เพื่อน(แอบ)รัก นายวิศวะ ตอนที่ 9

1674 Words
ตอนที่ 9 ไม่กี่นาทีหลังจากที่ฉันยกแก้วเหล้านั่นขึ้นดื่ม…ร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณแปลก ๆ ออกมา ตอนแรกเหมือนแค่เลือดสูบฉีดเร็วขึ้น หน้าร้อนผ่าวเหมือนมีไฟลามอยู่ใต้ผิว แต่ไม่นานนัก ความร้อนนั้นก็ปะทะกับความหนาวเย็นวูบวาบแปลก ๆ จนสับสนไปหมด แขนอ่อนนุ่มลุกชันทุกขณะ หัวไหล่สั่นระริกโดยที่ฉันควบคุมไม่ได้ หัวใจเต้นรัวแรงผิดจังหวะ เร็วจนเหมือนกลองที่ถูกเร่งจังหวะไม่หยุด ยิ่งนาทีผ่านไป การหายใจก็ยิ่งติดขัด เหมือนมีมือใครบางคนบีบแน่นเข้าที่หน้าอกทุกที ฉันมองมือที่สั่นเทาและเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆ อย่างสับสน “อะ…อื้อ…” ฉันเผลอพึมพำ มือคว้าโต๊ะไว้แน่น แต่กลับเหมือนหมดแรง นิ้วแข็งชาไม่ตอบสนองตามใจสั่ง เหงื่อเย็นไหลลงขมับทั้งที่ในอกกลับร้อนราวกับถูกเผา กลิ่นแอลกอฮอล์รอบตัวเริ่มแรงจนเวียนหัวเหมือนถูกกดเข้าไปในหมอกควัน ฉันพยายามหายใจแต่ไม่อากาศไหลเข้าเลยสักนิด สายตาเริ่มพร่า ร่างคนรอบข้างกลายเป็นเพียงเงาเคลื่อนไหว เสียงเพลง EDM ที่เมื่อครู่ยังชัดเจนกลับกลายเป็นเสียงก้องทุ้มพร่า ๆ ในหูเหมือนอยู่ใต้น้ำ บางครั้งแหลมจนปวดหัวราวกับสมองจะระเบิด “เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงเจดังใกล้หู เขาก้มเข้ามา ใบหน้าของเขาก็ยังพร่ามัวเหมือนภาพเบลอในกระจกฝ้า “ฉะ…ฉัน…ร้อน…แต่ก็หนาว…หายใจ…ไม่ออก…” เสียงหลุดออกมาเป็นคำขาดห้วง แหบพร่าเหมือนลำคอแห้งผาก ร่างกายฉันเอนเซไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว ทุกแรงพยายามเหมือนถูกดูดออกจากร่าง ก้าวขาจะขยับยังยากยิ่ง มือสั่นเกินกว่าจะหยิบแก้วน้ำเองได้ ภาพเพื่อน ๆ บนฟลอร์เต้นรำยังอยู่ตรงหน้า แต่เหมือนอยู่ไกลออกไปหลายสิบเมตร ฉันพยายามเอื้อมสายตาหา ริมฝีปากสั่นพึมพำชื่อใครบางคนที่ไม่ได้ยินแม้แต่ตัวเอง หัวใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้งก่อนสะดุดวูบเหมือนขาดจังหวะ ฉันกลืนน้ำลายแทบไม่ลง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันกินเหล้า และนี่มันไม่ใช่ “เมา” ธรรมดาแน่ๆ ปะ แปลกก…แปลก…จริง ๆ “ฉะ…ฉัน…ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฉันพึมพำเสียงแผ่ว พยายามดันเก้าอี้ออก แต่แรงในร่างกายกลับแทบไม่เหลือ ขาแทบก้าวไม่ออก แต่ฉันก็ฝืนลากตัวเองออกมาจากโต๊ะ เสียงเพลงและแสงไฟในร้านยิ่งทำให้เวียนหัวมากขึ้น ร่างกายทั้งร้อนทั้งหนาวสลับกันจนสับสน ทันทีที่เลี้ยวมาตรงทางเดินไปห้องน้ำ ฉันชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง “โอ๊ย…” ฉันเซเกือบล้ม แต่แขนแข็งแรงคู่หนึ่งคว้าไหล่ฉันไว้ทัน ฉันเงยหน้าขึ้น—แล้วหัวใจแทบหยุดเต้น ไค… เขาขมวดคิ้วมองฉันทันที “โมอา? เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดแบบนี้” ฉันพยายามฝืนยิ้ม มือกดที่ท้องเหมือนจะบังอาการ “ไม่…ไม่เป็นไร ฉันแค่…อยากเข้าห้องน้ำ” น้ำเสียงฉันสั่นแหบ หอบหายใจติดขัดจนฟังออกว่าไม่ปกติ ไคจ้องฉันนิ่ง สีหน้าเข้มขึ้นกว่าเดิม “ไม่ใช่ ‘ไม่เป็นไร’ หรอก” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำเหมือนกำลังข่มอารมณ์โกรธในน้ำเสียง “เดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว” ฉันเม้มปากแน่น พยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ขาอ่อนแรงจนแทบก้าวไม่ออก “โมอา!” เขาเอื้อมมือมาจับแขนฉันแน่น น้ำเสียงเริ่มร้อนรน “เกิดอะไรขึ้น ดื่มอะไรไปบ้าง” ฉันส่ายหน้าแรง ๆ เหงื่อเย็นผุดเต็มหน้าผาก “ฉัน…ไม่รู้…ขอเข้าห้องน้ำก่อน…” เขามองฉันอีกวูบเดียว ก่อนพยักหน้า “ไป เดี๋ยวฉันไปด้วย” ฉันแทบไม่ทันรับรู้แล้วว่าตัวเองเดินยังไง แขนของเขาพยุงฉันไว้แน่นตลอดทาง ความร้อนในอกสลับกับความหนาววูบวาบทำให้สติพร่าเลือน ร่างกายฉันเริ่มหนักขึ้นทุกขณะ จนแทบจะลากเท้าไม่ไหว แขนที่เกาะแขนไคไว้สั่นระริกเหมือนจะหมดแรง เหงื่อใสๆ เย็นๆ ซึมออกมาจากหน้าผากผุดผ่องตลอดเวลา “โมอา!” ไคตวัดสายตามองฉันเต็ม ๆ อีกครั้ง สีหน้าคมเข้มเคร่งเครียดทันที “นี่มัน…อาการโดนวางยานี่หว่า กินอะไรเข้าไปบ้าง” หัวใจฉันกระตุกวูบ แต่แทบไม่มีแรงเอ่ยอะไรนอกจากหอบหายใจถี่ ร่างกายร้อนวูบวาบเหมือนเปลวไฟเผาจากด้านใน สลับกับเหงื่อเย็นที่ไหลพรั่งพรูไม่หยุด “ฮะ…หายใจ…ไม่ออก…ร้อน…ไปหมด…” ฉันพึมพำ เสียงพร่าแทบไม่เหมือนตัวเอง "กินอะไรเข้าไปบ้าง จำได้ไหม” ไคประคองฉันเข้ามาในมุมเงียบแถวห้องน้ำหญิง แขนแกร่งโอบแน่นไม่ให้ฉันล้ม ร่างฉันเอนเข้าหาอกเขาโดยไม่ตั้งใจ เหมือนว่าร่างกายกำลังเรียกร้องอะไรบ้างอย่าง "แก้วสีชมพูนั่นอ่ะ บะ บนโต๊ะ" “เวรเอ๊ย…” เขากัดฟันกรอด มองสภาพฉันที่หน้าแดงจัด ดวงตาพร่ามัว มือสั่นไม่หยุด “ใครมันทำแบบนี้กับเธอ” ร่างกายฉันสั่นระริกเหมือนจะควบคุมไม่ได้ ความร้อนที่แผ่ซ่านทำให้หัวใจเต้นแรงเกินทน ฉันเผลอซุกหน้าลงกับอกเขาอย่างหมดแรง กลิ้นน้ำหอมที่ผสมกับเหงื่อของร่างสูงยิ่งทำให้จิตใจของฉันคิดฟุ้งซ่านไปไกล อยากให้เราอยู่ใกล้กันมากกว่านี้ “ไค…ฉัน…มันร้อน…ไปหมดเลย” เสียงฉันขาดห้วง สั่นพร่า และเต็มไปด้วยความสับสน เขาก้มลงมองฉัน ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความโกรธและกังวลในเวลาเดียวกัน มือใหญ่จับแขนฉันแน่นเหมือนกำลังตัดสินใจ “ตั้งสติไว้โมอา…เธอโดนวางยาแน่ ๆ ฉันจะไม่ปล่อยให้เป็นอะไรไปเด็ดขาด” แขนฉันอ่อนแรงเกินจะพยุงตัว ร่างทั้งร้อนทั้งหนาวจนแทบไม่รู้สึกอะไรแล้วนอกจากสัมผัสแข็งแรงที่โอบรัดอยู่ข้างเอว ไคก้มลงสบตาฉันเพียงเสี้ยววินาที ก่อนตัดสินใจเด็ดขาด “ฉันจะพาเธอกลับเดี๋ยวนี้” เขาพยุงฉันเดินออกมาจากโซนห้องน้ำ มุ่งหน้าไปทางฟลอร์ที่เพื่อน ๆ กำลังเต้นกันอยู่ เสียงเพลงดังก้อง แต่เขากลับฝ่าฝูงชนตรงไปหาโต๊ะที่มีกระเป๋าและแก้วเหลืออยู่ “แอล! มิ้น! คิอาร่า!” ไคตะโกนเรียกเสียงดังพอจะกลบจังหวะเพลงได้ เพื่อนทั้งสามหันขวับมา พอเห็นฉันอยู่ในอ้อมแขนเขา หน้าทุกคนก็เปลี่ยนสีในทันที รีบวิ่งกรูเข้ามา “เฮ้ย โมอา! เป็นอะไรเนี่ย?!” มิ้นร้องเสียงสั่น มือจะคว้าไหล่ฉันแต่ไคกันไว้ก่อน “เหมือนจะโดนวางยา” ไคพูดเสียงแข็ง สีหน้าเอาจริงจนทุกคนชะงัก “ฉันจะพาโมอากลับ ตอนนี้เลย” คิอาร่ากัดริมฝีปาก มองฉันแล้วพยักหน้าหนักแน่น “ไปเถอะไค ดูจากอาการแล้ว…น่าจะกินไปเยอะ” แอลที่ปกติร่าเริงก็เงียบลงไปทันที ก่อนถอนหายใจแรง “โอเค พาไปเลย เดี๋ยวพวกเราจัดการของที่เหลือเอง” ขณะที่มิ้นกะพริบตาถี่ ๆ น้ำตารื้น “ฉันจัดการเอง” ไคตอบสั้น ๆ แต่มั่นคง แขนแกร่งกระชับฉันแน่นขึ้นอีกครั้ง ไค ประคอบฉันไปที่รถของเขาอย่างยากลำบากเพราะฉันเริ่มไร้เรี่ยวแรง มันเวียนหัวและตาพร่าไปหมด กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ที่คุ้นเคยทำให้ฉันคล้ายจะวางศีรษะซบโดยไม่ตั้งใจ ไครู้สึกได้ว่าร่างของฉันอุ่นขึ้นจนผิดปกติ เหงื่อใสๆผุดตามไรผมทั้งที่อากาศในผับไม่ได้ร้อนขนาดนั้น “ไค…” เสียงฉันแผ่วเบาจนแทบเป็นลมหายใจ “เรามึน… ตาพร่า” “รู้” เขาตอบสั้นๆ แต่สายตาอ่อนลงทันที “มองหน้าฉันไว้นะ โมอา ถ้าพูดไม่ถนัดก็พยักหน้าก็ได้” เขาดึงเสื้อแจ็กเก็ตถอดคลุมไหล่ที่สั่นระริกของฉัน บดบังสายตาคนผ่านไปมา “เดี๋ยวฉันโทรเรียกความช่วยเหลือก่อน” ไคหยิบโทรศัพท์ โทรหาใครสักคนที่เหมือนจะรู้จักับเจ้าของผับ “ภู กุเอง มึงมาจัดการ โต๊ะ 19 ให้กุที มีคนโดนวางยา ช่วยส่ง รปภ. มาที่หน้าทางออก ฝั่งซ้ายด้วย แล้วเก็บแก้วบนโต๊ะของโมอาไว้หน่อย แล้วแจ้งให้เช็กกล้องช่วงยี่สิบนาทีที่แล้วด้วย” น้ำเสียงของเขายังคงนิ่งแต่เร่งด่วน ไม่นาน รปภ. สองคนก็มาถึง ไคพยักหน้าให้หนึ่งในนั้น “ช่วยกันคนที่เข้ามาส่งแก้วให้โมอาเมื่อกี้ด้วย กุเห็นหน้า ขึ้นผ้าพันคอลายหมากรุก เดินไปทางบูธดีเจ” อีกคนรีบเข้าไปด้านใน ขณะที่ผู้จัดการสาวถือถุงซิปล็อกกับถุงมือเดินมาตามที่เขาขอ ไคก้มตัวลงอีกครั้ง ดวงตาระวังระไวแต่เสียงอ่อน “ขอโทษนะ จำได้ไหมว่าเธอดื่มอะไรไปบ้าง” “ค็อก…เทลแก้ว…ชมพู” เธอขมวดคิ้ว เห็นภาพจำขาด ๆ หาย ๆ “เหมือนหวาน…แล้วก็ขมแปลก ๆ” ไคข่มแรงโกรธที่แล่นผ่านทันทีเหมือนเปลวไฟชั่วแล่น เขาหันไปบอกภูที่รีบปรี่เข้ามาหลังจากที่วางโทรศัพท์ “แก้วชมพูโต๊ะ 19 เก็บไว้เลย เดี๋ยวกุมาจัดการ” แล้วหันกลับมา “โอเค เราไปกัน” เขายืนบังให้เธอลุกขึ้น ค่อย ๆ ประคองผ่านแสงแฟลชจากโทรศัพท์ของคนบางส่วนที่กำลังถ่ายสตอรี่ ไคเลื่อนตัวเข้าบดบังภาพ มือหนายกเสื้อคลุมขึ้นมาปิดหน้าของฉันไว้ และใช้ไหล่และแผ่นหลังเป็นกำแพงจนพ้นสายตา ก่อนจะพาไปขึ้นรถของเขาที่จอดหน้าผับ “โมอา เดี๋ยวพาไป รพ นะ ” เขาก้มกระซิบชิดหู เสียงทุ้มของเขาผ่านกระดูกไหปลาร้าเหมือนเม็ดฝนกระทบผิว “มะ ไม่ไป กะ กลับบ้าน” "อืม กลับบ้านกัน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD