ก๊อก ก๊อก ก๊อก มอสยกมือเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปก็เจอกับเจสที่กำลังก้มหน้าอ่านเอกสารในมืออยู่ เจสวางเอกสารในมือลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองมอสด้วยสายตาราบเรียบ
“ลูกพี่” เสียงเรียกของมอสนั้นไร้แววขี้เล่น ไม่มีการพูดคุยหยอกล้อเหมือนทุกครั้งที่มอสเจอเจส ซึ่งเจสก็เข้าใจดีว่าทำไม เพราะเหตุใด น่าจะเป็นเพราะมอสยังรู้สึกผิดที่ทำให้โปรดโดนยิงจนบาดเจ็บ
“มาแล้วเหรอ”
“ครับ”
“รู้ใช่ไหมว่ากูเรียกมึงมาทำไม”
“รู้ครับ”
“เฮ้อ...” เจสพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องมอสนิ่ง ๆ น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น
“มึงรู้ใช่ไหมว่ากูไม่ชอบเห็นเมียกูร้องไห้แทบขาดใจแบบนั้น เพราะฉะนั้น... มึงรีบไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย กูให้เวลาไม่เกินสองวัน เข้าใจไหม??” ทุกครั้งที่เห็นภรรยาสุดที่รักเสียใจ มันทำให้เขาเจ็บปวดไปด้วย ปอนด์ไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่าย ๆ แต่เมื่อไหร่ที่เธอร้องไห้ออกมา นั่นหมายความว่ามันเจ็บเกินกว่าที่เธอจะทนไหว และเขา... ไม่เคยชินกับการเห็นน้ำตาของเธอเลยสักครั้ง
“ครับ”
เจสยังคงมองมอสอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ
“ไอ้มอส ก็เห็นมึงเป็นเหมือนน้องชายกู กูไว้ใจมึงได้ใช่ไหม” เขากับมอสทำงานด้วยกันมานาน มอสเป็นลูกน้องฝีมือดี เป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด และเขารักมันเหมือนน้อง แต่ถึงจะเก่งแค่ไหน... ก็ยังพลาดกันได้ทั้งนั้น
“ครับ”
“ถ้างั้นก็ไปจัดการให้เรียบร้อย” เจสกำลังจะก้มลงหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อ แต่แล้วก็เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ เขาเลิกคิ้วถามมอสเสียงเรียบ
“ว่าแต่ ผู้หญิงคนนั้นใครวะ แฟนมึงเหรอ”
“ครับ”
“ไอ้ห่า ไหนบอกว่าไม่สนใจผู้หญิงไง แม่ง...”
“ก็ตอนนั้นยังไม่เจอคนที่ใช่” มอสตอบหน้าตาย เขาไม่ใช่ประเภทคลำไม่มีหางก็ลากขึ้นเตียงเหมือนคนตรงหน้าสักหน่อย เขามันประเภทจริงจังกับเรื่องความรัก
“หึ ไวไฟเหมือนกันนะมึง” เจสยกยิ้มมุมปาก ขยับตัวพิงพนักเก้าอี้มากขึ้น ขณะมองหน้ามอสอย่างพินิจพิจารณา
“หึหึ ถึงจะช้ากว่าลูกพี่ แต่ก็รู้ใจตัวเองเร็วกว่าลูกพี่ก็แล้วกัน” มอสหัวเราะในลำคอ ก่อนตอบน้ำเสียงขี้เล่นที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“ไอ้สัส!! ไม่ต้องตอกย้ำ มันเป็นอดีต” เจสสบถออกมาแทบจะทันที ใบหน้าบิดเบี้ยวไม่พอใจที่ถูกจี้ใจดำ ที่ถูกพาดพิงถึงอดีตที่เคยพลาดขอตัวเอง ก็ตอนนั้นเขายังไม่รู้ใจตัวเองเลยคิดไม่ทันถึงได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
“หึหึ”
“เออ!! มึงรีบ ๆ ไปไกล ๆ ตีนกูเลย” เจสโบกมือไล่มอสด้วยความหมั่นไส้กับท่าทางและสีหน้ากวนบาทาของอีกฝ่าย เมื่อกี้ยังทำหน้าสลดอยู่เลย แม่ง... เปลี่ยนอารมณ์ไวฉิบหาย
“ครับ” มอสพยักหน้ารับก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้อง โดยมีเสียงพึมพำบ่นด่าของเจสตามหลังมาเบา ๆ
“ไอ้เวร!!!”
ข่าวใหญ่ข่าวดังที่กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมก็ไม่พ้น ข่าวเกี่ยวกับครอบของดิวที่โดนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมถึงบ้านทุกคนในครอบครัวโดนข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาจนเจอข้อมูลเกี่ยวกับการติดสินบนมากมายของครอบครัวดิว หลักฐานในมือแน่นหนาดิ้นยังไงก็ไม่หลุดรวมทั้งคดีพยายามฆ่าของดิวที่ตั้งใจยิงแบงค์และโปรด จากครอบครัวคนรวยคนมีชื่อเสียงกลายเป็นคนจนเพียงแค่ข้ามคืนทรัพย์สินทั้งหมดโดนยึดจนเกลี้ยง
และข่าวถัดมา ก็เป็นข่าวครอบครัวของแบงค์ที่เปิดแถลงข่าวประกาศเอาผิดคนที่ทำให้ลูกชายของเขากลายเป็นคนพิการให้ถึงที่สุด ซึ่งในข่าวนั้นมีภาพของแบงค์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยใบหน้าหม่นหมองที่ยอมรับกับสภาพของตัวเองไม่ได้ ที่ต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต อนาคตอันสดใสดับวูบลงในพริบตา
มอสวางโทรศัพท์ลง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ ทุกอย่างจบลงตามที่เจสสั่ง เขาเองเป็นคนส่งหลักฐานการติดสินบนของครอบครัวดิวให้ตำรวจ ส่วนแบงค์ ก็ถือว่าเป็นกรรมของมันเอง กระสุนที่ฝังเข้ากระดูกสันหลัง ทำให้มันต้องเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต โอกาสรักษาหายอาจจะมีอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่คิดจะให้โอกาสคนเลวได้มีทางรอดไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอยู่แล้ว
มอสลุกยืนหยิบกุญแจรถบิ๊กไบค์คู่ใจขึ้นมาก่อนเดินออกจากออฟฟิศโดยไม่รอช้า จุดหมายปลายทางของเขาคือคอนโดของอาย ช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้เจอเธอเลย เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องที่ต้องจัดการ แต่ถึงแม้จะไม่ได้พบหน้า เขาก็ยังโทรหาหรือส่งข้อความหาเธอเสมอ แต่แค่ข้อความหรือเสียงในโทรศัพท์มันไม่พอให้หายคิดถึง
บิ๊กไบค์คันโตพุ่งไปบนถนนยามค่ำคืนด้วยความเร็ว พอถึงคอนโดมอสแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องก็พบเพียงความเงียบและความมืด
เขาเดินตรงไปยังห้องนอนเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับคนที่เขาคิดถึงและอยากเจอที่สุดกำลังนอนหลับสบาย แสงไฟสลัวที่ลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านทำให้เห็นใบหน้าของคนที่หลับสนิทกับลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอทำให้เขาอดยกยิ้มไม่ได้
"ขี้เซาแบบนี้ ลักหลับดีไหมนะ" เขาพึมพำกับตัวเองก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาปรกแก้มเธอออกปลายนิ้วไล้ผ่านผิวนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา อายขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ตื่น
"หึหึ หรือจะแกล้งให้ตื่นก็ไม่เลวนะ" มอสหัวเราะในลำคอเบา ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดใจลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ไม่นานนักเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยใส่เพียงกางเกงนอนตัวบางตัวเดียว โดยยังมีหยดน้ำยังเกาะอยู่บนกายแกร่ง
เขาเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียงอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เอนตัวลงนอนข้างเธอดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว แล้วกระชับอ้อมแขนโอบรอบเอวของเธอเอาไว้ สัมผัสจากวงแขนแข็งแรงทำให้อายขยับตัวเล็กน้อย เธอพึมพำอะไรบางอย่างในลำคอเบา ๆ แล้วซุกหน้ากับหมอนต่อ
“อื้อ...”
"คืนนี้พี่จะปล่อยคนขี้เซาไปก่อน แต่พรุ่งนี้ต้องทบต้นทบดอกให้พี่ด้วยนะ" มอสยิ้มขำมือใหญ่ลูบแผ่นหลังเธอเบา ๆ ก่อนจะกระซิบคาดโทษเบา ๆ ข้างหูเธอ ปลายจมูกโด่งกดลงบนแก้มเนียนแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะหลับตาลงและหลับไปในเวลาไม่ช้า จากความเหนื่อยล้าสะสมเพราะที่ต้องเร่งเคลียร์งานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนดเวลา