กลางเดือนพฤศจิกายนของประเทศไทยในหลายๆ จังหวัดคงกำลังอบอวลไปด้วยลมหนาว จะเว้นก็แต่จังหวัดกรุงเทพมหานครแห่งนี้ที่แทบจะไม่ได้สัมผัสถึงฤดูหนาวเลย แต่ในยามดึกสงัด บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเนื้อที่กว่าสองไร่ซึ่งโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ก็ยังเพียงพอให้สัมผัสถึงอากาศเย็นๆ สายลมพัดผ่านม่านระเบียงเข้ามาอยู่เนืองๆ มันเป็นอากาศที่ธามรู้สึกว่ากำลังพอเหมาะทีเดียวกับค่ำคืนนี้
“คุณกลางอาบน้ำก่อนเลยไหมครับ เหนื่อยมาทั้งวัน” เขาเอ่ยกับภรรยาหมาดๆ หลังจากที่ผู้ใหญ่ซึ่งมาส่งตัวบ่าวสาวกลับออกไปได้สักพัก เธอยิ้มบางๆ ให้เขาแทนคำตอบรับ เขายิ้มตอบเธอก่อนจะเดินเข้าไปหา บนศีรษะของเธอมีเครื่องประดับที่มองดูแล้วไม่น่าจะลำบากหากเขาจะช่วยเหลือ คงไม่ต้องตามแม่บ้านมาจัดการ รวมถึงปลดกระดุมและรูดซิปชุดเจ้าสาวให้เธอเรียบร้อย
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยขอบคุณเขาแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป ธาม
ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงว่านี่เป็นคืนแรกที่เขาไม่ได้ใช้ห้องนี้คนเดียว
หากเอ่ยชื่อของ ธาม แสงเสรีกานต์ แม้จะไม่รู้จักเขาแต่คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินนามสกุลแสงเสรีกานต์ ซึ่งถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ตระกูลเขาเป็นตระกูลใหญ่ ธามเองก็เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในเครือข่ายที่ซับซ้อนนี้ แต่ก็เป็นจุดที่เมื่อเทียบกับคนทั่วๆ ไปแล้วก็ยากจะหาจุดเทียบเคียงอยู่เหมือนกัน
ธามเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบสองที่มีรูปร่างหน้าตาโดดเด่น ส่วนสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้เขาดูภูมิฐานในมาดของนักธุรกิจและทายาทตระกูลดัง และหากจะลองพินิจอีกสักนิดคงเห็นว่ารูปร่างหน้าตาที่คมเข้มแบบชายไทยนั้นได้ซ่อนความเป็นสายเลือดผสมของเขาอยู่ ซึ่งถ้าใครสนใจที่จะอ่านประวัติของเขาคงได้ทราบสาเหตุ มันไม่ใช่ความลับ และแน่นอนว่าก็ไม่ได้พิเศษอะไรสำหรับธาม
แสงเสรีกานต์เป็นนามสกุลของคุณตา เนื่องจากแม่ของเขาได้หย่าขาดจากพ่อซึ่งเป็นคนอังกฤษตั้งแต่เขาอายุห้าขวบ คุณแม่ของเขาได้แต่งงานใหม่กับคุณอวิรุทธิ์ ทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน เขาจึงนับว่าเป็นทายาทคนเดียวของท่าน แม้ว่าคุณแม่ของธามจะเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเรียนปริญญาตรีและคุณอวิรุทธิ์จะมีภรรยาใหม่หลังจากนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณอวิรุทธิ์เปลี่ยนแปลงไป ท่านรักเขาเหมือนลูกแท้ๆ คนหนึ่ง และเขาเองก็นับถือท่านไม่ต่างจากพ่อแท้ๆ
คุณอวิรุทธิ์เป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงติดหนึ่งในสิบของเมืองไทย อาจจะเทียบความยิ่งใหญ่กับตระกูลแสงเสรีกานต์ไม่ได้ แต่ก็เรียกว่าเศรษฐีได้เต็มปาก
ในฐานะทายาทของตระกูลแสงเสรีกานต์ ธามได้รับมรดกตามที่เขาควรจะได้ มีหุ้นในบริษัทในเครือ แต่ในส่วนของการทำงานเขายังไม่ได้มีบทบาทมากนัก เขาเรียนรู้และช่วยเหลืองานบางส่วน ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากญาติๆ ของเขาในวัยใกล้เคียงกันนัก ญาติๆ เขาบางคนมีเวลาที่จะไปทำงานในวงการบันเทิง หรือทำธุรกิจของตัวเองในช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ แต่สำหรับธามเขาแทบจะไม่เคยได้ใช้ช่วงเวลาเหล่านั้น เพราะในฐานะทายาทคนเดียวของโรงแรมทำให้ธามต้องเรียนรู้งานอย่างหนักตั้งแต่เรียนจบ
ด้วยคุณสมบัติที่เขามี ธามเลยเป็นที่หมายปองของสาวๆ และครอบครัวเศรษฐีที่อยากให้ลูกสาวลงเอยด้วย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเองไม่มีเวลาคิดเรื่องความรัก ธามเคยคบผู้หญิงแค่คนเดียวตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย คบยาวถึงแปดปีก่อนจะเลิกกันไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยคบใครในฐานะแฟนอีกเลย
ธามไม่ใช่ผู้ชายที่หวงความโสด เพราะคุณอวิรุทธิ์บอกเขาอยู่เสมอว่าท่านอยากอุ้มหลาน เขาเคยคุยเรื่องแต่งงานกับอดีตแฟน และมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่เลิกกัน และหลังจากนั้นเขาก็ยุ่งๆ กับธุรกิจเลยไม่ได้มีเวลาศึกษากับใครจริงจัง แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่มีผู้หญิงเข้ามาพัวพันไม่ขาด แต่ก็ไม่ใช่ในฐานะของคนคบกันเพราะเขาไม่อยากที่จะดูแลความรู้สึกใคร คุณอวิรุทธิ์เองพอเห็นเขากำลังจริงจังกับงานก็เลิกกดดันเขาเรื่องแต่งงานมาพักหนึ่ง จนเมื่อเขาเริ่มย่างเข้าสามสิบ ท่านก็เอ่ยเรื่องนี้กับเขาอีกครั้ง รวมถึงช่วยแนะนำสาวๆ ให้เขาบ้าง ตอนนั้นเองที่ธามรู้สึกว่าเขาเองก็มี
สเปกภรรยาหรือแม่ของลูกอยู่เหมือนกัน แล้วเขาก็ได้เจอกับสุพรรณิการ์
สุพรรณิการ์ อัครธำรง ในวัยยี่สิบแปดปี เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณอวิรุทธิ์ ตระกูลผู้ดีเก่าตระกูลหนึ่ง ธามเจอเธอตอนที่เขากับคุณอวิรุทธิ์ไปทานข้าวที่บ้านของเธอ การได้นั่งทานมื้อเย็นร่วมกันแค่ระยะเวลาสั้นๆ ทำให้ธามรู้สึกว่าเธอน่าจะเป็นภรรยาที่เขาตามหา
เธอเป็นผู้หญิงที่สวยไร้ที่ติคนหนึ่ง นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาประทับใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือกิริยาอาการที่ธามไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงแบบเธอในยุคสมัยนี้ เขาปรึกษาเรื่องนี้กับคุณอวิรุทธิ์ ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอดำเนินโดยผ่านผู้ใหญ่เป็นส่วนใหญ่ มีข้อตกลงทางธุรกิจมาเกี่ยวข้องเล็กน้อยแต่เขาก็พร้อมที่จะดูแล ตลอดระยะเวลากว่าหกเดือนก่อนที่งานแต่งงานจะเกิดขึ้นเขากับเธอน่าจะเจอกันไม่ถึงสิบครั้ง ซึ่งนั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับธาม เพราะเขาไม่ได้คาดหวังความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ธามไม่คิดว่าความรู้สึก หรือความรักเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเลือกภรรยา เขาไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นมานานแล้ว เขาแค่ต้องการภรรยาที่เหมาะสมกับเขา ซึ่งธามคิดว่าเธอน่าจะเป็นแบบนั้น
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกอีกครั้งหลังจากที่ภรรยาหมาดๆ ของเขาหายเข้าไปนานพอสมควร ธามไม่แน่ใจว่าเวลาเท่านี้เป็นระยะเวลาปกติในการอาบน้ำของเธอหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นเพราะการแต่งหน้าทำผมในวันนี้ที่ทำให้ใช้เวลานานกว่าปกติ
“คุณธามรออาบน้ำอยู่หรือเปล่าคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” สีหน้าเธอดูเกรงใจเขาตอนเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไรเลยครับ” เอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะขอตัวเข้าไปอาบน้ำบ้าง
“ตู้เสื้อผ้าคุณกลางอยู่ตรงนั้นนะครับ” ธามบอกเธอก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ เพราะเธอเพิ่งมาห้องนอนเขาเป็นครั้งแรก เขาในฐานะเจ้าของห้องก็ควรทำให้เธอคุ้นเคยเหมือนกับเป็นห้องของเธอเอง และมันก็กำลังจะเป็นนับตั้งแต่คืนนี้
ธามใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน พอออกมาจากห้องน้ำก็นึกแปลกใจที่เจ้าสาวของเขายังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำตัวเดิม และเหมือนเขาจะเผลอทำหน้าสงสัย เธอจึงยิ้มบางๆ ให้เขา ก่อนจะอธิบาย
“คือตู้เสื้อผ้ายังไม่มีเสื้อผ้าของกลางค่ะ”
“อย่างนั้นหรือครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ดูให้ เดี๋ยวผมไปถามป้าอุ่นให้นะครับ” ป้าอุ่นคือแม่บ้านที่ดูแลบ้านหลังนี้
“เอ่อ แต่ตอนนี้ตีหนึ่งแล้ว น่าจะรบกวนแกเปล่าๆ”
คำตอบของเธอทำให้ธามประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าจากที่รู้จักกันมาสุพรรณิการ์จะไม่ใช่ลูกคุณหนูที่เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะเกรงใจแม่บ้านในหน้าที่งานของเขา ปกติธามเองก็ไม่ค่อยรบกวนลูกน้องยามดึกหรอก แต่ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าจำเป็น ก็คงต้องได้รบกวนกัน
“อย่างนั้นก็ได้ครับ” ธามเอ่ยแล้วลองเข้าไปหาชุดคลุมตัวใหม่ให้เธอ แต่ปรากฏว่ามันก็มีแค่สองตัวที่เขากับเธอใช้อยู่ในตอนนี้ เลยเปิดตู้เสื้อผ้าตัวเอง แล้วหยิบเสื้อนอนแบบเชิ้ตแขนยาวให้เธอหนึ่งตัว ส่วนกางเกงคิดว่าเธอคงใส่ไม่ได้ พร้อมกับหยิบเสื้อคลุมของเขาให้เธออีกหนึ่งตัว เพราะกลางคืนอากาศค่อนข้างจะเย็น ธามซื้อบ้านหลังนี้และแยกออก
มาอยู่ได้สามปี เขาค่อนข้างหลงใหลในบ้านสไตล์โบราณของไทย จึงซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากเจ้าของคนเก่า เป็นทรงไทยประยุกต์ ชั้นบนสุดเป็นไม้ บริเวณบ้านกว้างขวางร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว
“คืนนี้คุณกลางใส่เสื้อผมก่อนแล้วกันนะครับ ผมว่าชุดคลุมอาบน้ำอาจจะไม่สะดวก” มันอาจจะเปียกและอาจทำให้เธอนอนไม่สบายตัว
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับไปแล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะกลับออกมาด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาที่ยาวคลุมเข่าเธอพอดี ส่วนชุดคลุมนั้นยาวลากพื้นเลยทีเดียว หากมันก็ไม่ทำให้เธอน่ามองน้อยลงแต่อย่างใด