บทที่ 1 ใครมันจะไปรู้

1250 Words
      “รอบนี้มีเด็กมาฝึกงานสิบคนครับ”            “มหาลัยส่งมาแค่นี้เหรอ?”            “ครับ เห็นว่าช่วงนี้เด็กนิยมไปโครงการฝึกงานต่างประเทศมากขึ้น ปีนี้ก็เลยมีมาแค่สิบคน”            พิพัฒน์พยักหน้ารับ “ลูกคุณก็ไปนี่?”            “ครับ ปีก่อนลูกสาวผมไปอเมริกา เห็นว่ารุ่นพี่ไปแล้วได้เงินกลับมาเกินเงินที่พ่อแม่ส่ง นอกจากจะได้เงินมาคืนแล้วยังมีเงินเหลือได้เที่ยวก่อนกลับด้วย พอมีตัวอย่างที่ดีว่าไปแล้วคุ้มค่า ผู้ปกครองก็เลยส่งไปกันมากขึ้น”            “มีแค่สิบคนก็ดี ปีนี้เพิ่งผ่านช่วงปิดประเทศมา เราไม่มีอีเว้นท์ให้เด็กๆ ต้องไปช่วยอยู่แล้วนี่”            “ครับ ก็คงได้แค่ช่วยงานในบริษัท”            “แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ ถ้าคนไหนเข้าท่าเราก็ค่อยจองตัวเอาไว้ทำงานเลย”            นักศึกษาฝึกงานที่เข้ามาในบริษัทของเขามาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ที่ผ่านมานักศึกษาหลายคนก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานที่นี่หลังเรียนจบ บริษัทของพิพัฒน์แม้จะไม่ได้ใหญ่โตในระดับมหาชนแต่เงินเดือนและสวัสดิการกลับดีเยี่ยม ทำให้นักศึกษาที่เข้ามาฝึกงานต่างอยากได้รับการคัดเลือกจึงต้องตั้งใจฝึกงานอย่างดี ทว่าท่านประธานอย่างพิพัฒน์ไม่ค่อยได้เห็นพวกเด็กฝึกงานนัก ส่วนมากเป็นหน้าที่ของฝ่ายบุคคลที่จะมอบหมายงานและส่งนักศึกษาแยกย้ายไปตามแผนกต่างๆ ตามแต่สาขาที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่            “เที่ยงวันพรุ่งนี้มีเลี้ยงอาหารต้อนรับน้องๆ ฝึกงานนะครับ เชิญบอสที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัทด้วย”            “ได้ คุณบอกเลขาผมไว้เลยจะได้ไม่เผลอรับนัด”            จวนเวลาเลิกงาน พิพัฒน์ออกจากลิฟต์แล้วเดินตรงไปร้านกาแฟใต้ถุนตึก เพื่อให้บริษัทเขาดูน่าเชื่อถือ ชายหนุ่มจึงยอมควักเงินค่าเช่าตึกหรูหราใจกลางเมืองแห่งนี้ ชั้นล่างมีร้านอาหารทั้งแบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่นมากมายมาเปิดให้บริการ สะดวกในการซื้อหาของกินของใช้สำหรับพนักงาน ลานด้านนอกยังมีตลาดเล็กๆ สำหรับจำหน่ายอาหารให้หิ้วกลับบ้านในตอนเลิกงานได้ด้วย            “เมษา เย็นแล้วยังจะกินกาแฟอีกเหรอ? เดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอก”            หญิงสาวในชุดนักศึกษาหันมายิ้มให้เพื่อนชายอย่างสดใส            “ทำไมล่ะ? ก็ฉันหัวแล่นดีนี่ กินเวลานี้ล่ะถูกแล้ว เอาครัวซองต์ด้วยชิ้นหนึ่งคะ?” หญิงสาวชี้ไปยังขนมปังอบกรอบชิ้นใหญ่สอดไส้เนย            หนุ่มสาววัยรุ่นที่ดูเหมือนคู่รักนักศึกษาชี้ชวนกันดูขนมและหันไปสั่งเครื่องดื่มกันเป็นที่น่าอิจฉาของสาวออฟฟิศที่ยืนอยู่บริเวณนั้นเพราะชายหนุ่มทั้งรูปร่างดี ใบหน้าหล่อเหลาจนต้องหันมามองซ้ำ            พิพัฒน์นึกอยากจะดื่มโกโก้เย็นสักแก้ว เขาจึงเข้าแถวอยู่ห่างจากสองหนุ่มสาวไปห้าลำดับ ยามเลิกงานอย่างนี้นับเป็นช่วงขายดีไม่ต่างจากตอนเที่ยงวันหรือจะว่าไปอาจจะขายดียิ่งกว่าเพราะพนักงานเหล่านี้ไม่ต้องกลับขึ้นไปทำงานจึงยืนรอนานๆ ได้            “โอ๊ะ! เธอถือให้ฉันดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอ? เดี๋ยวครัวซองต์แตกหมดพอดี” หญิงสาวดุชายหนุ่มเมื่อถุงกระดาษใส่ขนมของเธอร่วงจากมือของเขา            พิพัฒน์หันไปมองเจ้าของเสียงหวานใสโดยไม่ได้ตั้งใจ พลันเขาก็ตกตะลึง ใบหน้าอย่างนี้ ทรงผมและรูปร่างอย่างนี้....ไม่ผิดแน่!            ผู้บริหารหนุ่มรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ที่เขาตกใจมากคือเธอยังสวมชุดนักศึกษา ไม่แน่ว่าเธอบรรลุนิติภาวะแล้วหรือยัง?            คืนนั้น.....            คืนนั้นเธอแต่งตัวเหมือนสาววัยสามสิบ แต่งหน้ากรีดตาซะจนไม่เหลือเค้าสวยใสอย่างที่เห็นในวันนี้ มันทำให้พิพัฒน์เผลอไผลไปมีวันไนท์สแตนด์          กับเธอ            ‘เด็กสมัยนี้มันร้าย!’ น้องเขยหมาดๆ ของเขาเคยบอกเอาไว้ เขาไม่คิดเลยว่าจะเจอกับตัวเองอย่างนี้            ‘ไงล่ะ? เมธีเตือนแล้วเตือนอีก เรามันไม่ระวังให้ดีเอง สุดท้ายถูกเด็กหลอกจนได้ ไม่รู้ว่ามาที่นี่คิดจะแอบมาเล็งหนุ่มวัยทำงานอีกหรือเปล่า? แต่พาแฟนมาด้วยนี่นะ...แย่ๆ’            พิพัฒน์พยายามหลบตาจนกระทั่งคนทั้งสองเดินจากไปไกลแล้ว เขาได้แต่ถอดหายใจอย่างโล่งอก เมื่อรับโกโก้เย็นแล้วก็เริ่มเกิดความหวาดระแวง มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าผู้หญิงกับผู้ชายคู่นั้นไม่หันกลับมา ก็ตรงไปเข้าลิฟต์ลงไปลานจอดรถชั้นใต้ดิน                        สัปดาห์ก่อนเพื่อฉลองความสำเร็จของยอดขายคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขากับทีมการตลาดจึงได้ไปดื่มฉลองในร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่มีการเล่นดนตรีสด ร้านนั้นใหญ่โตหรูหรามีลูกค้าจองส่วนหน้าเต็มทุกโต๊ะ เขาสังเกตเห็นว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นนักศึกษาค่อนข้างมีฐานะที่เข้ามาใช้บริการ            “บอสครับ ที่นี่มีนักศึกษาให้บริการด้วยนะครับ เห็นสวยๆ แต่งตัวดีๆ น่ะ ครึ่งหนึ่งมาหาลูกค้า อีกครึ่งเป็นลูกเศรษฐี”            เขามองตามสายตาของลูกน้องหนุ่มไป “สวยๆ กันทั้งนั้น แต่งตัวก็ดี ให้บริการด้วยเหรอ?”            “เลือกได้ครับ บอสอยากได้แบบไหน? มีแอพให้โหลดแล้วเลือกรูปร่างหน้าตาและราคาตามต้องการ สวยมากก็แพงมาก”            “อายุเกินสิบแปดอยู่ใช่ไหม?”            “คัดแล้วครับ เกินแน่ๆ”            พิพัฒน์แกล้งเออออไปอย่างนั้น นับตั้งแต่แฟนสาวของสาวที่คบกันหลายปีทิ้งเขาไปในช่วงที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว นอกจากเขาจะไม่เคยสนใจผู้หญิงหน้าไหนแล้ว เรื่องซื้อกินพรรค์นี้เขาก็ไม่คิดเพราะทุกครั้งที่อยากจะเริ่มเรื่องบนเตียงจิตใจของเขาว้าวุ่นเพราะนึกถึงเรื่องที่ถูกคนรักเก่าทรยศอยู่ร่ำไป จนไม่เป็นอันได้ทำเรื่องนั้นกับผู้หญิง ต้องอาศัยการระบายออกด้วยตัวเอง            ชายหนุ่มใช้ความหมกมุ่นทั้งหมดไปกับการทำงานและขยายกิจการบริษัทให้ใหญ่โตและสร้างความร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าทั้งหลายจนสร้างกำไรได้ปีละหลายสิบล้านในเวลาเจ็ดแปดปี            จากพนักงานบริษัทที่ผันตัวเองออกมาเป็นเจ้าของกิจการและกลายเป็นเจ้าของบริษัทค้าส่งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ ด้วยอายุขนาดเขาทุกคนที่รู้ต่างแปลกใจที่เขายังไม่แต่งงาน            ทีมการตลาดครึ่งหนึ่งเป็นหนุ่มโสดจึงได้อยู่ต่อปล่อยให้คนมีครอบครัวกลับบ้านไปก่อน            “บอส เดี๋ยวผมเรียกน้องเขามานั่งคุยเป็นเพื่อนนะครับ”            พิพัฒน์พยักหน้า เขายกแก้วขึ้นกระดก ขณะที่หญิงสาวหลายคนเดินมานั่งแทรกในโต๊ะของเขาประกบคู่กับพนักงานหนุ่มโสดทั้งหลาย            เสียงดนตรีไม่ได้ดังมากนักเพราะโต๊ะเขาอยู่รอบนอก พนักงานหนุ่มที่มีแฟนแล้วหลายคนเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงมาร่วมโต๊ะก็ต้องขอตัวกลับเพราะกลัวแฟนสาวจะหึงเอา สุดท้ายในโต๊ะจึงเหลือเพียงพิพัฒน์กับพนักงานหนุ่มอีกสามคนที่โสดสนิท...และพร้อมจะผิดผี *********************** *พิพัฒน์ ญาติผู้พี่ของดาริกานางเอกจากเรื่อง “กลรักดักเจ้านาย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD