มีเรื่องจะบอก…1/2

905 Words
มือเรียวยกขึ้นวางบนหน้าท้องที่ยังแบนราบเป็นปกติไม่เหมือนกำลังมีชีวิตเล็ก ๆ เติบโตอยู่ในนั้น พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เรายังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ใคร” สายตาเหม่อมองออกไปไกล “ขอโทษนะที่แม่ต้องทำแบบนี้” พูดไปได้สักพักน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมากบดวงตา ทางข้างหน้าที่เห็นความสว่างไสวกลับมืดหม่นเหมือนชีวิตเธอตอนนี้ ริมฝีปากบางสั่นระริก นี่ขนาดเขายังเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยเท่าเมล็ดถั่วเธอยังมีความผูกพันได้ขนาดนี้ คงต้องรีบตัดสินใจก่อนที่สายใยบาง ๆ จะเหนียวแน่นเกี่ยวพันกันจนไม่อาจตัดทิ้งได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเธอไม่โทษใครนอกจากตัวเองที่เขาพูดมันก็ถูกต้องแล้วเพราะเธอเองที่ไม่ป้องกันเมื่อปัญหาเกิดขึ้นเธอก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง ขณะที่จมอยู่ในห้วงความคิดเงินก้อนหนึ่งก็ถูกโอนเข้ามาในบัญชีผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์หญิงสาวเปิดดูก็เห็นว่ามีเงินจำนวนสองแสนบาท ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ ก็มีสายโทร. เข้ามา {เงินเนี่ยถือเป็นค่าเสียเวลา เก็บไว้ใช้ยามมีเรื่องเดือดร้อนจำเป็น ต่อจากนี้ให้เราจบกันจริง ๆ} “ค่ะ จบก็จบ แต่ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย” {อะไร} “ที่ผ่านมา พี่ไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ กับว่านจริง ๆ เหรอ” {รู้สึกดี ๆ น่ะมี แต่รู้สึกจริงจัง...ไม่มี ขอให้เธอเจอคนที่ดีกว่าพี่นะว่าน} ทั้งคู่ต่างเงียบกันไป ก่อนที่วารีรินจะได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ขาดหาย เหมือนเธอกับเขาที่ตัดขาดกันตลอดกาล สำหรับลาภิศร์ วารีรินเป็นแค่สิ่งแปลกใหม่ที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอยากได้ เธอไม่ได้จีบง่ายเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของนักล่าตัวฉกาจอย่างเขา และเมื่อได้มาแล้วก็เบื่อหน่ายตามระยะเวลาใช้สอย นี่ก็ถือว่านานกว่าคนอื่น ๆ มาก เพราะเธอช่วยเขาทั้งเรื่องเรียนและเรื่องบนเตียงด้วย คุ้มสองต่อ เรื่องที่เธอจะท้องจริงหรือไม่จริงเขาไม่ได้ใส่ใจ เย็นวันต่อมาวารีรินเดินไปหยุดที่หน้าคลินิกแห่งหนึ่ง หญิงสาวเดินวนไปวนมายังคิดไม่ตก พอเอาเข้าจริง ๆ ก็เกิดความกลัวเพราะหากได้ลงมือทำไปแล้วจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ มันคือการสูญเสียตลอดกาล แต่ถ้าหากไม่ทำวันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ลำพังตัวเธอคนเดียวก็คงหาทางรอดได้ แต่ถ้ามีอีกคนเธอกลัวว่าพาเขามาลำบาก ชาตินี้เธอเกิดมาต้นทุนชีวิตต่ำเตี้ยไม่สามารถดูแลอีกชีวิตที่กำลังจะเกิดมาในขณะนี้ได้ หากต้องทนดูเขาต้องเติบโตอย่างลำบากยากแค้น สู้ให้เขาอย่าเพิ่งเกิดมาจะดีกว่า ขณะที่เท้าเรียวกำลังจะก้าวเข้าไปในคลินิกเสียงเรียกจากข้างหลังก็ดังขึ้น “ว่าน มาทำอะไรแถวนี้” “พี่นนท์” หญิงสาวหันกลับไปมองตามเสียงนั้น ก็เห็นชายหนุ่มสวมแจ็กเก็ตสีเขียวของพนักงานส่งของบริษัทหนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหา เขาพูดขึ้นอีกว่า “ไม่สบายเหรอว่านหน้าซีดเชียว มาหาหมอใช่ไหม” “เอ่อ...ค่ะ แล้วพี่นนท์มาทำอะไรแถวนี้คะ” “มาส่งออร์เดอร์ให้ลูกค้าไง พี่ทำงานส่งอาหารเป็นงานพาร์ตไทม์ งั้นก็เข้าไปสิพี่เข้าไปเป็นเพื่อน”ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างจริงใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ว่านเปลี่ยนใจ กำลังจะกลับพอดี” “อ้าวทำไมล่ะ ไม่สบายต้องให้หมอตรวจดูหน่อยนะเดี๋ยวเป็นหนักขึ้นมาจะแย่เอา” “คือว่านไม่ได้เป็นอะไรมากจริง ๆ ค่ะ แค่นอนพักก็พอ เขาบอกว่ากินยามาก ๆ ไม่ดี” เธอรีบหาข้ออ้าง ดวงตากลมโตที่เคยสดใสเป็นประกายมีชีวิตชีวาหลุบลงเพื่อซ่อนพิรุธ แต่ก็ไม่พ้น “มีอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมไอ้ลอสไม่มาด้วยล่ะ” วารีรินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าที่มีน้ำใจกับเธอเสมอ นัยน์ตาหมอง “เราเลิกกันแล้วค่ะ” “เลิกแล้ว? เมื่อไหร่” “เมื่อวาน” วารีรินก้มหน้าตอบ นนท์ หรืออินทนนท์ดูตกใจเมื่อได้ฟังคำบอกนั้น เขาได้ยินลาภิศร์เปรยให้ฟังว่าเรียนจบก็จะเลิกกับหญิงสาวคนนี้แล้วไปเรียนต่อต่างประเทศอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้ “แล้วว่านโอเคมั้ย” “...ค่ะ โอเค ไม่เป็นไรค่ะ” “แล้วที่มาหาหมอ เป็นอะไรมากรึเปล่า” “ไม่มากค่ะ แค่ปวดหัวนิดหน่อย ว่านจะกลับแล้ว” เธอไม่อยากพูดอะไรมาก จึงหมุนตัวคิดจะเดินหนี แต่อินทนนท์ก็เดินมาขวางทางไว้ บอกว่า “พี่ไปส่งที่หอ นั่งมอไซค์ไปกับพี่ก็ได้” วารีรินที่เหมือนจะมีน้ำตาเอ่อคลอเงยหน้ามอง ชายหนุ่มจึงพยักหน้าให้ ^ ^ ^ ***โปรดติดตามตอนต่อไปนะค้า ขอกำลังใจให้น้องว่านมาเยอะๆ ด้วยน้า จะได้มีแรงอัป ebook สนใจเรื่องไหน กดอ่านเลยค่า ที่ meb
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD