CHAPTER 6 FORMER STORY

2450 Words
CHAPTER 6 FORMER STORY “พายัยนี่ไปนอนห้องคนงานโน่นไป ฉันเกลียดขี้หน้า” “นายเล็ก แต่ห้องคนงานมันเต็มแล้วนะครับ ห้องว่างก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด อีกอย่างเธอป่วยอยู่นะ มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอครับ นายเล็กจะ...” “ฉันสั่ง!! สกปรกก็ปล่อยให้นอนไปแบบนั้นแหละ ไม่ตายหรอก!” “ครับ นายเล็ก” ไอ้ริคมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดกับคำสั่งของผม ใจร้ายอะไร? เธอมีความสำคัญขนาดไหนถึงต้องคอยดูแลใกล้ชิด แค่ตื่นก็ไล่กลับบ้าน นี่ยังใจดีด้วยซ้ำนะที่อุตส่าห์พาไปโรงพยาบาล จริงๆจะปล่อยให้นอนแช่น้ำจนปอดบวมตายก็ไม่เห็นจะแคร์ “เสียเวลาชีวิตโดยใช่เหตุจริงๆ” เมื่อผมเดินมาถึงห้องนอนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างไม่รีรอ วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังต้องมาวุ่นวายกับยัยนั่นอีก เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงที่ผมจะได้พักผ่อนก่อนจะต้องตื่นมาเคลียงานในส่วนที่เหลือ สายตาผมเหลือบไปเห็นคราบเลือดบนเตียงเลยทำให้เห็นหน้าเธอลอยขึ้นมากลางอากาศ “คนหรือผีวะ หลอกหลอนอยู่ได้” พาให้ผมหงุดหงิดได้ในทันที จึงต้องพาตัวเองออกมานอนที่โซฟาห้องทำงาน เอาวะ นอนพักไปก่อนแค่สองชั่วโมงเอง พรุ่งนี้เปลี่ยนผ้าปูเตียงอีกรอบก็ได้นอนเหมือนเดิมแล้ว ได้แต่ปลอบใจตัวเองอย่างนั้นจนกระทั่งหลับไป... END TALK หนักหัว... นี่เป็นความรู้สึกของฉันในตอนนี้ รู้ได้เลยว่าตัวเองกำลังไม่สบาย ความรู้สึกต่อมาคือหายใจไม่ค่อยออก มันอึดอัด ทำให้ฉันต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเจอสภาพห้องที่ไม่คุ้นเคย ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ย.... ฉันหันไปมองรอบๆห้องด้วยความตื่นกลัว ห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆแคบๆที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากที่นอนยางพาราเก่าๆวางอยู่บนพื้นซึ่งก็มีตัวฉันนอนทับมันอยู่นี่แหละหน้าต่างที่ไม่มีผ้าม่านบดบังแสงจากข้างนอกทำให้ห้องนี่มีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยไม่ต้องสงสัย บนพื้นมีฝุ่นหนาเตอะ ไหนจะเพดานที่มีหยากไย่เต็มไปหมด บ่งบอกได้เลยว่าห้องนี้ไม่ได้ทำความสะอาดเลย คือมันโครตสกปรกอย่างกับบ้านร้าง.. สมองคิดย้อนไปว่าก่อนหน้านี้ฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน แล้วหน้าผู้ชายคนนั้นก็ปรากฏขึ้นมาในความคิด ไอ้บ้าไรเฟิลไง ล่าสุดฉันอยู่กับเขา ใช่แน่ๆ แล้วฉันมาอยู่ห้องโกโรโกโสนี่ได้ยังไง พอนึกขึ้นได้ก็โมโห ดันเสียซิงให้ไอ้บ้าหน้าหล่อแต่ปากหมานั่น ไม่ได้เสียดายเท่าไรแค่เสียใจนิดหน่อยที่มันทำฉันรุนแรงเกินไป แถมยังมาให้ฉันอยู่ที่แคบๆอีก ฉันไม่ชอบเอาซะเลย “โอ้ย...” ความเจ็บแล่นเข้ามาทันทีที่ฉันหยัดตัวขึ้นนั่ง เจ็บบริเวณตรงนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงเจ็บ นึกแล้วแค้นบอกให้เบาๆหน่อยก็ไม่ฟัง ถ้ารู้ว่าจะมาทรมารทีหลังขนาดนี้ฉันจะยอมให้มันยิงตายไปก็ดี โมโห! “ที่นี่ที่ไหน?” เมื่อฉันกระชากประตูห้องเปิดออกด้วยความเดือดดาลก็พบเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อเชิตแขนยาวสีดำยืนอยู่หน้าห้อง “วินเซ้นต์คาสิโนครับ” “ไรเฟิลอยู่ไหน” “นายเล็กน่าจะรับประทานอาหารอยู่ที่ห้องอาหารครับ” หน็อย...ทำฉันเจ็บแล้วยังมีหน้าระรื่นไปกินข้าวอีกนะ ฉันก็หิวเหมือนกันนะโว้ยตอนนี้อ่ะ รู้สึกว่าไม่มีข้าวตกถึงท้องเลยสักเม็ดนานเท่าไรแล้วไม่รู้ “พาฉันไปหาเขาที” “ไม่ได้หรอกครับ นายเล็กสั่งไว้ว่าถ้าคุณผู้หญิงตื่นแล้วให้ไล่กลับบ้านไปเลย อย่าให้อยู่ที่นี่ต่อ” “ทำไมฉันจะอยู่ต่อไม่ได้ล่ะ” “นายเล็กบอกว่าคุณคือภาระครับ” “ไอ้บ้าไรเฟิล!!” เคยโมโหจนลืมเจ็บไหม? ฉันกำลังเป็นอยู่นี่ไง จากที่เจ็บจนแทบจะก้าวขาไม่ออกตอนนี้เดินฉับๆกระแทกเท้าจนสะเทือนไปถึงมดลูกก็ไม่เจ็บ อยากจะงัดหน้าไอ้บ้านั่นชะมัด ภาระงั้นหรอ? เหอะ! ใช้ปืนจี้แล้วขู่ข่มขืนฉันจนฉันยอม ถึงแม้จะเคลิ้มในความหล่อของมันก็เถอะ แต่จำเป็นต้องเอาฉันมาทิ้งในห้องโกโรโกโสแล้วมาไล่อย่างกับตัวอะไรที่น่ารังเกียจแบบนี้หรอ สันดารหมาว่ะ!! “เดี๋ยวๆ คุณจะไปไหนครับ” “ไปหานายเล็กของนายไง หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องตามมา!!!” เสียงมีเท่าไรฉันใส่เต็มปรอท จนลูกน้องที่วิ่งตามฉันมาหน้าเหวอไปหมด ฉันก็ไม่เคยแหกปากดังขนาดนี้หรอก ปกติก็ไม่เคยทะเลาะกับใครเขาเท่าไร “ขอโทษนะคะ ห้องอาหารไปทางไหน?” เมื่อฉันเจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นบริกรมั้ง แต่งตัวเหมือนบ๋อยอ่ะ เลยเข้าไปถามด้วยท่าทางยั่วยวนและสายตาอันเร่าร้อนที่สร้างขึ้นมาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว ให้ตายเหอะ หมอนี่ก็ทำตาลุกวาวใส่ฉันเชียวนะ ผู้ชายก็เป็นแบบนี้วันยันค่ำ “ห้องกระจกมืดตรงนั้นน่ะครับ” “ขอบคุณนะคะ” ไม่เสียแรงที่ยั่วใส่ บอกกันง่ายๆแบบนี้ก็ดี ขืนรู้ว่าฉันจะมาเพ่งกะบาลนายเล็กของเขามีหวังไม่บอกแน่ๆ ต้องอ่อยบ้างอะไรบ้าง ฉันยิ้มหวานให้บริกรก่อนจะโฉบหน้าไปข้างหูเพื่อบอกขอบคุณ เหอะ..ตัวแข็งทื่อไปเลย ดี จะได้มาช่วยเจ้านายไม่ทัน ก่อนที่ฉันจะก้าวขาเดินออกมาก็ไม่ลืมที่จะขยิบตาให้อีกทีเป็นรางวัล “ห้องนี้หรอ” มันมืดจนฉันมองไม่เห็นข้างในอะ คงจะเป็นกระจกแบบที่ข้างนอกมองเข้าไปไม่เห็นแต่ข้างในมองออกมาเห็นอะไรประมาณนั้นแน่ๆ เพื่อความมั่นใจลองถามอีกสักทีดีกว่า “พี่คะๆ ไรเฟิลอยู่ในห้องนี้ไหมคะ” “ค่ะ นายเล็กอยู่ในห้อง มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ” “เปล่าค่ะ” เมื่อฉันเห็นผู้หญิงร่างท้วมถือถาดออกมาจากห้องนั้นเลยรีบปรี่เข้าไปถามเลย เพื่อความแน่ใจอ่ะนะ แล้วจะรอช้าอยู่ใย ครืด ฉันเลื่อนเปิดประตูกระจกก็พบว่าเขากำลังนั่งกินข้าวกับผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง เหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่ด้วยล่ะมั้ง ลูกค้าหรอ? จะไล่ให้เปิงไปเลย “ไอ้บ้าไรเฟิล!!!!!! นายมันบ้า นายทิ้งฉันไว้ที่ห้องนั้นได้ยังไง โครตสกปรก แล้วมากินข้าวคิดจะชวนฉันไหม? ฉันก็หิวเป็นนะ!” “เสียมารยาท ไม่อยากอยู่ห้องนั้นก็กลับซ่องไปสิ!!” “ฉันจะไม่กลับจนกว่าจะได้กินข้าว ฉันหิว!!” ดูออกเลยว่าหมอนี่กำลังโกรธ ฉันเห็นเขากัดกรามแน่นจนเส้นเลือดที่ขมับปูดและเต้นตุบๆ แต่ฉันต้องแคร์หรอ ไม่แคร์อยู่แล้ว ตอนนี้ขอกินข้าวก่อนเถอะจะได้มีแรงไว้ตีกับเขาต่อ “ออกไปเดี๋ยวนี้!” “นายกินอะไรน่ะ” “แล้วเสือกอะไรด้วยวะ” “ไอ้....” “ไปเถอะครับพ่อ ผมหมดอารมณ์จะกินแล้ว” “อย่ามาหนีฉันนะ นายทำอะไรกับฉันไว้จะตอบแทนด้วยข้าวสักมื้อมันจะตายหรอ ใจดำฉิบหาย!” “เออ!! อยากจะแดกก็เชิญแดกไปคนเดียวเลย!” แล้วเขาก็กำลังเดินออกไปจากห้องนี้พร้อมกับผู้ชายสูงอายุอีกคนที่เขาเรียกว่าพ่อ ทำไมไรเฟิลไม่ดูใจดีเหมือนพ่อเขาบ้างนะ “พ่อว่า พ่อไปก่อนดีกว่า เคลียกันไปนะ” “ไม่มีอะไรต้องเคลียครับ เราไปคุยเรื่องงานต่อที่ห้องทำงานผมดีกว่า” “หยุดเลยนะไรเฟิล ฉันต้องเคลียกับนาย!” เมื่อสิ้นสุดประโยค พ่อของเขาก็เดินออกไปจากห้องนี้แต่ก็ไม่วายหันมามองฉันด้วยสายตาสงสัย จะสงสัยก็ไม่แปลกหรอก จู่ๆก็มีคนมาด่าลูกชายเขานี่เนอะ “เธอต้องรับผิดชอบกับการกระทำของเธอวันนี้ ฉันคุยธุระสำคัญกับพ่ออยู่ก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะมารยาททรามๆของเธอ!!” “แล้วที่นายทำระยำต่ำตมกับร่างกายฉันล่ะ นายจะรับผิดชอบยังไง!!” “ไม่จำเป็น” “ฉันขอร้องนายแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาทำเหมือนฉันมันน่าสมเพชแบบนี้ แต่ดูสายตานายสิ เห็นฉันเป็นเชื้อโรคหรือไงถึงต้องมองด้วยความเหยียดหยามขนาดนี้” “....” “ฉันไม่ได้ให้นายรับผิดชอบฉันที่พลาดท่าเสียทีให้นายไป แต่ฉันก็ไม่ต้องการให้นายมาทิ้งฉันไว้ในที่สกปรกและแคบแบบนั้น ฉันก็คนนะเว้ย ไม่ใช่ตัวอะไรที่นายอยากจะทิ้งอยากจะปล่อยไว้ตรงไหนก็ได้ ฉันมีความรู้สึก” “....” “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ไม่รู้ว่านายทำอะไรกับฉันบ้าง ฉันไม่รู้สึกตัวอะไรเลยสักอย่าง” “โกรธที่ฉันให้เธอไปนอนห้องคนงานเนี่ยนะ? ปัญญาอ่อน” “ฉันกลัวที่แคบ!! นายไม่เข้าใจหรอก สำหรับนายมันก็แค่ห้องธรรมดา แต่ฉันไม่ชอบ เข้าใจไหมว่าไม่ชอบ!” บางทีคนเราก็มีอดีตที่ไม่อยากจะนึกถึงใช่ไหม ฉันก็เหมือนกัน อดีตที่ลืมไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้ทำให้ฉันนึกถึงมันขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขา “ฉันจะไปรู้หรอว่าเธอกลัวที่แคบขนาดนี้ ทำไม? ห้องแคบๆมันยังไง ผีหลอก? งูกัด? กำแพงถล่ม? หรือไฟไหม้? เหอะ ตลกว่ะ!!!” พลั่ก หลังฉันถูกกระแทกเข้ากับผนังกระจกด้วยแรงของไรเฟิล มือใหญ่บีบที่ต้นแขนของฉันทั้งสองข้างพร้อมกับออกแรงเขย่าจนฉันหัวสั่นหัวคลอนไปหมด “ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย! ฉันเจออะไรมาก็เรื่องของฉันสิ” “ก็แค่ตอแหลว่างั้น?” “....” “สำออยทำเป็นกลัวให้ฉันรับผิดชอบในตัวเธอ?” “....” “ตอบมาสิ เหตุผลปัญญาอ่อนที่เธอกลัวห้องแคบๆน่ะ ฉันรอฟังอยู่ เงียบทำไม? มารยาร้อยเล่มเกวียนจริงๆว่ะ” “....” “ถ้าตอบไม่ได้ งั้นก็เชิญเธอกลับซ่องไปซะ!!!” ตุ้บ ร่างฉันถูกเหวี่ยงให้ล้มลงกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำตาฉันมันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไร มันคงจะไหลออกมาพร้อมๆกับภาพเหตุการเก่าๆที่ฉายขึ้นมาในหัว อดีตที่เจ็บปวดของฉัน “ฮึก ฉันเคยเกือบโดนรุมโทรมในห้องแคบๆไง ฮืออออ ฉันถึงกลัว!! ผู้ชายเป็นสิบคนรุมทึ้งเสื้อผ้าฉัน จับฉันขึง ทำร้ายร่างกายฉัน แล้วก็ถ่ายคลิปไว้ ฮือออ ที่บ้านร้าง ที่ห้องแคบๆนั่น ฉัน...กลัว” “....” “มันน่าสมเพชมากไหม ที่ฉันต้องกลัวห้องแคบๆแบบนี้ ฮึก นายรู้แล้วสะใจดีใช่ไหมล่ะ ฮืออออ” “....” “ฉันทั้งโมโหทั้งกลัวที่ตื่นมาเห็นตัวเองนอนอยู่ในที่แบบนั้น และฉันก็รู้สึกแย่มากที่รู้ว่านายเป็นคนสั่งให้ฉันไปนอนในห้องนั้น เพราะคำสั่งนายไง ฮือออ” “ฉัน...ไม่รู้อดีตของเธอ ฉันไม่ผิด” “ฮืออ นายมันไม่เคยผิดหรอกไรเฟิล ฉันผิดเอง ผิดที่พาตัวเองมาข้องเกี่ยวกับนาย ผิดที่อดีตของฉันเอง ผิดที่ฉันนี่แหละ นายมันถูกเสมอ ฮึก” “ยะ อย่าร้อง” อย่าทำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ใส่ฉันนะ ยิ่งเขามองฉันด้วยสายตารู้สึกผิดฉันยิ่งสมเพชตัวเอง “ฉันจะกลับบ้าน” ไม่รอช้า ฉันหยัดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับใช้มือสองข้างปาดน้ำตาลวกๆ หมดเวลาของฉันที่นี่แล้ว จริงๆไม่ควรจะมาข้องเกี่ยวอะไรด้วยซ้ำ “แต่เธอต้องกินข้าวก่อน” “ไม่ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก ลาก่อนนะไรเฟิล” “บอกให้มากินข้าวก่อนไงเล่า!!” เมื่อฉันเดินผ่านเขาไปได้ไม่กี่ก้าว ตัวฉันก็ต้องถูกรั้งไว้ด้วยมือไรเฟิลที่เอื้อมมาดึงแขนฉันไว้ จนตัวฉันเซไปชนกับแผงอกของเขา “เอ๊ะ นายนี่ประสาทหรือเปล่า เดี๋ยวให้กินเดี๋ยวไม่ให้กิน” “ตอนนี้อยากให้กินแล้วนี่ไง พูดมากว่ะ นั่งลง” “โอ้ย ปล่อย” ฉันโดนกดให้นั่งลงกับเก้าอี้ที่เขานั่งเมื่อครู่ พร้อมกับลากจานข้าวของเขามาไว้ตรงหน้า ฉันไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างที่ยอมทำตามคำสั่งง่ายๆหรอกนะ โดยเฉพาะคนใจร้ายอย่างไรเฟิลน่ะ เมื่อเขาปล่อยมือออกจากบ่า ฉันก็ดีดตัวลุกขึ้นทันที “เห้ย!! บอกให้นั่งไง” “ไม่ ฉันจะกลับแล้ว” “ทำไมดื้อจังวะ” ฉันโดนกดตัวให้นั่งอีกครั้ง แต่คราวนี้เขากดให้ฉันนั่งบนตักเขาพร้อมกับรัดเอวฉันไว้แน่น ยิ่งฉันดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น “ทำแบบนี้ทำไมไรเฟิล ปล่อย อย่ามากอด” “แหม ทีเมื่อคืนยิ่งกว่ากอดเธอยังเด้งใส่เอาๆ ทีงี้ทำมาสะดิ้ง” “ก็นายบัง...” อ้ำ ข้าวคำโตถูกยัดเข้าปากฉันด้วยฝีมือของไรเฟิล ฉันไม่รู้ว่าเขาใช้อีกมือตักข้าวตอนไหน มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาเถียงเขาจนถูกข้าวยัดเข้าปากนี่แหละ หิวอะ.. อยากจะอารยขัดขืนอยู่หรอก แต่กระเพราะไม่เป็นใจ เอาจริงๆที่ฉันโมโหเพราะหิวด้วยแหละ และที่ตื่นเพราะท้องมันร้อง เลยพาลไปหมด “กินเยอะๆ ดูตัวเธอสิ เล็กนิดเดียวเอง” “ยุ่งน่า” ฉันยังคงนั่งให้เขาป้อนข้าวอยู่แบบนั้น ซึ่งก็งงๆเหมือนกันที่อยู่ๆมันมาลงเอยแบบนี้ได้ “เห้ย!! ฉันมานั่งป้อนข้าวเธอทำไมวะเนี่ย ลุกออกไปเลยนะ!!” “นายบังคับให้ฉันนั่งตักเองนะ แล้วนายก็ป้อนข้าวฉันเองด้วย เป็นบ้าอะไรขึ้นมาล่ะ” “แล้วทำไมไม่ปฏิเสธวะ” “ก็ฉันหิว” อย่ามาทำหน้าเหมือนฉันไปบังคับขืนใจนายแบบนั้นได้ไหม ฉันไม่ได้ไปบังคับอะไรนายเลยนะ มีแต่นายบังคับฉันล้วนๆเลย นายนี่มันบ้าหรือมันดีวะเนี่ย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD