ตอนที่1เหตุเกิด ณ จุดนี้
[ฮาเร็มฮาซีฟ]
“คุณเซริก็แค่บอกท่านฮาซีฟไปว่า นางทั้งสามหนีไปได้สิเจ้าคะ จะได้ไม่มีปัญหา ข้าออกตามหาทั่วคฤหาสน์แล้ว ก็เหลือแต่ห้องของนายท่านคาริสเจ้าค่ะ เพราะสาวรับใช้คอยสกัดข้าไว้ เกือบหลุดไปแล้ว ดีนะข้าอ้างว่ามาตาหาท่านเซริ ไม่งั้นคงแย่เป็นแน่แท้...ส่วนห้องของนายท่านอิลยาสก็มีคุณราเนียอยู่ในนั้นด้วย ก็คงไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”
“ข้าจะบอกนายท่านฮาซีฟอย่างที่เจ้าบอกได้อย่างไรโบอา เจ้าก็รู้นี่ว่านายท่านฮาซีฟพึงพอใจนางสาวคนไทยคนนั้นมากแค่ไหน”
เซริจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร นายท่านอาจไม่พอใจเพราะเธอทำงานไม่สำเร็จ
“แต่ข้าไม่คิดแบบคุณเซรินะเจ้าคะ ข้าว่านางสาวคนไทยที่ชื่อโมนานั่น น่าจะทำให้นายท่านฮาซีฟพึงพอใจอยู่ไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ ข้าว่านางมีเสน่ห์แพรวพราวและทำให้นายท่านฮาซีฟอยู่หมัด คุณเซริสังเกตไหม ว่านายท่านฮาซีฟจะอารมณ์เย็นทันที เมื่อเจอคุณโมนาคนนั้นออดอ้อนเอาใจ”
“ก็จริงอย่างที่เจ้าพูดนะโบอา แต่ข้าก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ถ้าเกิดนายท่านคาริสรู้เรื่องนี้ล่ะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เพราะนายคาริสเคยมาบุกค้นที่ฮาเร็มนี่แล้ว แต่นายท่านฮาซีฟปฏิเสธไปทุกทาง ข้าว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่”
“ใจเย็นๆ นะเจ้าคะคุณเซริ เราทำตามหน้าที่หมดแล้ว พวกนายท่านเขาไม่สนเรื่องพวกนี้นานหรอกเจ้าค่ะ นายท่านร่ำรวยมหาศาลกันขนาดนี้ ข้าคิดว่ามีสาวงามเป็นร้อยเป็นพันให้นายท่านเลือกเยอะแยะ อีกหน่อยก็ลืมและไม่สนใจเรื่องนี้หรอกเจ้าค่ะ”
“อืม...ข้าก็หวังว่าอย่างนั้นนะ”
[ห้อง...คาริส]
มรสุมรักผ่านพ้นไป ร่างระหงนอนระทวยไร้เรี่ยวแรง ดวงตากลมโตปิดสนิทลมหายใจยังคงสม่ำเสมอ เมื่อความร้อนในร่างกายลดลง บทรักนับครั้งไม่ถ้วนที่เขาและเธอบรรเลงด้วยกัน ความอ่อนล้าจากพายุรักทำให้ร่างบางหลับสนิท...
คาริสมองร่างหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอคือสตรีแปลกหน้า แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขา คาริสมั่นใจว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดเอาเปรียบเธอเลยในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทุกอย่างมันทำให้เขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ความเย้ายวนเสน่หาที่ตราตรึงเขาตั้งแต่แรกเห็นนั้น เป็นแรงผลักดันให้เขาไม่อาจปฏิเสธเธออย่างที่ควรจะเป็น ส่วนลึกในใจของเขานั้นพึงพอใจเธอเป็นอย่างมาก...คาริสไม่อยากผละจากเธอไป กลัวเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วและเธออาจจะหนีไป เขาเลยต้องผิดนัดงานเลี้ยงสำคัญของค่ำคืนนี้ไป ‘นายท่านมีอะไรขอรับ หรือว่าไม่สบายขอรับ’ บาซาร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อคาริสโทรไปหาลูกน้องคนสนิทให้จัดการเรื่องงานเลี้ยงนั้น ‘ใช่...ข้าไม่สบาย’ คาริสบอกลูกน้องไปอย่างนั้น
“อืม...” เสียงครางอันแผ่วเบาในลำคอเบาๆ
“เจ้าควรจะตื่น เพื่อมาเจรจากันเสียก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาแตะไปที่ใบหน้าอันงดงามเบาๆ
“...” ร่างบางรู้สึกตัวเมื่อมีบางอย่างมาสะกิดเธอ
“อุ้ย!!” รินลดาตกใจเมื่อเธอลืมตาและก็พบว่ากำลังถูกจ้องมองและที่สำคัญเธอยังอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกด้วย รินลดาพยายามเบี่ยงร่างของตัวเองออกจากเขา แต่ทว่าอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั้นกลับกระชับขึ้นไปอีก
“ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจ แต่ข้าก็อยากที่จะเจรจากับเจ้าก่อน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ร่างกายของเจ้าปกติดีหรือไม่”
ปลายเสียงของชายหนุ่มนั้นดูอ่อนโยน คาริสไม่เคยคิดว่าบทรักเพียงชั่วคืนกับหญิงแปลกหน้านั้น จะทำให้เขารู้สึกเต็มตื้นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นสตรีอื่นเขาคงไม่ได้สนใจขนาดนี้ แต่นี่เป็นเธอ...คนที่ตราตรึงอยู่ในใจของเขาโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่แรกเจอ
“เอ่อ...คุณปล่อยก่อนได้ไหมคะ”
“อืม...” ชีคหนุ่มยอมปล่อยเธอแต่โดยดี
“ฉันอยากกลับบ้านแล้วค่ะ รับรองนะคะว่าฉันจะไม่แจ้งความจับพี่ชายของคุณ แต่ขอแค่คุณพาฉันไปส่งที่โรงแรมที่ทีมงานฉันรออยู่ก็พอค่ะ ฉันสัญญานะคะว่าจะไม่เอาความกับพี่ชายของคุณค่ะ”
รินลดาพูดแบบรัวๆ เพื่อพยายามโน้มนาวเขา เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอประสบพบเจอนั้นมันร้ายแรงสำหรับเธอที่สุด แต่รินลดาก็คิดว่าดีแค่ไหนแล้วที่เธอยังมีชีวิตรอดมาได้
“ข้าไม่ได้ห่วงว่าเจ้าจะเอาความพี่ชายข้าเลย แต่สิ่งที่ข้าอยากคุยกับเจ้าก็คือ เจ้าเป็นของข้าแล้ว และข้าก็คิดว่าข้าคือคนแรกของเจ้า สิ่งที่ข้าอยากจะเจรจากับเจ้าก็คือ ข้าจะรับผิดชอบเจ้า...อืม...เจ้ามีนามว่าอย่างไร ขอข้าทราบชื่อของเจ้าได้ไหม ข้าเองมีนามว่า ‘คาริส’ เป็นน้องชายของท่านพี่ฮาซีฟ คนที่พาตัวเจ้ามา และข้าก็เป็นเจ้าของงานที่เจ้ามาเดินแบบให้”
“อะ-อะไรนะคะ! คุณคือเจ้าของงานหรือคะ ละ-แล้วคุณ”
“ข้าไม่มีส่วนรู้เห็นจากการกระทำของพี่ชายข้าเลย เจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้าออกตามหาเจ้าทุกที่แม้กระทั่งฮาเร็มของท่านพี่ ข้าก็ยังออกค้นหาเจ้า ทางทีมงานของเจ้าก็ทุกข์ใจและออกตามหาเจ้าเช่นกัน ในขณะนี้พวกเขาก็ยังพักอยู่ที่เดิม ไม่ได้กลับประเทศไทยแต่อย่างใด”
“จริงหรือคะ งั้นคุณช่วยฉันตามหาเพื่อนอีกสองคนได้ไหมคะ แล้วพาดิฉันกลับไปหาพวกเขาหน่อยค่ะ”
แววตาแห่งความยินดีเผยออกมาอย่างชัดเจน จนลืมอะไรบางอย่างไป
“เพื่อนของเจ้าข้าจะช่วยตามหา แต่ว่าตอนนี้ข้าอยากจะคุยกับเจ้า เรื่องของเรา คือ ข้ากับเจ้า”
คาริสพยายามจะอธิบายให้เธอเข้าใจ แน่นอนว่าเขากับเธอผ่านบทรักมามากมายนับสิบครั้ง โดยที่เขาไม่เคยคิดที่จะป้องกันเลย สิ่งที่จะตามมาไม่น่าจะพลาดเลยในความคิดของคาริส
“ฉะ-ฉันไม่เอาความคุณหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่ได้เกิดจากคุณซะทีเดียวหรอกค่ะ ฉันขอให้คุณช่วย เอ่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าอาจเป็นเพราะฉันดื่มน้ำที่สาวใช้ให้ฉันดื่มหรือเปล่า มันเลยทำให้ฉันเป็นแบบนั้น”
รินลดาอธิบายอย่างเขินอาย จะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเธอกับเขา เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ เหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตของรินลดา จะเรียกว่าอุบัติเหตุก็เห็นจะใช่
“แน่นอน...เจ้าโดนยาปลุกกำหนัด...และโดนปริมาณมาก ซึ่งคนที่โดนขนาดนี้ บางคนเกิดอาการช็อกก็มี ข้ารู้ว่านี่เป็นการกระทำของพี่ชายของข้า ถ้าเจ้าจะแจ้งความจับพี่ชายของข้า ข้าก็มิได้ขัดขวางเจ้าเลย”
“ฉันไม่แจ้งความค่ะ ขอแค่คุณช่วยพาฉันและเพื่อนกลับไปที่เดิมเท่านั้นก็พอค่ะ”
รินลดาอยากออกไปจากตรงนี้ ความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของเธอนั้น รินลดาจะถือว่ามันเป็นอุบัติเหตุในชีวิตของเธอ และเธอจะลืมทุกสิ่งที่นี่
“เจ้ากับข้าร่วมรักกันไปหลายครั้ง ข้ามิได้ป้องกันเลย เจ้าเองคิดว่าตัวเองจะกลับประเทศไปโดยไม่มีอะไรอยู่ในท้องของเจ้าหรือไง”
อารมณ์ของชีคหนุ่มเริ่มเดือดทุกขณะ
“เอ่อ...ฉันไม่เอาความคุณหรอกค่ะ ฉันแค่อยากกลับบ้านค่ะ แค่คุณส่งฉันกลับก็พอแล้วค่ะ”
“ถ้าเกิดเจ้าตั้งครรภ์ลูกของข้าล่ะ เจ้าจะทำอย่างไร”
“ไม่ค่ะ! ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ ถึงแม้ว่า เอ่อ ฉันจะท้องจริงๆ ฉันก็ต้องยอมรับ และเลี้ยงเขาได้ค่ะ”
“นี่เจ้า! จะเลี้ยงบุตรของข้าคนเดียวงั้นหรือ ทั้งที่ข้าก็ยังอยู่เนี่ยนะ”
คาริสสูดลมหายใจอย่างแรง เพื่อระงับความโกรธที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้า ทำไมเขาถึงคิดที่จะรับผิดชอบเธอ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษงั้นหรือ? คาริสไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย ใบหน้าอันงดงามและตราตรึงใจของคาริสต่างหาก ที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้
“คุณไม่จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบฉันหรอกค่ะ เราต่างเจอกันโดยบังเอิญ และถ้าฉันไม่ได้ เอ่อ คุณช่วยฉันไว้ล่ะก็ ป่านนี้ฉันอาจจะช็อกหรือเป็นอะไรไปก็ได้ค่ะ ขอแค่พาดิฉันกลับบ้านค่ะ”
“เจ้านี่ดื้อไม่เบาเลยนะ...” สันกรามของชีคหนุ่มขบกันแน่น เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ยอมจะเข้าใจในสิ่งที่เขาอธิบาย
“คุณไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรนะคะ ฉันจะลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดที่นี่ ฉันอยากกลับบ้านไปหาครอบครัวของฉัน แม่ของฉันคงเป็นห่วงฉันมากค่ะ”
“ข้าจะช่วยเจ้าอย่างที่เจ้าขอ แต่! มีข้อแม้ว่าเจ้าจะต้องอยู่ที่นี่กับข้าก่อน รอให้ข้าแน่ใจว่าเจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์บุตรของข้าเท่านั้น!!”
“อะ-อะไรนะคะ!!! ทำไมคุณจะต้องทำแบบนั้นคะ”
รินลดามึนงงกับสิ่งที่เขาเอ่ยออกมา ทำไมเขาจะต้องรู้สึกผิดขนาดนั้น รินลดาเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่ได้โทษใคร รินลดาอยากให้เรื่องนี้มันจบไปก็เท่านั้นเอง เธอจะอยู่กับเขาได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอกับเขาต่างเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน
“เจ้าฟังไม่ผิดหรอก เจ้าจะอยู่ที่นี่กับข้า ตอนนี้ข้าจะช่วยเจ้าตามหาเพื่อนของเจ้า นางน่าจะหนีออกไปไหนไม่ไกล คฤหาสน์ของข้ากว้างใหญ่ และมีคนของข้าคอยเฝ้าดูอยู่ทุกพื้นที่”
“ตะ-แต่ฉัน...”
“เจ้าแค่ทำตามที่ข้าบอกเถิด อืม เจ้ามีนามว่าอย่างไร ไม่เห็นเจ้าจะบอกข้าสักที”
คาริสมองดวงหน้าสวย ที่ตอนนี้มีสีชมพูเข้มขึ้นทั่วใบหน้าอันงดงามนั้น
“เอ่อ...ฉะ-ฉันชื่อ ข้าวฟ่างค่ะ”
“ขะ ข่า- ข้าฟ่างหรือ? ชื่อเจ้าแปลกจริง”
“ข้าว-ฟ่าง เรียกว่า ข้าว ก็ได้ค่ะ”
“ข้าว”
“ค่ะ”