คืนฝนฉ่ำฟ้า 1

1314 Words
2 “นุช นุช...” เสียงเรียกของธาริตดังมาจากในห้องน้ำ ซึ่งวีรนุชเพิ่งอาบเสร็จและให้เขาเข้าไปอาบบ้าง “คะ?” หญิงสาวขานด้วยความแปลกใจ ขณะใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมไปด้วย “โป้งมือเจ็บ มาสระผมให้หน่อยได้มั้ยครับ” เขาส่งเสียงอ้อนๆ และวีรนุชก็นึกได้ว่า เมื่อกลางวัน เขาซนเหมือนเด็ก ปีนต้นไม้เล่น แล้วแขนก็ไปฟาดกับกิ่งไม้ใหญ่เข้าให้ เดือดร้อนเธอต้องขี่รถหาซื้อยานวด มานวดให้เขา อาการจึงค่อยทุเลา “เอ่อ...แล้วโป้ง...อาบน้ำเสร็จหรือยัง” “เสร็จแล้วครับ แต่คันหัวมากเลย อยากสระผมด้วย” พูดจบ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก แล้วร่างผอมบางของเขาในชุดผ้าขาวม้าผืนเดียวพันท่อนล่าง ตามตัวมีน้ำเกาะพราวก็ยื่นหน้าออกมาส่งยิ้มอ้อนๆ วีรนุชใจกระตุกกับชุดแบบนั้น รอยยิ้มแบบนั้น แต่พยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไร เธอพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน หยิบม้านั่งซึ่งคุณป้าเจ้าของบ้านคงใช้สำหรับนั่งอาบน้ำนั่นละ มาให้เขานั่ง ส่วนตัวเองก็ยืนโค้งตัวอยู่ทางด้านหลังและก้มหน้าไปหาเขา ซึ่งตอนนี้เอนตัวมาข้างหลัง มือหนึ่งจับขอบโอ่งอาบน้ำไว้ หญิงสาวตักน้ำจากโอ่งแล้วค่อยๆ ราดลงบนเส้นผมนุ่มสลวยของเขา ตามด้วยยาสระผมแล้วขยี้ผมเขาเบาๆ โดยไม่พูดอะไร มีแต่เจ้าของศีรษะที่เหลือบสายตามองเธอ พลางยิ้ม ตาเป็นประกายระยับ เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก็หลุบตามองแค่ผม “มือนุชเบ๊าเบา...” “ไม่สะใจใช่ป่ะ เดี๋ยวเกาแรงๆ ให้ก็ได้นะ” เธอว่าพลางเพิ่มความแรงของนิ้วมือ ซึ่งเขาก็หัวเราะถูกใจ “ดี เกาแรงๆ เลย เอาให้รังแคกระเด็นออกให้หมดเลยนะ” ซึ่งวีรนุชก็ทำตามนั้นด้วยความหมั่นไส้คนขี้อ้อน ผลก็คือ อีกคนร้องอู้ “เบาๆ หน่อย” “ห้ามบ่น บอกเองว่าชอบแรงๆ” เธอเพิ่มน้ำหนักที่นิ้วอีกอย่างต้องการแกล้งจนหัวเขาโยกไปมา “นุช...” ธาริตร้องห้าม “ขา...” หญิงสาวแกล้งขานเสียงหวาน กลั้นยิ้ม ตาพราวระริกเมื่อเห็นนักร้องหนุ่มทำหน้ามุ่ย บางทีเขาก็ดูเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ชวนหวั่นไหว แต่ขณะนี้เวลานี้ เขาเหมือนเด็กชายตัวเล็กๆ น่าเอ็นดูบอกไม่ถูก เฮ้อ นี่เธอเอ็นดูผู้ชายอายุยี่สิบจะสามสิบเนี่ยนะ ธาริตหุบยิ้มฉับ แล้วก็มีสีหน้าขรึมลงไปมาก จนวีรนุชหน้าเสีย “เอ๊ย โกรธเหรอ” ถามพลางก็เบามือลง ก้มหน้าลงไปหาด้วยความตกใจ ก็เห็นว่าเขายังมีท่าทีเคร่งขรึมและเฉยชาแปลกๆ ยิ่งทำให้ใจคอไม่ดี เธอคงเล่นกับเขามากเกินไป ทำตัวสนิทกับเขาเกินไป ทั้งที่ก็เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมง “หรือเจ็บหรือเปล่าคะ นุชขอโทษ” เสียงเธออ่อยลง ธาริตยังคงไม่ตอบอะไร นั่งให้เธอสระผมต่อให้เงียบๆ และวีรนุชก็ทำหน้าที่ของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย โดยที่ไม่พูดอะไรเหมือนกัน ใช้เวลาต่อจากนั้นอีกไม่นาน การสระผมก็สิ้นสุดลง วีรนุชใช้ผ้าขนหนูซับน้ำจากเส้นผมให้เขาเบามือ ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “เสื้อผ้าใช้แล้วของโป้งอยู่ไหนอะ เดี๋ยวนุชเอาลงเครื่องให้ ปั่นพร้อมกันเลย” ชายหนุ่มพยักหน้าไปทางมุมหนึ่งของห้องน้ำ แล้วจึงลุกขึ้นและหยิบผ้าขนหนูจากมือเธอไปเช็ดผมต่อเอง จากนั้นจึงเดินออกจากห้องน้ำไป วีรนุชจัดการปั่นผ้าเธอกับเขารวมถึงชุดชั้นในด้วย อันทำให้เธอต้องโนบรา เลยต้องเอาผมยาวๆ ของตนปกปิดเอาไว้ ส่วนธาริตใส่ผ้าขาวม้าและเสื้อยืดตัวโคร่ง คุณป้าเตรียมอาหารเอาไว้ให้แล้ว เป็นกับข้าวง่ายๆ แค่สองอย่าง แต่มันก็อร่อยนักในความรู้สึกของสองหนุ่มสาว วีรนุชเห็นเขากินง่ายอยู่ง่ายก็นึกชื่นชม ที่เขาไม่เรื่องมาก ดูสิ นั่งขัดสมาธิกับพื้นแข็งๆ กินน้ำจากขันเงิน ใช้ช้อนสั้น จานสังกะสีได้แบบสบายๆ จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ หญิงสาวรีบหลุบตามองจานข้าว และทานต่อไปเงียบๆ ทานข้าวกันเรียบร้อยแล้ว ฝนก็ยังไม่หยุดตก และทำท่าจะตกหนักขึ้นทุกที สองหนุ่มสาวมองหน้ากันด้วยความกังวล “เดี๋ยวนุชให้พลอยมารับเลยดีกว่า” วีรนุชว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “อย่าดีกว่าหนู เดี๋ยวถนนขาดขึ้นมา อันตรายเปล่าๆ บอกเขาแค่ว่าอยู่ตรงไหนก็พอ ให้เขาสบายใจ” เจ้าของบ้านไม่เห็นด้วย “คืนนี้คงต้องค้างที่นี่แหละ” “เกรงใจคุณป้าจังเลยค่ะ” “โอ๊ย ไม่ต้องเกรงใจ บ้านหลังเบ้อเริ่ม ป้าอยู่คนเดียว ที่นอนเยอะแยะ” “อ้าว แล้วป้าไม่มีลูกหลานเหรอครับ” ธาริตถามขณะที่วีรนุชนั้นกำลังโทร.หาพลอยจันทน์เพื่อแจ้งข่าว “มี แต่เข้าไปทำงานที่กรุงเทพกันหมด นานๆ จะกลับมาซักครั้ง แต่เขาก็ส่งเงินส่งของมาให้ใช้นะ...ป้าอยู่คนเดียวได้ สบายมาก” แกโบกมือว่อน อันทำให้ธาริตค่อนข้างแน่ใจว่าแกไม่ได้ ‘สบายมาก’ จริงๆ “นี่ อยากดื่มอะไรหรือเปล่า ป้ามีเครื่องดื่มนะ อากาศเย็น เผื่อจะอุ่นขึ้น” สองหนุ่มสาวหันสบตากัน แล้วธาริตก็พยักหน้ารัวๆ “จัดมาครับป้า” จากห้องครัวด้านหลังบ้าน ทั้งสามคนย้ายมาที่ห้องนั่งเล่นที่ไม่ได้เป็นสัดส่วนอะไร มีเสื้อผ้าและข้าวของกองๆ ไว้ทางด้านหนึ่ง ธาริตหยิบเสื่อจันทรบูรณ์มาปู วีรนุชช่วยคุณป้าลำเลียงของมาวาง ไม่นาน ปาร์ตี้เคล้าสายฝนก็เริ่มต้นขึ้น พวกเขาดื่มกิน และพูดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้กันอย่างถูกคอ และจากการพูดคุยนี่เองทำให้สองหนุ่มสาวรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณป้าแกโดนลูกหลานทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี แต่โชคดีที่แกพอมีรายได้จากการทำสวน เลยอยู่ได้สบายๆ ดื่มกันได้สักพักใหญ่ ป้าก็ขอตัวไปนอน เพราะแกไม่ไหวแล้ว “ที่นอนพวกหนูอยู่ข้างบนนะ ส่วนป้านอนข้างล่าง แก่แล้ว ขี้เกียจขึ้นบันได” “หนูขอนอนกับป้าได้มั้ยคะ” วีรนุชเอ่ยขึ้น ได้ยินคำถาม แกก็หันมามองด้วยความแปลกใจ “พวกหนูไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกเหรอ” “เอ่อ...” “เป็นครับ ป้า เป็น...เชิญป้าเข้านอนได้เลย เดี๋ยวพวกเราเก็บของให้” ป้าพยักหน้ายิ้มๆ “โอเคๆ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ” เมื่อป้าเดินเข้าห้องไปแล้ว วีรนุชก็หันมาทางชายหนุ่ม “โป้งโกหกป้าทำไมเนี่ย นุชจะนอนกับป้า” ธาริตมองคนที่หน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยแววตาเอ็นดู “แค่นี้เราก็รบกวนป้ามากแล้ว อย่าทำให้แกลำบากใจกว่านี้เลย มา ดื่มต่อเถอะ” หญิงสาวไม่ตอบอะไรอีก นอกจากยื่นแก้วไปตรงหน้าเพื่อให้เขารินเบียร์ให้ “สงสารป้าแกเนอะ...มิน่าล่ะ แกถึงดูดีใจมากตอนที่พวกเราเข้ามาขอความช่วยเหลือ แกคงอยากมีเพื่อน” วีรนุชตั้งข้อสังเกต ธาริตพยักหน้า “แต่ก็ห่วงแกนะ ถ้าวันหนึ่งคนที่มาขออาศัยไม่ได้เป็นคนดีอย่างเราๆ ล่ะ” “ดูแล้วแกเก่งพอตัวนะ ถ้านุชตาไม่ฝาด แกน่าจะมีปืนในบ้าน” “งั้นก็สบายใจหน่อย” เขายิ้มยื่นแก้วมาให้เธอชน เธอชนแล้วก็ดื่มรวดเดียวหมด พอวางแก้วเธอก็ส่งยิ้มมาให้เขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD