บทนำ
ลวงรักเมียเช่ามาเฟีย
บทนำ
"เอี้ยด!!" ในขณะที่ทั้งสองพ่อลูกกำลังขับรถกลับบ้านอยู่ๆ ก็มีป้าคนหนึ่งขับปาดหน้ารถของทั้งสองคนจึงทำให้ธาราม ผู้เป็นพ่อนั้นเหยียบเบรคกระทันหันและโชคดีที่ธามไทลูกชายธารามใช้มือประคองตนเองเอาไว้ไม่อย่างนั้นหน้าของเขาฟาดลงด้านหน้าของรถอย่างแน่นอน
เมื่อธามไทจ้องมองไปยังด้านหน้าผ่านกระจกบานใสของรถ แน่นอนที่เขาไม่พอใจป้าผู้ขับมอเตอร์ไซค์ไม่ดูตาม้าตาเรือ
"ขับรถบ้าอะไรวะ!!"
มือหนาด้านขวาปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองออกและรีบพุ่งตัวออกมาด้านนอก โดยที่ธารามผู้เป็นพ่อนั้นจับลูกชายไว้ไม่ทัน
"ขี่รถภาษาอะไรเนี่ย!ไม่ดูคนแก่ขี่รถเลย จะรีบไปตายไหน" ป้าผู้โชคร้ายคนนี้ซึ่งปากเสียมากทั้งๆที่ตนเองนั้นขี่รถปาดหน้าคนอื่น แต่ยังต่อว่าให้กับธามไทแถมยังชี้หน้าด่า
"ใจเย็นลูก" ธารามรีบเดินมาหาลูกชายโดยใช้มือตบเข้าที่ไหล่ของลูกชายเบาๆเอ่ยให้กับลูกชายใจเย็นๆ
"ป๊าไม่ต้องพูดเดี๋ยวผมจัดการเอง! ถ้าป้าจะขี่รถแบบนี้นะแนะนำให้ขายทิ้งเถอะรถ ป้าก็เดินเอาถ้ายังขี่รถแบบนี้อยู่ไม่ต้องเรียกนะรถโรงพยาบาลน่ะ เรียกยมบาลมารอรับป้าเลยดีกว่า" สีหน้าของป้าเปลี่ยนไปมากซึ่งป้าแกเป็นคนที่อยู่แถวตลาดนี้และปากเก่งด่าว่าให้กับคนอื่น โดยที่ไม่มีใครต่อเถียงกับแกได้แต่เจอกับธามไทถึงกับเงียบหูแดงผึ่งด้วยความโกรธ แต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยเถียงเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตนเอง
"ป้าจะเถียงอะไรก็เถียงมาดิ ขี่รถแบบนี้ถามจริงป้าขายเท่าไหร่รถคันนี้!!" ธามไทชี้เข้ายังรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าของป้าและเอ่ยซื้อด้วยความโมโห
"บ้าเหรอจะขายทำไมรถ...เอาเป็นว่าจบๆไปก็แล้วกัน"
"ไม่! ถ้าป้าไม่ขายรถคันนี้ให้กับผม ผมจะแจ้งความว่าป้าขับรถปาดหน้าผม"
"ธามไทใจเย็นๆลูกชาย...หม่ามี๊รออยู่บ้าน และแกจะซื้อรถของป้าไปทำอะไร"
"ซื้อไปไว้ปลูกสะระแหน่อะ.ครับป๊าหมั่นไส้นัก ขี่รถแบบนี้"
"ทำตัวรวยมีเงินซื้อหรือเปล่า ถ้ามีเงินซื้อจริงเอาไปเลยอ๊ะ...ห้าพัน" ป้าปากร้ายคิดว่าธามไทเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นปากเก่งเท่านั้น เมื่อป้าพูดเอ่ยมาว่ารถตนเองราคา 5,000 บาท เขาเดินกลับเข้ามาในรถพร้อมกับคว้าเงิน 1 ปึก ประมาณ 20,000 บาท
"ถูกดีนะมีขายอีกป่ะล่ะ ที่ซื้อรถของป้าทั้งหมดไม่ได้อยากได้รถนะ แต่อยากให้ป้าเลิกขี่วุ่นวายกับประชาชนคนอื่นมันจะเดือดร้อน"
"ปากเก่งนักนะ!!!"
ดูท่าป้านั้นจะเคืองมากถึงแม้ว่าสายตาที่จับจ้องมองเงินในมือของธามไทจะเบิกกว้างและอยากได้แต่แน่นอนที่เขาจะกระทืบรถคันเก่าและขี่ออกไป
"เอ้า! มนุษย์ป้านี่จะรีบไปไหนล่ะ เอารถมาสิ..มาอาวตังงงง"
ธารามถึงกับถอนหายใจ เมื่อเห็นปากลูกชายนั้นด่าเก่งแถมยังไม่ยอมคนอีกต่างหาก เขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา
"แกไปเอาความปากร้ายมาจากไหนเนี่ยธามไท"
"ก็มาจากป๊านั่นแหละ" ธารามสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อลูกชายย้อนว่าตัวเขาก็เหมือนผู้เป็นพ่อ
"เบาๆบ้างนะ...ขึ้นรถได้แล้วป่านนี้หม่ามี๊กับหนูเมอร์ลินทำกับข้าวรอแล้ว" ธารามเดินมาขึ้นรถฝั่งคนขับส่วนธามไทนั้นตามกลับขึ้นมาเขาเกาหัวยิกๆเมื่อผู้เป็นพ่อพูดถึงเมอร์ลิน
"ป๊า"
"โอ้ย! ตกใจหมดแกเรียกป๊าค่อยๆก็ได้อยู่กันแค่นี้"
ธารามถึงกับสะดุ้งเมื่อลูกชายนั้นเอ่ยเรียกแถมยังจับแขนเขย่าอีกต่างหาก เขาเริ่มเหนื่อยกับลูกชายคนเล็กที่ปากร้ายมาก เพิ่งจะไปรับจากสนามบินมาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง ธารามเริ่มปวดหัวกับลูกชายตนเองมาก
"เมอร์ลินคือใครเหรอครับ"
"หนูเมอร์ลินเป็นลูกสาวของเพื่อนหม่ามี๊แกนั่นแหละ แต่ครอบครัวทางโน้นไม่ชอบเธอเพราะเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ที่บอกว่าหนูเมอร์ลินคือตัววิบัติ เลยเอาหนูเมอร์ลินมาฝากไว้กับหม่ามี๊ของแก"
"รู้ว่าเขาเป็นตัววิบัติก็ยังเอาเข้ามาอยู่ในบ้าน หม่ามี้คิดอะไรเนี่ยทำไมไม่ไล่ออกไป"
"ธามไทแกยังเชื่ออีกเหรอ มันไม่มีแล้วสมัยนี้ที่ไปเชื่อหมอดูและไล่ลูกสาวออกจากบ้านตัวเองปัญญาอ่อนสิ้นดี!!"
"แต่มันก็ไม่แน่หรอกนะครับ...ถ้าอยู่ๆผู้หญิงคนนั้นเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของเรามันก็คือตัววิบัติจริงๆ"
"ทำเป็นปากดี...ถ้าเห็นหนูเมอร์ลินแล้วจะพูดไม่ออก"
"ป๊าไม่ต้องมาพูดเลย ว่าผมจะเห็นหนูเมอร์ลินอะไรนั่นแล้วผมจะพูดไม่ออก ผมเจอผู้หญิงสวยๆขาวๆมาเยอะแยะวิ่งเข้ามาหาผมอย่างกับแมลงวันตอมขี้"
ผู้เป็นพ่อถึงกับทึ่งในคำพูดของลูกชายตนเองทั้งๆที่ไปอยู่ออสเตรเลียมาตั้ง 5 ปี แต่คำพูดและคำด่านั้นยังไม่หายแถมยังมากกว่าเดิมอีก
"นี่!ฉันส่งแกไปเรียน 5 ปี แกไม่เคยเปลี่ยนนิสัยเลยเหรอ"
"ถ้าผมเปลี่ยนนิสัยได้ ผมจะถูกเฮียไล่กลับมาอยู่ประเทศไทยไหมเนี่ย ป๊าเตรียมรับมือกับลูกชายคนเล็กของป๊าไว้ให้ดีหึๆ"
"ฉันหัวจะปวดกับแกมาก"
"ฮันแน่...แสดงว่ายังไม่ปวดดี" ธามไททำท่าทีหยอกล้อพ่อของตนเองที่กำลังส่ายหน้าไปมาไม่คิดว่าลูกชายของเขานั้นจะร้ายถึงทำเอาตนเองปวดขมับ
รถยนต์คันหรูของธารามขับเข้ามาในบ้านพร้อมกับลูกชายคนเล็กที่เขาเพิ่งจะไปรับกลับมาจากสนามบิน
ร่างบางของผู้เป็นแม่นั้นยืนจับจ้องมองตั้งแต่หน้าประตู เมื่อเห็นรถของสามีขับเข้าไปยังในบ้านเขาจึงรีบใส่รองเท้าและวิ่งออกมาทันที
"ธามไท...ลูกชายมี๊" เพลงมีนาผู้เป็นแม่นั้นวิ่งอ้าแขนโอบกอดลูกชายคนเล็กของเขาด้วยความคิดถึง
"คิดถึงหม่ามี๊ที่สุดเลย" จริงๆธามไทไม่อยากไปเรียนต่างประเทศ แต่ที่ไปก็เพราะว่าผู้เป็นพ่ออย่างธารามส่งไปกลัวว่าอยู่ที่นี่จะกลายเป็นเด็กแว้นเพราะเขากำลังติดเพื่อนในช่วงวัยรุ่น ซึ่งธารามขอให้ลูกชายคนโตนั้นชวนน้องไปอยู่ด้วยและเวลาผ่านไป 5 ปี หลังจากจบสัญญาที่พ่อกับลูกนั้นเคยให้กัน ธามไทขอกลับมาอยู่และเรียนต่อที่บ้านธารามคิดว่าลูกชายของตนเองนั้นจะเปลี่ยนนิสัยแต่เปล่าเลย ลูกชายของเขานั้นกลับปากร้ายหนักกว่าเดิม
"ผมก็คิดถึงหม่ามี๊ที่สุดเลยครับ ฟ่อดๆๆๆ นี่แน่ๆ" ธามไทหอมทั้งแก้มซ้ายและแก้มขวาของผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง
"ฮ่าๆ ยังเหมือนเดิมเลยนะลูกชาย แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือความหล่อ ทำไมลูกชายของหม่ามี๊หล่อขนาดนี้หื้มหล่อกว่าป๊าอีก" ธารามสะดุ้งเมื่อภรรยาตนเองเอ่ยชมลูกชายหล่อกว่าตนเอง
"ไม่ได้นะ...พ่อต้องหล่อกว่าลูกสิเขาถึงเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นไง"
"แน่สิคะก็ดูปากของคุณสิ ใช่ย่อยที่ไหนไม่แปลกหรอกที่ธามไทจะปากเสียเหมือนคุณ"
"อะอ้าว!!"
ในขณะที่ทั้งสองสามีภรรยากำลังเอ่ยคุยกันอยู่นั้นหญิงสาวหน้าตาสวยสวมใส่ชุดเดรสเสื้อลายการ์ตูนกางเกงขาสั้นเดินออกมาพร้อมกับแก้วน้ำ
ธามไทมองจ้องหญิงสาวผู้นั้นตาเขม่นตะลึงในความน่ารักและความสวยจนตาค้าง
"ธามลูก"
"คุณน้าคะ...เมอร์ลินเอาน้ำมาให้พี่ธามไทค่ะ" เมอร์ลินเห็นว่าธามไทนั้นยืนมองตนเองนิ่ง เธอจึงหันหน้าไปหาเพลงมีนาและเอ่ยเรียกคุณน้าด้วยรอยยิ้มหวาน
"น่ารักจัง"
สายตาของธามไทจับจ้องมองเมอร์ลินด้วยแววตาที่หยาดเยิ้มก่อนที่จะชมว่าสวยทำเอาธารามส่ายหน้าไปมา
"เห้อ~เชื้อพ่อมันแรงจริงๆ"
"คุณธามคะ น้ำค่ะ"
ธามไทสะดุ้งฉีกยิ้มให้กับเมอร์ลินและหยิบน้ำนั้นมา
"วางยาป่ะ!"
เพลงมีนากับธารามหันมองหน้ากัน เมื่อลูกชายของตนเองเอ่ยทักเมอร์ลินคำแรกก็เล่นหาเรื่องเขาก่อนเลย
"ธามไปแซวน้องแบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวน้องก็เสียใจแย่หรอก"
"ใครจะไปรู้ล่ะครับ อาจจะวางยาผมเพื่อให้ผมตายและจะเอาสมบัติก็ได้" เมอร์ลินในขณะที่เธอกำลังยิ้มอยู่นั้นเธอหุบยิ้มลงทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ยินคำพูดของธามไท
"พี่เขาพูดเล่นน่ะหนูเมอร์ลิน ไม่มีอะไรหรอก"
"ไม่ได้พูดเล่นพูดจริงๆ แต่ก็ดีอยู่มีอะไรดีๆดูในบ้านสบายหูสบายตาดี"
เมื่อเข้ามาในบ้านธามไทและคนในครอบครัวกินอาหารจนอิ่ม หลังจากนั้นเขากลับขึ้นมาบนห้องอาบน้ำและนอนยิ้มอยู่กับหมอนคิดถึงใบหน้าของเมอร์ลินที่ลอยเข้ามาจึงอดที่จะลุกขึ้นพรวดไม่ได้
"ไม่นะจะมาชอบเด็กในบ้านไม่ได้ ไปข้างนอกดีกว่า" ช่วงนี้เป็นเวลาหัวค่ำ ธามไทจึงลุกขึ้นจากเตียงใส่เสื้อผ้าชุดหล่อของเขานั้นออกมาด้านนอกและบังเอิญเจอเมอร์ลินที่สวมใส่ชุดนอนเดินออกมาพอดี
ชุดนอนของเมอร์ลินนั้นเป็นชุดสายเดี่ยวแต่มีชุดคลุมปกปิดเรือนร่างเผยให้เห็นความเซ็กซี่และความน่ารักของเมอร์ลินจนธามไทนั้นจับจ้องมองยังหน้าอกของเธอ
"คุณธาม"
"อย่ามาแต่งตัวยั่วยวนหรือว่าอ่อยคนในบ้าน เธอไม่ใช่ญาติพี่น้องหรือว่าลูกหลาน ถ้าป๊าฉันออกมาเห็นมันจะดูไม่ดีกรุณาใส่ให้มิดชิดด้วย ถ้าจะอยู่บ้านหลังนี้ อย่าทำตัวเหมือนกับผู้หญิงไร้ค่าหรือว่าเธอคิดจะมาจับคนในบ้าน!!"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ เมอร์ลินไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย"
"ถ้าไม่ใช่ เธอจะเดินออกมาทำไมในช่วงเวลานี้เขานอนกันแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ขอโทษค่ะ เมอร์ลินแค่จะออกมาเอาน้ำเท่านั้น ถ้าทำให้คุณไม่สบายใจขอโทษอีกครั้งนะคะ" เมอร์ลินเธอหันหลังเตรียมที่จะเดินกลับเข้าไปห้องของตนเอง แต่มือหนานั้นคว้ายังข้อมือของเธอเอาไว้ ค่อนข้างรุนแรงและทำให้เธอเสียหลักจนร่างกายของเธอพุ่งตัวเข้ามายังอ้อมกอดของเขา แน่นอนที่มือหนาจะคว้าเอวบางและรวบรัดกอดเอาไว้แน่น จนใบหน้าของเขาอยู่ในระยะใกล้ชิดกับใบหน้าของเธอ สัมผัสลมหายใจแผ่วเบาของทั้งคู่รดราดอยู่ยังบนใบหน้าของทั้งสอง พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของเมอร์ลิน
#อุ้ย!! อุ้ย!! เอาแล้วใช่หรือเปล่าเมอร์ลินใช่นางเอกหรือเปล่า
น๊าาา แต่เอ๊ะ!! ถ้าใช่มันจะง่ายเกินไปไหมอย่างนี้ต้องติดตามตอนต่อไปนะคะ
วอนแม่ๆ ธามไทกดใจให้ธามไทหน่อยน๊าครับ ลูกชายแม่ๆนี่ปากสุดจริงๆ ด่าหมดไม่สนแม่แต่นางเอกตัวน้อย ?