ลาสเวกัส...สหรัฐอเมริกา...
ณ สนามบิน…ในส่วนลานจอดรถบริเวณประตูทางออกผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ ไม่ไกลจากนั้นมีรถลีมูซีนสุดหรูติดฟิล์มกรองแสงสีดำสนิทคันยาวเฟื้อยจอดรออยู่ ภายในนั้นมีชายหนุ่มร่างกำยำที่มีดวงตาคมดุนั่งไพล่ขาเอนกายพิงเบาะใบหน้าคมคายมีคิ้วเข้มได้รูปสวยขมวดเป็นปมอยู่ในดวงตานิ่งสงบอย่างใช้ความคิด...
“เอายังไงครับนาย...” [แมทธิว : วัย35ปี : บอร์ดี้การ์ด]
“...” [เงียบ] ดวงตาคมกริบหรี่ลงต่ำ มือแกร่งกำแน่นขึ้นจนกลายเป็นหมัด เรียวปากหนาได้รูปยกยิ้มหยันๆ
“งั้น! ก็จัดการมันซะ!”
[มาร์ติน : Martin Merton : วัย 34 ปี : มาเฟีย]
“แล้วเงินที่มันเอาไปล่ะครับนาย”
[ชาร์ลี : วัย 32 ปี : บอร์ดี้การ์ด]
“...” [เงียบ] ใบหน้าของมาเฟียหนุ่มยังคงยุ่งเหยิงดุจเดิม เสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวกลัดกระดุมไม่ครบเม็ด เผยแผงอกกำยำอันแข็งแกร่ง ในเมื่อเขาให้โอกาสแล้ว และแน่นอนในเมื่อถูกปฏิเสธ มาร์ตินก็ไม่ต้องทำตามสัญญาอะไรอีก
“ยึดกิจการและทรัพย์สินของมัน ในเมื่อฉันให้โอกาสมันมาเคลียร์ในวันนี้แล้ว มันไม่มา ก็ถือว่ามันรู้ตัวเองดีอยู่แล้ว บอกคนของเราให้ไปจัดการมันซะ”
“ได้ครับนาย” แมทธิวรับคำสั่ง
“นายครับ...ตกลงเรื่องที่ไทย นายตัดสินใจยังครับ ทางคนของเราที่อยู่ที่นั่น เร่งขอคำตอบว่าเราจะขายหรือบริหารต่อดีครับ”
“ฉันบอกนายไปแล้วนี่ว่าขายซะ นายยังไม่เข้าใจอะไรอีก”
“แต่ว่า...มันเป็นมรดกที่นายท่านรักมากนะครับนาย”
ก่อนตายนายท่านโรเบิร์ตยังสั่งเสียให้แมทธิวช่วยเตือนนายน้อยให้เขาช่วยดูแลกิจการของนายท่านที่อยู่ประเทศไทย และแมทธิวรับปาก เพราะคิดว่าอย่างน้อยเขาคงจะช่วยโน้มน้าวนายน้อยได้สำเร็จ แต่ทว่าตอนนี้ ดูเหมือนนายน้อยของเขาไม่คิดจะสนใจใยดีกับมรดกอันแสนแพงของผู้เป็นพ่อเลยสักนิด
“ทำไม...พ่อฉันตายไปแล้ว ท่านคงไม่รู้หรอกว่าฉันจะทำยังไงกับมรดกนั่น นายจะมาคิดมากทำไมแมทธิว”
“คุณท่านรักกิจการที่ท่านเปิดมาตั้งแต่นายยังเล็กอยู่นะครับ อีกอย่างคุณท่านก็ฝากผมให้เตือนนายด้วยครับ นายจะไม่ทบทวนหน่อยเหรอครับ”
“ฉันไม่เคยไปไทย นายจะให้ฉันไปบริหารกิจการที่นั่นได้ยังไง แค่ที่ลาสเวกัสฉันก็บริหารจะไม่ไหวอยู่แล้ว นายลองคิดดูสิ”
“แต่ถ้านายขายไป คุณท่านโรเบิร์ตล่ะครับ”
“พ่อฉันตายไปแล้ว”
แววตาของมาเฟียหนุ่มอ่อนแสงลง ต่อให้มีเงินมากมายขนาดไหน ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตพ่อของเขาได้
“แต่นายท่านรักกิจการนั้นมากนะครับ ผมว่านายลองไปดูก่อนดีมั้ยครับ แล้วค่อยตัดสินใจ อย่างน้อยถ้านายจะขาย นายก็ควรขายให้คนที่ไว้ใจได้ นายท่านจะได้สบายใจว่ากิจการของตัวเองได้คนที่เหมาะสมมาบริหารต่อ”
“จริงอย่างที่พี่แมทธิวพูดนะครับนาย นายลองไปดูก่อนก็ได้ครับ เขาว่ากันว่าสาวไทยสวยนะครับ อีกอย่างนายก็ถือว่าไปเที่ยวก็ได้นะครับ”
“พวกนายสองคนจะพูดให้ฉันไปให้ได้เลยงั้นสิ”
“ผมว่านายควรไปครับ ถ้าผมไม่รับปากนายท่านไว้ ผมก็คงไม่อยากให้นายไปขนาดนี้หรอกครับ”
“อืม...ก็ได้ อาทิตย์หน้าฉันว่างพอดี ยังไงนายก็เตรียมตั๋วเครื่องบินให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน และอย่าลืมของนายสองคนด้วยล่ะ แล้วกิจการที่นี่ นายก็บอกให้ออสตินจัดการดูแลให้ดีๆ ล่ะ”
“ได้ครับนาย”
********************
ณ Enjoy Club…ภูเก็ต...ประเทศไทย
“ครั้งนี้ถ้าแกทำสำเร็จ ม๊าจะยกกิจการคลับบาร์ที่กรุงเทพฯให้แกเลยนับหนึ่ง” [ดาริน : ดาริน เลิศสกุล วัย 49 ปี]
“อะไรทำให้ม๊าเชื่อว่าหนึ่งจะทำได้คะ”
[หนึ่ง : นับหนึ่ง เลิศสกุล วัย 25 ปี]
“ลูกสาวของม๊าสวยขนาดนี้ ยังไงก็สำเร็จอยู่แล้ว”
“แต่ว่าหนึ่งจะต้องไปอยู่ที่กรุงเทพนานเลยนะคะม๊า ความจริงกิจการของเราที่นี่ ก็บริหารจะไม่ไหวอยู่แล้วนะคะ ม๊ายังจะซื้อเพิ่มอีกเหรอคะ แล้วจะให้หนึ่งไปหลอกมาเฟียที่ไหนก็ไม่รู้ ม๊าไม่กลัวมาเฟียนั่น ฆ่าลูกสาวตัวเองเหรอคะ”
“ถ้าม๊าไม่มีคู่แข่งก็คงไม่ต้องให้ลูกสาวม๊าไปหรอกนะ แต่ว่าม๊าให้คนไปสืบมาแล้ว ว่ามีนายทุนย่านทองหล่อกับสุขุมวิทคิดจะซื้อเหมือนกัน ม๊าก็เลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย”
“แผนที่ม๊าเปลี่ยนก็คือให้ลูกสาวตัวเองไป*อ่อยผู้ชายเนี่ยเหรอคะ หนึ่งไม่มั่นใจตัวเองเลยค่ะ ว่าจะทำสำเร็จ”
“แต่ม๊ามั่นใจนะว่าลูกสาวม๊าจะทำสำเร็จ ผู้ชาย ยังไงก็แพ้ความสวยและมารยาหญิงแน่นอน หนึ่งไม่ต้องห่วงนะลูก ม๊าจะให้ยัยเมย์ไปช่วยหนูอีกแรง”
คุณหญิงดารินยังมีหลานสาวอีกคนที่จะคอยช่วยลูกสาวของเธอให้สำเร็จ
“ยัยเมย์เหรอม๊า ยัยนั่นจะไม่สร้างความวุ่นวายให้หนึ่งเหรอคะ”
“แกก็คอยบอกน้องสิ อย่างน้อยยัยเมย์อาจจะเป็นตัวช่วยให้แกก็ได้นะ...อืม...เผลอๆ อาจจะช่วยกันพวกบอร์ดี้การ์ดที่คอยคุมนายมาร์ตินนั่นก็ได้นะ พวกมาเฟียมักจะมีบอร์ดี้การ์ดอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา เอาไปนั่นแหละ เป็นไม้กันหมาก็ยังดีนะ”
“โอ้ย...หนึ่งหัวจะปวดกับยัยเมย์น่ะสิไม่ว่า ยัยเด็กนั่นแค่ใช้ชีวิตประจำวันก็ยุ่งยากพออยู่แล้ว”
“น่า...เอาไปเถอะนะ ม๊าเตรียมเพนท์เฮ้าส์ที่กรุงเทพไว้รอ และจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว อาทิตย์หน้านายมาร์ตินก็จะบินมาแล้ว ยังไง ถ้าเป็นไปได้แกจะไปรับที่สนามบินก็ได้นะ”
“โห่ม๊า...นายมาเฟียนั่นจะไม่รู้เหรอคะ ว่าเรามีแผน มันจะดูชัดเจนเกินไปมั้ยคะ”
“ถ้าเราไม่รีบทำแบบนั้น เราอาจจะช้ากว่านายเจตน์นั่นก้าวหนึ่งก็ได้นะ แม่ไปสืบมาแล้ว ว่านายเจตน์เขาก็เตรียมส่งลูกสาวไปเหมือนกัน เราจะช้ากว่าเขาไม่ได้ แกก็แกล้งเนียนๆ ไปรับสิ จะยากอะไร ลูกแม่สวยขนาดนี้แล้ว มั่นใจหน่อยสิ”
“โอ้ย...ม๊า...มันน่าอายมากเลยนะคะที่จะทำแบบนั้น”
“น่า...ทำเพื่อม๊าสักครั้งไม่ได้เหรอลูก ม๊าไม่เคยจะขออะไรแกเลยนะ”
“มันยากไปมั้ยม๊าภารกิจนี้”
“ไม่ยากสำหรับแกหรอก เชื่อม๊าสิ”
“จริงเหรอคะที่ไม่ยาก...อืม...โอเคก็ได้ค่ะม๊า หนึ่งไม่รับรองนะคะว่าจะสำเร็จหรือเปล่า หน้าตา*อีมาเฟียนั่น เป็นยังไงก็ไม่เคยเห็น หรือจะเป็นพวก*อีตาบ้าหื่นกามหนวดยาวเฟื้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่อยากจะคิดเลย”
“อายุ 34 นะไม่แก่หรอก กำลังดี ที่สำคัญแกเห็นแล้วจะตะลึง เดี๋ยวม๊าส่งรูปไปให้ดูละกัน โอเค สรุปแกช่วยม๊าแล้วนะ”
“ถ้าไม่ช่วย...ม๊าจะยอมป่ะล่ะ”
“ไม่ยอมหรอก...โอเค...ช่วยม๊าแล้วนะ”
“ค่ะม๊า” นับหนึ่งจะใช้วิธีอ่อยผู้ชายแบบไหนดีล่ะ ถ้าเกิดเธอไม่ใช่สเปคของนายมาเฟียนั่น แล้วนับหนึ่งจะมีวิธีการไหนอีกเนี่ย...เฮ้อ...ทำไมหม่าม๊าจะต้องให้เธอมาทำอะไรแบบนี้นะ...
********************
ณ The life Club...
“นายจะเอาไงกาย เรื่องที่ป๊ามอบหมายให้เราทำ”
ดวงตากลมโตเหลือบมองน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วใบสวยอย่างชั่งใจ ภารกิจหลอกมาเฟียมันไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้ เรื่องนี้ทำให้เธอลำบากใจมาก
“ฉันก็กำลังจะถามเธออยู่นี่ไงเฟย์ ว่าจะเอายังไง ป๊านี่คิดอะไรไม่เข้าเรื่องเลยนะ อยากขึ้นที่หนึ่ง อยากเอาชนะ อยากๆ ไปซะหมด ไม่คิดถึงจิตใจของพวกเราเลย”
“เรื่องที่จะปฏิเสธป๊ามันผ่านไปแล้ว ตอนนี้เราต้องมาหาวิธีจะทำยังไงที่จะเข้าหาไอ้มาเฟียนั่นได้ ดูจากรูปที่ป๊าส่งมานางก็ดูดีเหมือนกันนะ แต่ออกจะดูดุๆ ไปหน่อย ที่สำคัญเขาดูน่ากลัวมาก ฉันไม่รู้ว่าจะมีวิธีเข้าหายังไงเลย”
“*อ่อยสิ ผู้หญิงใช้มารยาได้นี่ เธอก็ทำได้อยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ตรงไหนที่นายคิดว่าฉันทำได้”
“ตรงที่เธอสวย หุ่นดี มีผู้ชายมาชอบเธอเยอะน่ะสิ”
“แต่ลูกสาวเจ้ดารินก็สวยนะ สวยมากด้วย ฉันจะสู้เธอได้เหรอกาย”
“เธอสวย มั่นใจหน่อยสิ ว่าแต่ฉันก็หนักไม่แพ้กันกับเธอเลยนะ ต้องเป็นคนสกัดแผนการของลูกสาวเจ้ดารินด้วยนะ...อืม...แผนของฉันยากกว่าเธออีก ป๊าจะให้ฉันไป*อ่อยแบบเธอ ฉันว่าเห็นจะยากแล้ว”
“เออ...แล้วนายจะใช้วิธี*อ่อยเธอยังไงล่ะ *อ่อยน่ะ เขาใช้กับผู้หญิงนะ ผู้ชายอย่างนายต้องไม่ใช่*อ่อยสิกาย”
“รุก...วิธีรุกใช่มั้ยเฟย์...แค่เห็นหน้าลูกสาวเจ้ดารินฉันก็แพ้แล้ว จะเอาอะไรมามั่นใจกันล่ะ”
“นายก็หล่อนะกาย รู้ตัวเปล่า สาวๆ ก็เข้าหานายเพียบเหมือนกัน เพียงแต่นายอายุน้อยกว่าลูกสาวเจ้ดารินไปสองปีก็แค่นั้นเอง เธออายุมากกว่านาย แน่ล่ะ เธอจะต้องมีประสบการณ์มากกว่านาย เรื่องนี้ฉันก็ช่วยนายไม่ได้เหมือนกันนะ”
“นั่นสิ...ภารกิจอะไรของป๊านะ ทำไมมันได้ยากเย็นขนาดนี้ ให้ฉันไป*ตีรันฟันแทงยังง่ายกว่า นี่อะไร...เฮ้อ...กลุ้มจริงๆ”
“ใช่...ฉันก็กลุ้มไม่น้อยกว่านายเลยนะกาย แค่ความสวยอย่างเดียวคงใช้กับนายมาเฟียนั่นไม่ได้หรอก มันต้องมีประสบการณ์ด้วย ฉันจะไปเรียนจากไหนดีล่ะ”
“ใช้เสน่ห์ความน่ารักและไร้เดียงสาของเธอสิเฟย์ ผู้ชายชอบนะ ฉันเองยังชอบเลย ผู้หญิงไร้เดียงสามันดูธรรมชาติดี”