“กลับยังไงอ่ะซอ ให้พี่ไปส่งไหม?”
พี่จีนหันมาถามตอนที่เราสองคนเดินกลับเข้ามาในเต้นท์รับรอง ตอนนี้หมดเวลางานแล้ว การแข่งขันจบลงแล้วเช่นกัน แน่นอนว่าผลการแข่งเป็นไปตามที่หลาย ๆ คนคาดไว้
สิงห์คำรามได้อันดับหนึ่ง…
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกพี่ไปต่อกันเถอะ เดี๋ยวซอกลับเองได้” พี่จีนกับพี่ธิมมีนัดไปดื่มกันต่อ ตอนแรกพวกเขาชวนฉัน แต่ฉันปฏิเสธเพราะไม่อยากกลับบ้านดึก เดี๋ยวเจ้ขิมจะสงสัยเอาได้
การที่ฉันรับงานอีเว้นต์ครั้งนี้ เจ้ขิมยังไม่รู้เรื่อง และฉันไม่คิดจะบอกเจ้ด้วย เจ้เข้าใจว่าฉันทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านเบเกอรี่ ซึ่งฉันก็ยังทำอยู่แหละ แต่วันนี้ขอลาหยุดเพื่อมารับงานพิเศษ
“งั้นพวกพี่กลับก่อน ซอก็กลับบ้านดี ๆ ล่ะ ไว้เจอกันที่มอนะ”
“ค่ะพี่” ฉันยิ้มส่งพี่ ๆ ทั้งสองออกไปจากเต้นท์ ในนี้จึงเหลือฉันเพียงคนเดียว ตอนแรกว่าจะเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษาตามเดิม แต่พี่จีนแนะนำว่าให้สวมเสื้อคลุมทับชุดนี้แล้วค่อยออกไปหาที่เปลี่ยนนอกสนามดีกว่า เธอไม่แนะนำให้สวมชุดนักศึกษาในที่แบบนี้ตอนดึก ๆ เพราะมันค่อนข้างอันตราย โชคดีที่ฉันเอาเสื้อคลุมมาด้วย เลยพอจะคลุมปิดชุดรัดรูปของตัวเองได้หน่อย
ฉันเดินออกมาจากเต้นท์และเตรียมตัวจะกลับบ้าน ทว่ากลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อพบกับร่างสูงของใครคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ สีหน้าดุดันเอาเรื่องทำฉันใจหล่นวาบ
จีซัสมาที่นี่ได้ยังไง?!
“คิดว่าจะหนีฉันได้อีกครั้งเหรอวะซอ!” เขาวิ่งเข้ามากระชากแขนฉันเมื่อเห็นว่าฉันทำท่าจะเดินหนี วันนี้ฉันเหนื่อยมากเลยนะ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอจีซัสแบบนี้ พลังงานชีวิตฉันมันจะหมดหลอดแล้ว
“ปล่อย เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะ!” ฉันพยายามสะบัดแขน แรงบีบเพิ่มขึ้นจนรู้สึกเจ็บถึงกระดูก เขาใช้กำลังกับฉันอีกแล้วนะ!
“ทำไมจะไม่มี! มีเยอะจนเธอนับไม่หมดเลยล่ะ!”
ฉันหันกลับไปจะขัดขืนเขา ปลายสายตาบังเอิญเห็นรถซูเปอร์บิ๊กไบค์คันหนึ่งกำลังแล่นมาไกล ๆ ฉันจำรถคันนั้นได้ในทันที ไม่ต้องใช้เวลาคิดให้เสียเวลา ฉันสะบัดแขนจีซัสออกแล้วถลาไปกลางถนนยกสองแขนขึ้นกางเพื่อขวางรถคันนั้นไว้
บรื้นนน! เอี๊ยดดดดดดดดด!!
เสียงเครื่องยนต์แปดสูบคำรามลั่นมาแต่ไกล ฉันจ้องมฤตยูสีดำปลาบอย่างไม่กลัวตาย เสียงเบรกดังสนั่นก้องเข้ามาในหูพร้อมกับรถซูเปอร์บิ๊กไบค์ที่หยุดนิ่งห่างจากฉันเพียงไม่กี่ก้าว กลิ่นควันรถลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะที่สายตาของฉันสบนิ่งกับดวงตาคมเข้มภายใต้หมวกกันน็อคใบใหญ่ แววตาเย็นชาไร้ความตื่นตกใจใด ๆ มันเฉยชาแต่ทว่าดุดันอย่างเห็นได้ชัด
แน่ล่ะ เขาต้องไม่สบอารมณ์อยู่แล้วที่จู่ ๆ ก็ถูกฉันกระโดดมาขวางหน้ารถอย่างไม่กลัวตายแบบนี้
ฉันที่ยังยืนกางสองแขนขวางถนนกับเขาที่คร่อมรถซูเปอร์บิ๊คไบค์คันใหญ่ ต่างจ้องตากันนิ่งงันท่ามกลางความเงียบรอบตัว
“ทำบ้าอะไรของเธอวะซอ! อยากตายนักเหรอวะ!” เป็นจีซัสที่สติกลับมาได้ก่อน เขาเข้ามาดึงแขนฉันให้หลบออกมาจากถนน “ทำไมทำอะไรไม่คิดแบบนี้วะ!”
“เขาไม่ชนฉันหรอก” ฉันเลื่อนสายตาจากสิงห์คำรามมามองจีซัส สีหน้าเขาทั้งกังวลทั้งตกใจและยังเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม
“เธอมั่นใจได้ยังไงวะว่ารถมันจะเบรกอยู่! นั่นมันซูเปอร์บิ๊กไบค์นะเว้ย! เครื่องยนต์แปดสูบนะซอ! มันชนเธอร่างเละได้เลยไม่รู้เหรอวะ!”
รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ แต่เพราะฉันรู้ไงว่าใครเป็นคนขับขี่มัน ฉันถึงมั่นใจว่าเขาจะ… เอาอยู่
ฉันเองก็มีมุมบ้าดีเดือดเหมือนกันแฮะ แต่ก็นะ… วินาทีนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว คิดออกอยู่อย่างเดียวก็คือการขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้อีกครั้ง และหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะยืนมือเข้ามาช่วย
“ไม่ต้องมาสนใจเรื่องนั้น ฉันจะเป็นจะตายยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับนายแล้ว อย่าลืมสิว่าเราเลิกกันแล้วนะจีซัส อย่ามายุ่งกับฉันอีกได้ไหม” ฉันสะบัดมือออก พยายามจะเดินหนี รู้สึกได้ว่าสิงห์คำรามยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน เหมือนเขากำลังมองดูสถานการณ์โดยไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาสอด
นั่นแหละนิสัยของเขา… ไม่ยุ่งวุ่นวายกับใคร ฉันหวังมากไปสินะ
“คิดว่าเธออยากเลิกแล้วฉันจะเลิกให้ง่าย ๆ เหรอวะ! ฉันไม่ยอมเลิกกับเธอหรอกนะสายซอ!” จีซัสกระชากแขนฉันอีกรอบ คราวนี้ฉันพยายามสะบัดตัวหนี เขาเริ่มทำฉันเจ็บมากขึ้นทุกทีแล้วนะ
“ปล่อย! ฉันเจ็บ!” ฉันตวาดเสียงใส่เขา เรายื้อหยุดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายความอดทนฉันก็พังลง “พอสักที! ฉันทนไม่ไหวแล้ว! ได้ยินไหม! ที่ผ่านมาฉันคิดว่าฉันจะรักนายได้ แต่มันไม่เลยจีซัส! ฉันไม่เคยรักนายเลย!”
จีซัสหยุดนิ่งไป สีหน้าเขาอึ้งอย่างเห็นได้ชัด ฉันอาศัยจังหวะนั้นปลดข้อมือออกแล้วหมุนตัวจะเดินหนี แต่ถูกเขากระชากกลับมายืนที่เดิมอีกครั้งพร้อมเสียงที่ตะคอกใส่ฉันดังลั่น
“พูดว่าอะไรนะ! เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรสายซอ!” จีซัสโกรธแล้ว
ฉันเม้มปาก พยายามระงับอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านออกมา ฉันเองก็โกรธแล้วเหมือนกัน นี่มันวันเฮงซวยอะไรของฉันนัก!
“ฉันไม่เคยรักนาย ไม่เคยรักเลยสักนิด ชัดพอหรือยัง?”
คราวนี้ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตามองตรงไปที่เขาเพื่อสื่อให้เห็นถึงความรู้สึกทั้งหมด ฉันไม่รู้หรอกว่าความรักมันคืออะไร เพราะฉันไม่เคยสัมผัสกับคำนั้นมาก่อน แต่ฉันมั่นใจว่ากับจีซัส มันไม่เคยมีคำ ๆ นั้นระหว่างเราเลยจริง ๆ ไม่เคยมีและจะไม่มีวันมีด้วย
“สายซอ… เธอนี่แม่ง!” วินาทีนั้นฉันเห็นความเดือดดาลในดวงตาจีซัส เขากำลังโกรธมาก โกรธถึงขั้นเงื้อมือขึ้นข้างหนึ่งเพื่อจะทำร้ายฉัน ณ เวลานั้นฉันตกใจจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าตบฉัน รู้ดีว่าไม่มีทางหลบฝ่ามือหนานั่นทันจึงทำได้เพียงหลับตาแน่นเพื่อรับความเจ็บปวดนั้น
ทว่า…
ปั่ก!
หมับ!
สัมผัสอบอุ่นบนฝ่ามือเรียกให้ฉันลืมตาขึ้นและพบว่าจีซัสหายไปจากสายตาแล้ว พอหันมองก็เห็นหมวกกันน๊อคสีดำใบใหญ่กลิ้งอยู่บนพื้นโดยที่จีซัสยืนห่างฉันไปหลายก้าว
“อ๊ะ…” ฉันถูกใครอีกคนจับจูงให้เดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความแรงระดับหนึ่ง หันมองเจ้าของฝ่ามืออบอุ่นจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าถูกจูงมืออยู่ ไล่สายตาขึ้นมองตั้งแต่ฝ่ามือที่ยังสวมถุงมือสีดำ แขนแกร่งภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตราคาแพงไปจนถึงแผ่นหลังกว้าง และใบหน้าครึ่งเสี้ยวของผู้ชายที่ฉันไม่คาดคิด
สิงห์คำรามเข้ามาช่วยฉันงั้นเหรอ?