เช้าวันต่อมา
“อื้ออ อ๊ะ..โอ๊ย” ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดตามตัวไปหมด โดยเฉพาะบริเวณกลางลำตัวของตัวเอง ก่อนจะเปรยตามองไปด้านข้างก็พบกับชายคนหนึ่งกำลังนอนคว่ำหน้าหลับอยู่ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก ฉันยันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะมองสำรวจตัวเองที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงช้ำจากรอยดูด ฉันรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถึงจะมีความเมาและโดนฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์จากผู้ชายเหี้ยคนนั้น แต่ฉันก็มีสติพอที่จะรู้ว่าฉันทำอะไรไปบ้าง
“อย่าให้ฉันเจอตัวนะ” ฉันพูดขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัวเพราะแค้นใจผู้ชายคนนั้นที่ทำให้ฉันต้องตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้
“อื้ออ เสียงดังอะไรเนี่ย” แล้วร่างสูงที่นอนหลับในตอนแรกก็สะลึมสะลือพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิดและค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาขยับตัวหันมามองหน้าฉัน ซึ่งฉันก็มองหน้าเขากลับนิ่งๆไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
“นอกจากเธอจะทำให้ฉันไม่ได้นอนเกือบทั้งคืนแล้ว ยังจะกวนฉันจนต้องตื่นอีกเหรอ” แล้วเขาก็เลิกคิ้วเอ่ยถามขึ้นอย่างกวนๆ
“เหอะ! อยากนอนก็นอนไปสิ” ฉันเอ่ยบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเพื่อจะลุกขึ้น
“เฮ้ย! เธอจะดึงไปหมดเลยเหรอ” แล้วร่างสูงก็โวยวายออกมาเมื่อตอนนี้เขาไม่มีอะไรปกปิดร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียว
“…” ฉันก็เลือกที่จะไม่ตอบและไม่หันไปมองเขาด้วย ก่อนจะทำท่าจะลุกออกจากเตียง
“อ๊ะ โอ๊ยย” แต่เมื่อเรียวขาบางแตะถึงพื้นเท่านั้นแหละ ความเจ็บบริเวณกลางลำตัวก็แทรกเข้ามาทันที
“โดนไปขนาดนั้นลุกไหวก็บ้าแล้ว” แล้วเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยออกมาก่อนที่เขาจะเดินอ้อมมาด้านหน้าของฉัน ทำให้ฉันเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเขาเต็มสองตา
“จะทำอะไร” ฉันเอ่ยถามเขาออกไปเมื่อมือหนาเอื้อมเข้ามาแตะตัวของฉัน
“จะช่วยอุ้มพาไปไง”
“ไม่ต้อง”
“ตอนนี้ปฏิเสธเลยนะ ทีเมื่อคืนร้องขอให้ฉันช่วยทั้งคืน” เขาก็พูดจาล้อกวนประสาทฉันกลับมา
“กวนประสาท”
“หึ อย่าปฏิเสธเลยน่า” พูดจบเขาก็อุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาวพาเดินเข้ามาในห้องน้ำทันที โดยที่ฉันก็ไม่คิดต่อต้านอะไรเขาอีกเพราะฉันเดินไม่ไหวจริงๆ
“อาบด้วยกันดีไหม” เขาเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้อง ออกไปเลย” ฉันก็รีบพูดออกไปเสียงดัง ทำท่าจะผลักเขาออกไปจากห้องน้ำ
“เธอนี่มันไม่สำนึกบุญคุณเลยจริงๆ” ร่างสูงยังคงพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“บุญคุณอะไร?” ฉันก็ทำหน้างุนงงไปทันที
“บุญคุณที่ฉันช่วยเธอไปตั้งหลายน้ำไง” แล้วเขาก็แสยะยิ้มออกมา
“โอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ย” ทันทีที่ได้ยินคำตอบของเขาฉันก็อยากจะบ้าตายขึ้นมาเลยจริงๆ ฉันจึงกัดฟันทนเจ็บใช้เท้าถีบเขาออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะปิดประตูใส่เขาทันที
“เฮ้ย! นี่เธอมันจะมากไปแล้วนะ”
ปังๆๆๆ เขาใช้มือเคาะประตูห้องน้ำอย่างแรง
“ไม่เคยมีใครกล้าถีบฉันเลยนะ” ร่างสูงโวยวายออกมาเสียงดังลั่น แต่ฉันก็ไม่สนใจค่อยๆอาบน้ำชำระร่างกายเพราะรู้สึกเหนียวตัวมากๆ เนื้อตัวฉันตอนนี้เหมือนไปออกรบฟัดกับหมามาเลย
“จะทำรอยทำไมเนี่ย” ฉันบ่นออกมาด้วยความหัวเสียที่บนร่างกายมีแต่ร่องรอยแดงเต็มไปหมด ฉันไม่ใช่นางเอกสายโวยวายหรือร้องไห้บีบน้ำตาที่ถูกพรากความบริสุทธิ์ไปหรอกนะ เพราะพูดตามตรงว่าฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะซิงมาจนถึงอายุยี่สิบเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ควรเสียให้กับคนแบบนี้ไหมวะ พูดแล้วก็โมโหขึ้นมาเลย ขนาดไอ้พี่คชาที่คบกันมาตั้งปีกว่ายังไม่ได้ แต่ใครก็ไม่รู้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกลับได้มันไปเพราะฤทธิ์ย***าๆนั่น
“เฮ่อ” ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะรีบอาบน้ำจนเสร็จและหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบตัวเปิดประตูค่อยๆเดินออกไปจากห้องน้ำ
“ว้ายย” แต่ก็ต้องตกใจร้องกรี๊ดออกมาเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็เดินเข้ามาขวางหน้าฉันไว้ทำให้ฉันเกือบล้มลงไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่มือหนาเอื้อมมาคว้าเอวฉันไว้ได้ก่อน
“อะไรของนายเนี่ย” ฉันโวยวายออกไปทันทีด้วยความไม่สบอารมณ์
“เธอถีบฉันทำไม” แล้วเขาก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ
“ก็นายกวนประสาท”
“เธอนี่มันวอนโดนจริงๆ” แล้วเขาก็ใช้มือชี้หน้าฉันไม่จริงจัง แต่ฉันก็รีบปัดมือเขาออกทันที
“อย่ามาชี้หน้าฉัน” ฉันเอ่ยบอกออกไปเสียงเรียบ
“ถ้าไม่อยากให้ใช้มือชี้ ลองใช้อย่างอื่นชี้ดูไหม” แล้วเขาก็พูดจากวนประสาทฉันกลับมาอีกเช่นเคย
“ปล่อยฉันได้แล้ว” ฉันเลือกที่จะเมินคำพูดเขาและรีบผละตัวออกจากอ้อมแขนของร่างสูง เขาก็ยอมปล่อยฉันออกอย่างง่ายดาย
“แต่งตัวเสร็จแล้วนั่งรอฉันก่อนนะ อย่าพึ่งหนีกลับ” ร่างสูงเอ่ยสั่งฉันเสียงเรียบ
“ฉันไม่ใช่นางเอกที่ต้องรีบหนีกลับหรอกนะ เดินขาถ่างขนาดนี้ต้องให้นายไปส่งอยู่แล้ว” ฉันบอกเจตนาออกไปตามตรง เพราะฉันคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้ากลับเองมันก็จะเป็นการทรมานตัวเองจนเกินไป เพราะฉะนั้นฉันควรที่จะให้เขารับผิดชอบโดยการไปส่งฉัน
“หึ ก็ดีจะได้ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งตามเหมือนหนังอินเดีย” เขาแสยะยิ้มตอบกลับมาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ฉันก็เลิกสนใจเขามองหาเสื้อผ้าของตัวเองที่ตอนนี้กระจัดกระจายไปหมด
ผ่านไปสักพัก
แอดด เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เดินออกมาด้วยเนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำ ฉันก็ไม่สนใจนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อไป แต่แล้วเขาก็เดินเข้ามาหาฉัน
“อะไร”
“เธอนั่งทับกางเกงในของฉัน” ร่างสูงเอ่ยบอกด้วยท่าทีกวนๆ แต่ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นทันทีด้วยความรวดเร็ว
“โอ๊ย” ด้วยความลืมตัวดันลุกขึ้นเร็วทำให้ฉันต้องร้องออกมาเสียงหลง ก่อนจะนั่งลงตามเดิม
“เจ็บมากเลยเหรอ” แล้วร่างสูงก็เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่ได้คิดอะไร
“เจ็บสิ นายลองมาโดนเองไหม” ฉันก็พูดขึ้นด้วยความโมโหที่เขาถามคำนั้นออกมาได้ยังไง
“หึ ก็เธอต้องการเองอะ”
“แต่นายก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ไหม”
“เธอยั่วขนาดนั้น ใครจะอดใจไหว” เขาก็ยักไหล่ตอบกลับมา
“เฮ่อ” ฉันจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้เขาหยิบเสื้อผ้าของตัวเองแล้วร่างสูงก็ไปแต่งตัว
“ไปสิ เดี๋ยวไปส่ง” แล้วทิคเกอร์ก็เอ่ยบอก ทำให้ฉันลุกขึ้นอย่างช้าๆ
พรึ่บ! แต่แล้วร่างสูงก็เดินเข้ามาอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าสาว
“อะไรของนายเนี่ย”
“เธอชักช้า” เขาตอบกลับมาก่อนจะอุ้มฉันเดินออกมาจากห้อง ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่เพราะพึ่งเป็นเวลาสิบโมงเช้า ผับยังไม่เปิดและพวกพนักงานก็ยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
“ออกประตูหลังร้านใกล้กว่าและไม่ค่อยมีคน” ฉันเอ่ยบอกร่างสูงไปเพราะกลัวใครมาเห็น ซึ่งเขาก็พยักหน้าและเดินไปตามทางที่ฉันบอกจนมาถึงรถของเขา
“เธอพักที่ไหน”
“หอพักB แถวมอ” แล้วร่างสูงก็ขับรถออกไปตามที่ฉันบอก
“เดี๋ยวนายแวะร้านขายยาหน่อยนะ”
“อืม ถึงเธอไม่บอกฉันก็ต้องแวะอยู่แล้ว เมื่อคืนปล่อยไปขนาดนั้นไม่รู้ลูกฉันแอบเข้าไปในตัวเธอบ้างหรือเปล่า” เขาตอบกลับมาอย่างทีเล่นทีจริง แต่ก็แสดงสีหน้ากังวลออกมาเล็กน้อย
“เหอะ ฉันไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองท้องหรอก ไม่อยากให้ลูกเกิดมามีพ่อแบบนาย” ฉันเบะปากตอบเขากลับไป
“พ่อแบบฉันมันทำไม”
“โรคจิต หื่นกาม”
“เธอนี่มันปากดีจริงๆ”
“ลงไปซื้อเร็วๆสิ ฉันอยากกลับหอแล้ว” แล้วเขาก็ขับรถเข้ามาจอดหน้าร้านขายยาก่อนจะหันมามองฉันอย่างคาดโทษ แต่ก็ยอมเดินลงไปซื้อยาให้ฉันอย่างง่ายดาย
ผ่านไปไม่นาน
ร่างสูงเดินกลับมาพร้อมถุงยาในมือก่อนจะเดินขึ้นรถและโยนถุงมาให้ฉัน
“มียาคุมฉุกเฉินกับยาแก้อักเสบ วิธีการกินอยู่หน้าซอง เธอดูเอาแล้วกัน”
“อืม” ฉันตอบกลับไป แล้วเขาก็พยักหน้าตอบก่อนจะขับรถตรงมายังหอพักของฉัน
เอี๊ยด!
เมื่อรถหรูจอดหน้าหอพัก ฉันก็ทำท่าจะเปิดประตูไปทันที แต่ร่างสูงก็จับแขนฉันไว้ก่อน
“คุยกันก่อน” เขาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“เรามีอะไรต้องคุยกันอีก”
“เธอไม่คิดจะโวยวายหรือเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบใช่ไหม” แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจังกว่าปกติ
“ถ้าฉันจะเรียกร้อง ฉันโวยวายตั้งแต่ที่ผับแล้ว” ฉันตอบกลับไปตามความจริง
“งั้นเหรอ” เขายังคงทำหน้าไม่เชื่อ
“นายสบายใจได้ เพราะฉันไม่คิดจะยุ่งกับนายหรอกนะ เมื่อคืนฉันก็แค่พลาด”
“พลาด?” เขาเลิกคิ้วทวนคำนั้นออกมา
“ฉันโดนยา”
“ก็พอรู้” เขาตอบกลับเหมือนรู้อยู่แล้ว
“งั้นก็ลืมมันไปซะ คิดว่ามันคือ one night stand แล้วกัน” พูดจบประโยคฉันก็เดินลงจากรถทันทีอย่างไม่คิดสนใจเขา เพราะสำหรับฉันเรื่องเมื่อคืนมันจบแล้วเราก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป ฉันเดินเข้ามาในหอพักเพื่อจะขึ้นห้องไปนอนทันที เพราะอดหลับอดนอนมาเกือบทั้งคืน โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ฉันจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเรียน แต่ก็ต้องโทรไปลางานอยู่ดีเพราะวันนี้ฉันไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าฉันควรหยุดและนอนพักดีกว่า
.
.
.
ทางด้านทิคเกอร์เขายังไม่ยอมขับรถออกไป ร่างสูงยังคงนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น เพราะเอด้าเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ปฏิเสธเขาแบบไร้เยื่อใย
“one night stand งั้นเหรอ หึ” เขายิ้มออกมาอย่างแปลกใจ ตอนแรกร่างสูงคิดว่าตื่นเช้ามาคนตัวเล็กต้องโวยวายร้องไห้ให้เขารับผิดชอบแน่ๆ แต่มันกลับผิดคาด เธอไม่โวยวายแถมบอกเขาให้ลืมมันไปอีกด้วย
“เธอไม่เหมือนใครเลยจริงๆ” ร่างสูงพึมพำออกมาแผ่วเบาเขามองไปทางเข้าหอพักที่คนตัวเล็กเดินเข้าไปก่อนจะยกยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยและขับรถออกไปจากหอพักของเธอ…