“อะไรนะ นางบอกจะเลี้ยงดูสามีเองยังงั้นเหรอ?” หัวใจของผู้เป็นพ่อแทบเต้นเป็นจังหวะซุมบ้า เขาถลึงตามองหนิงเหอรายงานคำพูดแปลก ๆ ของลูกสาวก็ได้แต่ท้อใจ
“ค่ะ คุณหนูบอกว่าผู้หญิงสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ชายมาเลี้ยงดู แต่ต้องเลี้ยงดูผู้ชายได้ ดังนั้นหากคนที่คุณหนูชอบเป็นชาวนาหรือหนุ่มโรงงานคุณหนูก็ไม่สนค่ะ เพราะคุณหนูจะเอาเงินไปเลี้ยงดูสามีเอง” หนิงเหอสรุปด้วยความภาคภูมิใจ แต่กลับสร้างความโมโหให้กับลี่ชีอันมากกว่า ชายวัยกลางคนเอามือทุบไปบนเก้าอี้โยกตัวโปรดก็จะสะบัดมันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
“นายท่าน”
“ขอบใจมากที่มาเล่าให้ฟัง เดี๋ยวฉันรอดูอาการนางหน่อยแล้วกัน ออกไปได้แล้ว” ลี่ชีอันให้สาวรับใช้ของลูกสาวออกจากห้องไป ไม่รู้เคราะหซ้ำกรรมเคราะห์หรืออย่างไร ทั้งที่หมิงหงส์ดีมากขนาดนี้ เป็นลูกสาวที่เขาภูมิใจแต่พอถึงเวลาต้องออกเรือนดันต้องมาป่วยเป็นโรคประหลาดแบบนี้ได้ไงกัน
“จะเปย์ผู้ชายงั้นเหรอคิดไปได้!!” ลี่ชีอันส่ายหัวอย่างหนักใจ
ตกกลางคืนด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ลี่ชีอันเลยยกข้าวต้มไปให้หมิงหงส์ที่ห้องนอน เมื่อเห็นบุตรสาวนอนอยู่เขาก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ นึกถึงผู้เป็นภรรยาจับหัวใจ อันที่จริงแล้วหมิงหงส์เหมือนแม่ไม่มีผิดทั้งหน้าตา ทั้งนิสัยใจคอ เสียดายหลังจากเธอจากไปเมื่อ 10 ปีก่อนเขาก็เอาแต่ทำงานเพื่อหาเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสามให้ดีที่สุด จนกระทั่งหมิงหงส์ต้องมาป่วยอย่างน่าเศร้าเช่นนี้
“หมิวหงส์พ่อเอาข้าวมาให้” เสียงของลี่ชีอันทำให้ร่างของลูกสาวสะดุ้งเล็ก ๆ เธอรีบลุกจากเตียงแล้วยื่นมือไปรับถาดอาหารจากพ่อโดยเร็ว
“ขอบคุณค่ะ”
“เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างมั้ย?”
“ไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ ที่จริงเรื่องดูตัว พ่อคิดว่าเลื่อนไปก่อนจะได้มั้ยคะ” ลี่ลู่เสียนถือโอกาสโน้มน้าวพ่อไปในตัว
“ก็คงต้องแบบนั้นแหล่ะ ขืนไปตอนนี้เขาก็คงส่ายหัวอย่างเดียว”
“ขอบคุณค่ะ พ่อน่ารักที่สุด” หมิงหงส์ยิ้มกว้าง
“น่ารัก? ทำไมลูกพูดกับพ่อเหมือนพ่อเป็นเด็ก ๆ ไปได้” แม้จะผิดหูไปบ้างแต่ลี่ชีอันก็รู้สึกกระชุ่มกระช่วยไม่น้อยที่ถูกชมว่า น่ารัก เพราะเขาไม่ได้ยินคำนี้มาเกือบ 60 ปีได้แล้วมั้ง
“น่ารักไม่ได้ใช้กับเด็กเท่านั้นนะคะ สามารถใช้กับทุกคนที่ทำตัวดีได้ด้วย”
“อ่อ” ผู้เป็นพ่อพยักหน้าอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ “เอางี้สิ ลูกออกไปเที่ยวตลาดดูมั้ยล่ะ ไปเปิดหูเปิดตาบ้างนอนอยู่แต่ในห้องอยู่หลายวันคงไม่ดีเท่าไหร่” ชีอันเสนอให้ลูกสาวไปเปิดหูเปิดตาเผื่อว่าอาการประหลาดของลูกสาวจะหายไปบ้าง
“ได้เหรอคะ?”
“อืม เดี๋ยวพ่อเรียกหนิงเหอมาจัดเสื้อผ้าให้ลูกเอง แล้วก็นี่เอาเงินไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับที่ลูกชอบเถอะ แต่งตัวสวยๆ บ้างจะได้กระชุ่มกระช่วย” ชีอันหยิบถุงเงินมอบให้ลูกสาว ลู่เสียนได้จับถุงเงินก็รู้สึกดีขึ้น แม้จะติดอยู่ในยุคสมัยนี้แต่การมีเงินจับจ่ายไม่ว่าจะยุคไหนก็ดีเสมอ
“ได้เลยค่ะหนูจะไปช้อปปิ้งให้สุดๆ ไปเลย” เธอยิ้มกว้าง
“ชะ ช้อปปิ้ง…สุดๆ ไปเลย??” ชีอันงุนงงกับศัพท์แสงแทยงหูที่เขาได้ยินจากหมิงหงส์ก็ได้แต่ถอนหายใจ (เอาเถอะรอดูไปก่อนถ้าอาการย่ำแย่ค่อยหาทางอีกทีแล้วกัน) ลี่ชีอันส่ายหน้าแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ
หนิงเหอหยิบกี่เพ้าสีน้ำเงินเข้มปักลายดอกไม้สีสันงดงามมาให้คุณหนูลี่ของเธอ เนื้อผ้าเงาระยับบ่งบอกถึงราคาที่มากโขของชุดชุดนี้ ลู่เสียนมองก็ได้แต่ยิ้มต้นตระกูลของเธอนี่รวยมาตั้งแต่ต้นสินะ ช่างเป็นบุญของเธอจริง ๆ แม้จะอยู่ในยุคที่อาจจะไม่ได้สะดวกสบายแต่เธอก็ร่ำรวยมากพอจะอยู่ดีกินดี รวมถึงใช้ชีวิตฟุ่มเฟื่อยได้เหมือนอีกร่างหนึ่ง
“ชุดยาวไปหน่อยมั้ยนะ” เธอเอ่ย
“คะ? อะไรยาวนะคะคุณหนู”
“ชุดยาวไป หนิงเหอเธอเย็บเสื้อได้มั้ย?”
“ได้สิคะคุณหนู”
“เอาความยาวออกหน่อย”
“คะ? จะ...จะเอาออกยังไงคะคุณหนู เขาก็ใส่กันแบบนี้ทั้งนั้นนะคะ”
“เอาน่าเดี๋ยวฉันจะทำให้ดูว่ามันจะออกมาเป็นยังไง?” ลี่ลู่เสียนรู้สึกสนุกขึ้นมาเลยเอากรรไกรตัดชุดกี่เผ้าราคาแพงออกเป็นคืบ หนิงเหอได้แต่ยืนตะลึงด้วยความตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกระพริบตาปริบ ๆ ยอมรับสภาพไป
“เอาล่ะ เท่านี้ก็น่าจะพอยังไงเหอหนิงเย็บเก็บปลายให้หน่อยแล้วเดี๋ยวเราไปตลาดกัน”
ลู่เสียนใส่กี่เพ้าความยาวประมาณคลุมเข่า อันที่จริงอยากให้สั้นกว่านี้ด้วยซ้ำแต่ก็เกรงว่าคนในยุคนี้จะไม่คุ้นตา เธอหยิบเครื่องสำอางที่เจ้าของร่างเดิมมาแต่งหน้าให้สวยงามเน้นแนวแต่งแบบไม่แต่ง ดูออกมาสวยงดงามจนหนิงเหอได้แต่ตกตะลึง ปกติหมิงหงส์เป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตาเท่าไหร่นัก แต่พอเธอจัดเต็มแบบนี้ก็สวยจนฟ้าสะท้านดินสะเทือนเหมือนกัน
“งดงามมากค่ะคุณหนูลี่” หนิงเหอประสานมือจ้องมองใบหน้าของหมิงหงส์ด้วยความประทับใจ
“บอกแล้วว่าเซ้นต์ฉันดี” ลู่เสียนหันไปยิ้ม
“ซะ เซ้นต์อะไรนะคะ”
“ช่างเถอะ ไปตลาดกันดีกว่าหนิงเหอเธอต้องพาฉันไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับด้วยนะ ฉันจำไม่ค่อยได้หรอกว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง”
ได้เลยเจ้าค่ะ” หนิงเหอเอ่ยบอกหมิงหงส์แล้วจึงเดินนำหน้าหมิงหงส์ออกจากบ้านไป ลี่หมิงหงส์นั้นเป็นคนเรียบ ๆ แม้จะมีชุดสวยให้สวมใส่เสมอแต่เพราะไม่ไคร่จะเป็นคนชอบแต่งใบหน้าเท่าไรทำให้คนไม่ค่อยสนใจเธอมากนัก ผิดกับวันนี้ที่ลี่หมิงหงส์แต่งหน้าสดใสงดงาม ประกอบกับกี่เพ้าที่สั้นกว่าสาว ๆ ทั่วไปทำให้เห็นเรียวขาสวย ๆ ของเธอได้ชัดเจนกว่าเดิม หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างก็เหลียวมองหมิงหงส์กันจนคอแทบหัก
“ฮิ ๆ คุณหนูลี่วันนี้คุณหนูสวยเสียจนคนมองกันทั้งตลาดเลยนะคะ” หนิงเหอแอบกระซิบบอกนายสาว
“เหรอ? ปกติฉันคงจืดชืดน่าดูสินะ”
“ค่ะ เฮ้ย! ไม่ใช่ค่ะคุณหนูสวยงดงามเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่วันนี้คุณหนูเหมือนเทพธิดา สวยมากจริง ๆ ค่ะ” หนิงเหอรู้จักเอาอกเอาใจเจ้านาย ทำให้เธอได้รับปิ่นปักผมกับแป้งอีกหนึ่งกระปุกเป็นของกำนัล