“ที่นี่มันที่ไหนกัน ของก็เก่าคร่ำครึขนาดนี้” ลี่ลู่เสียนรู้สึกร่างกายเริ่มมีแรงขึ้นมา..เริ่มมองไปรอบ ๆ ห้องแล้วเธอเห็นกระจกเงาที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเตียงของเธอมากนัก หัวใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นตระหนก ลมหายใจขาดเป็นห้วง ๆ เนื่องด้วยภาพที่สะท้อนในกระจกนั้นหาใช่เธอแม้แต่น้อย ลี่ลู่เสียนค่อย ๆ ลุกจากเตียงไม้แล้วเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งโบราณที่ตั้งอยู่ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เงาสะท้อนนั้นก็ยิ่งแจ่มชัด เงาของร่างกายนี้เป็นหญิงสาวสวยคนหนึ่ง... ไม่สิ! จัดว่าสวยงดงามไม่ต่างจากเธอ แต่มันแย่ตรงที่...
“นี่มันใครกันวะเนี้ย!!!” ลี่ลู่เสียนสบถออกมาในจังหวะที่มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาพอดี ชายวัยกลางคนกำลังมองมาที่เธอด้วยสีหน้าตกใจ ส่วนสาวใช้ที่เธอพบในตอนแรกก็หน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินประโยคที่เธอพูดออกมา ....ลี่ลู่เสียนมองสีหน้าของพวกเขาผ่านเงาสะท้อนในกระจก ก่อนจะหันไปมองพวกเขาอีกครั้งแบบซึ่ง ๆ หน้าแล้วคลี่ยิ้มออกมาช้าๆ
“เมื่อกี้ พูดว่าอะไร?” ชายกลางคนมองลี่ลู่เสียนด้วยสายตาตกตะลึง
“คะ คือ สงสัยหนูจะไม่ค่อยสบายมั้งคะ?”
“หนู???” ชายวัยกลางคนรีบปรี่เข้ามาหาลี่ลู่เสียน จนเธอต้องหลุบตาเพราะไม่กล้าสบตากับเขาตรงๆ
“คุณหนูลี่ น่าจะไม่สบายจริง ๆ ค่ะนายท่าน ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”
“ไปตามหมอมา เดี๋ยวนี้เลย!” ชายวัยกลางคนหันไปสั่งสาวใช้ แล้วเธอก็พยักหน้าหงึก ๆ พร้อมวิ่งออกไปจากห้องนอนของลี่ลู่เสียนอีกครั้ง
“ทำไมต้องวุ่นวายด้วยคะ” ลี่ลู่เสียนแอบต่อว่าชายตรงหน้า
“ลูกน่ะ แปลก ๆ นะ หนิงเหอบอกว่าลูกพูดจาประหลาด แล้วเมื่อครู่นี่ก็ด้วย พ่อ...ชักเป็นห่วงแล้วนะว่าลูกจะไม่สบายหนักไปอีก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง พลางจับไหล่ของลี่ลู่เสียนให้นั่งลง
“หนูสบายดีค่ะ”
“ดูยังไงก็ไม่มีทางสบายแน่” ผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ช่างเถอะค่ะหนูขออยู่คนเดียวจนกว่าหมอจะมาได้มั้ยคะ?” ตอนนี้ลี่ลู่เสียนรู้สึกสับสน เธอค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองน่าจะกำลังฝันอยู่ และต้องทำตัวตามธรรมเนียมของที่นี่ตามน้ำไปก่อนด้วยจะได้ไม่ถูกมองว่าเป็นคนประหลาด เพียงแต่ตอนนี้เธอต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าที่นี่มันคือยุคสมัยไหน
รออยู่เพียงไม่นาน..หมอก็เดินทางมาถึงห้องของเธอ เขาสวมชุดหมอจีนสีดำเข้ามาพร้อมกระเป๋าเครื่องมือ เมื่อเห็นดังนั้น หนิงเหอสาวใช้ก็พยุงร่างของลี่ลู่เสียนให้นอนลง คุณหมอโค้งให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มจับชีพจรแล้วตรวจร่างกายโดยรวม
“เป็นอย่างไรบ้าง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล
“ปกติ แข็งแรงดีทุกอย่าง”
“แล้ว ลูกสาวข้าทำไมดูแปลก ๆ พูดจาวกวนเหมือน...จำอะไรไม่ได้ด้วย”
“อืม...เท่าที่ข้าดูเหมือนชีพจรคุณหนูจะเต้นไม่เป็นจังหวะเท่าไหร่ งั้นเดี๋ยวข้าจะจัดยาเอาไว้ให้บำรุงเลือดเสียหน่อยก็คงดี อีกอย่างเรื่องความทรงจำเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ลองพูดคุยกันดูก่อน อย่าเพิ่งวิตกกังวลมากเกินไปเลย” ท่านหมอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อจัดยาให้กับลี่ลู่เสียนแล้ว พ่อของร่างนี้ก็พาหมอออกไปส่งด้านนอก คงเหลือเพียงลี่ลู่เสียนกับหนิงเหอสาวใช้ที่อยู่กันเพียงลำพัง
“นี่ เธอชื่อหนิงเหอสินะ เป็นแม่บ้านของฉันเหรอ” ลี่ลู่เสียนใช้โอกาสนี้สอบถามคนใกล้ตัวเธอตอนนี้มากที่สุดเพื่อสอบถามทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
“เอ่อ...ฉันชื่อหนิงเหอ เป็นสาวใช้ของคุณหนูค่ะ” เธอตอบเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้ออกมา พลางมองหน้าลี่ลู่เสียนด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
“จะร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้จะตายสักหน่อย เอ๊ะ! หรือว่า...ฉันจะตายไปแล้วล่ะ” ลี่ลูเสียนกระซิบถามหนิงเหอ
“คุณหนูพูดอะไรเป็นลางร้ายเช่นนั้นคะ คุณหนูของหนิงเหอแข็งแรง สดใสเป็นปกติดีนะคะ ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”
“ฮ่า ๆ เธอนี่ขี้แยไปหน่อยนะ เอางี้...บอกมาสิว่านี่ปีไหน?”
“ปีนี้ ค.ศ. 1980 ค่ะ”
“1980!!!” ลี่ลู่เสียนลมแทบจับ นี่มันอะไรกันเนี่ย!!
“คะ มีอะไรน่าตกใจหรือคะคุณหนู”
“มันคงเป็นเรื่องน่าตกใจของฉันคนเดียวนั่นแหล่ะ เอาล่ะ ๆแล้ว...ตาลุง เอ้ย! พ่อของฉันชื่ออะไร?” ลี่ลู่เสียน พยายามรักษาสีหน้าไม่ให้ตื่นตระหนกทั้งที่ข้างในเธอแทบจะสติแตกอยู่รอมร่อ
“นายท่าน ลี่ซีอัน เป็นคุณพ่อของคุณหนู ลี่หมิงหงส์ ค่ะ” สาวใช้รายงาน
“ลี่ชีอัน แล้วฉันคือ ลี่หมิงหงส์”
“ค่ะ”
“เอางี้นะในฐานะที่เธอน่าจะเป็นคนสนิทที่สุดของฉัน ฉันจะบอกให้ว่าแท้ที่จริงแล้วฉันชื่อ"ลี่ลู่เสียน..กำลังจะรับตำแหน่ง CEO ห้าง สรรพสินค้าลี่หงส์... ก่อนจะมาที่นี่ฉันกำลังแต่งตัวสวยๆ อลังการเตรียมไปงานฉลองรับตำแหน่ง...แล้วก็นั่นแหละ ฉันก็มาอยู่ที่นี่ คือ...ฉันไม่ใช่คุณหนูลี่ของเธอ แต่เป็นคุณหนูลี่ทายาทห้างสรรพสินค้าลี่หงส์ ที่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย? ฮ้ะ?” ลี่ลู่เสียนเห็นว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วเลยมองหาพวกเสียจะดีกว่า แต่สายตาที่หนิงเหอมองมาที่เธอนั้นมีแต่ความผิดหวังระคนความเอือมระอา มืออ่อนบางของเธอจับไหล่ของลี่ลู่เสียนอย่างแผ่วเบาพลางฝืนยิ้มจนหน้าเกร็ง
“คุณหนูนอนพักก่อนดีกว่าค่ะ ดูท่าเมื่อวานจะตากแดดนานไปหน่อย” เธอเอ่ยพร้อมประคองลี่ลู่เสียนให้นอนลง
“เอ่อ...นอนใช่ ๆ นี่คงเป็นแค่ความฝันอ่ะเนอะ ดีเลยฉันต้องรีบนอนแล้วจะได้ตื่นไปทันงานเลี้ยงสักที” ลี่ลู่เสียนเพิ่งนึกได้ว่าเธอคงฝันไป เลยรีบตะแคงตัวนอนอย่างรวดเร็ว ..เธออมยิ้มเล็ก ๆ ให้กับตัวเอง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงทุกอย่างก็น่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เธอจะได้กลับไปเป็นคุณหนูลี่ที่ใคร ๆ ก็ต้องก้มหัวให้ คอยดูเถอะถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเธอจะแกล้งพวกกรรมการที่ดูถูกเธอซะให้เข็ดเลย