ตอนที่ 9 ปี 1980 (2)

1102 Words
““เรื่องนี้ต้องจบลงที่รุ่นของเรา!!!” ลี่หมิงหงส์ทุบโต๊ะด้วยความมาดมั่น ทว่าการกระทำอันอาจหาญของเธอไม่ได้ปลุกใจพ่อหรือพี่สาวของเธอแม้แต้น้อย เพราะตอนนี้ผู้เป็นพ่อและพี่สาวแทบจะหัวใจวายตายคาโต๊ะอาหารเพราะตั้งแต่เด็กจนโต ลี่หมิงหงส์ไม่เคยแม้แต่จะเถียงใครเลยด้วยซ้ำ เธอใจดีถึงขนาดเผื่อแผ่เลือดตัวเองให้ยุงกิน หมากัดเธอก็ยังลูบหัวมัน หญิงสาวใจดีดุจนางฟ้าได้หายไปแล้วหรืออย่างไรกัน? พี่สาวและพ่อได้แต่คิดในใจแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา......." หมิงหงส์ เธอเสียสติไปแล้วเหรอ จบอะไรกัน? พูดจาไม่รู้เรื่องเลย นี่พ่อนะเธอจำไม่ได้เหรอ ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยขึ้นเสียงกับพ่อมาก่อน นี่เกิดอะไรขึ้น” หมิงซิงพี่สาวคนโตผุดลุกด้วยความไม่พอใจ (ไม่ได้การล่ะ นี่ฉันคงเล่นใหญ่เกินไปใช่มั้ย? พวกเขาคงไม่จับฉันส่งโรงพยาบาลหรือจับขังหรอกใช่มั้ยนะ? เอาไงดีล่ะ ถ้าลองแกล้งป่วยก็คงได้ผลแหล่ะดูท่าอาม่าหมิงหงส์ก็คงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ด้วย เออ...เอาล่ะ แกล้งเป็นลมไปเลยล่ะกัน) “พี่ใหญ่...ฉัน...” เรื่องการเอาตัวรอดเป็นยอดดีมีติดตัวอยู่ในกระแสเลือดของลี่ลู่เสียนมาตั้งแต่จำความได้ เธอรู้แล้วว่าพลาดไปกับการพูดสิ่งที่ไม่ควรพูด การทะเลาะกับครอบครัวในยามนี้คงไม่เหมาะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็แสร้งเป็นลมและสลบไปทันที คงเพราะการแสดงระดับออสการ์ของลี่ลู่เสียน เธอเลยเผลอล้มลงหัวกระแทกพื้นเข้าจริง ๆ ตอนนั้นลี่ลู่เสียนเจ็บมากแต่ไม่สามารถแสดงออกได้ เธอเลือกจะหลับกลางอากาศไปเลย แล้วเสียงร้องด้วยความตกใจของพี่สาวและพ่อดังขึ้นตามที่เธอตั้งใจ เธอหลับตาลงภาวนาให้ตัวเองหลับไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องพูดอะไรอีก “คุณหนูลี่ ผมเตรียมรถพร้อมแล้วครับ” คนรถประจำตัวของลู่เสียนแต่งตัวเนี๊ยบกว่าปกติเพราะวันนี้เขาต้องเป็นสารถีพาเธอไปงานฉลองรับตำแหน่ง CEO ลู่เสียนพยักหน้าให้คนรถก่อนจะก้าวเข้าไปด้านใน แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตากลั่นแกล้งหรืออย่างไร เจ้าหมาน้อยตันตันของเธอดันวิ่งมาตัดหน้ากันเสียอย่างนั้น “โฮ่งๆ” เสียงแหลมเล็กของตัน ๆ ดังขึ้นโดยที่ลู่เสียนไม่ทันเห็น เธอกำลังจะหันไปแต่เจ้าตัวเล็กก็วิ่งลอดใต้หว่างขาของเธอไปอย่างรวดเร็ว ลู่เสียนที่ใส่ส้นสูงเกือบ 3 นิ้วหงายหลังไปทันที ตอนนั้นเธอไม่ได้ตั้งหลักเพราะทุกอย่างเกิดเร็วมาก เธอหัวกระแทกขอบบันไดจนหมดสติไป เสียงเห่าของตันตันดังรัวๆ ขึ้นตามประสาหมาชิวาว่าที่พิศวาสกับการเห่าเป็นเสียงเล็ก ๆ แต่เสียงโวยวายของเหล่าแม่บ้านและคนรถน่าจะดังกว่า “เฮือก!!!” ลี่ลู่เสียนสะดุ้งเฮือกจากเตียง เหงื่อชุ่มไปทั้งตัว “ฉันตายแล้วหรอ ลู่เสียน เธอตายแล้วงั้นรึ?” ลู่เสียนเอามือของลี่หมิงหงส์ค่อย ๆ ลูบไปบนตัวของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกลัวจับใจ “ไม่สิ ไม่หรอก ฉันจะตายเพราะสะดุดหมาชิวาว่าล้มไม่ได้นะ โอวมายก้อด! สภาพฉันตอนนั้นเป็นยังไงนะ คงไม่แย่มากหรอกใช่มั้ย? ไม่หรอกน่า! พวกคนที่บ้านต้องไม่ปล่อยให้ฉันสภาพดูไม่ได้แน่ๆ” ลี่ลู่เสียนส่ายหัวไปมาอย่างกับคนประสาทเสีย “เอาล่ะ ฉันลี่ลู่เสียนจะตายทั้งทีก็ต้องสง่างามเท่านั้น ฉันมั่นใจว่าเธอต้องยังไม่ตายแน่ลู่เสียนได้โปรดรอฉันด้วย...ฉันต้องกลับไปได้แน่” ลี่ลู่เสียนมองไปนอกหน้าต่างราวกับว่าจะสื่อจิตสื่อใจกับร่างของเธอในปี 2020 ให้จงได้ ยังไงซะเธอก็คงต้องทนอยู่ที่นี่ไปก่อน ไม่นานหรอกเธอคงหาทางกลับร่างเดิมได้อย่างแน่นอน “คุณหนู” เสียงของหนิงเหอดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นคุณหนูของเธอฟื้นขึ้น สาวใช้เอามือขยี้ตาเบา ๆ แล้วมองมาที่ ลี่หมิงหงส์ด้วยสีหน้างัวเงีย “อะไรกันเธออยู่นี่ตลอดเหรอ?” ลู่เสียนเอ่ยถามสาวใช้ “ใช่ค่ะ คงเพราะคุณหนูป่วยบ่อยช่วงหลังมานี้ นี่ก่อนคุณหนูจะเป็นเช่นนี้ก็เพิ่งสลบไปเกือบ 3 วัน เลยทำให้พลาดการดูตัวไปเมื่อคราวที่แล้ว น่าเสียดายคุณชายซู่คนนั้นหน้าตาดีเชียว” หนิงเหอพูดด้วยความรู้สึกเสียดาย “อย่าเหลวไหลน่ะ คนเรามองแค่หน้าตาไม่ได้หรอก มันต้องขึ้นกับตรงนี้ด้วย” ลู่เสียนเอามือแตะไปที่หน้าอกของตัวเอง “คุณหนู ทำไมคิดทะลึ่งแบบนั้นล่ะคะ ผู้หญิงน่ะไม่ต้องหน้าอกใหญ่โตก็มีสามีได้หรอกค่ะ” หนิงเหอหน้าแดงเพราะเข้าใจผิดคิดว่าลู่เสียนหมายถึงหน้าอกหน้าใจของสตรี “ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงหัวใจต่างหากล่ะ” ลู่เสียนนิ่วหน้า “คุณหนู การออกเรือนน่ะดูกันที่หน้าตาและฐานะก็ถูกแล้วนี่คะ คิดดูว่าถ้าคุณหนูไปหลงรักชาวนา หรือหนุ่มโรงงานเข้า คุณหนูจะใช้ชีวิตลำบากมากแค่ไหน?” หนิงเหอเอ่ย “ไม่เห็นยากฉันก็มีเงินนี่นา สามารถเลี้ยงดูผู้ชายได้ ผู้หญิงหัวสมัยใหม่ต้องรวยเองและรู้จักเปย์สิ ไม่ใช่รอให้ผู้ชายมาเปย์ให้อย่างเดียว” “เปย์ คืออะไรคะ?” หนิงเหอเกิดมาหลายปีก็ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน “จ่ายไง ก็ประมาณเลี้ยงดูน่ะ” “อุ้ย!ตาย ไม่มีหรอกค่ะผู้หญิงที่ไหนจะเลี้ยงดูผู้ชาย ผู้ชายสิคะต้องเลี้ยงดูผู้หญิง” หนิงเหอเอ่ยกลับ “No No ผู้หญิงยุคใหม่น่ะ ไม่รอให้ใครเลี้ยงแต่ต้องเลี้ยงคนที่รักได้ต่างหาก จำไว้นะหนิงเหอ” ลู่เสียนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้หนิงเหอได้แต่พยักหน้ารับ อันที่จริงเธอก็ไม่ชอบการที่ต้องปรนนิบัติผู้ชายอย่างที่ลี่หมิงหงส์พูด เลยเห็นด้วยว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องคิดแบบนั้นก็ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD