03

1500 Words
ถึงแม้ว่าจะบอกแบบนั้น ทว่าการเข้าใกล้นักแข่งคนดังก็ไม่ได้ง่ายดายเลยสักนิด เพราะตั้งแต่วันนั้นเฌอริลิณญ์ก็ทำได้เพียงแค่มองสิงห์อยู่ห่าง ๆ เช่นเคย งานที่มีทำอยู่ในตอนนี้บางครั้งก็ส่งผลให้เธอลืมชายหนุ่มไปบ้างบางครั้งคราว มันช่างเหมือนกับวันวานไม่มีผิด ความเห็นแก่ตัวส่งผลให้หญิงสาวเลือกที่จะปล่อยมืออดีตคนรักไปอย่างไม่ไตร่ตรอง ตอนนี้อยากกลับเข้าไปในชีวิตของเขาใจจะขาดเช่นไรก็ทำได้มากสุดเพียงเท่านี้ และการกลับมาเรียนได้ไม่กี่สัปดาห์ก็กำลังเป็นปัญหาของเธออย่างมาก รู้เช่นนี้จะดรอปเรียนไปให้จบ ๆ เสียอีกรอบยังจะดีกว่า เพราะจากที่ฟังอาจารย์มาไม่มีส่วนไหนที่เธอรู้เรื่องเลย ตอนเลือกเรียนสาขานี้แทนที่จะเป็นนิเทศศาสตร์ก็ดันเลือกตามคนรักเก่าอย่างสิงห์ไปแบบไม่คิด ตอนนั้นเธอเริ่มงานในวงการไปแล้วด้วยคิดว่าอย่างไรคณะที่เลือกเรียนก็คงจะไม่มีผลอะไร แต่มันไม่ใช่เลย จะสอบในอีกไม่กี่เดือนอยู่แล้วมีหวังถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คงจะตามเพื่อนไม่ทันเข้าจริง ๆ ผิดกับชายหนุ่มหัวดีอย่างเขาคนนั้นซึ่งเป็นคนเคี่ยวเข็ญเฌอริลิณญ์มาจนติดมหาวิทยาลัยด้วยกัน “อ๊ะ!” “อุ้ย ขอโทษที นึกว่าไม่มีใครยืนอยู่ตรงนี้” นอกจากไม่เข้าใจเรื่องเรียนที่อาจารย์สอนแล้ว เธอยังไม่เข้าใจเพื่อนร่วมคณะที่ตั้งใจเดินมาชนกันจนเกือบจะเสียหลักในตอนนี้อีกด้วย แน่นอนว่าไม่ได้อยากที่จะมีปัญหาเพิ่มเข้ามาในชีวิต แต่การที่ใครก็ไม่รู้เดินมาชนเข้าอย่างจังพร้อมกับไหล่ในชุดนักศึกษาที่เปียกชุ่มน้ำฝนไปครึ่งหนึ่งก็ทำเอาดาราสาวนึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เฌอริลิณญ์ไม่ได้ขับรถเองตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงจริงจัง และมีผู้จัดการชายคอยดูแลเรื่องพวกนี้ให้อยู่ตลอด แต่มันก็เริ่มเปลี่ยนไปในตอนที่งานของหญิงสาวลดลงจากข่าวลือเสียหายต่าง ๆ นานา ผู้จัดการส่วนตัวเมินเฉย ทางค่ายก็ป้อนงานให้เด็กที่กำลังปั้นเพื่อให้ขึ้นมาแทนหญิงสาวอยู่ในตอนนี้ คาดว่าอีกไม่นานเฌอริลิณญ์ก็คงจะตกกระป๋องไปตามที่คนวงในเอาไปติฉินนินทา ถึงตอนนั้นมีใบปริญญาไว้ประกอบอาชีพสักใบก็ยังดี การตัดสินใจกลับมาเรียนครั้งนี้เลยไม่ใช่เพราะผู้ชายเพียงอย่างเดียว เลิกเรียนแล้วเลยต้องมายืนรอให้ฝนหยุดตกเพื่อจะหารถไปขนส่งมวลชนต่อ แต่ปัญหาก็ดูจะวิ่งเข้าใส่เธอไม่หยุด “ไม่มีตาหรือยังไง ก็เห็นอยู่ว่ามีคนยืนรอให้ฝนหยุดตกอยู่หน้าตึกเยอะแยะ แล้วทำคนอื่นเปียกขนาดนี้ ไม่คิดจะขอโทษ?” “ก็บอกอยู่ว่าไม่เห็น คิดว่าตัวเองเป็นดาราแล้วจะมาสั่งคนอื่นยังไงก็ได้เหรอ” ตั้งใจมาหาเรื่องเฌอริลิณญ์ชัด ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะต้องสนใจเรื่องภาพลักษณ์อยู่หรอก แต่ตอนนี้อีกไม่นานก็คงจะหมดสัญญากับทางค่ายแล้ว ตบปากเพื่อนร่วมสาขาก็คงจะไม่แย่ไปกว่านี้เท่าไหร่ “จะหาเรื่องกันให้ได้เลย” “แล้วจะทำไมพวกฉันล่ะ เห็นกลับมาเรียนได้ ไม่มีงานในวงการให้ทำแล้ว?” “สภาพแบบนี้ใครเขาจะให้ทำงานด้วยอะ เหม็นคาว… ไปหมดแล้ว” “มึงก็พูดซะกูได้กลิ่นเลย อี๋ แม่ง ขมคอว่ะ” เฌอริลิณญ์บีบมือเข้ากันแน่น นอกจากคนพวกนี้จะไม่ขอโทษที่ทำเธอเปียกน้ำฝนหน้าตึกเรียนแล้วหนังสือเล่มที่หล่นอยู่ไม่ไกลก็โดนปลายรองเท้าส้นแหลมสีสดเขี่ยออกไปให้มันเปียกหนักมากกว่าเดิม ถ้าที่นี่ไม่ใช่สถานศึกษาดาราสาวคงจะได้จิกหัวใครสักคนเข้าให้จริง ๆ ครั้งนี้เลยเลือกที่จะปล่อยผ่านพวกหล่อนไปก่อน แต่ถ้ามีครั้งหน้าสาบานได้เลยว่าต่อให้เป็นในห้องเรียนที่มีอาจารย์นั่งสอนอยู่ด้วยคนพวกนี้จะไม่ได้ลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้อย่างแน่นอน หากแต่เธอที่ตั้งใจว่าจะเปียกทั้งตัวให้มันจบ ๆ ไปกลับต้องนิ่งงันยามรู้สึกได้ว่ามีเงาของใครบางคนยืนอยู่เหนือร่างพร้อมกับยื่นร่มมาทางตนเองที่ขยับตัวออกมาเก็บหนังสือเรียนซึ่งโดนกลุ่มเพื่อนร่วมสาขากลั่นแกล้งเมื่อสักครู่นี้ “ขอบ...” ดวงตากลมโตสั่นไหวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อมองขึ้นไปแล้วพบว่าเป็นคนที่เธอนั้นมองการเติบโตของเขาอยู่ห่าง ๆ มาตลอดหลายปี ก่อนจะต้องเจ็บตัวอีกครั้งยามศีรษะนั้นกระแทกเข้ากับเหล็กของร่มที่แถมมากับรถหรูในตอนที่รีบลุกขึ้นมากเกินไป “ระวังหน่อย” “ขอโทษที ขอบคุณมากเลยนะคะ” อาจจะเป็นเพราะเย็นมากแล้ว ผู้คนที่สนใจว่าเธอจะมีเรื่องกับเพื่อนในสาขาหรือไม่ก่อนหน้านี้ก็ไม่อยู่แล้วสักคน เนื่องจากคงจะเลือกวิ่งผ่าฝนไปที่รถหรือไม่ก็หอพักแทนที่จะมายืนติดแหง็กอยู่หน้าตึกเรียน บางคนก็เป็นแฟนที่ขับรถเข้ามารับถึงที่ เธอไม่ค่อยจะชอบฤดูฝนก็แบบนี้ เปียกชื้น รถติด ต้องเผื่อเวลานู่นนี่นั่นก่อนไปไหนมาไหนไปหมด แต่วันนี้คงจะต้องขอบคุณพระพิรุณเสียแล้วมั้ง “เย็นมากแล้วทำไมถึงยังอยู่อีกครับ” “เอ่อ... ฮัดชิ้ว!” มือขาวรีบยกขึ้นปิดจมูกของตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่รู้ว่าละอองมันจะไปโดนนักศึกษาชายตรงหน้าหรือเปล่า แต่การถอนหายใจออกมาก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีแล้วว่าการเจอเธอคงจะทำให้เขาเบื่อหน่ายจริง ๆ “ขอโทษค่ะ” กล่าวเสร็จก็รีบถอยห่างออกมาจากเขาทันที โดยลืมไปว่าพื้นที่ซึ่งตัวเองยืนอยู่นั้นเป็นหน้าตึกที่มีบันไดไม่ได้สูงมากแต่ก็ทำให้เจ็บตัวได้เหมือนกันหากพลัดตกลงไปทั้งที่ใส่ส้นเข็มมาเช่นนี้ “ก็บอกอยู่ว่าให้ระวัง” “ขะ...ขอโทษค่ะ” “พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือยังไง?” “อ่า ขอบคุณอีกครั้งนะ งั้นช่วยปล่อยหน่อยได้ไหม” เฌอริลิณญ์ไม่ได้รังเกียจที่จะอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่ถ้ามีคนมาเจอพวกเราในสภาพนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่ อีกอย่างเธอไม่ได้สนใจเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองขนาดนั้นแล้ว แต่กับนักแข่งอย่างสิงห์ อคิรานั้นมันไม่ใช่ แค่ทำให้เขาเจ็บช้ำตอนนั้นเธอก็แทบจะไม่กล้าสู้หน้าชายหนุ่มแล้ว แต่ก็ยังกล้ากลับมาวนเวียนในชีวิตเขาอีกแบบหน้าไม่อาย “รังเกียจ?” “สะ...สิงห์” หญิงสาวไม่ชอบแววตาเช่นนี้จากคนที่เคยอบอุ่นให้ตัวเองมาตลอดเลย อีกทั้งสัมผัสเบา ๆ บริเวณสะโพกผายของตัวเองก็ทำเอาต้องตกใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะต้องผละถอยหนีในตอนที่ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้ และเป็นตอนที่เขายอมปล่อยเธอให้ออกจากอ้อมอกพอดี รองเท้าส้นแหลมที่ลื่นน้ำฝนเลยเป็นเหตุให้เธอล้มจากการพลิกลงบันไดหน้าตึกจริง ๆ “ขอโทษที เจ็บหรือเปล่าครับ” “ตะ...ตั้งใจเหรอคะ” “ครับ แล้วเธอเจ็บมากไหม” เขาถามทั้งที่ยังยิ้มหน้าระรื่นให้กันอยู่ รวมถึงยังใช้สายตาหยาบโลนมองหญิงสาวในชุดนักศึกษาที่เปียกชุ่มไปเกือบทั้งตัว ความดีใจเล็ก ๆ ก่อนหน้าหายวับไปกับตา มันแทนที่ด้วยความชาหนึบในหัวใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น สิงห์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ จากคนที่เคยปกป้องเธอทุกทาง ตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเอาคืนเธอขนาดไหน “เกลียดกันมากเลยเหรอคะ” “ผมเคยรักเธอมากเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เกลียดมากเท่านั้นครับ” “ดีจัง อย่างน้อยก็ยังได้ยินคำว่าเคยรักจากสิงห์” “ไม่คิดเหมือนกันครับว่าดวงดาวอย่างคุณจะถึงคราวตกต่ำได้ถึงขนาดนี้ เรื่องงานผมช่วยได้นะ ว่าง ๆ ก็มาทำข้อตกลงกัน ไปนะครับ อ๋อ เสื้อบางขนาดนั้นถ้าตั้งใจใส่มาโชว์ ก็ได้ผลแล้วนะครับ เพราะมันเปียกแนบเนื้อจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” TBC. อะไรอะพี่ พาลหรือหวงคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD