อายที่กำลังสนอกสนใจโทรศัพท์มือถือในมือกับใบหน้าที่อมยิ้มตลอดเวลาโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ทำให้นามิที่มองอยู่เกิดความสงสัยว่าเพื่อนเธอเป็นอะไรเพราะหลายวันมานี่อายดูติดโทรศัพท์มากจนดูปิดปกติ
“อาย อาย” เสียงเรียกของนามิไม่ได้รับการตอบกลับหรือสนใจจากอาย ทำให้นามิต้องแอบชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อแอบดูว่าเพื่อนทำอะไรอยู่ พอได้เห็นแล้วก็ต้องตะลึงเพราะอายคุยกับผู้ชายแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะรูปในโปร์ไฟล์เธอมองเห็นไม่ชัด
“อ๊ะ นามิ!!!” อายรีบเก็บโทรศัพท์หนีทันทีที่เมื่อเห็นว่านามิกำลังแอบดูเธออยู่
“คุยกับใคร??”
“เปล๊า”
“อย่ามาเนียน บอกมา!! นามิเห็นหมดแล้ว”
“ก็...”
“อายไม่ไว้ใจนามิแล้วเหรอ น่าน้อยใจชะมัด” นามิแกล้งทำหน้าน้อยอกน้อยใจที่เพื่อนรักมีความลับกับตัวเอง ทั้งที่เพื่อนกำลังมีคนคุยแต่ไม่ยอมเล่าให้เธอฟังจนเธอต้องมารู้มาเห็นเองมันน่าน้อยใจชะมัด
“นามิ... อายไม่ได้จะปิดบังเพียงแค่เพิ่งคุยกันเอง” อายรีบเข้าไปกอดแขนนามิด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ เธอไม่คิดจะปิดบังเพื่อนจริง ๆ นะ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงและอีกอย่างเธอก็เพิ่งเริ่มคุยกับเขาแถมสถานะก็ไม่มี
“ว่าแต่เขาเป็นใคร”
“เอ่อ.... คือ....” อายออกอาการอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แถมใบหน้าค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นทีละนิดจนทำให้นามิต้องหรี่ตามองอายด้วยสายตาจับผิด ปกติอายไม่ใช่คนไม่มั่นใจในตัวเองแบบนี้ เหมือนกับว่าคนที่อายคุยด้วยต้องพิเศษและคนนั้นเธออาจจะรู้จักแถมเมื่อวันก่อนมอสมาหาอายที่มหาลัยแล้วหลังจากวันนั้นอายก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์มือถือไปเลย แสดงว่า!?
“คนที่อายคุยด้วยนี่นามิรู้จักใช่ไหม??” อายไม่ได้ตอบเธอเพียงแค่พยักหน้าเมื่อได้ฟังคำถามของนามิ และเธอก็คิดว่าตอนนี้นามิน่าจะเดาได้แล้วว่าเธอคุยอยู่กับใคร
“เป็นคนที่มาหาอายที่นี่เมื่อวันก่อนใช่ไหม” เป็นอีกครั้งที่อายยังคงพยักหน้าตอบนามิเหมือนเดิม พอนามิเห็นแบบนั้นก็เดาได้ทันทีเลยว่าคนที่อายคุยด้วยคือใคร
“พี่มอสใช่ไหม”
“อื้ม”
“ว่าแล้ว!! ในที่สุดเพื่อนของนามิก็จะมีแฟนแล้ว” นามิยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ในที่สุดเพื่อนเธอก็จะมีแฟนแล้วแถมคนนั้นยังเป็นคนดีและเธอยังรู้จักอีกด้วย อย่างนี้เธอก็สบายใจว่าอายจะไม่โดนหลอกเพราะมอสโสดไม่มีแฟนหรือพันธะใด ๆ
“ยังไม่ใช่แฟน ก็แค่คุยกันเฉย ๆ”
“คุยกันเฉย ๆ อะไรนามิเห็นอายนั่งอมยิ้มมาหลายวันแล้วนะ พี่มอสปากหวานหยอดเก่งเหรอ” นามิอดจะถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้ว่าคนอย่างมอสเวลาคุยกับสาวจะคุยประมาณไหนนะถึงได้ทำให้เพื่อนเธออมยิ้มตลอดเวลาที่คุยด้วย
“ไม่เลย ออกจะทื่อ ๆ ด้วยซ้ำไป”
“เหรอ!? แล้วทำไมอายถึงต้องยิ้มเวลาคุยกับพี่มอสละ”
“ก็....” อายออกอาการเขินกับใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นมากกว่าเดิมซึ่งบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินแค่ไหน ก็เธอตอบไม่ถูกพูดไม่ได้เพราะตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยิ้มมีความสุขเวลาได้คุยกับมอส
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ นามิไม่ถามแล้วก็ได้” นามิหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความชอบใจเมื่อเห็นอาการเขินอาย
“นามิ!!”
“อะ ๆ นามิไม่แกล้งแล้วก็ได้ ว่าแต่ตอนนี้เราจะไปไหนกันดี” นามิยอมหยุดซักถามหยุดแซวเรื่องของอายก่อนจะเปลี่ยนโหมดเข้าโหมดจริงจังเพราะตอนนี้พวกเธอสองคนยังนั่งอยู่ในห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่แล้วเพราะอาจารย์ยกคลาสพวกเธอเลยว่างในภาคบ่าย แต่ที่ยังไม่ได้ออกจากห้องเพราะมัวแต่คุยอยู่นี่แหละ
“ไปเดินเล่นที่ห้างไหม”
“ก็ดีนะกำลังเบื่อ ๆ อยู่เลย”
“งั้นเราไปห้างกัน แล้วนี่นามิต้องขออนุญาตพี่โปรดก่อนไหม”
“ไม่ แค่ส่งข้อความไปบอกก็พอ”
“อื้ม”
หลังแยกกับนามิที่ห้างอายก็ตรงกลับคอนโดของตัวเองทันทีโดยไม่ได้แวะที่ไหนอีกเพราะรู้สึกเหนื่อยใจกับปัญหาของเพื่อนสนิทอย่างนามิที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ยังดีที่เพื่อนเธอมีคนรักอย่างโปรดคอยดูแลและอยู่เคียงข้างเสมอ
อายกำลังเดินเข้าคอนโดแต่สายตากลับสะดุดเข้ากับใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ ร่างสูงในชุดแจ็กเกตสีดำโดดเด่นกับท่าทางสบาย ๆ แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ดึงดูดสายตาทุกคู่ในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อย สาวใหญ่ โสดหรือไม่โสด ต่างพากันเหลียวมองเขาเป็นทางเดียว ไหนจะเสียงพูดคุยซุบซิบและเสียงกรี๊ดกร๊าดเบา ๆ ที่ดังขึ้นเป็นระยะ
"พี่มอส!?" อายพึมพำออกมาอย่างแปลกใจเมื่อจำได้ว่าเจ้าของรถบิ๊กไบค์คันโตคนนั้นคือใคร และเหมือนกับเจ้าของชื่อสัมผัสได้ เขาหันมาทางเธอก่อนจะเดินตรงมาหาเธอด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้าง
"ช้า"
อายขมวดคิ้วเอียงคอมองเขาอย่างงุนงง ช้า?? เขาหมายถึงอะไร?? เธอไปทำอะไรช้า?? และที่สำคัญคือ… เราไม่ได้มีนัดกันเสียหน่อย
"พี่มอสรออายเหรอคะ?"
"รอคนอื่นมั้ง เดินเข้ามาหาขนาดนี้" มอสกดยิ้มมุมปากมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ อายเม้มปากแน่นกับตอบกวน ๆ ที่ออกจากปากมอส เธอหรี่ตามองเขาด้วยสายตาจับผิด
“พี่มอสมีอะไรกับอายหรือเปล่าคะ”
“หิว”
“ห๊ะ!! หิว ถ้าพี่หิวก็ไปหาอะไรกินสิคะจะมาบอกอายทำไม อายทำอาหารไม่เป็นหรอกนะคะ” แทนที่จะตอบ มอสกลับหัวเราะออกมาเสียงดังกับรอยยิ้มขี้เล่นที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ พี่ก็คิดว่างั้น เลยมาชวนเราไปหาอะไรกินที่ร้านเฮียกัน”
“ร้านเฮีย?? อ๋อ ร้านนั้นนะเหรอคะ”
“ใช่ ไปไหม??”
“ไปค่ะ” อายพยักหน้าตอบทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินตรงไปยังบิ๊กไบค์คันใหญ่ที่จอดอยู่ มอสยื่นหมวกกันน็อกส่งให้อาย
“ให้ใส่เอง หรือจะให้พี่ใส่ให้?” มอสถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้อายรีบคว้าหมวกกันน็อกมาใส่เองทันที
“อายใส่เองได้ค่ะ” อายสวมหมวกได้แต่กลับติดปัญหาเพราะเธอไม่สามารถใส่ตัวล็อกได้ จึงเงยหน้าไปมองมอสอย่างขอความช่วยเหลือ
“ให้พี่ใส่ให้แต่แรกก็จบ” ถึงปากจะบ่นแต่มือกลับช่วยเธอใส่ล็อกสายหมวกให้พร้อมกับจัดหมวกกันน็อกให้เข้าที่ด้วยความเบามือ ตอนที่เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ อายรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดอยู่ใกล้ ๆ แก้มทำให้เธอเผลอกลั้นหายใจไปโดยไม่รู้ตัวจนหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
“อ่ะ พี่มอส” หลังจัดการสวมหมวดเสร็จมอสก็ยกตัวเธอขึ้นไปนั่งบนเบาะรถโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าทำให้อายเผลอคว้าไหล่เขาไว้แน่นด้วยความตกใจ
“จับแน่น ๆ นะ” เสียงทุ้มกระซิบใกล้ ๆ ทำให้อายยกมือขึ้นกอดเอวเขาไว้แน่นขึ้นทันที มอสกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไปด้วยความเร็ว รถแบบนี้เหมาะกับการจราจรที่แสนติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงานที่สุด
มอสขับรถมาจอดที่หน้าร้านก่อนจะลงจากรถด้วยท่าทางความคล่องแคล่ว แล้วไม่ลืมที่จะอุ้มคนซ้อนลงมาด้วย อายที่ยังตั้งตัวไม่ทันได้แต่เกาะไหล่เขาแน่น ดวงตากลมโตมองเขาอย่างตกใจนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“อ้าว ๆ ๆ พามาอีกแล้ว ไหนว่าไม่ใช่แฟนไง” เสียงแซวของเฮียเจ้าของร้านดังขึ้นทันทีที่ทั้งคู่ก้าวเข้าไปใกล้ มอสเหลือบมองเฮียด้วยแววตากวน ๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน
“มีข้อห้ามหรือไง ถึงพามาไม่ได้ครับ เฮีย”
“ไม่มีใครห้ามหรอก แต่ดูแล้วมันไม่ใช่ไง” แต่มีหรือคนมากประสบการณ์จะยอมง่าย ๆ ปากบอกไม่ใช่ ๆ แต่การกระทำมันบ่งบอก
“ถ้าเป็นแฟนเมื่อไหร่จะบอกเฮียเป็นคนแรกเลย” คำพูดของมอสทำเอาอายหันขวับไปมองเขาตาโต ส่วนเฮียถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ แสดงว่ากำลังจีบกันอยู่ ใช่ไหม??”
“...” มอสไม่ตอบอะไร แต่กลับยักคิ้วให้เฮียแทนคำตอบ ก่อนจะจับมืออายพาเดินเข้าไปยังโต๊ะที่ว่าง ทิ้งให้เธออึ้งกับคำพูดของเขาและหัวใจที่เต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ มันต้องอย่างนี้สิวะ” เฮียที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะชอบใจเสียงดัง ก่อนจะหันกลับไปสนใจทำอาหารต่อ แต่ไม่วายได้ยินเสียงมอสตะโกนสั่งอาหารเสียงดัง
“เฮียเหมือนเดิม”
“ได้ ๆ”