เหนือฟ้ายังมี..เด็กน้อย

1223 Words
ตระกูลจรัญทิพย์.... ตระกูลใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศ ใครต่างก็รู้จักตระกูลนี้ดี ไม่ว่าจะเป็นใคร หากเป็นผู้ชายจะเหมือนกันหมด คนละพ่อคนละแม่ก็จริง..แต่ทว่านิสัยใจคอเหมือนถอดพิมพ์กันมาเด๊ะ นั่นเพราะนอกจากจะเป็นตระกูลไฮโซ รสนิยมดี ไม่ขาดแคลนธนบัตรใบละพันแล้ว เรื่องผู้หญิงก็ใช่ย่อย ..... จะเรียกว่าเสือตัวพ่อเลยก็ได้! คืนนี้ในคฤหาสน์หลังนี้มีงาน งานฉลองเรียนจบมัธยมปลายของลูกชายคนสุดท้อง ซึ่งเข็นกันแทบตายกว่าจะผ่านเกณฑ์ ถูกก่อตั้งโดยความต้องการของนายแม่ ที่ใคร่ฉลองให้เพื่อนไฮโซกลุ่มเดียวกันมาแสดงความยินดีเท่านั้น และถือเป็นโอกาส บอกให้เหล่าญาติพี่น้อง เชื้อสายวงศ์ตระกูลทว่าเขม่นกัน รู้กันทั่วหน้าด้วย ใช่! หล่อนกำลังจะส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจอมเกเรคนนี้ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ด้วยเหตุผลแค่คิมหันต์ เด็กหนุ่มอายุเพียง 18 ปี แต่แก่แดดบรมคนนี้จะได้เลิกเที่ยวเสียที! ก็อก ก็อก ก็อก “คุณคิมคะ คุณคิม” ก็อก ก็อก ก็อก “คุณคิมคะ!” แอด..!! “อะไร!” เจิม สาวใช้วัยละอ่อน ถึงกับหน้าหงายหลังเคาะประตู แล้วมันถูกเปิดออกมาพร้อมกับเสียงตะโกน ก่อนจะถอดสีหน้าจากตกใจเป็นซีดเผือดแทน เมื่อเผลอเหลือบตารอดใต้วงแขนไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนอนเปลือยกายอยู่ พลางหลบตา “คุณนายให้มาตามค่ะ บอกในงานแขกมาพร้อมกันแล้ว” คิมหันต์ถึงกับหัวเสีย ทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ “ก็ให้นายแม่ต้อนรับไปสิ นั่นมันแขกคุณแม่ไม่ใช่เรอะ!” “มันก็ใช่ค่ะ แต่นั่นก็งานคุณคิมไม่ใช่เหรอคะ ฉลองที่เรียนจบ” “เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยวะ นายแม่ชวนมาไม่ใช่หรือไม่ ก็ดูแลไปสิ” “แต่ว่า.. เอ่อ..” “ฉันไม่ว่าง!” ปัง! ไม่ทันที่เจิมจะทันพูดจบ ประตูบานไม้ราคาแพงบานเดิมถูกผลักปิดใส่หน้าเสียก่อน “เฮ้อ” ทำหล่อนเบื่อหน่าย ถอนหายใจไปหลายเฮือก หมุนตัวเดินคอตกไปหาคุณนาย ไปถึงหล่อนก็รายงานทันที กระซิบข้างหูเสียงเบา ก่อนคุณนายจะตกใจ “แกว่าไงนะเจิม ไอ้คิมมันเอาผู้หญิงมากกอีกแล้วเรอะ” “ชู่ว คุณนายเบาๆสิคะ เดี๋ยวแขกก็แตกตื่นกันหมดหรอกค่ะ” “หนอย ไม่เด็กลามก มีวันไหนบ้างที่ไม่ทำให้ฉันปวดหัวเนี่ย” ทว่า คุณนายอารีย์ไม่สนใจ ลุกพรวดจากเก้าอี้ มาทุบกำปั้นตัวเอง ไม่ทันได้เห็น ว่าตอนนี้ลูกเลี้ยงวัยสิบขวบซึ่งยืนฟังอยู่ในทีแรก เดินหายไปแล้ว เธอเดินอาดๆ ขึ้นไปชั้นสอง ผ่านคนในงานหลายต่อหลายคนที่ทักทายเธอตลอดทาง ก่อนจะไปหยุดอยู่หน้าประตูบานเดิม ก็อก ก็อก ก็อก “อะไรวะ!” เสียงโวยวายดังมาจากข้างใน บ่งบอกถึงความขัดใจ บังอาจมาขัดจังหวะเขาครั้งที่สอง แต่ต้องสะดุดกึกหลังเปิดประตูออกมาเห็น ผ่าง!!! “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ไป” “...” “อ่าว เรรันต์” ร่างสูงถึงกับถอดสีหน้า “หนูมาทำอะไรที่นี่คะ” เธอไม่ตอบ แต่กลับชะโงกหน้าผ่านวงแขนล่ำปราศจากเสื้อผ้า ใช้สายตาสอดส่องไปทั่ว ก่อนจะสะดุดตรงโซฟา ที่มีมือบางข้างหนึ่งตกลงมา พลางช้อนตาพูด “นายแม่ไม่พอใจใหญ่เลย ที่พี่คิมพาเพื่อนมานอนที่นี่อีกแล้ว มันไม่ดีเลยนะคะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ชะงักงันก่อนโน้มตัวลงมา ใช้มือข้างหนึ่งค้ำหัวเธอไว้ ส่วนอีกข้างเกาท้ายทอยแกรกๆ พลางแค่นหัวเราะ “จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของเด็กเลยนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ไหนๆหนูอุตส่าห์มาตามแล้ว พี่คิมไปร่วมงานด้วยก็ได้” “...” “เรรันต์ลงไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่คิมตามไป” “ได้ค่ะ” จบประโยคนั้น เธอหมุนตัวเดินไปอย่างว่าง่ายทันที ด้วยแววตาที่แป๋วเสียจนน่าทะนุถนอม และเพราะตรงนี้ละมั้ง ที่ทำคิมหันต์เอ็ดเธอไม่ลง ถึงจะไม่พอใจอยู่บ้างในบางที แต่ทว่า..เขาก็ไม่เคยถือสาเธอสักครั้ง “ฮึ” ​ สิบนาทีผ่านไป อย่าว่าแต่คุณนายอารีย์ที่หันไปมองแล้วขมวดคิ้วเลย แขกในงานคงไม่ต่างกัน ซึ่งพากันงงกับการแต่งตัวของเจ้าภาพ ด้วยเสื้อยืดกางเกงขาบาน ผมเปียกไม่ได้เช็ด แถมรองเท้าก็ไม่ใส่ เดินโทงๆ มาพร้อมกับความมั่นใจเต็มพิกัด ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆมารดาของเขา “คิม นี่แกเป็นบ้าไปแล้วเหรอไง แต่งตัวอะไรของแกลงมาเนี่ย!” ไม่นานคำถามกัดฟันก็ตามมา ทำเขาขำภายใต้หน้าที่นิ่งเรียบ คิมหันต์ปั้นหน้ามึน ก่อนจะยักคิ้วกลับไปให้ “เดี๋ยวก็นอนแล้ว จะพิถีพิถันไปไหน โอ๊ย ” กลับต้องสะดุ้งโหยง เพราะถูกคุณนายอารีย์ยิกเนื้อตรงชายโครงเสียจนเขียว “แกรู้จักคำว่าให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่บ้างไหม ห๊ะ” “รู้จักครับ แต่ไม่มีอารมณ์” “คิม!” “ชู่ว...เบาๆสิ เพื่อนนายแม่หันมามองกันหมดแล้ว” “ก็มองแกนั่นแหละ!” หล่อนสวนทันควัน ทำเอาคิมหันต์ที่ทำหน้านิ่งก่อนหน้านี้ กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ “ฮ่ะๆๆ เอาน่านายแม่ ยอมลงมาขนาดนี้ก็บุญแล้วนะผมว่า” “นี่ฉันต้องขอบคุณแกใช่ไหม” “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ ผมจะบาปเปล่าๆ เอาเป็นว่า นายแม่จะให้ผมทำอะไรก็บอกมาเลยตอนนี้ ดึกแล้วผมจะไปนอน” “หนอย..” “เฮ้ย” ไม่ทันที่คุณนายอารีย์จะได้ยิกลงไปที่เดิมอีกระลอก พ่อตัวดีอย่างคิมหินต์ ก็ผุดลุก ปลีกตัวหลบเสียก่อน “ ไปเลย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมาขอบคุณเพื่อนฉัน” “ไม่สิครับ ผมกลับขึ้นไป ผมจะลงมาทำไมอีกล่ะ ขอบคุณมันซะชุดนี้แหละ เป็นกันเองดี” “ไอ้...” ไม่ทันได้เอ่ย “ตามนี้นะครับ” เขาเดินออกไปเสียก่อน “อยากจะบ้าตายจริงๆเชียว” ปล่อยให้มารดาของเขานั่งฉุนเฉียวอยู่คนเดียว และมียาดมจากเจิมเป็นเครื่องทุ่นแรงอย่างรู้งาน ในขณะคิมหันต์ ซึ่งปกติเขาเป็นคนมักใคร่ความยียวนเป็นทุนอยู่แล้ว ตอนนี้เหมือนจะหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อเขาเดินไปอุ้มเรรันต์ขึ้นมา แล้วพาไปทักทายแขกเรื่อกับเขาด้วย “น้องผมครับ น้องผม” “น่ารักจังเลยนะคะ” “อายุเท่าไหร่แล้วคะ” “สิบขวบค่ะ...” “น่ารักจังเลย” “ ใช่ไหมล่ะครับ” เพิ่มความปวดหัวให้คุณนายอีกเท่าทวีคูณ จะเรียกว่าบุคคลนี้มีหน้ากากอย่างหนาแน่นเป็นอาวุธคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะทั้งแม่ทั้งลูกนั้นถือกันอยู่คนละอัน หรือเรียกได้ว่าทั้งบ้านอยู่แล้ว กระนั้นคิมหันต์ ต่อให้เกเรแค่ไหน แต่หากถึงเวลาที่เขาจะต้องออกหน้าออกตา เข้าสังคมแล้วเล่าก็ เขาจะกลายเป็นอีกคนทันที บุคลิก คารม และความแถ บอกเลยไม่แพ้ใครในโลก ยกเว้นก็แต่เรื่องสร้างภาพพจน์ให้ดูดีมีสกุลก็เท่านั้น ...ที่เขามักไม่เอาไหน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD