หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ตอนนี้อลิชาเริ่มทำใจเรื่องของชาร์คได้มากกว่าเดิม จนเธอกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนที่ผ่าน ๆ มา เหมือนวันที่ชาร์คยังคงอยู่กับเธอ
“วันนี้คุณฌอห์ณจะกลับมาแล้วนะคะ” ป้าบัวพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบในสวนดอกไม้ ที่ตอนนี้อลิชากำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่
“กลับมาแล้วเหรอคะ แล้วจะถึงตอนไหนคะ?” อลิชาหันกลับมาถามป้าบัวด้วยความดีใจ ทำเอาหญิงสูงวัยในร่างอวบยิ้มออกมาอย่างชอบใจ นี่สิ! ถึงจะเป็นคุณอลิซ ที่เธอรู้จัก แม้ว่าฌอห์ณจะไม่ชอบหรือเย็นชา แต่เธอก็ยิ้มได้เสมอ ไม่ใช่หญิงสาวคนก่อนหน้านี้ที่ใบหน้ามีแต่ความทุกข์
“น่าจะค่ำ ๆ ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น อลิซจะไปเตรียมอาหารให้คุณฌอห์ณก่อนนะคะ”
“แต่ตอนนี้เพิ่งบ่ายโมงอยู่เลยนะคะ?” ป้าบัวที่ได้ยินคำพูดของอลิชาก็เอ่ยดังออกมาเสียก่อน
“อืม…ไม่สนแล้ว” อลิชาที่ทำท่าทีเหมือนคิดอยู่ครู่หนึ่งพูดขึ้น ก่อนเดินเข้าไปภายในบ้านด้วยความรีบร้อนทิ้งให้ป้าบัวได้แต่มองตาม
ทางด้านของฌอห์ณ
หลังจากเคลียร์เรื่องต่าง ๆ ที่รัสเซียเสร็จก็เดินทางกลับมายังไทยทันที ซึ่งเขาเดินทางกลับมาถึงไทยช่วงทุ่มเศษ
การมาปรากฏตัวของเจ้าของร่างสูงโปร่งที่เต็มไปด้วยความสง่างามและทรงเสน่ห์ของเขา ทำให้คนที่เห็นต่างชื่นชมอย่างไม่ขาดปาก แม้ว่าตอนนี้เจ้าของใบหน้าคมจะไร้ซึ่งรอยยิ้ม ทว่าไม่ได้ลดความหล่อเหลาลงสักนิดเลย
“นายท่านจะกลับบ้านเลยไหมครับ?” เฟยหลงเอ่ยถามขึ้น เมื่อนายของเขาขึ้นมาบนรถลีมูลซีนคันสีดำเงาที่จอดรออยู่หน้าสนามบินได้เพียงครู่เดียว
“กลับเลย พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปเช็กที่โกดังกับที่ไนต์คลับ”
“ครับ” เฟยหลงเอ่ยรับคำสั่งของฌอห์ณอย่างไม่คิดจะเอ่ยถามอะไร
ระหว่างเดินทางกลับมาที่บ้านฌอห์ณยังคงเอนกายพิงไปกับเบาะรถพร้อมหลับตาลงตลอดทางราวกับต้องการพักผ่อน
จนกระทั่งการเดินทางได้สิ้นสุดลง เมื่อขบวนรถลีมูนซีนเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าบ้านของฌอห์ณ
เหล่าสาวใช้และการ์ดของบ้านต่างพากันออกมาต้อนรับเหมือนที่เคยทำในทุก ๆ ครั้งที่ฌอห์ณกลับมาเยี่ยมบ้าน เพียงแค่ครั้งนี้แตกต่างออกไป เมื่อฌอห์ณเดินทางกลับมาครั้งนี้เป็นการอยู่ถาวร
“คุณอลิซคะ คุณฌอห์ณกลับมาแล้วนะคะ” ป้าบัวเอ่ยเรียกคนที่เอาแต่ทำอาหารจนไม่ทันไม่ยินเสียงรถที่เคลื่อนตัวเข้ามา
“ค่ะ อลิซไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” อลิชาขานรับก่อนจะรีบถอดผ้ากันเปื้อนเดินตามป้าบัวออกมา
ซึ่งในระหว่างที่หญิงสาวเดินเข้ามายืนต่อท้ายแถวเพื่อต้อนรับนายของบ้าน เป็นจังหวะที่ฌอห์ณเพิ่งก้าวเท้าลงจากรถ
สายตาคู่คมทันได้เห็นร่างระหงที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้น ผมถูกทำไว้ในทรงดังโงะทำให้เธอดูธรรมดา แต่กลับดึงดูดสายตามาเฟียหนุ่มไม่เป็นอย่างดี
“ยินดีต้อนรับนายท่าน” เสียงของเหล่าสาวใช้และการ์ดดังขึ้น เมื่อฌอห์ณลงจากรถมายืนเต็มความสูง แต่ชายหนุ่มเหมือนไม่สนใจอะไรเพียงแต่เดินเข้าไปภายในบ้านเท่านั้น
การก้าวเท้าอย่างสง่างามโดยไม่สนใจใครเลยทำให้อลิชารู้สึกหน้าชาไม่น้อย เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอมาต้อนรับฌอห์ณโดยไม่มีคนยืนข้างกาย คอยเรียกอีกฝ่ายให้หันกลับมาสนใจเธอ
“นายท่านทานอะไรมาหรือยังคะ?” ป้าบัวเอ่ยถามในขณะที่ฌอห์ณกำลังจะเดินพ้นเธอไป
“ยังครับ” ฌอห์ณหยุดเดินก่อนเอ่ยตอบออกมา เขาเพียงแค่เอี่ยวหน้าหันมามองป้าบัวด้วยหางตาไม่ได้หันกลับมามองเธอ
“งั้นเดี๋ยวป้าไปจัดอาหารให้นะคะ”
“ครับ” ฌอห์ณพูดจบก็เดินตรงเข้าไปภายในบ้านต่อ ทิ้งให้อลิชาได้แต่มองตามอีกฝ่ายเท่านั้น
“สงสารคุณอลิซนะ” หนึ่งในสาวใช้เอ่ยออกมาเมื่อฌอห์ฌเดินหายเข้าไปลับตาทุกคนแล้ว
“นั่นสิ นายท่านเอาแต่เย็นชาใส่ แถมปากเนี่ยเหน็บได้ทุกคำ” สาวใช้ของบ้านเอ่ยอย่างกระซิบกระซาบกันราวกับกลัวว่าฌอห์ณจะได้ยิน
“นินทาเจ้านายอย่าได้งานใหม่กันหรือไง?” ป้าบัวที่ได้ยินคำพูดของสาวใช้อดจะเอ่ยออกมาไม่ได้
“เปล่าจ้ะป้า”
“งั้นก็รีบไปเตรียมอาหารให้นายท่าน” ป้าบัวเอ่ยอย่างไม่พอใจสาวใช้ที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
“จ้ะป้า”
“ไม่ต้องไปสนใจนะคะคุณอลิซ”
“ค่ะ” อลิชายิ้มให้กับป้าบัวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เพื่อให้หญิงสูงวัยไม่ต้องเป็นห่วงตัวเอง
หลังจากป้าบัวจัดอาหารเสร็จ หัวหน้าแม่บ้านก็เดินออกมาตามฌอห์ณให้เข้าไปทานอาหาร ซึ่งฌอห์ณได้เดินตามเข้าไปโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา
“ไปไหนแล้วล่ะ?” ฌอห์ณที่เดินเข้ามาในห้องอาหาร เอ่ยถามออกมา เมื่อไม่เห็นคนที่ควรอยู่ที่นี่อย่างอลิชา
“ใครเหรอคะ?” ป้าบัวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ยัยนั่นไง”
“อ๋อคุณอลิซกลับขึ้นห้องไปแล้วค่ะ”
“กินข้าวแล้วเหรอครับ?” ฌอห์ณเอ่ยถามด้วยเสียงแข็ง ๆ เขารู้ว่าหญิงสาวไม่มีทางทานอาหารก่อนเพราะเป็นนิสัยของอลิชา นั่นเท่ากับว่าเธอเลือกจะขึ้นห้องไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทานอะไร
“ยังค่ะ” ป้าบัวเอ่ยตอบด้วยเสียงที่เบาลง ปกติแล้วฌอห์ณไม่เคยสนใจอลิชาเลยสักนิด แต่ทำไมวันนี้ถึงถามหาเธอก็ไม่รู้ และนั้นทำให้เก่าคนแก่อย่างป้าบัวเกิดอาการกังวลใจไม่น้อย
“ไปตามลงมา”
“ค่ะ เดี๋ยวป้าไปตามให้” ป้าบัวพูดก่อนรีบเดินออกไปจากห้องอาหาร
เวลาเพียงไม่นานอลิชาก็เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านตรงเข้ามาภายในห้องอาหาร เธอเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวประจำด้วยท่าทีประหม่าไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกมา
“โตขนาดนี้ยังต้องให้คนอื่นตามมากินข้าว” ฌอห์ณเอ่ยขึ้นทันที เมื่ออลิชานั่งลงบนเก้าอี้แล้ว น้ำเสียงที่เขาพูดออกมาคนฟังก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มกำลังหงุดหงิด
“ขอโทษค่ะ” อลิชาเอ่ยขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังคงก้มหน้าอยู่
“หึ…ถ้าอยากจะเรียกร้องความสนใจ หาวิธีอื่นที่มันดีกว่านี้” ท่าทีที่แสนขัดตาของอลิชา ทำให้ฌอห์ณอดจะเอ่ยประชดประชันอีกฝ่ายไม่ได้
“อลิซเปล่านะคะ อลิซคิดว่าคุณฌอห์ณคงไม่อยากเห็นหน้าอลิซ เลยกลับขึ้นห้องไป” หญิงสาวเอ่ยตามตรงเพราะเธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะรำคาญตัวเอง จนพาลหงุดหงิดขึ้นมาอีกเหมือนครั้งก่อน ๆ
“รู้ตัวก็ดี ต่อไปนี้อยู่บ้านหลังนี้ก็หลบ ๆ ฉันหน่อยแล้วกัน…ฉันไม่อยากเห็นกาฝาก”
“ค่ะ” อลิชาถึงกับหน้าชาเพราะคำพูดของฌอห์ณ เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะคิดกับเธอแบบนั้น
การทานอาหารของอลิชาและฌอห์ณในวันนี้ดูเหมือนจะอึดอัดมากกว่ามื้ออื่น ๆ และทันทีที่ชายหนุ่มทานอาหารเสร็จก็เดินกลับขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านทันที
“คุณอลิซไม่ต้องเก็บค่ะ เดี๋ยวป้าเก็บเอง”
“แต่ว่า…” อลิชามองจานและอาหารตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มได้ด้วยความหนักใจ
“คุณอลิซ แต่ก่อนป้าไม่เคยพูดเพราะคุณท่านห้าม แต่ตอนนี้ป้าขอพูดหน่อยเถอะค่ะ งานพวกนี้คุณไม่ต้องทำมันก็ได้นะคะ ยังไงคุณก็เป็นลูกสาวของคุณท่าน” ป้าบัวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย ๆ กับท่าทีของอลิชา
“งั้นอลิซถือว่าอลิซไม่ได้ยินที่ป้าบัวพูดนะคะ” อลิชาไม่สนใจคำพูดของป้าบัวแม้แต่น้อย แถมยังแย่งงานหัวหน้าแม่บ้านทำอีก
อลิชาช่วยป้าบัวเก็บห้องอาหารล้างจานทำความสะอาดห้องครัวมาได้สักพักก็เดินกลับขึ้นชั้นสองไปเพื่อที่จะไปพักผ่อนโดยไม่รู้เลยว่าคนที่เดินขึ้นมาชั้นบนก่อนหน้านี้จะยังไม่ได้เข้าห้องนอนไป
“อลิซ”
“คะ” อลิซหันกลับมามองตามเสียงที่เอ่ยเรียกเธอ สายตาที่มองไปยังฌอห์ณตอนนี้มีแต่ความใส่ซื่อแต่ดันขัดใจของชายหนุ่ม
“ถ้าวันหลังจะไปทำงานในห้องครัว อีกฉันจะไล่ป้าบัวออก” ฌอห์ณพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนไป ทิ้งให้อลิซได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรของเขาเนี่ย” อลิชาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจกับท่าทีของฌอห์ณ