัวเราะสนุกสนาน “โอ๊ย!! หยุดนะ” ผมตะโกนบอกทั้งที่แขนยังปัดป้องกันไม่ให้ลูกบอลอัดโดนหน้า “ฮ่า ฮ่า ถ้ากูไม่หยุด แล้วมึงจะทำอะไรกูวะไอ้ลูกหมา ตัวเล็กกะจิ๊ดเดียว กูนึกว่าหมากระเป๋า” พวกมันระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน บอกแล้วไงครับ โรงเรียนนี้มันเป็นสถาบันแบ่งแยกชนชั้นอย่างน่าขยะแขยง ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ผมดิ้นรนหาเงินส่งเสียผมมาเรียนที่นี่ผมคงลาออกไปนานแล้วล่ะ ตุ๊บ!! “โอ๊ยย!! ใครวะ” ไอ้มีโอร้องลั่นพร้อมกับกุมหัวที่มีเลือดสด ๆ ไหลออกมาไว้แน่น มันและลูกน้องกวาดสายตามองหาตัวต้นเหตุที่ขว้างก้อนหินใส่มันอย่างเดือดดาล “กูเอง!” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นก่อนจะปรากฏกลุ่มคนใส่ชุดสูทสีดำนับสิบคนเดินเข้าไปหาพวกไอ้มีโอ “พะ พวกมึงเป็นใคร อย่าเข้ามานะ กูบอกพ่อกูจัดการพวกมึงแน่” ไอ้มีโอยังปากดีแต่ขากลับรีบถอยหลังกรูดจนไปชิดกับกำแพงตาข่ายด้านหลัง “หึ งั้นฝากบอกพ่อมึงหน่อยละกัน ว่าเตรียมตัวตายยกครัวได้เลย” เขาเหยียดยิ้มพร้อมกับชักกระบอกยาวออกมาจากด้านหลัง ตุ๊บตั๊บ ๆ “โอ๊ยย!! เจ็บ!” “โอ๊ยย!! ขากู ขากูหักแล้วแน่ ๆ โอ๊ยยย!!” ภายในพริบตา พวกไอ้มีโอโดนตะลุมบอนจนเละ มีนักเรียนเกือบครึ่งโรงเรียนวิ่งมามุงดูเหตุการณ์นี้ ไอ้มีโอมันเป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียน ไม่เคยมีใครกล้าหือกับพวกมันมาก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่อหน้าต่อตา แล้วผมจะยืนอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะเนี่ยทำไมไม่รีบหนี คิดได้ดังนั้นผมก็พร้อมก้าวขาเดิน “คุณภีมครับ ให้ผมจัดการเลยมั้ยครับ” ชายสูทดำที่ดูจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มคนนั้นยกกระบอกปืนขึ้นมาจ่อที่หัวของไอ้มีโอ ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พร้อมกับเสียงกรีดร้องของนักเรียนในบริเวณนั้น “อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมกลัวแล้ว ๆ” ไอ้มีโอลุกลี้ลุกลนขึ้นมากราบชายชุดดำด้วยความกลัวตาย “ยะ อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยครับ พอเถอะครับ” ผมรีบร้องปราม ชายชุดดำก้มหัวโค้งคำนับก่อนจะเก็บปืนเข้าที่เดิม แล้วหันหน้าไปที่เด็กนักเรียนที่มุงดูอยู่เต็มขอบสนาม “ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ ต่อไปนี้ห้ามใครหน้าไหนมารังแกแกคุณภีมอีก ถ้าใครยังกล้าลองดีกับคนของท่านคิงส์อีกล่ะก็…ผมรับรองได้เลยว่าไม่ตายดี” “คนของท่านคิงส์งั้นหรอ” เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นทั่วสนาม “เชี่ยย!! ไอ้ภีมเป็นเด็กของท่านคิงส์ว่ะ” เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นเรื่อย ๆ ผมไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงต่อ ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมด้วยสายตามึนงง ผมเองก็ไม่ต่างกัน ผมยังงงอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น พวกชุดดำนี้เป็นคนของท่านคิงส์งั้นหรอ แล้วพวกเขามาปกป้องผมทำไมกัน? “คุณภีมครับรถจอดอยู่ด้านหน้า เชิญครับ” ผู้ชายชุดดำผายมือให้ผมเดินตาม “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เดี๋ยวผมนั่งรถเมล์กลับ” “คุณภีมครับ ให้ผมไปส่งดีกว่านะครับ ท่านคิงส์กำชับมาแล้ว ไม่งั้นพวกผมจะโดนลงโทษนะครับ” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เฮ้อ!! ช่วยไม่ได้แฮะ ผมถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะเดินตามเขาไปที่รถ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เกิดใหม่เป็นเมียคุณปราบ

read
1K
bc

ครั้งหนึ่ง...(Yaoi, boy story)

read
2.1K
bc

แน่นะ...ว่ารักฉัน

read
1K
bc

บุปผากลางใจ จอมจักรพรรดิ

read
5.3K
bc

Papa is my Mom พ่อครับอย่าดื้อ (Mpreg)

read
1.0K
bc

โอกาสที่สองของนที

read
1K
bc

DONE FOR ME ได้โปรดยกโทษให้ผม

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook