บทนำ

2105 Words
บรรยากาศริมชายหาดหลังเวลาเที่ยงคืนดูเปลี่ยวร้างไร้ผู้คน เธอไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนี้บริเวณริมหาดพัทยาจะคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมาไหม รู้แค่ว่าในยามนี้หาดที่เธอนั่งอยู่เงียบเหงาราวกับป่าช้า แสงสว่างที่พอมีก็มาจากร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงฝั่งตรงข้าม ที่เธอเพิ่งไปซื้อสปายครึ่งโหลเมื่อราวๆ 40 นาทีที่ผ่านมา อ้อ…นอกจากนี้ยังมีแสงสว่างจากเสาไฟริมหาดที่เปิดดวงเว้นสองดวงนั้นอีกอย่าง บรรยากาศแทบไม่ต่างกับหนังผีสยองขวัญหรือฉากฆาตกรรมนั่นแหล่ะ สิ่งมีชีวิตที่พอจะมีให้เห็นอยู่บ้าง ก็คงจะมีแต่เจ้าสี่ขาที่กำลังคุ้ยขยะห่างไปสัก 4-5 เมตรตัวหนึ่งเท่านั้น ช่างเหมาะเจาะจริงๆ กับสิ่งที่เธอกำลังคิดจะทำต่อจากนี้ ต่อจากนี้ที่ว่าคือหลังจากที่เธอกรอกสปายขวดสุดท้ายลงคอจนหมดนั่นล่ะ แล้วผู้หญิงอย่างเธอมานั่งทำบ้าอะไรอยู่ในที่เปลี่ยวๆ อย่างนี้กัน แถมยังเทแอลกอฮอล์เข้าปากราวกับนักดื่มที่อดอยากมานานเช่นนี้ ความจริงแล้วเธอไม่เคยดื่มเหล้า แต่เพราะอยากเมาจึงเลือกแอลกอฮอลล์เปอร์เซ็นต์ต่ำอย่างสปายมาดื่ม นี่เป็นการดื่มครั้งแรกและคงจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ และตอนนี้น้ำเมาหยดสุดท้ายได้ไหลผ่านลำคอไปแล้ว ก็คง…ได้เวลาสักที มือเรียวบางวางขวดน้ำเมาลงข้างกายพร้อมยันกายลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ฤทธิ์น้ำเมาทำเอาเธอทรงตัวลำบาก แต่ก็ช่างเถอะ ค่อยๆ เดินลงไปไม่กี่ก้าวก็สบายแล้ว ให้มันจบลงที่ตรงนี้ เพราะเธอพอแล้วกับชีวิตบัดซบแบบนี้ ร่างน้อยค่อยๆ ก้าวเขาหาทะเลตรงหน้าจนรับรู้ถึงความเย็นของน้ำที่ปริ่มมาถึงกลางอก 'อีกนิดนะพระพาย อีกไม่กี่ก้าวก็จะได้ไปหาตายายและพ่อแม่แล้ว' ลูกคลื่นที่กำลังเคลื่อนตัวมาคงสูงพอที่จะกลืนร่างของเธอได้มิด เธอยิ้มรับมันด้วยหัวใจที่ปลดปลง…ลากันทีกับโลกบิดเบี้ยวใบนี้ และในเสี้ยวนาทีที่คลื่นน้ำกำลังโถมสาดเข้ามา ชั่วขณะหนึ่งราวกับว่าเธอได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากไกลๆ แต่เธอไม่มีเวลาที่จะคิดสงสัยเพราะยามนี้ร่างของเธอถูกกลืนหายไปกับแผ่นน้ำเบื้องหน้าแล้ว 'อึดอัดเหลือเกิน หายใจไม่ออก' มวลน้ำรอบตัวบีบอัดร่างกายจนแทบจะทนไม่ไหว สัญชาตญานการเอาตัวรอดทำให้เผลอสูดหายใจเข้า น้ำเค็มๆ ไหลเข้ามาทั้งทางปากและจมูกจนแสบร้อนไปหมด 'ทำไมมันทรมานอย่างนี้!! ทำไมไม่ตายให้จบกันไปนะ' ในห้วงความคิดอันสับสนและสติที่เหลืออยู่น้อยนิด เธอรับรู้สึกสัมผัสบางอย่าง มีบางอย่างที่พยายามไขว่คว้าตัวเธอ สิ่งนั้นโอบรัดเธอจากทางด้านหลังและกระชากตัวเธอให้ลอยพ้นน้ำ 'นี่มันอะไร? ใครกัน?' แต่ก่อนที่เธอจะได้หาคำตอบใดๆ เธอก็หมดสติไปทั้งอย่างนั้น ร่างสูงโปร่งพยายามฉุดลากร่างน้อยที่ไร้สติขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล แม้ว่าปกติแล้วเขาจะเป็นคนแข็งแรงเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ แต่การต้องว่ายน้ำลงไปควานหาคนหมดสติใต้คลื่นน้ำนั่นก็นับว่าหนักหนาเอาการอยู่ ไม่นับว่าเมื่อได้ตัวคนมาแล้วยังต้องลากร่างที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ฝ่าคลื่นน้ำกลับเข้าหาฝั่งอีก ก็เล่นเอาเขาหมดแรงได้เหมือนกัน พอพ้นน้ำได้ก็แทบอยากจะนอนแผ่หรามันบนผืนทรายนี่จริงๆ แต่…ยังก่อน งานของเขายังไม่จบ ช่วยคนขึ้นมาได้แล้วก็จริง แต่แม่สาวนี่ยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ 'ต้องทำยังไงก่อนนะ อ้อ..ต้องเช็กลมหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจก่อนสินะ อ้าว!!..ลมหายใจเบาจนแทบสัมผัสไม่ได้ หัวใจหยุดเต้นไปแล้วรึเปล่าละนี่ ต้องทำยังไงต่อล่ะ' ใช่!! ต้องผายปอด เขาต้องทำได้สิ…. “ใจเย็นไว้ไอ้สิงห์ แกเคยอบรมมาแกต้องทำได้” ชั่วเสี้ยวนาทีที่ต้องรีบตัดสินใจนั้น ทำให้เขาสามารถยื้อชีวิตหญิงสาวจากมัจจุราชได้ทันเวลา อาการสำลักกระอักกระไอคายน้ำออกมานั่นเป็นสิ่งยืนยันได้ดีว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แม้จะดูทรมานอย่างมากมายก็เถอะ ‘เหอะ! ทรมานก็ดี ต่อไปจะได้ไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้อีก’ เขาคิดขณะมองเธอกระอักกระไอเพราะสำลักน้ำจนตัวโยน หลังจากไอจนแทบสิ้นเรี่ยวแรงเธอก็ทิ้งตัวแผ่หราไปทั้งอย่างนั้น เดือดร้อนให้เขาต้องเข้าไปเขย่าตัวกึ่งประคองให้ลุกขึ้น ถามเธอด้วยเสียงห้วนๆ ว่าลุกไหวไหม แต่เมื่อเธอไม่ได้ตอบอะไร เขาจึงตัดสินใจอุ้มพาเธอไปยังโรงแรมที่เขาพักอยู่ เพื่อสอบถาม รปภ.ว่า แถวนี้มีคลินิคหรือสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดตรงไหน พร้อมขอให้คุณ รปภ. ช่วยเรียกรถพาไปส่งให้ที แบบด่วนๆ >♡_♡ หญิงสาวขยับกายด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งช่องอกทุกครั้งที่หายใจ ‘เจ็บงั้นหรือ! ตายแล้วยังรู้สึกเจ็บได้อีกงั้นหรือ ไม่น่าใช่ หรือว่าเธอจะยังไม่ตายกันนะ’ เร็วเท่าความคิด เปลือกตาบางจึงพยายามขยับเปิดขึ้น แสงจ้าๆ นี่มันแสบตาชะมัด ‘ลืมตาได้ แปลว่าเธอยังไม่ตายจริงๆ ด้วย’ ทันทีที่ตาเริ่มชินกับแสงเธอจึงกวาดตาไปรอบๆ จนมาสะดุดกับร่างสูงที่นั่งหลับตาพิงพนักโซฟาอยู่มุมหนึ่งของห้อง 'ใครกันนะ?' เธอแน่ใจว่าไม่เคยรู้จักเขาคนนั้น ไม่แม้แต่จะเคยเห็นหน้าที่ไหนด้วยซ้ำ เพราะถ้าเธอเคยเห็นก็ต้องจำได้สิ ก็หน้าตาเขาโดดเด่นสะดุดตาราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารขนาดนั้น ไม่มีทางเลยที่เธอจะจำไม่ได้ แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ? คนคนนี้ช่วยเธอไว้งั้นหรือ ช่างบังเอิญเกินไปหรือเปล่า ก็เธอแน่ใจที่สุดว่ายามนั้น ที่นั่นไม่มีใครสักคน นอกจากเจ้าสี่ขาแขกประจำหาดตัวเดียวเท่านั้น แต่ก็ช่างเถอะ... ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เดาไปคงไม่ถูก รอถามจากเจ้าตัวดีที่สุด เธอคิดไปพลางสายตาก็จับจ้องเขาแทบไม่กะพริบจนคนนั่งหลับรู้สึกตัว เขาหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบได้ แต่คงนานหลายชั่วโมงทีเดียว ก็นี่มัน..ใกล้เที่ยงแล้วนี่นะ จำได้ว่า เมื่อตอนดึกที่ผ่านมา เขาพาผู้หญิงตรงหน้ามารับการรักษาที่นี่ คุณหมอเพิ่งย้ายเจ้าหล่อนออกจากห้องฉุกเฉินมาพักรักษาที่ห้องพิเศษนี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา พยาบาลบอกกับเขาว่า คนไข้ได้รับยานอนหลับเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน อาจจะฟื้นอีกทีในช่วงสายๆ เขาจึงได้ฝากเธอไว้กับคุณพยาบาล เพื่อขอตัวไปอาบน้ำที่โรงแรม ไม่เกินชั่วโมงจะรีบกลับมา หลังจากขอให้รถของโรงแรมมารับ-ส่ง สี่สิบนาทีต่อมาเขาจึงได้มานั่งเฝ้าไข้คนตรงหน้าอย่างตอนนี้ เพิ่งจะเผลอหลับไปเมื่อตอนใกล้รุ่ง หลับไปหลายชั่วโมงจนมาตื่นเพราะรู้สึกว่าถูกจ้องมองนี่ล่ะ ทันทีที่สบตากับดวงตากลมโตสีน้ำตาลใสคู่นั้น เขายอมรับว่าเผลอจ้องมองอยู่นานเหมือนโดนสะกด ‘ยายเด็กนี่ตาสวยเป็นบ้าเลย…ให้ตายสิ’ ตอนหลับอยู่เขาก็แค่รู้สึกว่า เธอก็หน้าตาน่าเอ็นดูอยู่มากก็แค่นั้น ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรสำหรับเขาที่ก็เคยเจอคนสวยๆ มามากมาย ใครจะไปคิดว่าแค่ได้สบตากับสาวน้อยตรงหน้านี่เพียงครั้งแรก ถึงกับทำให้ใจเขาเต้นผิดจังหวะได้ 'เขาตื่นแล้ว! อ่าาา…นี่เธอเผลอจ้องหน้าจนเขารู้สึกตัวเลยหรือนี่ บ้าชะมัด พายเอ๊ยพาย..แล้วจะยังไงต่อล่ะทีนี้ ควรพูดอะไรกับเขาไหมหรือแกล้งหลับต่อดี' ในขณะที่สมองยังครุ่นคิดแต่ปากเธอก็พูดไป “ขะ..ขอบคุณนะคะ คิดว่าคุณคงเป็นคนที่ช่วยฉันไว้…ใช่ไหมคะ” ถามออกไปแล้วก็แทบจะกลั้นหายใจ 'ให้ตายสิ! คนอะไร จ้องหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแบบนั้น หรือเธอ..พูดอะไรผิดไป' “หึ!! ขอบคุณงั้นรึ…ก็ยังดี ทีแรกผมยังนึกว่าคุณอาจจะพูดว่าผมไม่น่าช่วยคุณเอาไว้เลยซะอีก” ‘ร้ายกาจ...!!!' นั่นคือความคิดของหญิงสาวในทันทีที่ฟังจบ แต่สิ่งที่เธอพูดออกมากลับเป็น “ฉันไม่พูดอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ อย่างน้อยก็กับคนที่มีบุญคุณช่วยชีวิตฉันไว้” ได้ยินอย่างนั้นเขาถึงกับกระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วเอ่ยขึ้น “บุญคุณที่ช่วยชีวิตงั้นหรือ? แปลว่าคุณเห็นว่าชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ แล้วทำไมก่อนหน้านั้นถึงได้คิดทำลายมันล่ะ” เขาทำหน้าจริงจังอย่างรอฟังคำตอบจากเธอ เจ้าหล่อนทำหน้าอึกอักลำบากใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะถามเธอตรงๆ แบบนี้ ที่สำคัญคือเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามเขาดีไหม? แล้วจะตอบอย่างไร? ในเมื่อเรื่องราวของเธอมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด เธอควรจะบอกเล่าเรื่องราวบัดซบในชีวิตที่นำไปสู่การตัดสินใจจบชีวิตตัวเองให้กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันเมื่อไม่กี่นาทีฟังดีหรือเปล่า “ว่ายังไงล่ะ ผมกำลังรอฟังอยู่นะคุณ” เสียงเร่งเร้าเอาคำตอบดังมาจากผู้ชายตรงหน้า แล้วเธอจะตอบอย่างไร พระพายลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนตัดสินใจ “คือ…ฉันไม่คิดว่าคุณจะอยากรู้ และฉันยิ่งไม่รู้ว่าควรจะเล่าอะไรให้คุณฟัง เพราะเรื่องของฉันมันมากมายและวุ่นวายสับสนเหลือเกิน” เธอเลือกที่จะเอ่ยกับเขาไปตามตรงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขามองเข้าไปในดวงตาใสซื่อของเธอขณะที่เอ่ยประโยคนั้น ยิ่งมองยิ่งเห็นแววหวาดหวั่นไม่แน่ใจ ‘ให้ตายเถอะ... นี่เธอกำลังกลัวเขาหรือ’ เขาคิดว่าใช้น้ำเสียงธรรมดากับคำถามง่ายๆ แล้วนะ แต่เธอทำราวกับว่ากำลังตอบคำถามของพนักงานสอบสวนก็ไม่ปาน 'ก็ได้…งั้นเอาใหม่ จะใช้คำพูดที่อ่อนโยนขึ้นก็ได้ ' ชายหนุ่มคิดพร้อมกับถอนหายใจแรง... “ผมกำลังรอฟังอยู่ และ ใช่..ผมต้องอยากรู้แน่นอน ว่าคนที่ผมได้ช่วยชีวิตไว้มีเรื่องคับแค้นใจอะไรจนถึงขนาดคิดสิ้นแบบนั้น เมื่อรู้แล้วจะได้ช่วยคิดแก้ไข เพราะผมคงไม่ได้ช่วยคุณในวันนี้ เพื่อให้คุณไปคิดฆ่าตัวตายในวันพรุ่งนี้หรือวันข้างหน้าหรอกนะครับ และไม่ว่าเรื่องราวของคุณจะมากมายขนาดไหน ผมก็มีเวลาทั้งวันเพื่อจะนั่งฟังคุณ หรือถ้าเล่าทั้งวันแล้วยังไม่จบ ผมแถมเวลาให้อีกสองวันก็ยังได้ แต่กลางคืนคงต้องขอเว้นไว้เพราะคุณต้องนอนพัก ทีนี้พอจะบอกเล่าเรื่องราวของคุณมาได้รึยังครับคุณผู้หญิง หรือคุณคิดว่าผมเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ควรรับรู้อะไร หึ...ใช่จริงๆ ด้วยสินะ งั้นเอาแบบนี้ เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกันก่อนดีไหม รู้จักกันแล้วก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า คราวนี้คุณจะได้เล่าอย่างสะดวกใจขึ้นไงล่ะ เริ่มจากผมแนะนำตัวก่อนก็ได้" "ผมชื่อสิงห์ แล้วคุณล่ะ ชื่ออะไร" เมื่อได้ฟังประโยคยาวๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มจากเขาคนนี้ ทำให้เธอนิ่งอึ้งอย่างคนหาเสียงตัวเองไม่เจอ ความเงียบงันก่อตัวอยู่เพียงชั่วครู่ เสียงเล็กๆ ของเธอจึงได้เปล่งออกมา “ฉันชื่อพระพายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณสิงห์”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD