ตอนที่ 1
ณ. โรงแรม ภูผาวิล่า แอนด์ รีสอร์ท
“เดม่อนขา วันนี้เกรซต้องกลับปารีสแล้วนะคะ” นางแบบสาวชื่อดังลูบไล้กล้ามอกของเดม่อนขยี้หัวนมสีน้ำตาลอ่อนวนปลายนิ้วรอบหัวนมแล้วกรีดนิ้วลงบนหน้าท้องแกร่งของเดม่อนที่นอนอาบแดดอยู่ริมสระส่วนตัวหลังจากว่ายน้ำ
“แล้วไง” เดม่อนถามอย่างไม่สนใจเขารู้ว่าผู้หญิงที่ลูกน้องจัดการให้ต้องการเงินและชื่อเสียงและหวังไปถึงขั้นลงเอยกับเขาซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะตั้งแต่เดม่อนได้เลิกกับไฮด้าเซเลบริตี้สาวสวยที่เขาคบเป็นแฟนเพราะความเหมาะสมทั้งฐานะและชื่อเสียงแต่เธอไม่มีสิ่งที่เขาต้องการเมียของเขาต้องเป็นผู้หญิงที่เก่งงานบ้านงานเรือนและดูแลเขาให้มีความสุขเวลากลับบ้านเหมือนแม่ผู้หญิงที่เป็นต้นแบบที่เขาต้องการถึงแม้ไม่เก่งเท่าแม่แค่ใกล้เคียงก็โอเคแต่ไฮดี้ไม่มีสักอย่างตอนแรกก็ดีอยู่หรอกพอตกลงคบกันเท่านั้นแหละตามติดเกาะเหมือนปลิงไปไหนก็ไม่ได้โทรตามหรือไม่ก็ไปนั่งเฝ้าเขาถึงที่ทำงานสนใจแค่แฟชั่นและงานสังคมงานบ้านงานเรือนน่ะเหรอไฮด้าไม่สนใจเลยทำให้เขายุติการคบหาซึ่งก็จ่ายไปเยอะพอสมควรและยอมเป็นผู้ชายเลวเพื่อให้เธอเชิดหน้าในสังคมที่เลิกกับเขาเพราะเขามีผู้หญิงอื่นหลังจากนั้นเดม่อนไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนจริงจังอีกนอกจากหาความสุขตามประสาชายโสดที่มีเงินสามารบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างได้
“ก็เกรซอยากจะ” เกรชละคำพูดไว้แต่มือของเธอซุกเข้าใปในกางเกงอาบน้ำตัวเล็กที่รัดความเป็นชายไซร์ฝรั่งผู้หญิงที่เคยลิ้มลองมาแล้วติดใจทุกรายแต่ต้องถอยเมื่อเดม่อนไม่เคยควงใครนานเกินอาทิตย์
“ลองปลุกมันสิบางทีคุณอาจจะได้สักรอบก่อนกลับนะเกรซ” เดม่อนบอกคู่ควงเพระเขาเบื่อที่เกรซแสดงอาการหึงหวงเขาและคิดว่าจะจบกับเธอก่อนสาวสวยจะกลับปารีส
“เกรซขออยู่ต่อได้มั้ยคะ” นางแบบสาวพูดแล้วดึงกางเกงอาบน้ำรูดออกไปทางปลายเท้าโดยชายหนุ่มให้ความร่วมมือแล้วเธอก็หยอกเย้ามังกรยักษ์ใหญ่ที่นอนหลับไหลให้มันตื่น
“ไม่ได้หรอกผมบอกแล้วว่ามาทำงานคุณยังดึงดันจะมาด้วย กลับไปดีแล้วผมไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอกนะ” เดม่อนพูดจบก็มองเกรซที่ก้มลงปลุกมังกรยักษ์ใหญ่ของเขาด้วยลิ้นของเธอปาดเลียตามลำตัวของมันขึ้นลงตั้งแต่ปลายยอดลงไปสุดโคนแล้วลากลิ้นเลียขึ้นอย่างเมามัน
“แผล่บๆๆ แผล่บๆๆ..”
น้ำรักไหลฉ่ำเยิ้มเมื่อลิ้นของเกรซปลุกมักกรยักษ์ใหญ่ของเขาจนมันตื่นแล้วเธอจะอ้าปากกว้างงับหัวมันเข้าเต็มปากอมดูดรูดด้วยริมฝีปากของเธออย่างรุนแรงจนมันเริ่มตื่นตัวแข็งชันสู้ปากของเธอ
“จ๊วบ จ๊วบบๆๆ..” เกรซรูดมือรัวเร็วขึ้นปากกว้างก็โยกดูดดื่มเต็มปากเต็มคำอย่างอย่างเมามันส์ก่อนจะถอนปากออกแล้วหยิบซองถุงป้องกันที่เธอถือมาเตรียมพร้อมฉีกออกแล้วดึงมันสวมลงหัวมังกรยักษ์ใหญ่ก่อนที่มันจะพ่นน้ำรักออกมานางแบบสาวก็ถอดเสื้อคลุมโยนทิ้งไปเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่าขึ้นนั่งคร่อมกดกลีบสวาทลงใส่มังกรยักษ์ใหญ่สาวสวยแหงนหน้าขึ้นสูดปากครางไม่หยุด
“อ้ะ อ่า เดม่อนขา อ่าา อู้วว์..” มันจะใหญ่โตแค่ไหนเธอก็ไม่หวั่นรับได้สบายแล้วขยับสะโพกโยกคลึงมังกรยักษ์ใหญ่ของเขาเพราะความฝืดของช่องสวาทของเธอที่ขาดน้ำหล่อเลี้ยงก็ยิ่งเสียวเสียว
“อื้มม์” เดม่อนครางในลำคอ แล้วส่งนิ้วยาวไปเขี่ยปุ่มสวาทช่วยให้เธอเสียวกลีบสวาทมากขึ้นเธอก็กดสะโพกลงใส่แรงขึ้นเร็วขึ้นจนน้ำรักฉ่ำออกมาทำให้เธอขยับได้ลื่นไหลแล้วเธอก็รัวจังหวะเข้าใส่เขาไม่หยุดยั้ง
“แจ้ะๆๆ แจ้ะๆๆ..”
“อ้ะ อ้า เกรซรักคุณค่ะ อ่า อ้ะ อ้า” เกรซพร่ำรำพันว่ารักเขาทำเอาชายหนุ่มแทบหมดอารมณ์เขาจึงจับเอวคอดกิ่วของเกรซกระแทกกระทั้นลงอย่างแรงไม่หยุดจนเธอร้องครวญครางเสียงดัง
“อ้ะ อ้ายยยซ์.."
"ปั้บบๆๆ ปั้บบๆๆ.."
“อื้มม อ้าากส์..”
เมื่อเขาได้ปลดปล่อยแล้วยกร่างอ่อนปวกเปียกของนางแบบสาวออกจากกายแล้วลุกขึ้นถอดถุงป้องกันออกแล้วกระโจนลงน้ำทั้งที่ตัวเปลือยเปล่าโดยมีสายตาหิวกระหายจากเกรซมองตามแต่เธอก็ต้องกลับปารีสก่อนเพราะมีงานรออยู่ เมื่อเกรซเดินเข้าไปในห้องร่างเเปลือยเปล่าสูงใหญ่ก็ขึ้นจากน้ำสะบัดผมจนน้ำกระจายเนื้อตัวมีหยดน้ำเกาะพราวไปทั้งตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำ
“ครูสจัดการเรื่องของเกรซด้วยนะ” เดม่อนสั่งลูกน้องให้จัดการเกรซเพระเขาเบื่อแล้วและไม่เกินความสามารถของครูสที่จัดการเรื่องสาวๆให้เจ้านายไม่ต่างจากอีธานในเรื่องความเด็ดขาและไม่มีใครกล้าลองของกลัวอนาคตดับเพราะสาวๆแต่ละนางของเดม่อนมีแต่เซเลบริตี้ ดารา นางแบบและนักธุรกิจสาวแต่ไม่มีใครเอาชนะใจหนุ่มหล่อได้เลยสักคน
โรงแรม ภูผาวิลล่า แอนด์ รีสอร์ท อยู่ที่อำเภอปรานบุรี จังหวัดประจวบครีขันธ์ เป็นโครงการบ้านพักตากอากาศโรงแรมหรูระดับหกดาว สไตล์พูลวิลล่า เป็นการออกแบบร่วมสมัยตั้งอยู่ปลายสุดของชายหาดติดกับวนอุทยานป่าโกงกางด้านหลังเป็นภูเขาสูงเท่าตึกสิบห้าชั้นด้านหน้าเห็นวิวท้องทะเลอ่าวไทยสวยงามได้อย่างชัดเจน เป็นตึกสูงขนาดสิบชั้นเป็นรูปตัวแอลสูงสิบชั้นด้านหลังติดภูเขาด้านหน้าหันออกทะเลและมีวิลล่าหรูติดชายหาดและด้านหลังติดภูเขา สำหรับแขกที่มาพักชื่นชอบบรรยากาศเงียบสงบแต่มีความสะดวกสบายครบครันมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ขาดสายแค่เพื่อนนักธุรกิจของสามีเจ้าของโรงแรมก็จองห้องมาพักผ่อนกันตลอดทั้งปีจึงทำให้โรงแรมแห่งนี้คึกคักอยู่ตลอดเวลาและเปิดให้บริการมาสิบห้าปี
หาดทรายขาวสะอาดยาวตามแนวทะเลฝั่งอ่าวไทยจรดกับเขตอุทยานป่าชายเลนซึ่งผืนดินแห่งนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตาทวดจนมาถึงรุ่นคุณอนล วิวัฒน์ภักดี พ่อของคุณวนิสา วิวัฒน์ภักดี ที่แต่งงานกับคุณอลัน เบนฟอร์ด มหาเศรษฐีชาวโมนาโกนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมหรู บ้านและคอนโดมีท่าเรือเรือยอร์ชสุดหรูให้มหาเศรษฐีทั้งหลายเช่าท่องเที่ยวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โมนาโกเป็นประเทศเล็กๆอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นประเทศที่เล็กอันดับสองของโลกที่เศรษฐกิจรุ่งเรืองเม็ดเงินมหาศาลส่วนมากจะมีนักธุรกิจต่างชาติเข้าไปทำธุระกิจกันเยอะและหนึ่งในนั้นก็คือปู่ทวดของคุณอลันย้ายจากอิตาลีไปทำธุรกิจจนร่ำรวยมหาศาลเผื่อแผ่มาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานคือคุณอลัน เบนฟอร์ด
คุณอนล วิวัฒน์ภักดีและคุณไอรา อมรพิวัช ลูกสาวคนโตเป็นผู้ดูแลกิจการส่วนเจ้าของตัวจริงอยู่ที่โมนาโกและตอนนี้ก็ส่งต่อให้ลูกชายคนโตดูแลซึ่งนานๆครั้งเขาถึงจะมาดูแต่ส่วนมากพนักงานทุกคนจะคิดว่าคุณอนลเป็นเจ้าของโรงแรมมากกว่าเพราะเจ้าของตัวจริงไม่เคยเปิดเผยตัวมาแต่ละครั้งเขาก็ทำตัวเป็นนักธุระกิจมาเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆและสาวๆมากกว่า
เดิมทีคุณอนลมีที่ยี่สิบกว่าไร่แล้วคุณอลันก็ซื้อที่ดินติดกันอีกสามสิบกว่าไร่ตามแนวชายหาดติดภูเขาที่ชาวบ้านแถวนั้นพากันขายให้เพราะมันเป็นที่ตาบอดไม่มีทางออกแต่ที่ของคุณอนลอยู่ด้านนอกติดกับที่ของเพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ด้านนอกสุดติดกับถนนหลักแต่ก็เปิดทางให้เข้าออกตั้งแต่สมัยรุ่นบุกเบิกเป็นถนนส่วนบุคลที่ขรุขระและไม่มีใครลงทุนทำถนนคอนกรีตชาวบ้านแถวนั้นหาเช้ากินค่ำจึงพากันขายให้คุณอลันที่ซื้อไว้แล้วลงทุนสร้างรีสอร์ทหรูเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่ชื่นชอบธรรมชาติและบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวและครั้งนี้เดม่อนมากับเกรซนางแบบสาวชื่อดังแต่ละครั้งพนักงานก็ลุ้นกันว่าหนุ่มหล่อจะมาเดี่ยวหรือมีคู่ควงมาด้วยส่วนมากไม่มาพร้อมกันก็จะตามมาทีหลังจนพนักงานสงสัยว่าสาวไทยคงไม่ใช่สเป็คของหนุ่มหล่อทะลวงไส้คนนี้แน่ๆและสามสี่เดือนชายหนุ่มก็จะมาครั้งหนึ่ง
“เดี๋ยวฉันจะไปบ้านคุณตานะ” เดม่อนบอกลูกน้องทั้งสองที่นั่งอยู่ที่โซฟาหลังจากที่ครูสไปจัดการเรื่องของเกรซให้เจ้านายเรียบร้อยตามคำสั่ง “เรียบร้อยใช่มั้ยครูส”
“เรียบร้อยครับคุณเดฟ”
“ขอบใจ เสร็จงานแล้วฉันขอพักจริงๆสักอาทิตย์ก่อนกลับโมนาโก พวกนายดูให้หน่อยมีที่ไหนเงียบๆบ้าง เอ่อ ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันถามไอ้ดามดีกว่า” เดม่อนพูดจบก็เดินออกไปจากห้องพักสุดหรูลงลิฟต์ไปชั้นล่างกวาดสายตามองการทำงานของพนักงานตามทางผ่านจนถึงแผนกต้อนรับที่มีพนักงานสาวสวยนั่งอยู่สามคนที่ยิ้มให้เขาแต่หนุ่มหล่อไม่ได้ยิ้มตอบเขาเดินเลยออกไปมีลูกน้องคนสนิทเดินตามไปสองคนส่วนที่เหลืออีกห้าคนก็สแตนบายรออยู่ที่รถราวกับมาเฟียที่ไปไหนมาไหนบอดี้การ์ดตามเพียบ
“พิมพ์ว่าเขาต้องเป็นมาเฟียแน่ๆเลยแก” พิมพ์ชนกพนักงานแผนกต้อนรับคุยกับเพื่อนสาวเมื่อหนุ่มหล่อขึ้นเทพเดินผ่านไปแล้ว
“ตาก็ว่าใช่นะ พิมพ์ก็เห็นว่ามาทุกครั้งก็มีคนตามมาเป็นขบวนถ้าไม่ใช่มาเฟียคงไม่มีคนติดตามมากขนาดนี้หรอก” มาตาเห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงาน
“อุมาเสียดายที่เขาไม่สนผู้หญิงไทย พวกแกเห็นมั้ยว่าเรายิ้มให้เขายังเมินเลยสงสัยหญิงไทยไม่ใช่สเป็คพ่อคุณแน่ เฮ้ออ..” อุมารินพูดอย่างเสียดายปกติหญิงไทยนี่สเป็คฝรั่งเลยนะยิ่งผิวสีน้ำผึ้งหรือสีเข้มนี่ฝรั่งชอบมากเลย
“ทำงานๆโน่นแม่พวกเรามาแล้ว” พิมพ์ชนกบอกเพื่อนร่วมงานทั้งสองเมื่อเห็นผู้จัดการแผนกต้อนรับเดินมากับนักศึกษาสาวสวยที่เคยมาฝึกงานที่นี่เมื่อหกเดือนก่อน
“สวัสดีค่ะ พี่พิมพ์ พี่ตา พี่อุมา” บุลินยกมือไหว้รุ่นพี่ที่เคยสอนงานเธอเมื่อหกเดือนก่อนตอนมาฝึกงานกับวีรเดช
“สวัสดีจ้ะหนูลิน” สามสาวรับไหว้สาวน้อยสวยน่ารักและนิสัยดีพร้อมกัน
“หนูลินมาเที่ยวเหรอจ้ะ” พิมพ์ชนกถามสาวรุ่นน้อง
“เปล่าค่ะลินมาสมัครงานค่ะ”
“จริงเหรอจ้ะแล้วได้หรือเปล่า” มาตากระซิบถามบุลินเบาๆเพราะผู้จัดการแผนกยืนมองอยู่
“เอาล่ะฉันคิดว่าพวกเธอทั้งสามคงอยากรู้ บุลินได้ทำงานที่นี่ในแผนกต้อนรับยังไงพวกเธอก็ช่วยสอนน้องใหม่หน่อยนะ” รจนาหรือพี่รจผู้จัดการแผนกพูดจบทั้งสามก็แสดงความยินดีกับบุลินที่ได้ทำงานที่เดียวกันและในแผนกเดียวกันอีกเหมือนตอนที่มาฝึกงานความนอบน้อมถ่อมตนพูดน้อยต่อยหนักและใจดีคอยช่วยเหลืองานโดยไม่บ่น
“ค่ะผู้จัดการ” สามสาวรับคำสั่งผู้จัดการแผนกที่ให้ลูกน้องในแผนกเรียกผู้จัดการในเฉพาะเวลางานเท่านั้นแต่นอกเวลางานจะเรียกพี่รจ ป้ารจ ก็แล้วแต่มีใครอยากเรียกยังไง เมื่อผู้จัดการเดินกลับไปที่แผนกทั้งสามสาวก็มองหน้าประตูโรงแรมเมื่อไม่เห็นแขกเข้ามาก็ซักถามบุลิน
“ดีใจด้วยนะหนูลินที่ได้งานใกล้บ้านสบายเลยสิ” พิมพ์ชนกที่สนิทกับบุลินมากกว่าใครเพราะเธอเป็นพี่เลี้ยงให้บุลินส่วนมาตาเป็นพี่เลี้ยงให้วีรเดช
“ขอบคุณค่ะพี่พิมพ์ แต่กว่าจะได้งานสอบสัมภาษณ์ตั้งหลายคนค่ะ” เธอสอบสัมภาษณ์ภาษาอีกครั้งตามกฎของโรงแรมอีกครั้งเพื่อไม่ให้ใครมาว่าเธอได้ว่าใช้เส้นเข้าทำงานมากกว่าความสามารถ
“แล้วน้องวีวี่ของพี่ละคะ จะมาทำงานที่โรงแรมด้วยหรือเปล่า” มาตาถามหาน้องคนสนิทที่นิสัยดีน่ารักเหมือนบุลินแต่ วีรเดชเป็นลูกชายใจสาวของคุณไอราผู้บริหารโรงแรมแต่เขากลับไม่ชอบงานโรงแรมของตัวเองแต่มีความฝันจะทำเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองให้ได้ในสักวัน
“ขานั้นพี่ตาก็รู้นี่คะว่าไม่มีทางมาทำงานโรงแรมแน่ๆค่ะ” บุลินพูดยิ้มๆอย่างรู้ใจเพื่อน
“ก็จริงนะ,น้องวีวี่บอกว่าจะทำเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองพี่ว่าต้องทำได้แน่นอนค่ะ” มาตาก็เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของวีรเดชว่าอยากทำตามความฝันของตัวเอง
“ใช่ค่ะ ลินไปก่อนนะคะรบกวนพี่ๆทำงานแขกมาโน่นแล้วค่ะ ลินกลับนะคะสวัสดีค่ะ” บุลิยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสามที่รับไหว้เธอก่อนบุลินจะเดินออกไปแล้วแขกก็เดินมาถึงเคาน์เตอร์พอดี
เมื่อกลับถึงบ้านบุลินก็เดินไปหาคุณตาที่ชอบมานั่งดื่มชาอยู่หน้าบ้านมองออกไปยังท้องทะเลเป็นประจำทุกวัน
“คุณตาขาลินขอไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนได้มั้ยคะ” บุลินนั่งลงข้างคุณตาที่กำลังดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน
บุลิน พงษพิบูลย์ หรือหนูลินอายุ 23 ปี รูปร่างสูงโปร่งหุ่นนางแบบอกเป็นอกตั้งเต้าโดดเด่นเพราะแม่ให้มาเยอะเอวบางสะโพกผายขาเรียวยาวดวงตากลมโตผมยาวสลวยถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่จมูกโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อยเป็นลูกสาวของบุลลากับคำรณ ศักดิ์สิทธ์ ลูกชายคนเดียวของคุณไวทิน ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าของร้านขนมชื่อดังของเมืองเพชรที่เลิกกันเพราะพ่อสามีไม่ชอบลูกสะใภ้ที่จนกว่าจึงทำให้บุลลาขอกลับมาอยู่บ้านเพราะไม่อยากให้สามีมีปัญหากับพ่อแต่เธอกลับเปิดโอกาสให้ชมพูนุชลูกสาวของนักธุระกิจเรือเช่าที่ชะอำได้เข้ามาใกล้ชิดคำรณทำให้ทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนท้อง กว่าบุลลาจะรู้ว่าสามีมีเมียน้อยก็ท้องโตใกล้คลอดแล้วทำให้เธอตัดสินใจเลิกกับสามีทั้งที่ยังรักแต่เธอรับไม่ได้ที่สามีทำแบบนี้จึงขอหย่าขาดจากคำรณและขอเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวด้วยไม่งั้นเธอจะฟ้องศาลว่าเขามีชู้และจะเรียกร้องให้หมดตัวทำให้คำรณยอมเขารักภรรยาแต่ความผิดพลาดที่เขาทำลงไปมันผูกมัดจนเขาต้องตัดสินใจหย่ากับบุลลาเพราะคำขู่พ่อของชมพูนุชหากไม่รับผิดชอบชมพูนุชเมียกับลูกของเขอาจจะไม่ปลอดภัย
บุลลา พงษ์พิบูลย์ แม่หม้ายสาวคนสวยเลิกรากับคำรณสามีที่อยู่ด้วยกันมาสิบปีมีลูกสาวหนึ่งคนอายุได้หกขวบก็ได้ได้พบรักกับคุณโรเจอร์ ดัสมุนน์ ทนายความชาวอิตาลีที่ไม่รังเกียจแม่หม้ายอย่างเธอและยังรักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆอีกด้วยถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีแต่โรเจอร์ก็ฐานะดีมีอันจะกินเขาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวของภรรยาที่มีนพดล อำไพ พ่อตาแม่ยายและลูกสาวของภรรยาที่เมืองไทยส่งเสียเลี้ยงดูให้อยู่ดีมีความสุขไม่ลำบากให้ท่านเลี้ยงดูลูกสาวของภรรยา
“จะไปกี่วันล่ะลูก” คุณตานพหรือนพดล พงษ์พิบูลย์ ถามหลานสาวที่เพิ่งเรียนจบและกำลังจะทำงานที่โรงแรม ภูผาวิลล่า แอนด์ รีสอร์ท ในวันที่หนึ่งเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งก็อีกอาทิตย์เดียวก็จะถึงแล้ว
“สักสี่วันค่ะคุณตา ลินต้องกลับมาเตรียมตัวเริ่มงานด้วยค่ะ” บุลินยกมือขึ้นกางออกทั้งสี่นิ้วบอกคุณตาว่าเธอจะไปสี่วันซึ่งเพื่อนๆแต่ละคนต่างก็จะเตรียมตัวทำงานและไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจึงนัดกันไปเที่ยวก่อนจะแยกกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเอง
“จะไปยังไงกันล่ะลูก” คุณตาถามหลานสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะท่านไม่อยากปล่อยให้บุลินไปไหนมาไหนคนเดียว
“ลินจะนั่งเครื่องบินไปค่ะคุณตา ไปถึงที่โน่นก็พักบ้านยัยนาราเหมือนเดิมค่ะ” บุลินบอกคุณตาเพราะท่านรู้จักเพื่อนทั้งสามคนของเธอเป็นอย่างดีเพราะจะมาคลุกคลีกันอยู่ที่บ้านของเธอกันเป็นประจำในช่วงปิดเทอม
“แล้วนายเดชไปด้วยมั้ยลูก” คุณตาถามถึงเพื่อนหลานสาวที่บ้านอยู่ติดกันและบ้านของเขาอยู่ติดถนนเมื่อเลี้ยวลงถนนเลียบหาดหัวมุมก็จะถึงบ้านเขาก่อนถัดไปก็เป็นบ้านของคุณอนลแล้วเลยไปด้านในสุดก็เป็นโรงแรม ภูผาวิลล่า แอนด์ รีสอร์ท ที่สร้างถนนคอนกรีตจากหน้าโรงแรมผ่านหน้าบ้านของเขาไปบรรจบกับถนนของทางการ ที่ดินของเขามีแค่สิบไร่เป็นครอบครัวชาวเลที่ออกเรือหาปลามาขายตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดและเขาก็มาเลิกออกทะเลหาปลาตอนที่ลูกสาวแต่งงานกับลูกเขยชาวอิตาลีที่ส่งเงินมาให้ใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสนท่านจึงปลูกผักผลไม้ทำสวนเล็กๆน้อยๆขายกับเลี้ยงหลานจนถึงทุกวันนี้
“ไปสิคะ แต่คุณตาไปรียกนายเดชเดี๋ยวมันก็งอนหรอกค่ะ คริๆๆ.." บุลินพูดกับคุณตาแล้วหัวเราะขำ