ตอนที่5 น้อยใจ

1718 Words
แพ้รักลูกบุญธรรม ตอนที่5 น้อยใจ ________________________ "ฮึก ไม่รักหนูลินแล้วใช่ไหมคะ ฮึก ไม่รักแล้วใช้ไหม…" อุ๊บ อื้อ!! ปากบางที่พรั่งพรูถูกปิดลงด้วยความเร็ว ภาคินมอบความนุ่มนวลผ่านการจูบอยากให้ลลินได้รับรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน รักจนไม่เหลือหัวใจไว้ให้ใคร แม้ความรักของเขาจะอยู่อย่างลับๆเขาก็พร้อมที่จะทำ ใจอยากบอกรักลูกบุญธรรมอย่างลลินสักร้อยครั้งพันครั้ง แต่สถานะคำว่าแดดดี้มันค้ำคอจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำว่ารักออกไปได้ ลลินเปิดปากรับลิ้นร้อนที่ส่งต้อนควานหาความหวาน ร่างบางที่ภาคินลูบไล้ลลินเองก็เต็มใจและยินดีให้เขาแตะต้องอย่างไม่ขัดขืน เสียงครางอื้ออึงจากคอบางทำให้ภาคินกระสันจนแทบยั้งใจไม่อยู่ เลือดในกายพลุ่งพล่านกำหนัดจนรู้สึกปวดไปถึงช่วงล่าง ปากหยักที่ได้รูปรีบหยุดจูบจรดหน้าผากหนาลงกับคนตัวเล็กเพื่อระงับอารมณ์ ลมหายใจที่ร้อนผ่าวเป่ารดซึ่งกันและกัน มันอบอุ่นจนลลินเองอยากให้แดดดี้สัมผัสเธออีกครั้งด้วยการจูบที่เหมือนจะเร่าร้อนในช่วงปลาย เธอรู้สึกแปลกใหม่กับความรู้สึกเมื่อครู่ ความน้อยใจ ความเสียใจถูกปัดเป่าให้หายไปเมื่อได้รับอ้อมกอดและการจูบที่นุ่มนวล มันอบอุ่นจนใจลลินเองพองฟูเป็นสีชมพู จมูกโด่งของอีกคนยังคลอเคลีย ลลินหลับตาพริ้มจินตนาการไปกับสัมผัสที่แดดดี้ภาคินของเธอมอบให้ มันวาบหวามหัวใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึก ขนอ่อนลุกซู่ ท้องน้อยวูบโหวงจนรู้สึกเสียวและเย็นตรงกลางกายเพราะความแฉะ ลลินรู้สึกต้องการแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเธอเองต้องการมันคืออะไร "เจ็บมากรึเปล่าที่ถูกแดดดี้ตีเมื่อครู่"ลูบก้นน้อยอย่างต้องการปัดเป่าให้อีกคนหายใจเจ็บ แม้รู้ว่าสิ่งที่ทำมันเหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง "ฮึก จะเจ็บค่ะ แต่เจ็บตรงนี้มากกว่า"เพียงแค่ถูกถามเสียงสะอื้นกับน้ำตาก็มีออกมาอีกครั้งให้ภาคินได้เห็น ลลินใช้มือเล็กทาบลงที่อกด้านซ้าย เพื่อบอกให้อีกคนได้รับรู้ว่าเธอปวดใจมากกว่าเจ็บที่กาย กายที่เจ็บยังมียารักษาให้หายแต่ใจของเธอที่ปวดล่ะต้องใช้อะไรรักษามันถึงจะกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติได้เหมือนเดิม ภาคินโน้มตัวใช้ปากหยักจูบลงที่หลังมือนิ่มที่ทาบลงตรงหน้าอกด้านซ้าย ก้อนเนื้อโง่ๆด้านซ้ายมันร่ำร้องบอกทุกเวลาว่ารักแดดดี้ภาคินที่สุด ลลินอยากให้แดดดี้ได้ยินมันเหมือนที่เธอได้ยินทุกวัน "หนูลินรักแดดดี้ รักมากที่สุด รักจนหัวใจของหนูลินมันเจ็บปวดไปหมดเวลาที่ถูกแดดดี้เมินหรือเฉยชาใส่ มันเสียใจทุกครั้งที่แดดดี้ลงมือทำร้าย ได้ยินเสียงหัวใจของหนูลินตัวน้อยๆคนนี้บ้างไหมคะแดดดี้ หนูลินรู้ว่าแดดดี้กำลังจะหมั้น ขอเวลาให้หนูลินทำใจหน่อยนะคะ"เธอรับรู้และได้ยินมันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ความบังเอิญที่ได้ยินคุณปู่กับคุณย่าพูดคุยกัน ต่อให้เธอพยายามมากแค่ไหน สุดท้ายแดดดี้ก็ไม่มีทางยกหัวใจให้เธอได้ ภาคินตกใจนิดหน่อยที่ลลินรู้เรื่องที่เขาจะหมั้น เขาไม่คิดที่พูดให้คนตัวเล็กฟังเพราะกลัวเธอจะเสียใจ เขาเองก็พยายามทุกวิถีทางและหวังว่าผู้หญิงที่เขาจะหมั้นหมายด้วยจะทำให้เขาลืมลูกบุญธรรมอย่างลลินได้หมดหัวใจ ลลินจับมือสากขึ้นมาพรมจูบจนชุ่มชื่นหัวใจ เอียงใบหน้าใสที่มีแต่คราบน้ำตาลงที่อุ้งมือใหญ่ มือใหญ่ที่เคยโอบกอดเลี้ยงดูเธอตั้งแต่เล็กๆให้อบอุ่นหัวใจและปลอดภัยทุกช่วงเวลา ในอนาคตข้างหน้ามืออุ่นคู่นี้คงมีไว้โอบกอดคนข้างกายที่แดดดี้กำลังจะหมั้นหมายซึ่งไม่ใช่เธอ ภคินรู้ว่าลลินรู้สึกยังไง แต่อย่างที่เขาบอกไปคำว่าแดดดีมันค้ำคอเกินกว่าที่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปได้ในทางชู้สาว "เลิกคิดแบบที่หนูลินพูดแบบเมื่อครู่ อย่าคิดเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ แดดดี้ไม่เคยรักหนูในแบบที่หนูคิด"ปากกับใจสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ภาคินปฏิเสธอย่างใจร้าย รู้ว่าสิ่งที่พูดไปจะทำร้ายความรู้สึกของอีกคน ภาคินส่งมือหนาลูบขมับด้านซ้ายของคนตัวเล็กแม้จะดีใจที่ลลินบอกรัก แต่ก็เสียใจที่ต้องห้ามความรู้สึกของตัวเองเพราะมันผิด "ฮึก หนูลินรู้ค่ะ แดดดี้ไม่ต้องกังวลนะคะ ในเมื่อหนูลินเป็นคนเริ่มความรู้สึกทุเรศๆพวกนี้เอง หนูลินก็จะจบมันเอง ฮึก แต่หนูลินก็ยังยืนว่าหนูลินรักแดดดี้ รักที่สุด"แค่ได้บอกรักก็เพียงพอแล้วสำหรับลลิน หลังจากนี้จะเป็นยังไงก็ช่างมันจะเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมานเธอก็จะทน ภาคินทายาให้อีกคนแล้วจัดท่าให้ลลินนอนได้อย่างสบายจนเธอหลับลงในอ้อมกอดที่เธอโหยหามาตลอดหลายวัน ร่างหนาขยับตัวขึ้นเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจสม่ำเสมอของลลิน เขายืนท้าลมหนาวนอกระเบียงอัดสารนิโคตินเข้าปอดแล้วปล่อยควันสีขาวพวยพุ่งออกมาด้วยความเครียด นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่ไม่เคยคิดจะแตะต้องมวนยาวเหล่านี้ แต่ในเวลานี้ขอเลือกพวกมันมาดับความเครียดสักหน่อยแล้วกัน เช้า ลลินเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากที่เธอชำระร่างกายจนเสร็จ กลิ่นครีมอาบน้ำหอมๆมันฟุ้งจนมาถึงข้างนอกห้อง ร่างบางที่ยืนอยู่หน้ากระจกมองขอบตาที่บวมช้ำของตัวเอง ใช้ปลายนิ้วไล้ไปมาและหวังว่าอีกหน่อยมันก็คงจะหาย ร่างหนาที่อยู่ในชุดสบายกำลังงุ่นง่านยืนทำอะไรบางอย่างอยู่ในห้องครัว ถ้าเป็นเมื่อก่อนลลินคงเดินเข้าไปกอดด้านแดดดี้ทางด้านหลังแล้วจูบซ้ำๆที่แผ่นหลังหนานั่น แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดมันผิดพลอยจะทำให้แดดดี้ของเธอรู้สึกอึดอัดและรู้สึกรำคาญเปล่าๆ เพียงแค่คิดดวงตากลมโตที่แสนช้ำก็เริ่มมีน้ำเอ่อขัง "ตื่นนานแล้วเหรอหิวรึเปล่า"เมื่อหันมาก็เห็นร่างบางที่แสนคุ้นเคยอยู่ในชุดใส่เล่นที่โชว์สัดส่วนช่วงเอวที่ไร้ไขมัน ไม่ได้ดูน่าเกลียดแต่ภาคินคิดว่ากำลังน่ารักเหมาะกับวัยรุ่นอย่างลลิน จริงๆแล้วคนตัวเล็กใส่อะไรก็สวย เพราะด้วยรูปร่างสมส่วนบวกกับหน้าตาที่น่ารักทำให้ลลินใส่อะไรก็สวยไม่ได้ดูน่าเกลียด "มะไม่หิวค่ะ หนูลินขอตัวกลับก่อนนะคะแดดดี้"นั่นถึงกับทำให้คิ้วหนาเคลื่อนตัวขมวดเข้าหากัน ปกติลลินจะเข้ามาอ้อนเข้ามากอดแล้วบอกไม่อยากกลับบ้านอยากอยู่กับแดดดี้ กอดจนบางทีความใหญ่ที่มันนุ่มหยุ่นของสองเต้าถูไถไปมา จนกลางหว่างขาของภาคินแข็งก็มี "งั้นเดี๋ยวแดดดี้ไปส่ง"ถึงภาคินสงสัยมากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ได้รั้ง นั่นยิ่งทำให้ลลินน้อยใจได้แต่ส่งรอยยิ้มไม่สดใสให้ผู้เป็นแดดดี้ไป ตลอดระยะทางที่รถเคลื่อนตัวอยู่บนท้องถนนไม่มีใครเอ่ยปากพูดคุยต่างคนต่างเงียบ เงียบจนทั้งสองรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เงียบจนภาคินต้องแอบชำเลืองมองลลินอยู่บ่อยครั้ง "วันหยุดอยากไปเที่ยวไหนรึเปล่า"ถามเพื่อทำลายบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด ภาคินไม่ชินปกติลลินจะชวนคุยไม่เงียบและเหม่อลอยแบบนี้ "……"เงียบไม่มีเสียงหวานๆให้ภาคินได้ยินและเขาต้องเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นจนลลินสะดุ้ง "ลลิน" "ค่ะ…แดดดี"ค่ะแดดดี้แต่น้ำตากลับไหลอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกแค่ว่าทำไมหัวใจเธอมันกำลังเจ็บและเต้นช้าลง มันช้าจนเธอเริ่มคิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้ เพียงแค่ได้ยินคำปฏิเสธเมื่อคืน ในเมื่อพ่อแม่ไม่ต้องการเธอตั้งแต่แรกทำไมไม่ฆ่าให้เธอตาย ปล่อยให้ลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้วทอดทิ้งให้เธอถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กกำพร้าทำไม เด็กกำพร้าที่ถูกรับมาเลี้ยง ถูกมอบความรักความอบอุ่นให้แต่กำลังจะถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดที่เหมือนไม่แคร์ ไม่สนใจกันตั้งแต่เมื่อคืน ภาคินรีบตบไฟเลี้ยวลงไหล่ทางเมื่อเห็นน้ำตาของลลินที่ไหลออกมาไร้เสียงสะอื้น แต่ร่างบางกลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังร้องไห้ออกมา แววตาที่มองมามันว่างเปล่าจนภาคินใจเสีย "ร้องไห้ทำไม เจ็บแผลเหรอไหนให้แดดดี้ดูหน่อย"เช็ดน้ำตาออกจากแก้มใสพยายามจะขอดูแผลเพราะคิดว่าลลินคงเจ็บ คนตัวเล็กขยับตัวนิดหน่อยไม่อยากให้แดดดี้แตะต้อง ไม่ใช่โกรธแต่เกลียดตัวเองต่างหากที่พูดอะไรโง่ๆออกไปเมื่อคืน "โกรธเหรอที่แดดดี้บอกให้หยุดคิดถึงความรู้สึกแบบนั้น"ในเมื่ออีกคนขยับหนีแดดดี้อย่างภาคินก็ไม่ควรขยับเข้าไปใกล้อีก "ไม่โกรธค่ะ หนูลินกำลังจัดการความรู้สึกของตัวเอง ขอโทษนะคะที่บอกความรู้สึกโง่ๆออกไป ผิดเองที่ไม่เจียมตัวเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ถูกเขาเก็บมาเลี้ยงแต่ริอ่านใฝ่สูงบอกรักผู้มีพระคุณ" "อย่าพูดดูถูกตัวเองให้แดดดี้ได้ยินแบบวันนี้อีกนะลลิน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD