สองวันต่อมา
@mixnightbar
ฉันเดินเข้ามาในผับหรูด้วยความเร่งรีบเพราะฉันสายมากแล้วเนื่องจากวันนี้รถติดมากทำให้รถเมล์ที่ฉันนั่งมาค่อนข้างใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะมาถึงที่นี่
“พี่บอสคะ ด้าขอโทษที่มาสายนะคะพอดีรถติดมากเลยค่ะ” ฉันรีบเดินเข้าไปหาผู้จัดการร้านทันที เพราะฉันพึ่งเริ่มทำงานที่นี่ได้เพียงสองอาทิตย์เท่านั้น การที่ฉันมาสายแบบนี้มันคงดูเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบแน่ๆ
“ยังไม่สายมาก แต่คราวหลังก็รักษาเวลาด้วย ไม่งั้นพี่คงต้องทำตามกฎ”
“ค่ะพี่บอส ต่อไปด้าจะไม่มาสายอีกแล้วค่ะ” ฉันก้มหัวเอ่ยบอกอย่างรู้สึกผิด
“รีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ ร้านจะเปิดแล้ว” พี่บอสก็เอ่ยออกมา ทำให้ฉันพยักหน้าและเดินมาด้านหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุดมาใส่ชุดยูนิฟอร์มของร้านทันที ถึงฉันจะทำงานกลางคืนในสถานที่แบบนี้แต่ก็ไม่ได้ทำงานที่เป็นอันตรายต่อตัวเองหรอกนะ ซึ่งหน้าที่ที่ฉันต้องทำก็คือเป็นเด็กเสิร์ฟนั่นเอง มันก็ไม่ได้ยากอะไรและก็ไม่ได้อันตรายเหมือนคนชงเหล้าด้วย แต่ที่ฉันต้องเลือกมาทำงานนี้เพราะฉันจำเป็นต้องใช้เงินในการใช้กินใช้อยู่ บ้านฉันไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรแถมฉันยังต้องส่งเงินให้แม่ใช้ทุกเดือนอีกด้วย แต่ที่ฉันสามารถเข้ามาเรียนมหาลัยเอกชนที่ค่าเทอมแพงขนาดนี้ได้ก็เพราะพ่อ ก่อนที่ท่านจะจากไปพ่อได้เก็บเงินที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิตไว้ให้เป็นทุนในการเรียนของฉัน โดยที่แม่ไม่รู้เรื่องนี้ ทำให้ฉันจึงมีเงินในการใช้เรียน แต่มันก็ไม่ได้มีมากพอที่จะใช้ในเรื่องอื่นๆ ฉันจึงต้องทำงานและมันก็ไม่มีทางเลือกงานได้มากนัก และงานนี้ก็สามารถทำในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนได้ ทำให้ฉันต้องจำใจทำงานที่ผับหรูแห่งนี้
“เอด้าเสร็จหรือยัง” ขณะที่ฉันกำลังดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ บีบีเด็กเสิร์ฟที่ทำงานด้วยกันก็เดินมาตามฉัน ทำให้ฉันถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว
“เสร็จแล้ว ไปทำงานกันเถอะ” ฉันเอ่ยบอกบีบีไปก่อนจะเดินนำเธอไปจุดที่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งวันนี้ฉันได้ยืนเสิร์ฟชั้นวีไอพีของผับ
“เอด้าเอาไปเสิร์ฟวีไอพีแปด” เสียงพนักงานคนหนึ่งเอ่ยบอกทำให้ฉันรีบเดินเข้าไปยกถาดที่มีแก้วค็อกเทลนำไปเสิร์ฟตามที่บอกทันที
“ขออนุญาตค่ะ” ฉันเอ่ยบอกลูกค้าก่อนจะยกแก้วค็อกเทลวางบนโต๊ะและทำท่าจะเดินออกมา แต่เมื่อหมุนตัวจะเดินออกสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายใบหน้าหวานคนหนึ่งกำลังมองมาที่ฉันอย่างพิจารณา ฉันก็มองกลับอย่างสงสัยเพราะหน้าเขาคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน
“เอ๊ะ…!” ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาคือคนที่ฉันเจอในห้องน้ำมหาลัยเมื่อสองวันก่อนและเหมือนเขาก็จำฉันได้เช่นกัน
“หึ” เขายังคงมองมายังฉันก่อนจะยกยิ้มมุมปากซึ่งข้างกายของร่างสูงก็มีสาวสวยกำลังคลอเคลียอยู่บนตักแกร่งของเขา
“ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่” แล้วเขาก็เอ่ยออกมาทำให้คนในโต๊ะต่างมองมายังฉันด้วยความงุนงง รวมถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักของเขาที่มองมายังฉันด้วยความไม่พอใจ
“แต่ฉันไม่แปลกใจที่เจอนา…คุณที่นี่นะคะ” ฉันเอ่ยออกไปตามความคิด เพราะดูจากลักษณะนิสัยและสไตล์ของเขาน่าจะเป็นเพลย์บอยกะล่อนตัวพ่อ ไม่แปลกที่เราจะเจอกันสถานที่แบบนี้และสภาพนี้
“มึงรู้จักเหรอ” ผู้ชายอีกคนเอ่ยถามขึ้น ร่างสูงก็ไม่ได้ตอบเพื่อนกลับไปแต่มองมายังฉันด้วยสายตาแสนเจ้าเล่ห์
“ทำงานที่นี่” เขาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“น่าจะเดาได้อยู่แล้วนะ..คะ”
“หึ” เขาก็แสยะยิ้มตอบกลับมา
“เราไม่ได้สนิทกันขนาดที่เราต้องมาคุยกันยาวเยียด ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบประโยค ฉันก็เดินออกมาทันทีก่อนจะเดินไปทางห้องน้ำ
หมับ! แต่ก็ถูกมือหนาของใครบางคนมาจับมือฉันไว้ ทำให้ฉันตกใจรีบหันไปมองทันที
“พี่คชานี่เอง ด้าตกใจหมดเลยค่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจที่เป็นแฟนของฉันเองไม่ใช่คนอื่น
“พี่ขอโทษครับที่ทำน้องด้าตกใจ” พี่คชาก็ดึงฉันเข้าไปกอดพร้อมกับเอามือลูบหัวฉันเบาๆ
“อะไรคะเนี่ย” ฉันเอ่ยถามด้วยความงุนงง
“กอดปลอมขวัญไงครับ” พี่คชากระซิบบอกฉันเสียงหวานตามปกติของเขา พี่คชาเป็นคนที่อบอุ่นและโรแมนติกมาก
“แล้วพี่จะมาไม่เห็นบอกด้าเลยล่ะคะ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดของแฟนหนุ่มเล็กน้อย เอียงคอเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะปกติถ้าเขาจะมาก็จะโทรศัพท์มาบอกฉันก่อนเสมอ
“ก็พี่คิดถึงแฟนนี่ก็เลยอยากมาเห็นหน้า”
“ปากหวานจังเลยนะคะ” ฉันก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“รู้ได้ยังไงว่าหวาน”
“เดาเอาค่ะ” ฉันก็แกล้งตอบกลับไป
“งั้นลองชิมดูแล้วกัน จะได้รู้ว่าหวานจริงไหม” พูดจบ พี่คชาก็ประกบริมฝีปากจูบฉันทันที ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะยังไงเราก็เป็นแฟนกันจะจูบกันก็ไม่แปลก
แต่แล้วสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นร่างสูงที่ฉันเจอเมื่อกี้กำลังยืนพิงกำแพงหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบมองมายังเราสองคนที่ยืนจูบกันอยู่ ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มออกมา
พลั่ก! ทำให้ฉันรีบผลักพี่คชาออกไปทันที พี่คชาก็ทำหน้าตกใจขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่าเอด้า” เขาถามออกมาด้วยความงุนงงปนหน้าเสียเล็กน้อย
“เอ่อ…เดี๋ยวมีคนมาเห็นค่ะ” ฉันจึงบอกออกไป เพราะความจริงมันมีคนเห็นแล้วน่ะสิ
“ด้าจะกลัวอะไร แฟนจูบกันเป็นเรื่องปกติ”
“แต่ด้าอยู่ในเวลางานนะคะพี่คชา” พี่คชาก็หัวเสียไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
“ไม่ทำหน้าแบบนี้นะคะ เดี๋ยวเลิกงานเราค่อยเจอกันนะคะ” ฉันก็ทำเสียงอ้อนๆใส่แฟนหนุ่มทันที
“ก็ได้ งั้นพี่ไปนั่งรอนะครับ” พี่คชาก็เดินหน้ามุ่ยผ่านร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่ไปทันทีอย่างไม่ได้สนใจ ฉันก็มองตามไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองยังคนที่ยืนมองฉันอยู่
“มองบ้าอะไรนักหนา” ฉันพึมพำออกมาเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
เมื่อฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จและคิดว่าเขาคนนั้นคงสูบบุหรี่เสร็จแล้วกลับไปโต๊ะของเขาแล้ว ฉันจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ทำเป็นว่าฉัน” แต่จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นเสียงดังทำให้ฉันตกใจหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าร่างสูงยืนพิงกำแพงอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ
“นายเป็นโรคจิตหรือไงชอบมาทำไรแถวห้องน้ำหญิง”
“หึ เธอก็ชอบโชว์ในที่สาธารณะเหมือนกันเหรอ” เขาแสยะยิ้มถามกลับมาอย่างกวนๆ
“โชว์บ้าอะไร”
“ก็ที่ยืนจูบกับผู้ชายเมื่อกี้ แล้วนี่ก็ยิ่งกว่าในห้องน้ำอีกนะ”
“ฉันแค่จูบกันไม่ได้เอากันเหมือนนาย และคนเป็นแฟนกันจูบกันก็ไม่แปลก” ฉันตอบกลับไปทันที
“แฟน?”
“ใช่ คนนั้นคือแฟนของฉัน”
“งั้นเหรอ” เขาก็เลิกคิ้วพูดขึ้น
“แล้วเป็นโรคจิตอะไรมายืนดูคนจูบกัน”
“ก็เห็นเธออยากโชว์ ก็เลยยืนดู” เขาก็ยักไหล่ตอบกลับมา
“ฉันไม่ได้ชอบโชว์” ฉันก็แว้ดเสียงกลับไปทันที ที่เขามาว่าฉัน
“หึ” ร่างสูงแสยะยิ้มกลับมาก่อนจะยักคิ้วให้เล็กน้อยและเดินออกไปทันที
“ไอ้โรคจิตนี่ อย่าได้เจอกันอีกเลย” ฉันตะโกนตามหลังไปอย่างหงุดหงิดกับความกวนประสาทของเขา ขนาดไม่รู้จักกันยังทำฉันประสาทเสียขนาดนี้ ถ้าให้รู้จักหรือสนิทกับเขาฉันต้องบ้าตายแน่ๆ