ฟรานเซสโก้ตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดตาก็คอยแต่จะมองหาใครบางคน และรู้สึกรำคาญคนข้างๆ ที่คอยแต่จะเกาะแขนและซบไหล่ ประหนึ่งรู้จักกันมานานนี้คือการเจอกันไม่ถึงชั่วโมง
มาร์คที่สังเกตุอาการของเจ้านายจากมุมไกลๆ เห็นแล้วก็รู้สึกขำ คนเราก็ช่างหาห่วงมาผูกคอตัวเองดีแท้ คุณแพรวนี่เก่งจริงๆ ที่สามารถทำให้ผู้ชายที่แป๊ะทุกอย่าง สามารถทำอะไรที่ผิดแผนจากสิ่งเคยทำ
“คุณผมว่า คุณเลิกทำแบบนี้เถอะนะครับผมรู้สึกอึดอัดรำคาญมากๆ”
“ไม่ได้ค่ะ งานนี้คุณจะมาทำเหมือนดาวเป็นผู้หญิงข้างถนนไม่ได้ คุณเลือกดาวมาทำหน้าที่ แล้วคุณก็ต้องให้เกียรติดาวนะคะคุณฟรานเซสโก้”
แพรววนิตงานนี้เธอสวยจนคนทั้งงานพากันตะลึงปกติที่ว่าสวยสง่าถึงแม้จะแต่งงานมีลูกแล้วก็ตามหุ่นเฟอร์เฟคอะไรเช่นนี้
“คุณมาร์คค่ะ เดี๋ยวถ้าไม่มีอะไรแล้วแพรวขออนุญาตกลับก่อนนะคะ แพรวทิ้งน้องพลอยไว้ที่บ้านของพิมแพรวรู้สึกเกรงใจคุณแม่กับพ่อของพิมค่ะ”
“ได้ครับ ถ้าคุณฟรานเซสโก้กล่าวเปิดงานเสร็จแล้วคุณจะกลับเลยก็ได้นะครับ ท่าทางคงจะไม่มีอะไรแล้ว”
“ขอบคุณคะ เออ...แพรวพึ่งรู้นะคะว่าคุณฟรานเขาชอบคนในวงการด้วยแต่ก็อย่างว่า มันก็ไม่น่าแปลกใจหล่อๆ รวยแบบนั้นคงจะมีสาวๆ เยอะ อยู่แล้ว”
“ฮ่า ฮ่า คุณแพรวคิดอย่างนั้นเหรอครับ ผมว่าบางที่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาอาจจะอยากหาอะไรที่มันไม่เฟอร์เฟคบ้างก็เป็นไปได้นะครับคุณแพรว”
แพรววนิตรับรู้ได้ถึงคำพูดของคุณมาร์ค และแอบเห็นสายตาที่คอยแต่จะมองตามเธอไปทุกที่ คนบ้าจะมองอะไรนักหนาคนข้างๆ ก็ออกจะสวยแบบนั้น
“โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวคุณฟรานกล่าวเปิดงานอะไรเสร็จแพรวก็คงจะกลับเลยนะคะ”
ตลอดเวลาที่ฟรานเซสโก้เห็นมาร์คยืนคุยอยู่กับแพรววนิตและสายตาของหนุ่มโสดในงานต่างมองแม่หม่ายทรงเครื่องที่เขาแอบได้ยินฉายาของเธอ แล้วรู้สึกหงุดหงิดกับคำชมที่หนุ่มๆ พวกนี้ต่างพากันชื่นชมและอยากจะเข้าไปตีสนิท ไม่รอช้าก่อนที่จะกล่าวเปิดงานเขาเดินตรงมาหาคนสนิท
“แพรววนิตเขาคุยอะไรกับนาย”
“เออ !! คุณแพรวเขาชมคุณฟรานกับคุณดาวหทัยนะครับ ว่าสวยหล่อสมกันดีจริงๆ ครับ”
“อะไรน๊ะ !! เขาชมฉันกับดาราที่ฉันจ้างมาเนี่ยนะ เขาไม่มีท่าทีอะไรบ้างเลยเหรอ”
“ท่าที ท่าทีอะไรเหรอครับคุณฟราน”
“เออ...ก็ แบบว่า...เออ”
มาร์คที่พยายามตั้งใจฟังแบบสุดๆ ว่าเจ้านายจะพูดอะไรแต่คนตรงหน้ากับดันพูดติดอ่างสะงั้น
“อ้าว!! สรุปคุณฟรานมีอะไร แต่เมื่อกี้คุณแพรวเขาฝากให้มาบอกเจ้านายว่า เธอขออนุญาตกลับไปรับน้องพลอยก่อนนะครับ เธอจะไม่อยู่รอจนงานเลี้ยงเลิกครับ”
“เหรอ!!”
มาร์คคิดว่าจะได้รับคำพูดอะไรที่มากกว่าคำว่าเหรอ มีแค่นี้เนี่ยนะ อะไรว๊ะ ช่างขัดกับท่าทางสะเหลือเกินนะคุณฟราน มาร์คถึงกับส่ายหน้าไม่ไหว
ส่วนฟรานเซสโก้สอดส่ายสายตาตามหาร่างบางของแพรววนิตไปตลอดทั้งงานถึงแม้จะพูดคุยกับคนอื่น แต่เขาก็มักจะยืนในจุดที่มองเห็นแพรววนิต จนเขาสามารถเห็นบรรดาพนักงานหนุ่มๆ ต่างเข้าไปยืนพูดคุยกับเลขาคนสวยของเขา เขายอมรับเธอสวยงามมากภายในใจ มันก็หาข้ออ้างมาแย้งตลอดจะไปสนใจทำไหม ตัวเขาเธอยังไม่มองเขาเลยคิดๆ แล้วมันไม่สบอารมณ์ตัวเองจริงๆ
กระทั่งถึงช่วงที่กล่าวเปิดงานเลี้ยงที่ทางบริษัทเลี้ยงต้อนรับเขาสาขาของประเทศไทยช่วงที่เขากำลังจะลุกขึ้นยืนนั่น ดาวหทัยดาราดังได้ทำสิ่งที่เขารู้สึกว่ามันออกจะเกินจากข้อตกลงและทุกสายตากล้องทุกตัวต่างจับภาพสิ่งที่มันเกิดขึ้นได้ทุกมุมแน่ๆ
“เฮ้ย! เฮ้ย! ห๊ะ!!”
ต่างมีเสียงแสดงความตกใจรวมถึง แพรววนิต และมาร์คที่ยืนรออยู่ตรงข้างเวที ซึ่งคนสนิทอย่างมาร์ครับรู้ได้ทันทีว่างานนี้ดาราดังจะต้องจบไม่สวยแน่ๆ
“เออ...ท่าทางคุณฟรานกับคุณดาวหทัยรักกันมากนะคะ แสดงออกอย่างชัดเจนมาก”
แพรววนิตหันหน้าไปพูดกับมาร์ค ส่วนมาร์คที่ยืนนิ่งค้างซึ่งเขารู้ว่ามันไม่ใช่เลย มาร์คเแอบเห็นสายตาของคุณฟรานที่ใช้มองดาราสาวแล้วเขารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“คุณ!!! ทำแบบนี้ คุณคิดว่าผมไม่กล้าหักหน้าคุณหรืออย่างไร ผมบอกแล้วว่าผมจ้างมาแค่ควงในงานเฉยๆ อย่าทำอะไรที่มากกว่าข้อตกลงแสดงว่าคุณไม่สนใจในสิ่งที่ผมเตือนเลยใช่ไหม ได้!!! ผมจะให้คุณรู้จักผมให้ดีขึ้นกว่านี้”
ดาวหทัยที่ได้ฟังน้ำเสียงที่เหี้ยม แสดงความไม่พอใจมันทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เธอไม่คิดว่าเขาจะหวงตัวเองแบบนี้ เพียงเธอคริสไปตรงปากนิดเดียวและมันอาจจะไม่โดนด้วยซ้ำแต่เขาทำราวกับเธอทำผิดร้ายแรง
“เออ...ดาว...เออ...ดิฉัน...ขอโทษค่ะ”
ดาวหทัยถึงกับพูดจาตะกุกตะกักรู้สึกว่า มันอธิบายอะไรไม่ถูกและเขาก็เดินขึ้นไปยังบนเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณทุกคน ดาวหทัยรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีจนมีเสียงหนึ่งดังมาจากทางข้างหลัง
“ถ้าเป็นผมนะ ผมจะรีบกลับออกไปจากงานทันทีผมจะไม่รอให้เขาลงมาจัดการคุณ สิ่งที่คุณทำผมบอกเลยว่ามันคือหายนะของคุณแน่ๆ รีบกลับเถอะครับผมขอเตือนคุณด้วยความหวังดี”
ดาวหทัยหันหน้าไปมองต้นเสียงคนที่พูดกับเธอ เขา เขาคือคนสนิทของคุณ ฟรานและดูท่าทางและสิ่งที่เขาเตือน เธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันเธอจะไม่รอให้เขาลงมาจัดการเธอแน่ๆ ดาวหทัยไม่รอช้าให้มาร์คเตือนเป็นครั้งที่สอง เธอจึงรีบลุกออกไปทันทีงานนี้เธอจะไม่เสี่ยงงานเธอกำลังรุ่ง
แพรววนิตเห็นคุณดาวหทัยที่รีบลุกและรีบเดินออกไปจากงานเลี้ยง นั่นเธอรีบไปไหนคุณฟรานยังกล่าวไม่เสร็จเลย แพรววนิตมองตามดาวหทัยออกไป
ฟรานเซสโกที่กล่าวขอบคุณพนักงานทุกคนที่จัดงานเลี้ยงให้กับเขา ช่วงที่กล่าวอยู่นั่นเขาแอบเห็นดาราสาวทำท่าทางตื่นตระหนกกับสิ่งที่มาร์คเข้าไปพูด เขาอยากจะรู้แล้วสิว่าคนสนิทเขาพูดอะไร ถึงทำให้ดาราสาวรีบหนีออกไปแบบนั้น ช่วงที่เขากวดสายตามองไปหาคนที่เขาเฝ้ามองตลอดเวลา นั่นแพรววนิต กำลังจะไปไหนเธอหันไปคุยกับทุกคน อารมณ์โมโห หงุดหงิดมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่เธอไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเธอเลยเหรอ เธอไม่คิดจะพูดกับเขาจริงๆใช่ไหม
แพรววนิตบอกลาทุกคนเพื่อจะรีบไปรับน้องพลอยจากบ้านเพื่อนสนิท และอีกเหตุผลหนึ่งเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพิษณุอดีตสามีพร้อมกับภรรยาใหม่ของเขา ซึ่งเธอไม่ชอบสายตา คำพูดของหทัยชนกที่มักจะมองเธอและชอบพูดจาดูถูกเธอ
“ไง!! จ้ะ จะรีบไปไหนคะคุณแพรว เราไม่ได้เจอกันนานมากใช่ไหมคะณุ”
หทัยชนกใช้ปรายสายตาหันไปถามสามี พิษณุที่มองอดีตภรรยาและอดีตเพื่อนสนิท วันนี้แพรวสวย สวยมากๆ หทัยชนกที่แอบเห็นสายตาของสามีที่มองหน้าอดีตภรรยาแล้วรู้สึกโกรธ และหมั่นไส้นังนี้มันหุ่นดีจริงๆ
“คุณ!! จะมองอะไรนักหนา ไป!!!เข้าไปได้แล้ว อย่าให้ฉันรู้นะว่าคุณคิดจะกลับไปยุ่ง ถ้าฉันรู้นะฉันเอาคุณตายแน่ คุณพิษณุ”
แพรววนิตที่รู้สึกเบื่อกับความหึงหวงของหทัยชนก พิษณุที่ส่งยิ้มนิดๆ มาให้อดีตภรรยาและเพื่อนสนิท เขาพยักหน้าให้ซึ่งภายในใจเขารู้สึกผิดบาปกับสิ่งที่เขาทำและลูกสาวของเขาไม่เจอกันนานมากแล้ว
“น้องพลอยโอเคใช่ไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
แพรววนิตฟังสิ่งที่อดีตสามีถามเธอ ใจมันก็รู้สึกเจ็บภาพวันที่เขาขอเธอหย่า เธออ้อนวอนขอร้องเขาแต่เขากลับไม่สนใจจะนึกถึงน้องพลอย แต่วันนี้ดันจะมาถามหาลูก
“สบายดีค่ะ มีอะไรจะถามอีกไหมถ้าไม่ฉันจะกลับไปรับลูกแล้ว”
“แพรว ผม...เออ...ผมอยากเจอลูกได้ไหม”
“หึ หึ ก่อนจะพูดอะไรออกมาควรจะกลับไปถามภรรยาคุณก่อนนะว่าเขาอนุญาตหรือเปล่า ฉันไม่อยากให้น้องพลอยเจออะไรที่ไม่สมควรจะต้องเจอ ขอโทษนะที่ฉันต้องพูดออกมาตรงๆ”
พิษณุมองหทัยชนกที่เดินเข้าไปพูดคุยกับเหล่าบรรดาเซเลบ ไฮโซ สังคมที่เธอชอบ เขาหันมาอีกทีก็เห็นแพรววินิตเดินจากไปแล้ว งานนี้เขาขอพูดอะไรหน่อย จึงรีบเดินตามร่างอดีตภรรยาออกไป ซึ่งประจวบที่ฟรานเซสโกเห็นว่ามีผู้ชายตามแพรววนิตออกไป เขาจึงได้ขออนุญาตเดินออกจากวงสนทนาและตามร่างของสองคนที่เขาเห็นไปทันที
“แพรว!! แพรว!! รอณุก่อน”
แพรววนิตที่ได้ยินเสียงร้องเรียกมาจากทางข้างหลังจึงได้หยุดและหันกลับไปมอง ก็เห็นพิษณุที่วิ่งตามมาวิ่งตรงมายังที่เธอยืนอยู่ แพรววนิตรีบมองทางด้านหลังของอดีตสามี ว่ามีใครตามมาด้วยไหมเธอรู้สึกไม่อยากจะมาทะเลาะอะไรกันตรงนี้ ดีที่เมื่อกี้มีคนเดินเข้ามาคุยด้วยกับหทัยชนกเธอถึงรอดจากการทะเลาะ
“มีอะไร ณุ!! มาแบบนี้ภรรยาของณุเขารู้เรื่องไหม แพรวไม่อยากจะมีเรื่องนะ”
“หทัยเขาคุยกับบรรดาเพื่อนๆ ของเขาอยู่ แพรวเป็นไงบ้างสบายดีไหม เมื่อกี้ที่ถามหาน้องพลอยเมื่อณุถามเพราะคิดถึงลูกจริงๆ”
“เหรอ ขอบใจนะที่คิดถึงน้องพลอย แพรวก็บอกไปแล้วว่าน้องพลอยสบายดี แพรวดูแลลูกเองได้ตามที่ตกลงไม่น้องกลัวว่าแพรวจะเอาน้องพลอยไปยุ่งกับครอบครัวของณุหรอกนะ มีอะไรอีกไหมแพรวรีบ”
พิษณุที่มองแพรววนิตแล้วเขารู้สึกยังรักและหวงอดีตภรรยาซึ่งวันนี้ดูสวยมากๆ หลังจากที่เลิกลากันเขาแอบเห็นว่าแพรวเริ่มแต่งตัวและดูดีขึ้นมาก
“เออ...วันนี้แพรวสวยมากนะ”
แพรววนิตได้ยินสิ่งที่อดีตสามีพูดออกมา เธอกำลังจะเอ่ยปากต่อว่า แต่ดันมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจก็เพราะมีท่อนแขนของใครเข้ามากอดตรงเอวเธอและทำการดึงเธอเข้าไปกอด
“อุ้ย!! คุณ!!! ทำอะไรเนี่ย”
“ขอโทษนะครับ มีอะไรกับแฟนผมหรือเปล่าครับ คุณ...เออ...”
พิษณุรู้สึกตกใจ แพรวไปเป็นแฟนกับคุณฟรานตั้งแต่เมื่อไหร่ จากที่รู้ๆ มาแพรวไม่เคยมีหนุ่มๆที่ไหนเลย แล้วนี่คืออะไร พิษณุได้แต่มองการกระทำของทั้งสอง
“เออ...ผมไม่รู้ว่าคุณสองคนไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ทำไม ครับคุณข้องใจอะไรเกี่ยวกับผมหรือสิ่งที่ผมพูดมันเชื่อถือไม่ได้”
แพรววนิตรู้สึกช็อคเขาบ้าไปแล้วแน่ๆ ไปแนะนำเธอแบบนั้นต่อหน้าอดีตสามี คนอย่างพิษณุคงจะไม่มีทางเชื่อแน่ๆ
“คุณ! ปล่อยก่อนสิ เออ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วแพรวขอตัวนะณุ”
“ดะ ได้! ยังไงฝากบอกลูกด้วยนะว่าผมคิดถึง ขอโทษด้วยนะครับ”
ฟรานเซสโก้ได้ยินเต็มสองหู คิดถึงลูก หรือว่านี้คือ อดีตสามีของแพรววนิต ฟรานเซสโก้ทำตาโตและหันหน้าไปหาคนข้างๆ ที่เขายังกอดไว้
“อย่าบอกว่าคุณกับคนนั้น เป็น เป็นสามีภรรยากัน”
“ใช่คะ แต่มันเป็นอดีตแล้วคะ และคุณนะปล่อยแขนจากเอวฉันได้แล้ว คุณ ฟรานและฉันขอต่อว่าคุณหน่อยนะคุณไปพูดแบบนั่นได้ไงว่า ฉันเป็นแฟนกับคุณ หากใครมาได้ยินคนอื่นเขาจะเอาไปนินทาได้ ฉันนะไม่มีอะไรจะเสียหายมากเพราะยังไงฉันก็เป็นของมีตำหนิอยู่แล้ว แต่คุณนะเป็นถึงผู้บริหารจะมาพูดเล่นแบบนี้ไม่ได้”
ฟรานเซสโก้ได้ฟังแพรววนิตบ่นเขา นี่แม่คุณหายใจทันไหมพูดเยอะขนาดนั่น
“ทำไมผมต้องกลัว คุณนะแหละกลัวอดีตสามีจะเข้าใจผิดหรือไง ถึงไม่พอใจ”
“คุณฟราน! ฉันกับณุเราจบความสัมพันธ์แบบนั่นไปนานมากแล้วนะ ส่วนคุณปล่อย!! ฉันจะไปรับลูก”
ฟรานเซสโก้ไม่พูดจาอะไรแต่จับมือของแพรววนิตเดินออกไปด้วยกัน ตลอดทางเดินแพรววนิตรับรู้ว่าเขาจะทำอะไรจึงพยายามแกะมือของเขาออก
“หยุด! ผมไม่ชอบใครมาขัดใจผม คุณไม่รู้ตัวเองเลยหรือไงว่าผม...”
แพรววนิตทำหน้างง ที่จู่เขาก็หันมาตะคอกเธอและทำทางโกรธเธอแบบนี้ อะไรของเขาควรจะเป็นเธอที่โกรธไม่ใช่เขา แล้วเธอก็ต้องเดินตามเขาไปจนถึงลานจอดรถที่รถของเขาจอดอยู่ก่อนหน้านั่นแล้ว
“มาร์ค! งานเลี้ยงข้างในฉันฝากนายดูแลต่อด้วยฉันจะกลับละ พอดีฉันเบื่อ”
แพรววนิตที่เห็นสายตาเขาหันหน้ามาทางเธอพร้อมกับพูดว่าเบื่อ
“คุณบ้าหรือไงอากาศเมืองไทยมันร้อน หรือเข้าวัยทองอารมณ์ถึงขึ้นๆลงๆ แล้วนี่แฟนคุณไปไหนถึงได้ทิ้งมาแบบนี้”
ฟรานเซสโก้ไม่พูดไม่จา เปิดประตูและดันแพรววนิตเข้าไปนั่งด้านในรถ ส่วนเขาวิ่งอ้อมมาตรงด้านคนขับ พอเปิดประตูเท่านั่น
“ใคร! คุณพูดว่าใครมีแฟน ผมเหรอไม่มีสิ่งที่เห็นก็แค่สร้างภาพโอเคไหม”
ฟรานเซสโก้ที่ตัวเขาเองยังรู้สึกตกใจในการกระทำของตัวเอง เขาหึงคนข้างๆ ขนาดนี่เลยเหรอซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย