ทั้งสองก้าวออกจากห้องน้ำที่อบอวลไปด้วยไอน้ำและความตึงเครียด เพียงขวัญรีบคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันรอบกายที่เปลือยเปล่าและยังสั่นเทาเล็กน้อย ส่วนภาคย์ทำเพียงแค่ใช้ผ้าขนหนูอีกผืนพันรอบเอวสอบของเขาไว้อย่างหลวมๆ
เธอยืนตัวแข็งทื่ออยู่กลางห้อง ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป จะหนี...ก็ไม่มีที่ให้หนี จะสู้...ก็ไม่มีแรงเหลือพอ บรรยากาศในห้องนอนที่เคยเป็นเซฟโซนของเธอ บัดนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกรงสิงโต
แต่แล้ว...การกระทำต่อไปของภาคย์ก็ทำให้เธอต้องแปลกใจอีกครั้ง
เขากลับเดินไปหยิบไดร์เป่าผมที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของเธอ แล้วหันมาพยักพเยิดหน้าไปที่เก้าอี้ตัวเล็กหน้ากระจก
“มานั่งนี่” เขาสั่งเสียงเรียบ
เพียงขวัญมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมเดินไปนั่งลงแต่โดยดี เธอจ้องมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก...ผู้หญิงที่มีดวงตาแดงก่ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง และมีแววตาที่สิ้นหวัง ก่อนที่ภาพสะท้อนของร่างสูงใหญ่ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังจะปรากฏขึ้น มันเป็นภาพที่ดูไม่เข้ากันอย่างรุนแรง แต่กลับทรงพลังอย่างน่าประหลาด
เขาใช้ผ้าขนหนูอีกผืนค่อยๆ ซับน้ำออกจากเรือนผมยาวสลวยของเธออย่างเบามือ สัมผัสของเขาไม่ได้หยาบกระด้าง แต่กลับนุ่มนวลและใส่ใจในทุกรายละเอียด ก่อนที่เสียงหึ่งๆ ของไดร์เป่าผมจะดังขึ้น พร้อมกับลมอุ่นๆ ที่เป่ากระทบลงบนหนังศีรษะของเธอ
นิ้วเรียวยาวของเขาค่อยๆ สางผมของเธอไปพร้อมๆ กับการเป่าไดร์ ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามา พร้อมกับสัมผัสที่ปลายนิ้วของเขาที่นวดคลึงหนังศีรษะเธอเบาๆ มันช่างให้ความรู้สึก...ดี...อย่างไม่น่าเชื่อ
ดีจนน่ากลัว...
เพียงขวัญหลับตาลงอย่างเผลอไผล ปล่อยให้ความรู้สึกสบายเข้าครอบงำชั่วขณะ หัวใจที่เคยเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว เริ่มสงบลงทีละน้อย ความอบอุ่นจากไดร์เป่าผม และสัมผัสที่แสนใส่ใจของเขา...มันเหมือนยาพิษเคลือบน้ำตาลที่ค่อยๆ ซึมซาบเข้ามาในหัวใจที่ด้านชาของเธอ
ไม่มีใครเคยทำแบบนี้ให้เธอมาก่อน... ไม่เคยเลย...
ความคิดนั้นทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้เพียงขวัญเผลอไผลไปโดยไม่รู้ตัว...จนเกือบจะลืมไปแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใคร และเขากำลังจะทำอะไรกับเธอ
กริ๊ก...
เสียงไดร์เป่าผมที่ดับลงกะทันหัน ฉุดเธอกลับมาสู่ความเป็นจริง เพียงขวัญลืมตาขึ้นมองกระจกอีกครั้ง ผมของเธอแห้งสนิทและถูกจัดทรงอย่างง่ายๆ แต่กลับดูดีอย่างน่าประหลาด
ภาคย์ยืนมองผลงานของตัวเองในกระจกด้วยแววตาพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้ใบหูของเธอจนได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ จากผิวของเขา
“อย่ามองหน้าตัวเองแบบนั้นสิ” เขาพูดต่ำ “เหมือนคนกำลังจะถูกฆ่า ทั้งที่แค่กำลังจะถูกเอา”
เพียงขวัญเม้มปากแน่น ปลายนิ้วกำขอบเก้าอี้จนซีด
“ถ้าฉันลุกหนีตอนนี้… คุณจะทำยังไงคะ”
ภาคย์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ ไม่ได้ตอบทันที
เขาเพียงแค่เอื้อมมือไปวางทับมือเธอ บีบเบาๆ
“เธอจะไม่ลุก” เขาพูดเรียบ “เพราะถ้าเธอคิดจะหนีจริงๆ แววตาเธอมันจะไม่เป็นแบบนี้”
เขาก้มลงใกล้กว่าเดิม เสียงกระซิบชิดข้างหู
“พร้อมจะเป็นของหมอ...หรือยัง”
เสียงกระซิบที่แหบพร่าและทรงอำนาจนั้นทำให้เพียงขวัญสะดุ้งเฮือก ร่างกายของเธอเกร็งขึ้นมาทันที ความรู้สึกสบายเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น เหลือเพียงความจริงที่รออยู่ตรงหน้า
เธอไม่ตอบ แต่ภาพสะท้อนในกระจกฟ้องทุกอย่าง ดวงตาของเธอเบิกกว้างและสั่นระริก ภาคย์จ้องมองปฏิกิริยาของเธอผ่านกระจกเงา ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เธอเกลียด
เพียงขวัญค่อยๆ พยักหน้าหงึกๆ อย่างเชื่องช้าและจำนน เป็นการตอบรับคำเชิญสู่ขุมนรกของเขา
“ดีมาก” เขาพูดสั้นๆ ก่อนจะเดินนำไปที่เตียงนอน แล้วนั่งลงบนขอบเตียงอย่างสบายอารมณ์ สายตาของเขายังคงจับจ้องมาที่เธอ รอให้เธอเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเอง
เพียงขวัญลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยขาที่ไร้เรี่ยวแรง เธอก้าวเดินไปยังเตียงนอนของตัวเองอย่างเชื่องช้า ทุกย่างก้าวเหมือนมีหินถ่วงหนักอึ้ง แต่แล้วเธอก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อมองไปที่เตียงหลังนั้น...
เตียงนี้...เธอเคยใช้แค่กับภาคิน
ความรู้สึกผิดแปลกๆ แล่นปราดขึ้นมาในใจ มันเหมือนกับการทรยศเขาเลย... ความรู้สึกที่ไร้สาระสิ้นดี แต่เธอก็อดคิดไม่ได้
แต่เดี๋ยวก่อนนะ... ความคิดอีกด้านหนึ่งเถียงขึ้นมาอย่างรุนแรง เขานอกใจเราไม่ใช่เหรอ! คนที่ทรยศคือเขา! เราเกือบจะถูกขายเข้าซ่องก็เพราะเขา!
ใช่... เธอเกือบถูกขายเพราะภาคิน ความคิดนั้นเหมือนน้ำเย็นที่สาดเข้ามาในหัว ขับไล่ความรู้สึกผิดที่ไร้สาระออกไปจนหมดสิ้น ความเจ็บปวดและความโกรธแค้นเข้ามาแทนที่ นี่ไม่ใช่การทรยศ แต่มันคือผลกรรมที่ภาคินต้องได้รับทางอ้อมต่างหาก!
หมอภาคย์เห็นเธอเงียบไป ยืนนิ่งอยู่กลางห้องราวกับรูปปั้น “คิดอะไรอยู่”
คำถามของเขาทำให้เธอสะดุ้งขวับ กลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง “ปะ...เปล่าค่ะ”
เธอเดินไปที่เตียงจนสุดทาง หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เพียงขวัญสูดหายใจเข้าลึกๆ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเอ่ยประโยคที่น่าอัปยศที่สุดในชีวิตของตัวเองออกมา
“ทำเถอะค่ะ”
สิ้นคำนั้น ภาคย์ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เขาดึงร่างบางที่พันไว้เพียงผ้าขนหนูให้ล้มลงบนเตียงนุ่ม ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเขาจะตามขึ้นมาทาบทับไว้ในทันที
เขาไม่รีบร้อน แต่กลับใช้เวลาในการสำรวจร่างกายของเธออีกครั้งด้วยสายตาและสัมผัส เขาค่อยๆ ก้มลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่น สูดดมกลิ่นกายสาวที่ปะปนกับกลิ่นสบู่และแชมพู ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากลงมายังยอดถันสีชมพูระเรื่อที่ชูชันท้าทายสายตาเขาอยู่
เขาใช้ลิ้นร้อนแตะวนรอบๆ อย่างหยอกเย้า ก่อนจะค่อยๆ ดูดหัวนมและขบเม้มเบาๆ อย่างช่ำชอง
“อ๊ะ!” เพียงขวัญสะท้านเฮือก แอ่นอกขึ้นรับสัมผัสวาบหวามนั้นโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ขณะที่ปากของเขากำลังปรนเปรอทรวงอกของเธอ มือใหญ่ของเขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เขาลูบไล้ลงมาจากหน้าท้องแบนราบอย่างเชื่องช้า ทรมานเธอ จนกระทั่งปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับร่องกลีบที่อวบอูมนูนเด่น ผ่านเนื้อผ้าขนหนูที่ยังชื้นอยู่
เขาไม่ได้สอดแทรกเข้าไป แต่กลับใช้ปลายนิ้วคลึงวนอยู่ที่เม็ดเสียวของเธออย่างพอดิบพอดี ผ่านเนื้อผ้าที่กั้นขวางอยู่
“อื้อออ...” เพียงขวัญครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น สติของเธอเริ่มเลือนลาง ร่างกายมันตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างบ้าคลั่ง สมองที่เคยสั่งให้ต่อต้านบัดนี้กลับว่างเปล่า ขาทั้งสองข้างที่เคยหนีบชิดกันแน่น เธอเผลอกางขาออกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เปิดทางให้เขาสัมผัสเธอได้ถนัดขึ้น
และในวินาทีนั้นเอง เธอก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นชื้นที่ไหลทะลักออกมาจากกลางกายนั่นเอง
ภาคย์รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นทันที เขาหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำเยิ้มและเหม่อลอย เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเย้ยหยันและเต็มไปด้วยความเอ็นดูที่ร้ายกาจ
“หืมม... แฉะขนาดนี้...”
เขาจงใจใช้นิ้วกดลงไปบนผ้าขนหนูที่ชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ ทำให้เธอสะดุ้งอีกครั้ง
“...พร้อมแล้วเหรอครับ”
“...”
“น่ารักนะเนี่ย”
เพียงขวัญเบือนหน้าหนี ดวงตาร้อนผ่าว ริมฝีปากสั่นระริก
“อย่าพูดแบบนั้นค่ะ...คุณทำเหมือนฉันเต็มใจ...”
เสียงของเธอเบา แต่แฝงแรงต้านที่แหลกสลาย
ภาคย์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ดวงตาคมกริบฉายแววขบขันผสมหลงใหล
“เธอไม่ต้องเต็มใจ...”
เขาก้มลง กระซิบใกล้ข้างแก้ม “แค่ยอม...ก็พอแล้ว”
มือหนาค่อย ๆ คลายผ้าขนหนูที่พันกายเธออยู่ช้า ๆ เสียงเสียดผ้านั้นช่างเย้ายวนและทำลายขวัญกำลังใจเธอได้อย่างเฉียบขาด
เธอกลั้นหายใจ มือทั้งสองกำผ้าปูเตียงแน่น
“คุณ...จะให้ฉันทำยังไง...”
เสียงเธอแหบพร่า น้ำเสียงนั้นทั้งอ้อนวอน ทั้งปวดร้าว
“ง่ายมาก” เขากระซิบ ขณะจ้องลึกเข้าตาเธอ
“ก็แค่ปล่อยให้ฉัน...เอาทุกอย่างที่อยากได้จากเธอ”
เขาไม่จูบเธอทันที แต่โน้มหน้าลงมาจนปลายจมูกแทบแตะกัน ลมหายใจร้อนระอุปะทะผิวหน้าของเธอจนขนลุกซู่
“ร่างกายเธอ...หัวใจเธอ...”
“แม้แต่เสียงครางของเธอคืนนี้...ก็ต้องเป็นของฉัน”
เพียงขวัญหลับตาแน่น หยาดน้ำตาไหลซึมออกมาอย่างเงียบงัน เธอไม่ได้พูดอะไรอีก ไม่มีแรงพอจะเถียง ไม่มีพลังพอจะหนี
แต่เธอไม่รู้เลย...ว่าเงียบแบบนี้ ยิ่งกระตุ้นบางอย่างในใจเขาให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ภาคย์ยิ้มบาง เอื้อมมือไปเกลี่ยหยดน้ำตาที่หางตาของเธออย่างอ้อยอิ่ง
“หยุดร้อง...”
“เพราะต่อจากนี้ ฉันจะไม่อ่อนโยนอีกแล้วนะ”