CHAPTER 7 RETURN

2335 Words
CHAPTER 7 RETURN “แล้วหายเจ็บยัง?” “ไม่เท่าไร ของนายมันเล็ก ไม่ระคายร่างกายฉันหรอก!” “ทำไมปากดีแบบนี้วะ มันน่ายิงให้เดี้ยง!!” “จะทำอะไรก็ทำ ฉันกลับละ ” วันนี้ฉันก็ไม่ได้ไปเรียน เพราะมัวแต่วุ่นวายกับไรเฟิลนั่นแหละ คนบ้าอะไรตา มันดุชะมัด ถ้ายิงลูกกระสุนออกมาทางตาได้นะ ร่างฉันคงพรุนไปแล้ว “ด่าฉันในใจอยู่หรือไง” “อย่ามายุ่ง ลาก่อนนะไรเฟิล” หมดเวลากับเรื่องไร้สาระ ฉันควรจะกลับไปที่ของฉันได้แล้ว ใช้ชีวิตปกติ เหมือนก่อนหน้านี้ที่ยังไม่เจอไรเฟิลน่ะ ฉันคว้ากระเป๋าตัวเองที่ร่วงกองอยู่กับพื้นขึ้นมาสะพายและหันหลังก้าวเดินออกไป ทว่าใจมันหายแปลกๆ RIFLE TALK ผู้หญิงคนนี้กำลังจะเดินไปจากผม ซึ่งมันก็ดีแล้ว มันเป็นปกติสำหรับเรื่อง ผู้หญิงชั่วคราวของผม แต่ครั้งนี้มันแปลก ผมกลับรู้สึกว่ามันยังไม่จบแค่นี้ หรือมันไม่ควรจบกันแค่นี้ เอ๊ะ .. ผมก็งงตัวเอง “ก็ช่างหัวเธอสิวะ” ผมเดินกลับมายังห้องทำงานแล้วก็พบว่าพ่อนั่งรอผมอยู่ ตกใจเล็กน้อยเหมือนกัน นึกว่าพ่อจะออกไปทำธุระข้างนอกซะอีก “พ่อไม่ออกไปธุระแล้วหรอครับ?” “ไม่ล่ะ ว่าแต่แกเคลียร์กับเด็กคนนั้นเสร็จแล้วรึ? อะไรทำให้เสืออย่างไรเฟิลโมโหเพราะผู้หญิงกันนะ” เออ นั่นสินะ ผมไม่เคยโมโหผู้หญิง... “ก็เธออวดเก่ง ปากดี ดื้อ น่ารำคาญจะตาย ” ผมกับพ่อน่ะคุยกันทุกเรื่องเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ เพราะเรามีกันแค่นี้ พ่อบอกว่าแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ซึ่งก็คงจะใช่เพราะผมไม่เคยเห็นหน้าแม่ ไม่รู้ว่ามีแม่ด้วยซ้ำ มันไม่มีความทรงจำในส่วนของแม่เลยอ่ะ แต่ผมก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรเพราะพ่อเลี้ยงผมอย่างดีจนบางทีก็คิดว่าไม่ต้องมีแม่ก็ได้ เรานั่งคุยงานกันกันนานพอสมควร จนพ่อกลับไปผมก็เลยนั่งอยู่คนเดียว หน้าเธอมันลอยขึ้นมาอีกแล้ว ผมเกลียดเธอนะ แต่ก็ยังนึกถึงอยู่นั่นแหละจนมันน่ารำคาญไปหมด แม้แต่ตอนคุยกับพ่อบางทียังเห็นหน้ายัยนั่นแทนหน้าพ่อเลย มันน่ากลัวมาก ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เข้ามา” ผมหันไปมองไอ้ริคที่เดินเข้ามาพร้อมกับถืออะไรบางอย่างติดมือมาด้วย... “นายเล็กครับ คุณผู้หญิงคนนั้นทำกระเป๋าตังตกไว้ที่ห้องอาหารครับ” “อืม เอาวางไว้นั่นแหละ” “ครับนายเล็ก” มันต้องเป็นอย่างที่ผมคิดแน่ๆ ยัยนั่นน่ะ อ่อยผมชัวร์ๆเลย ทำเป็นลืมนั่นลืมนี่ที่แท้ก็อยากจะกลับมาว่างั้นเหอะ คงจะติดใจผมล่ะสิท่า เหอะ น่าไม่อายจริงๆ “นายเล็กยิ้มอะไรครับ” “แกยังไม่ออกไปอีกหรอ? ออกไปได้แล้วฉันจะทำงาน!” ผมมาเปิดๆกระเป๋าตังเธอดู มีเงินสดแค่สี่พันบาทกับบัตรเอทีเอ็มอีกสี่ใบ จิตใต้สำนึกด้านดีบอกว่าให้ผมเอาไปคืน แต่ผมก็ไม่เห็นบัตรประชาชนหรืออะไรที่บ่งบอกว่าเธอพักอยู่ที่ไหน เธอเป็นใครมาจากไหนผมก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอสักอย่าง รู้แค่ว่าพอเห็นหน้ากับนมแล้วอยากจะเอาแค่นั้นเอง ง่ายๆ END TALK กระเป๋าตังฉันหาย... โทรศัพท์แบตหมด... ฉันอยู่ไหนก็ไม่รู้... มีอะไรซวยไปกว่านี้อีกไหม? พอฉันเดินออกมาจากคาสิโนที่โครตจะเลี้ยวรดคดเคี้ยว โครตลึก ดีที่มันไม่เปลี่ยว มีคนเข้าออกมากมายเลย ก็เข้ามาที่บ่อนของเขานั่นล่ะ ฉันได้แต่มองรถที่จอดเรียงรายตามลานจอด แต่ละคันนี่แบบระดับท้อปทั้งนั้น มีแต่รถหรูๆแพงๆ “จะรวยกันไปไหนเนี่ย” ก็ใช่ไหมล่ะ ฉันนี่ทำงานสายตัวแทบขาดยังหาเงินซื้อรถไม่พอเลย ฉันกำลังรุ่งในการเป็นนางแบบก็จริง แต่ฉันเอาเรื่องเรียนเป็นหลักเลยรับงานน้อยแต่ก็มีคิวงานยาวอยู่เหมือนกัน ฉันกะว่าจะออกรถกับเขาบ้างแต่ก็ดันอยากได้รถดีๆแพงๆอีก เลยต้องใช้เวลาเก็บเงินซื้อ เกรงใจพี่โยต้องคอยรับส่งไปทำงานน่ะ แต่ตอนนี้กลับนึกถึงพี่โยขึ้นมาเลย ฮือออ อยากจะให้มารับแต่โทรศัพท์แบตหมด “ไปxxxค่ะ” ฉันตัดสินใจที่จะขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านแล้วค่อยไปเอาเงินที่ลุงกับป้าก็ได้ แต่รู้สึกว่ามันไกลมากเลยกว่าจะถึงบ้านฉัน “ลุง ป้า” “....” ไม่อยู่บ้านหรอ? สงสัยป้าจะอยู่ที่ร้านนวดแน่ๆ นี่ก็บ่ายสามเองคงยังไม่ปิดร้านหรอก “ไปซอย17ค่ะ” ค่าแท็กซี่ปาไปเกือบสี่ร้อยแล้วอ่า ไอ้บ่อนบ้านั่นมันอยู่นอกโลกหรือไงนะ “ให้จอดตรงไหนหนู” เสียงคุณลุงขับแท็กซี่ทำให้ฉันหลุดจากความคิดที่เอาแต่นึกถึงหน้าหมอนั่น “ร้านนวดตรงนั้นน่ะค่ะ ป้ายร้านสีม่วงๆ” สวรรค์กลั่นแกล้งฉันแน่ๆเลย ป้าไม่อยู่ ร้านปิด!! ฉันจะร้องไห้แล้วนะ คนอะไรจะซวยได้ปานนี้ ฉันก็คิดนะว่าจะยืมเงินคนข้างบ้าน แต่คือไม่มีใครอยู่เลย ส่วนมากคนแถวนี้จะเป็นคนวัยทำงาน เช้าออกบ้าน ค่ำๆก็กลับเข้าบ้าน ช่วงเวลานี้เลยไม่มีใครอยู่เลยสักคน แล้วป้ามาปิดร้านแบบนี้ฉันจะหาเงินที่ไหนจ่ายค่าแท็กซี่ล่ะ ร้านส้มตำข้างๆฉันก็ไม่รู้จัก ขืนไปบอกขอยืมตังจ่ายค่าแท็กซี่ได้โดนสากตีหัวแน่ๆ “ร้านปิดนี่” “คือหนูกำลังหาคนจ่ายค่าแท็กซี่ให้ลุงอยู่ค่ะ ใจเย็นๆนะคะ” ฉันเลยบอกให้ขับไปที่บ้านพี่โยซะเลย ที่พึ่งสุดท้ายของฉัน นี่ถ้าโทรศัพท์ใช้ได้นะ ต้องมีสักคนช่วยฉันได้ไปแล้ว ถ้าจะให้ดีควรมีกระเป๋าตังมากกว่า ว่าแต่ฉันเอากระเป๋าตังไว้ไหนนะ ฉันไม่ใช่คนขี้ลืมสักหน่อย เนี่ย ..กระเป๋าใส่บัตรอีกใบยังอยู่เลย ปิ๊งป่อง ฉันมายืนกดกริ่งหน้าบ้านพี่โยด้วยใจระทึก ก็บ้านพี่โยปิดไฟมืดเลยน่ะสิ อยู่บ้านเถอะนะคะ เบลขอร้อง ปิ๊งป่อง ทำไมไร้วี่แววคนขนาดนี้ล่ะ แรงกดดันจากสายตาลุงขับแท็กซี่นี่ทำฉันเกร็งชะมัด “คุณโยไม่อยู่หรอกหนู เพิ่งขับรถออกไปเมื่อกี้” คนข้างบ้านพี่โยผู้แสนใจดีตะโกนบอกฉัน แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนข้างหลังฉันถูกแทงด้วยสายตาอีตาลุงแท็กซี่นี่นะ ฉันหมดที่พึ่งแล้วจริงๆ ชีวิตฉันไม่มีใครแล้ว เพื่อนสนิทก็ไม่มี มีแต่เพื่อนรู้จักกันผิวเผินซึ่งก็ไม่รู้จักที่อยู่ “กลับไปหน้าบ่อนที่หนูขึ้นมาทีแรกเถอะค่ะลุง” “เห้อออ..” อย่ามาถอนหายใจเบื่อหน่ายแบบนี้นะลุง ฉันก็เบื่อ นั่งจนก้นชาไปหมดแล้วเนี่ย นั่งตั้งแต่บ่ายยันค่ำยันมืด ค่าแท็กซี่ปาไปจะพันนึงละ แพงจริงอะไรจริงแล้วนึกดูกว่าจะกลับมาที่เดิมอ่ะ “ถึงแล้ว” “เข้าซอยไปสุดซอยเลยลุง” อารมณ์นี้คงจะหาคำไพเราะไม่ได้ทั้งฉันทั้งลุง ถ้าไม่ติดว่าค่าแท็กซี่เยอะฉันคงโดนลุงถีบลงกลางทางแน่ อ๊ะ นั่นไง ไรเฟิลกำลังลงมาจากรถที่จอดหน้าบ่อน สงสัยไปข้างนอกมาล่ะมั้ง ดีเลยจะได้ไม่ต้องหาตัวให้ยาก “ลุง ขับไปจอดปาดหน้ารถคันนั้นเลย” RIFLE TALK ผมเพิ่งกลับจากการไปตรวจงานมาเหนื่อยๆ วันนี้เหนื่อยมากจริงๆ บริษัทใหม่ที่เพิ่งเปิดมีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ผมมีความสามารถพอที่จะแก้ปัญหาได้เพราะผมเองก็ทำสำเร็จมานักต่อนักแล้ว เอี๊ยดดด ขณะที่ผมก้าวลงจากรถและกำลังเดินมุ่งหน้าเข้าบ่อนนั้น จู่ๆก็มีรถแท็กซี่สีเหลืองมาขวางหน้ารถที่ผมเพิ่งก้าวลงมา ปั้ง ปั้ง ปั้ง ๆๆๆ ไม่ต้องรอให้สั่งลูกน้องผมก็ทำหน้าที่ปกป้องผมได้ดีเสมอ มาทำทีท่าหาเรื่องแบบนี้ก็คงจะเป็นพวกอริผมนั่นแหละจะเป็นใครไปได้ ก่อกวนแบบนี้ระวังจะไม่ตายดีล่ะ “กรี๊ดดดดดดดดดดด” เสียงผู้หญิง? ทีแรกว่าจะไม่หันไปสนใจแล้วล่ะนะปล่อยให้ลูกน้องผมกระหน่ำยิงให้ตายห่ากันไปเลย แต่ดันได้ยินเสียงผู้หญิงไงผมเลยหันไปมองที่แท็กซี่คันนั้นพร้อมกับจ้องไปที่กระจกของประตูหลังที่มันมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่สักอย่าง กระเป๋านั่น!! “หยุดยิง!!!!!!” ผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นกระเป๋าใบนั้น กระเป๋าใบที่ผมเป็นคนหยิบจากห้องแล้วเอาลงไปที่ห้องคนงานเมื่อเช้าไง นั่นมันกระเป๋าเธอ ผมจำได้ ตุ้บๆๆ พลั่ก “ฮืออออออ ไอ้บ้าไรเฟิล นายจะฆ่าฉันหรือไง!!! บลาๆๆ” เมื่อผมกระชากเปิดประตูออก เธอก็พุ่งเข้ามาทุบตีผมพร้อมกับด่าทอผมอีกยาวยืด แล้วก็ยังร้องไห้ไม่หยุด หน้าเธอซุกอยู่ที่หน้าอกผม รู้สึกถึงความชื้นที่แทรกซึมผ่านเนื้อผ้า ไม่น้ำตาก็ขี้มูกล่ะงานนี้ มือเล็กๆที่ทุบตีผมเมื่อครู่ตอนนี้กอดผมไว้แน่น “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ฉันกลัว ฮืออ” “ก็ยังไม่ตายนี่ไง หยุดร้องได้แล้วน่า” เธอผละออกจากผมเหมือนนึกอะไรได้แล้วมุดตัวเข้าไปในแท็กซี่อีกครั้ง.. “ลุง ลุง!! เห้ย .. เลือด!!!!” “อะไรของเธอ” “ไรเฟิล ช่วยด้วยๆ” เธอได้แต่ชี้เข้าไปในรถด้วยสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ผมจึงก้มลงไปมองตามที่เธอชี้ ก็พบว่าคนขับรถถูกยิงตอนนี้หมดสติก็แค่นั้นเอง ตกใจอะไรของเธอนักหนาวะ “จัดการด้วย ทั้งคน ทั้งรถ” ผมหันไปสั่งลูกน้องทันที และคำสั่งสั้นๆของผมก็เป็นอันเข้าใจ... “ลุงจะตายไหมไรเฟิล ฉันติดเงินลุงไว้พันกว่าบาท แกจะไม่เป็นผีมาทวงฉันใช่ไหม” “ติดเงินค่าอะไร” “ก็ฉันทำกระเป๋าตังหายน่ะสิ ไม่มีตังจ่ายค่าแท็กซี่ นั่งกลับบ้านก็ไม่มีใครอยู่ ไปหาป้าที่ร้านก็ปิดร้าน ไปหาพี่โยก็ไม่อยู่บ้าน โทรศัพท์ก็แบตหมดติดต่อใครไม่ได้เลยสักคน” “พูดมากว่ะ” “ก็นายถามฉันเองไม่ใช่หรือไงเล่า” คิดไปคิดมาผมไม่บอกดีกว่าว่ากระเป๋าตังอยู่ที่ผม หมั่นไส้... มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นกับผมด้วยแหละ ผมลืมทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อเห็นหน้าเธอแม้กระทั่งความเหนื่อย แปลกไหมล่ะ ผมยอมรับตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าผมน่ะถูกใจเธอจริงๆ เพราะอะไรผมก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกแรกมันก็ยังเหมือนเดิมนะ “เข้าไปพักข้างในก่อนไป เดี๋ยวทางนี้ให้ลูกน้องจัดการให้” “อื้ม ขอบคุณนะ ถ้านายไม่ช่วยฉันก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาให้ลุง ทั้งค่าหมอทั้งค่าซ่อมรถ แต่ฉันไม่ผิดนะโว้ย ลูกน้องนายยิงนายต้องรับผิดชอบ” “แล้วใครใช้ให้ไปจอดรถกวนตีนแบบนั้น” “ฉันบอกเองแหละ ว่าให้ไปจอดหน้ารถนาย” หน้าตาเธอดูอิดโรยเต็มที จากสีผิวที่ขาวอยู่แล้วกลับกลายเป็นซีดเซียวจนเห็นได้ชัด ท่าเดินของเธอก็ไม่ค่อยปกติ คงยังเจ็บอยู่ล่ะมั้ง “นายมองก้นฉันทำไม? แล้วนี่พาฉันมาห้องนอนนายทำไมไม่ทราบ” นั่นสิ ผมพาเธอเข้าห้องนอนทำไมวะ? “ก็...เอ่อ จะให้เธอมาทำความสะอาดห้องน้ำไง นั่นน่ะ ที่อ่างอาบน้ำมีแต่เลือดเธอ ไปล้างซะ ฉันรังเกียจ” “เลือดฉัน ตั้งแต่เมื่อไร? ฉันเข้าห้องน้ำด้วยหรอ ตอนไหนล่ะ?” ตั้งแต่เธอหมดสติบนเตียงก็คงไม่รู้อะไรเลยสินะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง... “ก็เมื่อคืนเธอไปอาบน้ำหรือฆาตกรรมตัวเองไม่รู้ เลือดเต็มไปหมด อย่าถามมาก รีบไปทำเลย ทำเสร็จไปหาฉันห้องทำงาน” “ฉันจะไปตรัสรู้หรือไงห้องทำงานนายอยู่ไหน ทำเสร็จกลับได้เลยใช่ไหม?” “เห็นประตูนั่นไหม เปิดเข้าไปก็เจอ ห้องมันเชื่อมกัน อ่อ แล้วที่ว่าจะกลับบ้าน ถ้ามีตังก็กลับไปสิ” “ก็ฉันไม่มีนี่ไง เออ ยืมตังหน่อยดิจะนั่งรถกลับบ้าน” “คิดดูก่อน” “ไอ้บ้าเอ้ย!!!” “ทำให้ฉันพอใจ ถึงจะปล่อยกลับ” “ไรเฟิลจ๋า ล้างห้องน้ำเสร็จก็พอใจแล้วใช่ไหมจ๊ะ คนหล่อ ปิ๊งๆ ไรเฟิลลลล” จู่ๆก็ทำหน้าทำตาเหมือนลูกแมวแล้วมาคลอเคลียอยู่ที่หัวไหล่ผม ไหนจะทำตาวิ้งค์ๆใส่ผมอีก เสียงหวานๆนั่นเรียกชื่อผมไม่หยุด ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “ทำอะไรไม่ทราบ? คิดว่าน่ารักหรือไง อี๋” “อ้อนไง ฉันอ้อนนายอยู่ ไม่เหมือนแมวหรอกหรอ? เหมี๊ยววว” ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “เหมือนพยาธิ ที่กำลังชอนไชหัวไหล่ฉันอยู่” “ไปตายซะไรเฟิล!!” “ลูกอ้อนปัญญาอ่อนของเธอมันใช้ไม่ได้กับฉันว่ะ” เกลียดก็เกลียด ถูกใจก็ถูกใจ ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันแน่วะ แม่งเอ้ย!!หงุดหงิดตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD