ตอนที่ 2 การชดใช้

1411 Words
ในคืนแรกที่ต้องอยู่ด้วยกันในห้องหอ พรนับพันเตรียมใจแล้วว่าเขาจะต้องมีสัมพันธ์กับเธอเพื่อให้เธอตั้งครรภ์ แต่ภัสกรกลับไม่ได้สนใจการมีตัวตนของเธอเลยแม้แต่น้อย มื้ออาหารเย็นเขาก็ไม่พูดจากับเธอ พอขึ้นห้องก็เมินเฉยใส่ ไม่ได้เข้ามาทำอะไรรุ่มร่ามอย่างที่ผู้ชายต้องทำเวลาอยู่กับผู้หญิงแบบสองต่อสอง พรนับพันเห็นว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน และคิดในแง่ดีว่าบางทีเขาอาจให้เวลาเธอทำความคุ้นเคยกับเขาก่อน จึงนอนหันหลังให้เขาตั้งใจจะนอนหลับให้ผ่านพ้นคืนวันแรกไป “อย่าพึ่งนอน” เสียงภัสกรดังขึ้นมาทำให้หญิงสาวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว “ไปนอนห้องรับแขก ผมให้คนจัดไว้ให้แล้ว” “อะไรนะคะ” “พรุ่งนี้จะให้เด็กขนเสื้อผ้าออกไปให้” เขาไม่ตอบคำถามแรกและพูดอีกประโยคขึ้นมา “หมายความว่าเราจะแยกห้องนอนกันเหรอคะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ “...” เขาไม่ตอบอะไรเธอ แล้วมองด้วยแววตาสมเพช “แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ฉันจะมีลูกกับคุณล่ะคะ” เธอถามออกมาด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย “อยากเอากับผมจนตัวสั่นเลยสินะ” เขาพูดแล้วเหยียดยิ้มมองเธออย่างดูแคลนทำให้พรนับพันกำมือแน่น “ฉันไม่ได้พิศวาสคุณเลยแม้แต่นิด ฉันแค่มาทำตามข้อตกลงที่คุณต้องการ รีบท้องแล้วก็จะได้รีบออกไปจากที่นี่” เธอพูดออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยัดเยียดความคิดที่น่ารังเกียจนั้นให้กับเธอ “ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ผมจะให้คุณทรมานและได้ชดใช้ในสิ่งที่ผมสูญเสียไป ผมสูญเสียลูกและคนรัก พ่อแม่คุณก็ต้องได้รับผลกรรมนั้น จะเจ็บปวดแค่ไหนกันที่ลูกสาวสุดที่รักต้องตกมาอยู่ในมือของผม” เขาพูดให้เธอรู้สึกเจ็บใจ “ถ้าผมแค่อยากได้ลูก ผมหาผู้หญิงดีๆ คนอื่นมาแต่งงานก็ได้ แต่ทำไมผมเจาะจงว่าเป็นคุณล่ะ คิดสิคิด” เขาเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากเธอแล้วดันจนเซถอยไป ทำให้พรนับพันรู้สึกทั้งโกรธทั้งกลัวความเจ้าอารมณ์ของเขา “ไปอยู่ห้องนั้น เวลามีอารมณ์แล้วจะเรียกเอง แต่คงยากหน่อยนะ พอดีว่าเห็นหน้าคุณทีไรผมหมดอารมณ์ทุกที” ภัสกรพูดออกมาอย่างผู้ที่เหนือกว่า พรนับพันกำมือแน่น เธอหยิบของใช้ส่วนตัวติดมือไปนอนที่ห้องนอนตรงข้าม แม้จะโล่งใจที่เขาไม่ได้แตะต้องเธอ แต่ว่าการที่เขาทำอย่างนี้มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกหมดหวังที่จะได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ************************ ภัสกรลงมานั่งที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มแล้วรินเครื่องดื่มสีอำพันยกดื่มต่อเนื่องกันหลายแก้ว แล้วนั่งคิดถึงอดีตที่ผ่านมา เขากับรัตติกาลพบรักกันในร้านกาแฟที่เธอไปนั่งดื่ม หญิงสาวจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มให้เขาเพราะภัสกรลืมพกกระเป๋าสตางค์ไป หลังจากนั้นเขาก็นัดเจอกับเธออยู่บ่อยครั้งและคบกันในเวลาต่อมา เพียงเวลาหกเดือนที่คบหากัน เธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด พอเขาแอบเห็นเครื่องตรวจครรภ์ของเธอที่ทำหล่นลงพื้นตอนหยิบของออกจากกระเป๋าภัสกรก็ดีใจมาก เขารบเร้าให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยแต่รัตติกาลยังไม่พร้อม เธอขอเวลาบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เธอที่ต่างจังหวัด ภัสกรจึงแอบซุ่มที่จะเตรียมขอเธอแต่งงานต่อหน้าพ่อแม่เธอ วันที่หญิงสาวโทรเรียกให้เขาไปหา เป็นวันที่เขามีประชุมสำคัญ และได้บอกเธอไปแล้วว่าประชุมครั้งนี้มีผลต่อบริษัท ตอนแรกเธอก็เหมือนจะเข้าใจ แต่พอถึงเวลาก็โทรมารบเร้าให้เขาพาไปตรวจที่โรงพยาบาลจนเขารีบพูดตัดบทให้เธอนั่งแท็กซี่ไปเองจนเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น หลังจากนั้นรัตติกาลก็โกรธเขามาก เธอบอกเลิกเขาและหนีออกจากโรงพยาบาล เขาไปตามหาเธอที่ห้องก็ไม่เจอเธอ และสามวันต่อมาเมื่อเขาไปหาเธอที่ห้องอีกก็พบว่ารัตติกาลย้ายของออกจากห้องไปแล้ว “คุณอยู่ไหนนะเกล ผมคิดถึงคุณมากรู้หรือเปล่า” เขาพึมพำแล้วดื่มเครื่องดื่มในมืออีกหลายแก้ว นึกด่าตัวเองที่ไม่สืบประวัติเธอว่าพ่อแม่เธอเป็นใคร พอเธอหายไปเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน รู้สึกผิดที่วันนั้นไม่ได้พาเธอไปตรวจครรภ์ แม้พรศักดิ์จะเป็นคนขับรถชนเธอ แต่ต้นเหตุทั้งหมดมันก็มาจากเขาจริงๆ ที่ทำให้เธอไปอยู่จุดนั้นในเวลานั้น เมื่อตามหารัตติกาลไม่ได้ เขาจึงต้องแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องหนีไปจากเขา เขาใช้อำนาจทำให้บริษัทของพรศักดิ์ถูกยกเลิกงานจากลูกค้าหลายราย จนกระทั่งเขาและลูกสาวมาขอร้องเขาถึงบริษัทให้เลิกทำลายธุรกิจของตน เขาย้อนนึกถึงตอนนั้น ตอนที่พรศักดิ์พาพรนับพันมา เขามองแววตาที่กังวลของเธอในสิ่งที่เขาทำ และสีหน้าที่ดูเป็นกังวลไม่ต่างกันของพรศักดิ์ แล้วอยากทำให้พรศักดิ์เจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกสาวให้กับเขา “ถ้าอยากให้ผมหยุด คุณเอาชีวิตลูกของผมกลับมาให้ได้สิ หรือถ้าไม่ได้ลูกสาวคุณก็ต้องมีลูกให้ผม แล้วผมจะหยุดทุกอย่าง” “ฝันไปเถอะ” พรศักดิ์ไม่ยอมข้อเสนอที่บ้าบอนี้ สิ่งที่มีค่าที่สุดของเขาคือพรนับพัน ส่วนธุรกิจหากมันจะต้องปิดตัวลงเขาก็สามารถสร้างใหม่ได้ “ก็ได้ค่ะ ฉันจะมีลูกให้คุณ แต่ฉันมีข้อแม้” พรนับพันพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันเป็นทางเดียวที่ครอบครัวเธอจะพ้นวิกฤตนี้ บิดาของเธอแก่ตัวเกินกว่าจะเริ่มต้นใหม่ รวมถึงพนักงานอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล “คุณต้องเลิกยุ่งกับธุรกิจของที่บ้านฉันอย่างเด็ดขาด และตามลูกค้าของเราที่เสียไปมาให้ครบ หลังจากนั้นฉันจะอุ้มบุญลูกของคุณ” เธอพูดขึ้นมาเมื่อคิดว่าเขาจะให้เธออุ้มบุญ “เรื่องธุรกิจผมตกลง แต่ว่าคุณต้องเป็นเมียผม จดทะเบียนสมรสกับผมเพื่อให้ลูกเป็นลูกผมตามกฎหมาย แล้วตอนนั้นเราก็หย่ากัน” เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วถากถางเธอต่อ “แล้วไม่ต้องหวังสูงนะ ผมจะให้เจ้าหน้าที่สลักหลังว่าหลังจากหย่าคุณจะไม่มีสิทธิ์ในสินสมรสและลูกเป็นสิทธิ์ของผมคนเดียว และเรื่องนี้ต้องเป็นความลับ เพราะถ้าผมตามตัวเกลกลับมาได้ ผมไม่อยากให้เธอเสียใจ ถ้าไม่รับข้อเสนอนี้ก็กลับไปก็รอหมายศาลฟ้องล้มละลายได้เลย” “ไม่นะเค้ก” พรศักดิ์หันไปห้ามเธอ รู้ว่าลูกสาวต้องยอมแน่ “เค้กจะไม่ยอมให้พ่อกับแม่และพนักงานของเราต้องลำบากหรอกค่ะ” เธอบอกบิดาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ก่อนจะหันมารับปากเขา “ฉันตกลงค่ะ” เธอบอกแล้วสบตากับเขา แต่ก็ทนความแข็งกร้าวและน่ากลัวนั้นไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายหลบตาไป รู้สึกว่าชายตรงหน้าน่ากลัวกว่าที่คิด ข้อเสนอที่เธอต้องมาแต่งงานเพื่อให้กำเนิดทายาทของเขาจึงเกิดขึ้นมาในตอนนั้น แต่ก่อนที่จะทำให้เธอมีทายาทให้เขาต้องเล่นสนุกกับความรู้สึกของเธอและพรศักดิ์ให้มากกว่านี้ “เห็นเขาว่า ยิ่งลูกเจ็บคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยิ่งเจ็บ มาดูกันว่าผมจะทำให้คุณเจ็บมากแค่ไหน คุณพรศักดิ์” เขาพูดเสียงกร้าวแล้วยกเครื่องดื่มขึ้นอีกแก้วก่อนจะกระแทกมันลงกับโต๊ะ แล้วกำเอาไว้แน่นด้วยความโกรธเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่แสนเจ็บปวด ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD