มาร์คยืนมองเจ้านายของตัวเองที่กำลังนั่งเล่นกับน้องพลอย มันเป็นอีกมุมหนึ่งซึ่งตัวเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต เจ้านายเขาจริงแล้วเป็นคนไม่ชอบเด็ก แต่ตอนนี้กับนั่งเล่นได้นานมาก คุณฟรานคงจะลืมไปว่ามีนัดทานข้าวกับลูกค้า
“คุณฟราน ครับ ! คุณฟรานมีธุระต้องไปลืมแล้วเหรอครับ ผมว่าเรารีบไปเถอะเดี๋ยวรถจะติดครับ”
ฟรานเซสโก้พึ่งจะนึกออกว่าเขามีนัด เขาลืมไปเลย เด็กน้อยคนนี้เก่งมากที่ทำให้คนมีระเบียบแบบแผนอย่างเขาถึงกับลืมนัดสำคัญได้ ตอนนี้เขาไม่อยากจะไปเลย
“เออ...เดี๋ยวน้าต้องไปธุระก่อนนะครับ แล้วน้องพลอยจะกลับบ้านเลยไหม”
น้องพลอยที่นั่งอยู่บนตักของฟรานเซสโก้ ดูน่ารักกระหนุงกระหนิงกันสองคน จนคนเป็นแม่ไม่กล้าที่จะพูดอะไรแพรววนิตเห็นเขาในมุมนี้ก็รู้สึกแปลกๆ ลูกสาวเธอถึงจะเป็นเด็กอารมณ์ดี เข้ากับคนง่ายแค่ไหนแต่ก็ไม่มีท่าทีแบบที่เป็นเขา ขนาดมาร์คคุยเล่นกับน้องพลอยตั้งนานยังไม่รู้สึกสนิทอย่างนี้ นี่อะไรแค่ชั่วโมงกว่าๆ
“น้องพลอยรอคุณแม่กับน้าพิมเลิกงานค่ะ วันนี้น้าพิมจะเลี้ยงไอติม น้องพลอย เสียดายจังน้าฟรานกับลุงมาร์คไม่ว่างไม่งั้นน้องพลอยจะชวนไปกินไอติม ร้านนี้อร๊อยอร่อย”
ฟรานเซสโก้ได้ยินก็อดที่จะหัวเราะกับเด็กตรงหน้าไม่ได้ ตั้งแต่เขาอยู่กับเด็กน้อยคนนี้ เขายิ้มเยอะมากสังเกตได้จากคนข้างๆ ที่ทำหน้าไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“เหรอครับ วันหลังน้องพลอยต้องรอน้าด้วยนะ น้าอยากกินไอติม อร๊อยอร่อยของน้องพลอยด้วย”
มาร์คที่ได้ยินคำพูดของเจ้านายก็รู้สึกขำจนเผลอหัวเราะออกมาดังมาก เฮ้ย!!ไม่น่าเชื่อ หูเขาฝาดไปใช่ไหม
“เป็นอะไรมาร์ค นายขำอะไร ส่วนคุณด้วยคุณแพรว ผมเป็นตัวตลกของพวกคุณกันเหรอ”
ทั้งมาร์คและแพรววนิตพอได้เห็นสีหน้าและคำพูด ทำไมกับเด็กพูดจาไพเราะที่กับลูกน้องถึงได้แสดงอาการไม่น่ารักเหมือนคุยกับเด็กเลย
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรใช่ไหมคุณแพรว พวกผมแค่ไม่เชื่อสายตาเท่านั้นว่าเจ้านายจะทำน้ำเสียงเลียนแบบน้องพลอยได้”
ฟรานเซสโก้ถึงกับมองค้อน แต่สายตาเขารู้สึกดีจังที่เห็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่ของน้องพลอยที่ปกติจะทำหน้านิ่งๆ
น้องพลอยที่รู้สึกงง และสงสัยว่าผู้ใหญ่คุยอะไรกัน จึงกระตุกแขนน้าฟรานเบาๆ ให้หันหน้า
“ทำไมทุกคนต้องหน้าแบบนั้นคะ น้องพลอยทำอะไรผิดเหรอ” น้องพลอยที่ไม่เข้าใจก็นึกว่าผู้ใหญ่ตำหนิ จึงมีน้ำตาคลอตรงเป้าตา ฟรานเซสโก้เห็นก็ตกใจ อะไรเขาเสียงดังจนทำให้เด็กกลัวเลยเหรอ
“เปล่านะครับ น้าฟรานไม่ได้ดุน้องพลอยครับ น้าดุลุงมาร์คโน้นที่กำลังยืนขำน้า น้องพลอยไม่ร้องนะครับคนดี น้าฟรานขอโทษ”
มาร์คซึ่งทำงานมากับฟรานเซสโก้มานานมาก รู้สึกตกใจ นี่อะไร เจ้านายของเขาเอ่ยปากขอโทษคนอื่น ไม่แปลกเท่ากับการขอโทษเด็ก
แพรววนิตที่เห็นลูกกำลังจะทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เลยเดินไปรับตัวลูกสาวมาจากเขา และคิดได้ว่าเขารีบไปทานข้าวกับลูกค้า
“น้องพลอยค่ะ มาหาแม่ก่อนเร็วคุณลุงกับคุณน้าเขารีบไปทำงานต่อค่ะ”
แพรววนิตเดินเข้าไปอุ้มน้องพลอยมาจากฟรานเซสโก้ พอมองสายตาที่เขาส่งมาให้กับเธอ ก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนเขาจะไม่พอใจที่เธอเอาลูกมา
“โอเคค่ะ น้องพลอยไม่กวนน้าฟรานกับลุงมาร์คแล้วค่ะ แต่น้าฟรานไม่เหนื่อยเหรอคะทำงานน๊านนาน”
ฟรานเซสโก้ฟังคำถามก็สะดุดความรู้สึกของเขา ใช่เขาทำงานตลอดเวลา จนเขาไม่มีเวลาพักผ่อนอะไรเลย
“น้องพลอยไม่เอาค่ะ ไม่พูดแบบนี้นะคะ มานี่มารอน้าพิมตรงนี้ดีกว่า ปล่อยคุณน้ากับคุณลุงไปทำงาน”
แพรววนิตรู้สึกถ้าเธอไม่ชิงตัดคำพูด วันนี้เขาคงจะต้องเสียลูกค้าแน่ๆ เธอหันหน้าไปหามาร์คที่เป็นลูกน้องให้พาเจ้านายไปเถอะ
ฟรานเซสโก้ที่รู้ว่านี่มันก็เลยเวลามาสักพักแล้ว จึงก้มตัวมาคุยกับหนูน้อยน่ารักคนนี้
“น้าฟรานไปก่อนนะครับ ยังไงวันหลังน้องพลอยพาน้าฟรานคนนี้ไปกินไอติม ที่มันอร๊อยอร่อยของน้องพลอยด้วยนะครับ”
น้องพลอยฟังสิ่งที่น้าฟรานพูดเสร็จทำท่าโอเค กับฉีกยิ้มส่งให้ไป มองเห็นฟันซี่เล็กๆ น่ารักมาก
ฟรานเซสโก้กับมาร์คเห็นแล้วรู้สึกหลงรักเด็กคนนี้จริงๆ เด็กอะไรช่างคุยช่างพูด ดูคุณแพรวก็ไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่
แพรววนิตเห็นลูกสาวของเธอโบกมือให้กับเขาและก็คุณมาร์คเป็นช่วงที่เพื่อนของเธอโทรมาเรียกพอดีให้ลงไปรอยังด้านล่าง
แพรววนิตจัดการเก็บของทุกอย่างเสร็จจึงเรียกลูกสาวให้เดินไปยังไปลิฟต์ เด็กหนอเด็ก มีความสุขจริง ๆ
“ไปค่ะ น้องพลอยน้าพิมรอเราด้านล่างแล้ว”
น้องพลอยรีบเดินไปจับมือของแม่แล้วก็โดดไปมา แพรววนิตรู้ว่าความสุขของเธอ คือการได้เห็นลูกสาวมีความสุขอารมณ์ดีแบบนี้ เธอพยายามเติมเต็มในส่วนที่ลูกสาวของเธอขาด ไม่ให้ลูกสาวรู้สึกน้อยใจ
ทั้งแพรววนิตและน้องพลอยลงมาลิฟต์มาถึงชั้นล่างก็เดินตรงไปหา น้าพิมที่ยืนมองสองแม่ลูกที่จับมือกันออกมาจากลิฟต์ น้องพลอยที่เห็นน้าพิมสุดสวยก็รีบวิ่งไปหา
“ไงจ้ะ น้องพลอยหิวหรือยัง”
“น้องพลอยหิวมากๆ เลยค่ะ น้าพิม ดูพุงน้องพลอยสิยุบไปตั้งเยอะ” น้องพลอยทำท่าทุบไปที่พุงสร้างเสียงหัวเราะให้กับแพรววนิตและพิม
“น้องพลอยขา คุณแม่เห็นน้องพลอยกินไม่หยุดเลย พุงหนูไม่น่าจะยุบนะ”
“ไปเถอะ หลานของฉันบอกว่าหิวก็หิวสิ ยัยแพรวแกก็อย่าไปขัดสิ ใช่ไหมคะน้องพลอย”
แพรววนิตถึงกับส่ายหน้าก็มันเป็นสะอย่างนี้ แล้วก็เดินตามหลังทั้งยัยพิมและลูกสาวเธอเดินไปโน่นแล้วทิ้งคนเป็นแม่เลยนะ
ทั้งสามได้พากันมาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ที่ทำงาน คนที่ดูจะสนุกและตื่นเต้นก็คงหนีไม่พ้นน้องพลอย พิมช่วยเลี้ยงน้องพลอยมาตั้งแต่เกิดเลยรักและผูกพันมากยิ่งเพื่อนเจอปัญหาที่ช่วงก่อนหน้านี้ก็เป็นเธอนี่แหละที่คอยช่วยเหลือ อย่าไปหวังกับมนุษย์ใจดำที่เธอไม่คิดเลยว่าจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น คิดๆ แล้วรู้สึกขยะแขยงผู้ชายที่เธอไม่น่าคบเป็นเพื่อนเลย
น้องพลอยลงจากรถได้ก็ฉีกยิ้มทันทีที่จะได้ทานไอติม และได้เล่นเครื่องเล่นสนุกๆ เพราะยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุด
“ยัยพิมเราหาอะไรทานก่อนดีไหม แล้วค่อยพาตัวแสบไปทานไอศครีม”
พิมที่กำลังอุ้มตัวแสบที่ตอนนี้เริ่มตัวหนักขึ้นแล้ว เธอพยักหน้าให้กับเพื่อนก็ดี กว่าจะถึงบ้านก็ดึกไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุด
“ได้ น้องพลอยอยากทานอะไรคะวันนี้”
น้องพลอยตอนนี้อยากทานไอศครีมมากกว่าทำหน้ามุ่ย ไม่อยากที่จะทานข้าว
“น้องพลอยอยากกินไอติม น้องพลอยไม่อยากกินข้าวค่ะ น้าพิมค่ะคุณแม่ไปกินไอติมเถอะ”
แพรววนิตเห็นอาการของน้องพลอยที่จะมีบางครั้งก็จะดื้อตามประสาเด็ก เธอไม่ได้ตามใจลูกขนาดนั้นมีไม่กี่อย่าง บางที่ก็จะดุบ้าง
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าไม่ทานข้าวคุณแม่ก็ไม่ให้น้าพิมพาไปทานไอศกรีมค่ะ”น้าพิมที่มองหน้าน้องพลอยที่ตอนนี้ทำหน้ามุ่ยหันไปซบไหล่เธอไม่ยอมพูดกับคุณแม่
“ไม่เอานะคะ คุณแม่กับน้าพิมหิวข้าว น้องพลอยไปส่งคุณแม่กับน้าพิมทานข้าวก่อนนะคะ คุณแม่กับน้าพิมเหนือยเหนื่อย ทำงานทั้งวันได้ไหมคะคนดี”
น้องพลอยที่ตอนแรกๆ ก็งอนคุณแม่ที่ไม่ยอมให้ไปทานไอศครีมก็ส่งยิ้มไปให้แล้วก็พยักหน้า
“คุณแม่กับน้าพิมเลือกได้เลยค่ะ วันนี้คุณแม่น้องพลอยเลี้ยงเองค่ะ”
นั่น!! ลูกสาวตัวดี แพรววนิตถึงกับส่ายหน้าในความเจ้าเล่ห์นิดๆ
“คิก คิก อย่างนั่นเหรอ แบบนี้น้าพิมต้องจัดให้หนักเลย เพราะคุณแม่น้องพลอยจะเป็นคนเลี้ยงข้าวน้าพิม”
ฟรานเซสโก้กับมาร์คที่เสร็จจากการคุยกับลูกค้ารายใหญ่ ภาพที่เขาเห็นคือเจ้านายของเขาท่าทางเหนื่อย เอาศีรษะพิงไปยังเบาะนั่งด้านหลังพร้อมกับนวดขมับ มาร์คที่เห็นเจ้านายคงจะเหนื่อยที่ต้องคุยงานพึ่งเสร็จ
“คุณฟรานหิวไหมครับจะทานอะไรก่อนดีไหม ผมว่าเราควรทานข้าวก่อนเข้าไปที่พักดีกว่าครับ”
“อือ”
ฟรานเซสโก้ส่งเสียงตอบรับเบาๆแล้วก็นอนพิงไปยังบนเบาะ วันนี้มันก็ล้าๆ หน่อยเขามาถึงเมืองไทยก็เข้าไปที่ทำงานเลย
มาร์คเห็นคุณแพรวอัพสเตตัสว่าทานข้าวอยู่ที่ไหน เขาเลยอยากจะพาเจ้านายที่ไม่เคยเดินห้างสรรพสินค้า ทานอาหารข้างทางใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เห็นสภาพเจ้านายแต่ละวันแล้วอดที่จะห่วงไม่ได้ คุณฟรานอายุก็ไม่ได้เยอะแต่ชีวิตโครตจะไม่มีอะไรเลยถ้าการทำงานถือว่าเป็นคนเก่งมากๆ แต่ในด้านการใช้ชีวิตถือว่าขาดทุน
มาร์คได้ทำการจอดรถที่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ฟรานเซสโก้ที่ลืมตาขึ้นมาแล้วก็ถามมาร์คด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจ
“มาร์ค นายพาฉันมาทานข้าวในห้างสรรพสินค้าเหรอ นายคิดอะไรอยู่ฉันไม่ชอบความวุ่นวายนายก็รู้”
มาร์คส่ายหน้าก็นิสัยแบบนี้ แล้วจะเอาอะไรไปมัดใจคุณแพรว เฮ้อ!!!
“คุณฟรานไม่ชอบคนเยอะใช่ไหมครับ แต่พอดีน้องพลอยเขาชอบแบบนี้เสียด้วยสิ ผมเห็นคุณแพรวเช็คอินที่ห้างนี้ โอเคครับ ไม่เป็นไรงั้นผมพาไปที่อื่นก็ได้ครับ”
ฟรานเซสโก้ฟังสิ่งที่มาร์คพูด พร้อมกับทำน้ำเสียงเหมือนคนน้อยอกน้อยใจตัดพ้อ อะไรของมันแต่เมื่อกี้มันบอกว่าคุณแพรวเช๊คอินที่ห้างนี้
“เออๆ พูดมากก็จอดสิ เดี๋ยวฉันจะลงไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ฉันขี้เกียจหิวท้องรอนาน”
มาร์คแอบมองกระจกหลัง มองคนฟอร์มจัด ทำเป็นหิวจริงๆ เลย พวกปากแข็งแอบสนใจคุณแพรวแต่งานนี้ต้องดูยาวๆ เขารู้สึกถึงเคมีบางอย่างของคนทั้งคู่ ยิ่งภาพที่เจ้านายเขาอุ้มน้องพลอยแล้วมีคุณแพรวอยู่ข้างๆ ดูไปคล้ายๆ พ่อแม่ลูกเลย
เมื่อจอดรถแล้วฟรานเซสโก้กับมาร์คเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมาจับจ่ายเดินช๊อปปิ้งกันเยอะมาก สายตาก็กวดมองหาสองแม่ลูกว่าอยู่ชั้นไหน
“มาร์คแล้วน้องพลอยอยู่ชั้นไหนหละ จะหาเจอหรือเปล่า”
มาร์คที่กำลังก้มมองมือถือดูว่าร้านที่คุณแพรวเช๊คอินอยู่ตรงไหน สายตาก็มองไปรอบๆ จนกระทั่งเจอ
“ร้านนั้นครับ ร้านที่คุณแพรวเช็คอินไปกันเลยครับ แต่ว่าคุณฟรานจะทานเป็นไหมครับ ร้านบุพเฟ่ชาบู สไตล์เกาหลี ผมว่าถ้าคุณฟรานไม่โอเคเราเปลี่ยนร้านก็ได้นะครับ”
ฟรานเซสโก้มองเข้าไปภายในร้าน ก็เห็นน้องพลอยที่มัดผมแกะอยู่กลางศรีษะ กำลังยืนจิ้มๆ อะไรสักอย่างบนเตา และสายตาเขาเห็นแพรววนิตที่ส่งเสียงหัวเราะและยิ้มอยู่ตลอดเวลาทำไมมันดูอบอุ่นจัง
“จะยากอะไร เด็กตัวแค่นั้นยังทานได้ ฉันอายุเท่าไหร่ทานไม่ได้ก็อายน้องพลอยแย่ ไปๆ พูดมากอยู่ได้มาร์ค”
ฟรานเซสโก้เดินตรงดิ่งเข้าไปยังร้าน แต่ก็ต้องหยุดชะงัก ทันทีที่พนักงานเอ๋ยถามว่ามากี่ท่าน เขาจึงหันหน้าให้มาร์คจัดการจนได้ที่นั่ง ช่างเลือกด้วยนะเอาตรงใกล้กับที่คุณแพรวนั่งด้วย
เมื่อฟรานเซสโก้กับมาร์คเดินเข้ามาภายในร้าน น้องพลอยที่ยืนอยู่บนเก้าอี้ เห็นสองหนุ่มลุงมาร์คกับน้าฟรานเดินเข้ามาจึงโบกมือเรียก
“น้าฟราน ลุงมาร์ค น้องพลอยอยู่นี่”
แพรววนิตกับพิมชนกตกใจ ที่จู่ ๆ น้องพลอยก็ตะโกนเรียกใครทันทีที่เห็นหน้า แพรววนิตทำหน้าสงสัย รสนิยมแบบเขาเนี่ยนะ นักธุรกิจใหญ่จะมานั่งทานร้านอาหารบุพเฟ่แบบนี้
“อ้าว น้องพลอยมาทานร้านเดียวกับน้าฟรานเลยนะครับ”
มาร์คได้ยินถึงกับตกตะลึง เจ้านายเขาตีบทแตกกระจุย ไม่คิดเลยว่าจะแสดงละครเก่งแบบนี้
“น้าฟรานชอบทานแบบนี้เหมือนน้องพลอยเลยนั่งกับน้องพลอยของกินของน้องพลอยเยอะเลย”
ฟรานเซสโก้เห็นน้องพลอยพูด ตั้งแต่ที่เขาเจอเด็กน้อยคนนี้เรียกรอยยิ้มจากเขาได้หลายรอบมาก
“ไม่เป็นไรครับ น้าฟรานกับลุงมาร์คนั่งข้างหลังน้องพลอย น้าฟรานกับลุงมาร์คตัวใหญ่เดี๋ยวจะแย่งน้องพลอยกินหมด ทานเถอะครับหรืออยากมานั่งโต๊ะน้า ฟรานก็ได้นะ”
แพรววนิตรู้สึกว่า ความบังเอิญไม่น่าจะใช่เธอสัมผัสได้ แต่เขาจะตามเธอมาเหรอก็ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง ใจเธอกลัวเหลือเกินหากลูกสาวเธอไปตีสนิทกับเขา
พิมสะกิดแพรววนิตให้ลุกไปดูแลเจ้านาย เธอสัมผัสได้ว่ามันต้องมีอะไรแน่นอน คนอย่างคุณฟรานเนี่ยนะ จะมาทานอาหารในนี้เธอได้ยินกิตติศัพท์ความเจ้าระเบียบออกจะหยิ่งด้วยซ้ำแต่ดันมารู้จักกับน้องพลอย แต่สายตาที่เขามองไม่ได้มองหลานเธอเลย เขาเอาแต่จ้องเพื่อนของเธอ
“ไปช่วยคุณมาร์คดูแล เจ้านายสิดูท่าทางจะไม่เคยทานเป็นเลขาของเขาก็ทำหน้าที่ดูแลเจ้านายหน่อย”
แพรววนิตทำน้ำเสียงฮึดฮัด ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเธอรู้สึกแปลกๆ
“ไม่อ๊ะ เลิกงานแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ฉัน”
“ยัยแพรว แกไม่ใช่คนไม่มีน้ำใจฉันว่าแกก็คงจะรู้และได้ยินมาบ้างแล้วว่าเจ้านายเราเป็นคนแบบไหน และที่สำคัญฉันเชื่อในความรู้สึกของตัวเองว่า แกกับเขามีอะไรบางอย่างใช่ไหม”
“เปล่า ไม่มีอะไร เออๆ ดูให้ก็ได้พูดมากจริงเชียว”
แพรววนิตจำต้องลุกขึ้นไปดูเขากับคุณมาร์คที่นั่งนิ่ง ไม่รู้จะสั่งอาหารอะไร มันน่าแกล้งจริงๆ ไม่รู้จักแต่อยากจะทาน
“เป็นยังไงบ้างคะ คุณมาร์คสั่งอะไรไปบ้างแล้วหรือว่ายังไม่ได้สั่ง”
ฟรานเซสโก้เห็นแพรววนิตเดินไปนั่งข้างๆ มาร์ค ก็รู้สึกไม่ถูกใจ มาร์คที่เงยหน้าขึ้นมาเจอเจ้านายสายตาแบบนี้อีกแล้ว
“คุณแพรวครับ คุณแพรวนั่งข้างเจ้านายดีกว่าไหมครับ พอดีผมตัวใหญ่ไม่สะดวก เดี๋ยวจะชนเข้ากับคุณแพรว”
แพรววนิตหันไปมองมาร์คที่ส่งสายตาขอร้อง ให้เธอย้ายไปนั่งอีกฝั่งซึ่งเธอไม่โอเค ฟรานเซสโก้รู้สึกว่าแพรววนิตนั้นทำท่ารังเกียจเขาเลยรู้สึกน้อยใจ
“ข่างเขาเถอะ มาร์ค เขาสบายใจนั่งตรงไหนก็ปล่อยเขา”
สักพักน้องพลอยเดินมา แล้วทำท่าจะปีนข้ามไปหาลุงมาร์ค
“คุณแม่ขา คุณแม่ไปนั่งฟังน้าฟราน น้องพลอยอยากนั่งข้างลุงมาร์ค”
แพรรวนิตตกใจจู่ๆ ลูกสาวเธอก็มาจัดแจงเธอกำลังจะพูดโต้ตอบเขา งานนี้เลยต้องกลืนคำพูดเข้าไป
ฟรานเซสโก้หันหน้าไปด้านข้างแอบยิ้ม คิดในใจงานนี้เขาคงจะต้องให้รางวัลชิ้นใหญ่กับน้องพลอยแล้วหละ ที่จัดการแพรววนิตให้มานั่งกับเขา ดูจากใบหน้าของแพรววนิตเขารู้สึกสะใจ พร้อมกับยักคิ้วให้
“เออ...น้องพลอยทำไมหนูไม่นั่งกับน้าพิมละคะปล่อยน้าพิมนั่งคนเดียวได้ไง คุณแม่สั่งอาหารให้คุณลุงกับคุณน้าเสร็จแม่ก็จะกลับไปนั่งที่โต๊ะแล้ว”
“คุณจะว่าน้องพลอยทำไม น้องพลอยเขาทำตัวมีมารยาทมากกว่าคุณอีกนะ คุณหัดศึกษาจากลูกสาวของคุณบ้างสิ”
แพรววนิตได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจ นี่เขากล้าว่าเธอเลยเหรอ เธอเริ่มจะโมโหลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินกลับช่วงที่กำลังจะผ่านเก้าอี้ของเขา ก็มีมือมาดึงต้นแขนเธอให้นั่งลงด้านข้าง
“ช่วยสั่งอาหารให้ผมก่อนแล้วค่อยไป เพื่อนคุณนั่งคนเดียวได้ ช่วยทำหน้าที่เลขาที่ดีด้วย”
แพรววนิตตกใจกับการที่เขาดึงเธอให้ลงไปนั่งข้างๆ แพรววนิตถึงกับต้องปรับอารมณ์ให้เย็นลง พร้อมสั่งอาหารเป็นชุดๆมาให้เขา ถ้าจะให้ไปตักเองคงจะไม่สะดวกแน่ๆ
เธอรอจนอาหารทุกอย่างมาที่โต๊ะทั้งหมดเธอเลยจัดแจงการปิ้งย่าง วางบนจานให้เขาได้ชิมทันทีที่เนื้อเข้าปาก เขารู้สึกได้ถึงความอร่อยมันอร่อยมากเขาพึ่งได้ทานแบบนี้เป็นครั้งแรก
“น้าฟรานอร่อยไหมคะ ของชอบของน้องพลอยเลยนะคะ”
ฟรานเชสโก้ส่งยิ้มแทนคำตอบไปให้ยังเด็กน้อย แล้วยิ้มเผื่อแผ่มายังคนด้านข้างที่คอยปิ้งเนื้อให้กับเขา มาร์คที่แอบเห็นกิริยาท่าทางของเจ้านายแล้วก็รู้สึกแอบขำอยู่ภายในใจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนอย่างเจ้านายเขาจะมานั่งทานแบบนี้