“อาเพลิงขา… อื๊อ… อาเพลิง วะ… หวาน”
“เป็นไง…” ใบหน้าที่ไถลต่ำลงยังอกอวบเงยหน้าขึ้นนิด ดวงตาฉ่ำเยิ้มของคนถูกวางยากวาดตามองใบหน้าแดงเรื่อแล้วให้กระสันซ่านขึ้นเป็นทวีคูณ
“หวานไม่รู้…” คนฟังแสยะยิ้ม เขาไม่เชื่อสักนิดว่าหล่อนจะไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกนี่เขาเรียกว่าอะไร
“เลิกแสดงละครเถอะหวาน” จบคำพูดเหยียดหยันหญิงสาวก็หลับตาปี๋ เมื่อนิ้วเรียวยาวของเขากดลึกจนสุดความยาว ก่อนจะดึงออกไปแล้วกดกลับเข้ามาใหม่ในกายของหล่อน! ริมฝีปากเม้มแน่นพอๆ กับคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น เจ็บแปลบระคนสุขเสียวจนบอกไม่ถูกว่าอย่างไหนมากกว่ากัน…
“อื้อ อาเพลิง อาเพลิง” พร่ำร้องเรียกด้วยเสียงสั่นพร่าก่อเกิดความพลุ่งพล่านทางอารมณ์แก่อัคคี เวลาเดียวกันเขาก็กำลังคิดว่ามีบางอย่างกั้นขวางก่อนที่ปลายนิ้วเขาจะผ่านเข้าไป บางอย่างที่เขาไม่คิดวาจะยังคงอยู่กับหญิงสาวใต้ร่างคนนี้
ไม่! มันเป็นไปไม่ได้สักนิด ฮึ!
ใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงและฝังมันไว้กับหน้าท้องเนียนนุ่มหอมจนเขาต้องสูดดมหลายครั้ง ชายหนุ่มเหลือบมองคนที่นอนบิดกายแล้วยิ้มนิดๆ แม้เวลานี้ตัวเขาจะร้อนผ่าวไปทั้งร่าง แต่คงไม่ต่างไปจากหล่อนสักนิดแม่มธุรสหวานฉ่ำ มือเล็กๆ ของหล่อนกำแน่นที่ผ้าปูที่นอน เขากระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะช้อนเรียวขาข้างหนึ่งขึ้นพาดไหล่หนา เปิดเผยความลับสู่สายตาเขาจนชัดเจน!
อัคคีลืมหายใจชั่วขณะเมื่อได้ยลความงามตรงหน้า หล่อนมีทุกอย่างเหลือเฟือจนเขาอยากจะคลั่งเสียให้ได้ มือเขาสั่นนิดๆ เมื่อแตะลงตรงต้นขาอ่อนด้านในซ้ายมือ ส่วนมือขวาของเขากำลังลูบไล้สะโพกขวาที่แอ่นขึ้นเพราะขาหล่อนถูกเขาจับพาดบ่าอยู่นี่ ส่วนใบหน้าของเขาไม่ต้องถามก็น่าจะรู้ว่าอยู่บริเวณไหน…
มธุรสรู้สึกว่าเนื้อกายทุกส่วนกระตุกวาบกับท่วงท่าที่อัคคีกำลังทำอยู่เวลานี้ เขาซุกตัวตนใหญ่โตไว้ระหว่างสองขาเรียวของหล่อนอย่างล่อแหลม เช่นเดียวกับใบหน้าคมคายของเขาที่ก้มต่ำลงไปจนเกือบจะชิดกับส่วนสาวที่ไม่เคยมีใครได้ชิดใกล้อยู่รอมร่อ…
“อาเพลิงจะทำอะไร ไม่นะคะ…” ห้ามเสียงสั่น จริงอยู่หล่อนก็อยากรู้เหมือนกันว่าหากเขาฝังใบหน้าลงกับเนินเนื้ออวบงามไร้ราคีแล้วจะให้ความรู้สึกแบบไหน แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่น้อยนิดยังพยายามห้ามปราม แต่ทว่าความสับสน ความหวาดกลัวทุกสิ่งทุกอย่างต้องมลายหายวับ เมื่ออัคคีบดฝังริมฝีปากลงจุมพิตสัดส่วนที่หล่อนเป็นกังวลและคาดเดา หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับรอยประทับหนักๆ นั้น หัวใจเต้นรัวถี่คล้ายจะทะลุออกนอกอกเร็วๆ นี้ ยิ่งตื่นเต้นเป็นทวีคูณเมื่อกลีบกุหลาบสีเรื่อถูกแยกจนเห็นเกสรสวาท…
หญิงสาวหลับตาแน่น! ริมฝีปากเม้มปิด มือเล็กกำจนรู้สึกได้ว่าเล็บที่ตัดสั้นกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อ หยุดการหายใจและเคลื่อนไหวทุกอย่าง เมื่อกลีบเกสรด้านในถูกปลายชิวหาล่วงล้ำซุกไซ้!
ใบหน้าหวานส่ายสะบัดอยู่บนที่นอนไร้เสียงคราง หากมีเพียงเสียงหายใจและเสียงสะอื้นไห้ในลำคอเท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน เช่นเดียวกัน… สะโพกผายพองามก็สะบัดหยัดขึ้นรับการฉกไล้ของปลายลิ้น ฝ่าเท้าเรียวสวยกดทาบไปกับแผ่นหลังแนบแน่น บ่งบอกสภาวะอารมณ์ได้ดีว่าหล่อนกำลังสุดๆ ไปแล้วกับการกำระทำของเขา!
“อ๊า… อือ พอ! พอทีเถอะ อะ… อาเพลิง!” สุดท้ายคลื่นสวาทที่ถาโถมสาดซัดก็ทำให้มธุรสยอมปริปากเอื้อนเอ่ย ชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองหญิงสาวนิดหนึ่งพร้อมรอยยิ้มสะใจที่ฉาบฉายอยู่ในแววตา ทว่าริมฝีปากกับยังคงคาคั่งอยู่ที่เกสรนารีอย่างไม่คิดผละห่างไปง่ายๆ! หญิงสาวส่ายหน้าระรัวเมื่อหลุบตามองคนที่กำลังเมามันอยู่กับการทรมานหล่อน แต่เมื่อเขาไม่คิดสนใจหญิงสาวจึงใช้ศอกทั้งสองข้างของตนเองดันตัวขึ้นนั่ง มองเขาด้วยสายตาเว้าวอนเต็มที่ “อาเพลิง ได้โปรด…”
เอื้อมมือเล็กลงไปยังศีรษะได้รูปแล้วผลักห่าง แต่เวลาต่อมาก็ครางโหยยกสะโพกแล้วกดศีรษะของคนเบื้องล่างลงกับช่องทางสวรรค์อีกครั้งด้วยความสับสน
“โอ้ว… มะ ไม่ไหว…” จะไหวได้อย่างไร ในเมื่ออัคคีเร่งเร้าปลายลิ้นจนมธุรสแทบจะแดดิ้นเพราะความกระสัน หญิงสาวทิ้งตัวล้มแผละลงไปยังจุดเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้หล่อนหยัดกายสู้เขา ความกระสันซ่านเสียวกำลังฆ่าหล่อนให้ตายดับ น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลลงไปยังหางตา สับสนกับความต้องการและความถูกต้องที่ตีกันให้วุ่น แต่จะว่าไปหล่อนผิดตั้งแต่คิดจะจับเขาแล้ว!
สะอื้นในอกไปพร้อมๆ กับครางครวญ ครู่ใหญ่ชายหนุ่มก็ผละห่างแล้วสะบัดผ้าขนหนูออกจากกาย พลัน! ดวงตากลมโตที่ปรือมองเมื่อครู่ก็ต้องเบิกกว้างก่อนจะพลิกหน้าหนี ร้อนวาบไปทั้งหน้า ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ พวงแก้มก็แดงเป็นทาชาดเมื่อนึกถึงกายชายที่ลุกโชนเมื่อครู่ นึกขึ้นได้ถึงความผิดชอบชั่วดีหญิงสาวก็พยายามกระถดกายถอยหนี ทว่าท่อนขาทั้งสองข้างกลับถูกมือใหญ่กดกระชับเอาไว้ นัยน์ตาคมนั้นฉ่ำปรือบ่งบอกอารมณ์ชัดเจน!
“จะไปไหน…”
“อย่า… อาเพลิงอย่าทำแบบนี้” ความเสียดเสียวยังอยู่ แต่ความกลัวนั้นก็ยังมี ยิ่งเมื่อสติรู้ตัวกลับคืนก็ยิ่งปลุกให้ความรู้ผิดรู้ถูกทำงาน “ปล่อยขาหวานนะ! หวานจะกลับบ้าน!”
พยายามกระตุกขาหนี พร้อมทั้งควานมือหาผ้าเพื่อปกปิดเรือนร่างขาวโพลนตัดความสลัวของแสงรำไรจากโคมไฟ คนหน้ามืดเพราะฤทธิ์กำหนัดกระตุกยิ้ม นอกจากเขาจะไม่ปล่อยยังกระชับท่อนขาเล็กเรียวแล้วจับแยกออกห่างเพื่อเบียดตัวตนแนบชิดอีกด้วย หญิงสาวเกร็งตัวหลับตาแน่นเมื่อชายหนุ่มเบียดเนื้อแนบเนื้อ สัดส่วนแข็งขึงขนาดของชายโตเต็มวัยที่หล่อนไม่เคยได้เห็นมาก่อนในชีวิตกำลังถูไถอยู่กับต้นขาด้านในของหล่อน!
“ฉันรู้ว่าเธอต้องชอบหวาน เธอถนัดเรื่องแบบนี้อยู่แล้วนี่ ใช่ไหม?” เสียงทุ้มขออัคคีค่อนข้างพร่า แต่คงไม่มากไปกว่าเรือนร่างนวลเนียนที่บิดเร้าอยู่บนที่นอนเด็ดขาด…
“อื้อ อย่า ถอยออกไปนะอาเพลิง” มือเล็กผละจากผ้าปูที่นอนแล้วยื่นออกไปผลักดันหน้าท้องแกร่งที่เบียดใกล้เข้ามา แต่กลับขยับโดนบางอย่างที่พองโตเต็มที่จนต้องชักมือกลับแทบไม่ทัน “อุ๊ย!”
ไม่ต่างไปจากอัคคีสักนิด เพราะคนถูกสัมผัสโดยไม่ตั้งใจก็สะท้านไปทั้งตัวเหมือนกัน และมธุรสก็ได้ยินเสียงคำรามแหบพร่าในลำคอของเขาดังขึ้นพร้อมกับลำตัวหนาแน่นที่โน้มลงมาทาบทับเนื้อตัวบอบบางจนไม่มีช่องว่างให้ลมผ่านเข้าไปได้! แล้วในที่สุดอะไรต่อมิอะไรก็แนบสนิทไปพร้อมๆ กัน แผงอกแบนราบทว่าตึงเครียดของเขาทาบกระชับไปกับทรวงอกอวบหยุ่นของหล่อน พลันขนอ่อนบนผิวกายก็ลุกชันไปตลอดร่างเมื่อชายหนุ่มจงใจบดเบียด ริมฝีปากที่เผยอค้างนั้นก็ถูกครอบครองและหยอกเย้า หญิงสาวพยายามเบี่ยงหน้าหนีแต่ปลายลิ้นที่สอดลึกเข้ามาในโพลงปากอุ่นชื้นไม่อาจทำให้หนีพ้น เอวกิ่วขอดถูกเขากระชับกอดแน่น บดเบียดสัดส่วนแข็งแกร่งถูไถร่องลึก พาคนตัวบางใต้ร่างครางฮือ สะทกสะท้านไหวเยือก
“อืม อ่า…” แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ถูกละเว้นจากกฎแห่งกาม… อัคคีกำลังเสียวซ่านจนสุดระงับ พยายามหักห้ามความปรารถนาอันแรงกล้านี้แต่ยิ่งปล่อยนานก็เหมือนกับฆ่าตัวตายชัดๆ!
บ้าบรม! ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันแน่ที่จู่ๆ ก็เกิดความต้องการชนิดที่เรียกได้ว่าต้องได้เท่านั้นกับผู้หญิงที่พยายามอยู่ห่างเพราะความเหมาะสม ทว่าเวลานี้เขาคิดถึงแต่เนื้อขาวๆ ผิวหอมๆ เนียนละเอียดนุ่มมือและ… เนินเนื้อแห่งอิสตรีเพศที่เขาเบียดไล้อยู่ในขณะนี้ ชายหนุ่มกำลังนึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้ชำแรกแทรกเข้าไปในกายของหล่อน เวลานั้นคงจะสุขเกินสุข และไม่มีใครจะหยุดยั้งความต้องการของเขาได้อย่างแน่นอน!
“มธุรส…” เขาผละห่างเพียงครู่เพื่ออยู่ในท่าที่เหมาะสม คนถูกเรียกชื่อกำลังงงงวยและเต็มตื้อไปทั้งหัวก็นอนระทวยอยู่กับที่ไม่ได้มีอาการขัดขืนเขาแต่อย่างใด ชายหนุ่มทอดสายตาอ่อนเชื่อมกวาดมองเรือนร่างของหญิงสาวแล้วให้พลุ่งพล่านในอารมณ์ บอกตัวเองว่าเขารอต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วินาที ดังนั้น เมื่อรอยรักที่แยกห่างฉ่ำชื้นเพียงพอ เขาจึงฝากฝังเรือนกายที่ทั้งกำยำและแข็งกร้าวล่วงล้ำเข้าไปในกลีบกุหลาบอย่างรวดเร็วและกลายเป็นรุนแรง! เพราะไม่คิดเผื่อเลยสักนิดว่าสาวบริสุทธิ์นั้นต้องการการอ่อนโยนสักเพียงใด รู้เพียงว่าหล่อนก็คือผู้หญิงจัดเจนกร้านโลกีย์ทั่วไปที่มารยาสาไถยพยายามหลอกเขาให้ตายใจเท่านั้น!
แต่แล้วเสียงกรีดร้อง อาการสะดุ้งสุดตัวและความคับแน่นจนแทบไปต่อไม่ได้ทำให้อัคคีต้องหยุดชะงักลงกลางคัน!
“โอ๊ยเจ็บ! ออกไป ฮือ…” มือไม้ที่ดันตัวเขาและร่างเล็กที่ดิ้นหนีความอึดอัดเจ็บปวดเจียนขาดใจนั้นทำให้คนเมาพิศวาสถึงกับแทบหายเมาเป็นปลิดทิ้ง!
ใบหน้าคมคายที่บิดเบี้ยวเพราะความคับแน่นชนิดรัดจนรู้สึกอึดอัดมีแววตระหนก ทว่าความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้าใส่ไม่อาจทำให้เขาหยุดค้นหาความจริง และความใหญ่โตที่จมจ่อมอยู่ครึ่งๆ กลางๆ ก็เรียกร้องให้เขาโถมทะยานเข้าใส่และปลดปล่อยความต้องการภายในให้หมดสิ้นลงไปเสีย!
“ไม่! ไม่! ออกไปนะ!” อัคคีกัดฟันแน่นเมื่อมธุรสพยายามผลักเขาให้ออกห่างจากตัวหล่อน แน่นอนหญิงสาวกำลังรู้สึกเจ็บแทบขาดใจ! ตัวของเขาออกใหญ่โตยิ่งตรงนั้นของเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง และเวลานี้มันก็กำลังสำแดงฤทธิ์เดชเอากับหล่อนแล้ว น้ำตาใสๆ ไหลรินเป็นทางยาวเมื่อคนบนร่างพยายามยัดเยียดตัวตนของเขาเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ