บทที่ 4

2926 Words
ตรัยคุณเหลือบมองแพรรัมภานิดหนึ่ง และเห็นว่าใบหน้าขาวนวลที่เขาคลอเคลียอยู่เมื่อครู่นี้มีรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้นปรากฏเด่นชัด แม้จะรู้ว่ากวินตราทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากความในตอนนี้ เพราะรู้นิสัยกวินตราดีว่าหากถูกดุต่อหน้าแพรรัมภา เธอจะต้องหาทางเอาคืนคู่กรณีภายหลังอย่างเจ็บแสบมากกว่าเดิมแน่นอน “วินนี่มาหาพี่เหรอ” “ไม่มาหาพี่ตรัยแล้วจะมาหาใครละคะ บ้านนี้ก็มีแต่พี่ตรัยคนเดียวที่คู่ควรให้วินนี่คุยด้วย” กวินตราพูดเสียงอ่อนเสียงหวานพลางจิกสายตาไปยังแพรรัมภาด้วยความเกลียดชัง “งั้นก็ไปนั่งคุยกันที่ห้องโน้นดีกว่า ตรงนี้ร้อน” ตรัยคุณโอบเอวกวินตราแล้วดันหลังเป็นเชิงบังคับให้เธอเดินออกจากห้องไป โดยไม่สนใจแพรรัมภาที่มองตามด้วยความเสียใจที่ตรัยคุณไม่ช่วยเธอเลย มิหนำซ้ำยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เธอถูกตบจนหน้าชาก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุ “วินนี่ไปตบแพรทำไม” ตรัยคุณเปิดฉากถามเสียงเข้มทันทีที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง ใจจริงเขาอยากปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอยช้ำบนใบหน้าของแพรรัมภาทำให้เขานิ่งเฉยไม่ได้ “ก็พี่ตรัยจูบมันทำไมล่ะ อย่าคิดว่าวินนี่โง่จนมองไม่ออกนะคะว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น” กวินตราพูดหน้าง้ำ ไม่พอใจอย่างแรง เพราะตัวเธอเองยังไม่เคยจูบกับตรัยคุณแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่พยายามทอดสะพานให้จนหมดกระบวนท่า แต่แพรรัมภา ผู้หญิงที่เธอตีค่าว่าต่ำกว่ากลับได้ในสิ่งที่เธอต้องการ แถมยังมาทำให้เห็นตำตาอีก อย่างนี้จะไม่ให้เธอโกรธได้ยังไง “แพรไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ครั้งนี้วินนี่ทำเกินไป” ชายหนุ่มส่ายหน้าเอือมระอาที่กวินตรามักจะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา และมักจะตามไปอาละวาดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขาด้วย นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเธอเป็นหลานสาวของศรีนภาและไม่คิดว่าเป็นน้องสาว เขาคงไม่ปล่อยให้มาวุ่นวายกับชีวิตเขามากขนาดนี้ “ผิดค่ะ มันผิดที่ยั่วพี่ตรัย แล้วมันยังวางแผนให้พี่ตรัยแต่งงานกับมันอีก วินนี่ไม่ยอมนะคะ” หญิงสาวเข้าไปกอดแขน แล้วซบหน้ากับไหล่กว้างของชายหนุ่ม “คุณป้าศรีบอกว่าพี่ตรัยกำลังจะแต่งงานกับมัน พี่ตรัยจะไม่รักวินนี่แล้ว” “ถึงพี่จะแต่งงานกับแพร แต่พี่ก็ยังรักน้องสาวคนนี้ของพี่เท่าเดิมนั่นแหละ” ตรัยคุณบอกตามความจริง กวินตราแอบทำตาประหลับประเหลือก เขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่าเธอไม่ได้อยากเป็น ‘น้องสาว’ ของเขาเลยสักนิด เธออยากเป็น ‘เมีย’ ของเขาต่างหาก และหากพฤติกรรมที่ผ่านของเธอทำให้เขามองไม่ออก ต่อไปนี้เธอก็จะจัดหนัก จัดเต็ม งัดทุกกระบวนท่าออกมาใช้เพื่อจับเขามาเป็นสามีเธอให้ได้ “วินนี่ไม่ได้อยากเป็นน้องสาวพี่ตรัยซะหน่อย” หญิงสาวพูดพลางไล้ฝ่ามือไปตามรูปหน้าของตรัยคุณอย่างแผ่วเบา แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นหมายจะจูบเขา ทว่าเป้าหมายก็ไหวตัวทัน เบี่ยงหน้าหลบไปแบบเฉียดฉิว “อย่าทำแบบนี้ เราเป็นพี่น้องกันนะวินนี่” “ไม่ใช่ค่ะ” กวินตราปฏิเสธเสียงแข็ง “วินนี่เป็นหลานสาวของป้าศรี อาสะใภ้ของพี่ตรัย เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแม้แต่หยดเดียว” “แต่พี่ก็เห็นวินนี่มาตั้งแต่เด็ก พี่รักวินนี่เหมือนน้องสาวแท้ๆ พี่ถึงได้ยอมตามใจวินนี่ทุกอย่างอยู่นี่ไง” พูดแล้วตรัยคุณก็อดคิดถึงหญิงสาวอีกคนที่เขาเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็กเช่นเดียวกันกับกวินตราไม่ได้ แต่ความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาวคนนั้นกลับไม่เหมือนความรู้สึกที่เขามีต่อกวินตราเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เคยมองว่าแพรรัมภาเป็นน้องสาวเลยสักครั้ง แต่อยากให้เป็นอย่างอื่นมากกว่า! “วินนี่ไม่คุยเรื่องนี้กับพี่ตรัยแล้ว” กวินตราเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นตรัยคุณทำท่าเคร่งขรึมขึ้นมาจนน่าหวั่นใจ “เราไปหาร้านนั่งดื่ม ฟังเพลงชิลๆ กันดีกว่าค่ะ” “ก็ได้” ตรัยคุณคิดนิดหนึ่งก่อนตอบตกลง การพากวินตราออกไปจากที่นี่น่าจะเป็นผลดีต่อแพรรัมภามากที่สุด เสียงดนตรีในจังหวะสนุกสนานดังอึกทึกอยู่ภายในผับแอนด์เรสเตอร์รองหรูกลางกรุง ทว่าเสียงดนตรีนั้นกลับไม่สามารถทำให้อารมณ์ที่ร้อนรุ่มของทิวสนคลายลงได้เลย ตั้งแต่ถูกนวดีลากออกมาจากบ้านของแพรรัมภา เขาก็ชวนหญิงสาวมานั่งรับประทานอาหารและฟังเพลงที่ร้านนี้ แต่คนชวนกลับไม่ยอมแตะอาหารแม้แต่คำเดียว เอาแต่นั่งจิบเบียร์สีหน้าเคร่งเครียด แถมยังไม่ยอมพูดจาแม้แต่คำเดียวจนนวดีอารมณ์เสียอย่างแรง “หนูดีจะกลับแล้วนะ” หญิงสาวบอกเสียงสะบัดอย่างไม่พอใจ “อ้าว อิ่มแล้วเหรอ” ทิวสนถามประสาซื่อ ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้คนตรงหน้าเป็นแบบนี้ “ยังค่ะ แต่หนูดีกินไม่ลง” หญิงสาวยังคงตอบเสียงแข็งเหมือนเดิม นึกเคืองผู้ชายคนนี้ที่ความรู้สึกช้าเหลือเกิน “กินให้หมดก่อนสิ แล้วค่อยกลับ อาหารเหลืออีกตั้งเยอะ กินทิ้งกินขว้างเสียดายของ” ชายหนุ่มบ่นเสียงยานคาง เพราะเริ่มเมาแล้ว “พี่ทิวก็ช่วยกันกินให้หมดสิ เอาแต่ดื่มเบียร์อยู่นั่นแหละ เครียดอะไรคะ ทำหน้าอย่างกับแบกโลกไว้สักสามใบ” ทิวสนยกแก้วเบียร์ขึ้นซดรวดเดียวจนหมด แล้วกระแทกแก้วเปล่าลงบนโต๊ะอย่างแรง “ก็เรื่องแพรน่ะสิ ผู้ชายคนนั้นบอกว่าแพรเป็น...” ชายหนุ่มเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดคำว่า ‘เมีย’ ออกมาได้ “แพรเป็นอะไรคะ” นวดีกระตือรือร้นอยากรู้ขึ้นมาทันที เพราะตอนที่เธอเดินกลับเข้าไปสบทบกับกลุ่มของทิวสน ก็ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย มีแต่แพรรัมภาคนเดียวที่บอกให้เธอพาทิวสนกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เขาบอกว่าแพรเป็น...เป็นเมียเขา” ชายหนุ่มกัดฟันบอก แล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมดแก้วอีกครั้ง และเมื่อเขาจะยกแก้วใหม่ขึ้นดื่ม นวดีก็ตวัดมือไปแย่งแก้วเบียร์ออกจากมือเขา “พี่ทิวดื่มเยอะเกินไปแล้วนะคะ” หญิงสาวพูดพลางก้มลงดมกลิ่นเบียร์สดที่แย่งมาวางไว้ตรงหน้า แล้วทำหน้าเบ้ “เหม็นจะตาย ดื่มเข้าไปได้ยังไง” ทิวสนยิ้มนิดๆ ให้กับกิริยาของหญิงสาว แล้วแกล้งพูดเย้าว่า “ลองจิบสิ อร่อยนะ” “จริงเหรอคะ” หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นถามอย่างไม่อยากเชื่อ เพราะกลิ่นฉุนกึกขนาดนี้ จะอร่อยได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มพยักหน้าตอบ ด้วยท่าทีจริงจังน่าเชื่อถือ เธอจึงลองจิบไปนิดหนึ่ง “แหวะ! ขมปี๋เลย ขมไปถึงได้ติ่ง” ทิวสนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “หนูดีนี่เชื่อคนง่ายจัง จำไว้นะ ถ้ามีผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่บอกให้หนูดีลองดื่มของมึนเมาพวกนี้ หนูดีห้ามดื่มเด็ดขาด” “ทำไมคะ” “เพราะหนูดีจะไม่ปลอดภัย” ชายหนุ่มพูดพลางดึงแก้วเบียร์กลับคืนมา แล้วกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว “แล้วถ้าเป็นพี่ทิวหนูดีจะปลอดภัยเหรอคะ” นวดีแกล้งถาม เธอไม่ใช่สาวใสไร้เดียงสา ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เป็นเพราะอยู่กับทิวสน เธอถึงกล้าดื่ม ไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าจะปลอดภัย แต่เป็นเพราะเธอเต็มใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่างหาก “ชัวร์” ทิวสนตอบท่าทางจริงจังแล้วหันไปเห็นตรัยคุณนั่งนัวเนียอยู่กับกวินตรา “มองอะไรคะ” นวดีเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีผิดปกติของทิวสน และเมื่อหันไปมองตามสายตาของเขาก็ถึงบางอ้อ “พี่ตรัย...” “หนูดีรู้จักเขาด้วยเหรอ” ทิวสนแปลกใจที่นวดีรู้จักผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นสามีของแพรรัมภา “พี่ตรัยเป็นลูกชายของพ่อเลี้ยงแพรค่ะ” “ทำไมแพรไม่เคยพูดถึงผู้ชายคนนี้ให้พี่ฟังเลย” เมื่อเห็นทิวสนทำหน้างงหนักกว่าเดิม นวดีเลยเล่าความเป็นมาและความสัมพันธ์ของแพรรัมภากับตรัยคุณให้เขาฟังแล้วปิดท้ายว่า “แต่แพรเคยเล่าให้หนูดีฟังว่าพี่ตรัยไม่ค่อยชอบแพร แล้วจะมาเป็นสามีของแพรได้ยังไง” “พี่ได้ยินเค้าประกาศอยู่ปาวๆ แล้วแพรก็ไม่ปฏิเสธด้วย” “หนูดีว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ หนูดีจะไปถามแพรให้รู้เรื่อง” นวดีอาสาแล้วพูดเตือนสติทิวสนว่า “แต่ถึงแพรจะไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ตรัยก็ไม่ได้หมายความว่าแพรจะชอบพี่ทิวนะคะ ถ้าแพรจะชอบพี่ทิวก็คงจะชอบไปนานแล้ว” “ถ้าไม่คิดจะช่วย ก็อย่ามาพูดบั่นทอนกำลังใจกัน” ทิวสนหงุดหงิด หยิบเงินออกมาวางไว้บนโต๊ะเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มแล้วเดินออกจากร้าน “พี่ทิวรอหนูดีด้วยสิ” นวดีรีบวิ่งตามทิวสนไปติดๆ “พี่ตรัยมองอะไรคะ” กวินตราถาม เมื่อเห็นตรัยคุณมองตามชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังวิ่งตามกันออกจากร้านด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “เปล่า” ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะไม่อยากพูดถึงทิวสน “ถ้าไม่มีอะไร พี่ตรัยก็ดื่มไวน์ต่อนะคะ วินนี่สั่งขวดที่แพงที่สุดในร้านมาให้พี่ตรัยโดยเฉพาะเลย” กวินตราพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นจ่อที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม “พอแล้ววินนี่ คืนนี้พี่ดื่มเยอะเกินไปแล้ว เดี๋ยวขับรถกลับบ้านไม่ไหว” ชายหนุ่มพูดพลางดันแก้วไวน์ให้ออกห่างจากปาก “ถ้าพี่ตรัยขับไม่ไหว วินนี่ขับให้เอง” กวินตราไล้ฝ่ามือไปตามแผงอกของตรัยคุณหวังจะปลุกสัญชาตญาณดิบของผู้ชายในตัวเขาให้ลุกโชน แต่ชายหนุ่มกลับเอาแต่หลบเลี่ยงและห้ามปราม สร้างความขัดใจให้แก่หญิงสาวเป็นอย่างมาก “พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะ” พูดจบ ตรัยคุณก็ลุกพรวดพราดออกจากโต๊ะไปทันที โดยไม่สนใจกวินตราที่นั่งกระฟัดกระเฟียด เพราะไม่ได้ดั่งใจอยู่คนเดียว คืนนี้ตรัยคุณดื่มไวน์ไปเกือบหมดขวด จึงรู้สึกมึนๆ คล้ายจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ กวินตรารุกหนัก จนเขาเกรงว่าจะพลาดท่า หากเป็นเช่นนั้น นรกคงได้มาเยือนแน่นอน เพราะกวินตราและศรีนภาคงเกาะเขาไม่ปล่อย ในที่สุดตรัยคุณก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาตัวช่วย “ไอ้พีท อยู่ไหนวะ” และเมื่อปลายสายบอกสถานที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านนี้เท่าใดนัก ตรัยคุณจึงบอกเพื่อนไปตามตรงว่า “ช่วยมารับวินนี่ให้หน่อยสิ กูเมาว่ะ กลัวจะพลาดท่าเสียทีวินนี่” พีรวัตรระเบิดหัวเราะดังลั่นแล้วพูดถากถางว่า “คาสโนว่าอย่างมึงเนี่ยนะกลัวเสียทีผู้หญิง เสียฟอร์มสุดๆ เลยว่ะ” “มึงก็รู้ว่าวินนี่น่ากลัวขนาดไหน” “ร้ายๆ อย่างนี้แหละกูชอบ ไม่เกินสิบนาที จะไปจัดการให้” หลังจากวางสาย ตรัยคุณก็หนีกวินตราออกไปทางหลังร้านแล้วรีบขับรถกลับบ้านทันที แต่แปลกที่ตลอดทางระหว่างขับรถกลับบ้าน ภายในหัวของชายหนุ่มกลับมีแต่ภาพของแพรรัมภาวนเวียนอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งรอยช้ำบนใบหน้าของเธอที่เขาเห็นก่อนออกจากบ้านก็เร่งเร้าให้เขาอยากกลับให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด ทำไมต้องเป็นห่วงยัยเด็กนั่นด้วย! ตรัยคุณสบถในใจแล้วเผลอเหยียบคันเร่งมิดโดยไม่รู้ตัว ตรัยคุณกลับถึงบ้านในเวลาเกือบตีหนึ่ง ชายหนุ่มจอดรถสปอร์ตคันหรูไว้ที่หน้าตึกแบบไม่เรียบร้อยนัก แล้วรีบตรงดิ่งไปที่หน้าห้องนอนของแพรรัมภา เขายืนโงนเงน ด้วยอาการมึนเมาอยู่ที่หน้าห้องนอนของหญิงสาวครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นบิดลูกบิดประตูเบาๆ และพบว่าประตูล็อค เขาบิดซ้ำสองถึงสามครั้ง ราวกับต้องการพิสูจน์ว่าห้องนั้นล็อคจริงหรือไม่ แต่เมื่อไม่สามารถเปิดได้ เขาจึงตัดสินใจเดินลงไปที่ตู้เก็บกุญแจสำรอง ซึ่งมีกุญแจของทุกห้องภายในบ้านหลังนี้อย่างครบถ้วน ชายหนุ่มรื้อตู้เสียงดังกุกกักอยู่ในความมืดเนิ่นนาน แต่ก็ไม่เจอสิ่งที่ต้องการ “หาอะไรอยู่คะ” เสียงของแสงแขดังมาจากทางด้านหลัง ส่งผลให้ร่างสูงที่ยืนโงนเงนอยู่หน้าตู้ชะงักงันไปชั่วขณะ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับแม่บ้านคนสนิท “ดึกแล้ว ทำไมป้าแสงยังไม่นอนอีก” ชายหนุ่มถามแล้วทำท่าเหมือนจะยืนไม่อยู่ “ป้าได้ยินเสียงดังกุกกักเลยออกมาดู” แสงแขกล่าวพลางก้าวเข้าไปยืนประชิดตัวเจ้านายหนุ่ม แล้วทำจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นอะไรบางอย่าง “ดื่มมาเยอะใช่มั้ยคะเนี่ย” แม่บ้านผู้ควบตำแหน่งพี่เลี้ยงพูดพลางส่ายหน้าระอาใจ “นิดหน่อยเอง” ตรัยคุณตอบอู้อี้ แล้วเอนตัวพิงผนังห้องเพื่อทรงตัวไม่ให้ล้ม “ยืนแทบจะไม่อยู่แล้วยังจะบอกว่านิดหน่อยอีก เหลวไหล ไม่รู้จักโตจริงๆ เลยนะคะ” แสงแขบ่นแล้ววกกลับมาที่คำถามเดิมอีกครั้ง “เมาขนาดนี้แล้วทำไมไม่ไปนอนคะ มามุดตู้หาอะไร” “หากุญแจสำรอง ปกติป้าแสงเก็บไว้ในนี้ไม่ใช่เหรอ แล้วหายไปไหน” แสงแขส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายคนเมา เพราะพวงกุญแจก็วางทนโท่อยู่ตรงหน้าแต่เขากลับมองไม่เห็น “นี่ไงคะกุญแจ” แม่บ้านคนสนิทหยิบพวงกุญแจมาชูไว้ในระดับสายตาของตรัยคุณ “คุณตรัยจะเอากุญแจสำรองไปเปิดห้องไหนคะ” “ห้องแพร ผมอยากเข้าไปดูหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง” เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ตรัยคุณเผลอพูดความจริงแบบไม่กลัวเสียหน้า “จะมานึกห่วงอะไรตอนนี้คะ ทีตอนคุณแพรถูกคุณวินนี่ตบ ไม่เห็นคุณตรัยจะช่วยอะไรเธอเลย” แสงแขต่อว่าอย่างไม่พอใจที่เขาปล่อยให้แพรรัมภาถูกกวินตรารังแก “ผมก็ช่วยแยกวินนี่ออกให้แล้วไง” นี่แหละวิธีการช่วยในแบบของเขา “ป้าแสงไปนอนเถอะ ดึกมากแล้ว” ตรัยคุณคว้าพวงกุญแจจากมือแม่บ้านอาวุโสแล้วจะเดินออกไป แต่ถูกแสงแขดึงแขนเอาไว้เสียก่อน “ป้าว่าคงไม่เหมาะ ที่คุณตรัยจะเข้าไปในห้องนอนคุณแพรตอนนี้” แสงแขพูดพลางตำหนิด้วยสายตา “ทำไมจะเข้าไม่ได้ ในเมื่อผมกับแพรกำลังจะแต่งงานกัน อีกหน่อยก็ต้องนอนห้องเดียวกันอยู่ดี” “คุณตรัยอย่าไปกวนคุณแพรเลยค่ะ เธอยิ่งไม่สบายอยู่” “แพรเป็นอะไร” ตรัยคุณเผลอถามอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว “บ่นว่าปวดหัว เหมือนจะมีไข้ ป้าเลยจัดยาให้ทาน ป่านนี้คงหลับไปแล้ว ปล่อยให้เธอพักผ่อนเถอะนะคะ วันนี้เธอเจอเรื่องหนักๆ มาทั้งวัน ไหนจะโดนคุณตรัยอาละวาดใส่ ไหนจะโดนคุณวินนี่ตบ” แสงแขสงสารเจ้านายสาวอย่างจับใจ ที่เธอมักจะตกเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนรอบข้างอยู่เสมอ “คุณตรัยก็เมามาก ไปนอนเถอะค่ะ” “ผมขอเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกันว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า” ชายหนุ่มบอกด้วยสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณแพรของป้า แต่ถ้าทำ ผมก็จะรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน โอเคมั้ย?” “คุณตรัย!” พี่เลี้ยงอาวุโสฟาดต้นแขนของเขาอย่างแรง “พูดอะไรอย่างนี้คะ ถ้าเป็นเด็กๆ ป้าจะจับตีก้นให้เข็ดเลย” “ป้าแสงไม่ต้องกลัวว่าคุณหนูแพรของป้าจะเสียหายหรอก ยังไงผมกับเค้าก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว” พูดจบ ชายหนุ่มก็รีบเดินหนีแสงแขไปอย่างเร็ว เพราะไม่อยากเสียเวลาพูดอะไรให้มากความ “เป็นห่วง แต่พออยู่ต่อหน้าก็เอาแต่ตีหน้ายักษ์ใส่” แสงแขบ่นอย่างรู้ทันความรู้สึกของคนปากแข็งแต่ใจอ่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD