ฝากดูแล…2/1

1185 Words
ในวันต่อมาวารีรินยังมาส่งใบงานสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยตามกำหนดที่อาจารย์สั่งไว้ก่อนตัดเกรดพร้อมกับเพื่อนในกลุ่มของเธอ เสร็จแล้วหญิงสาวก็แยกย้ายกับเพื่อน สีหน้าของเธอดูหม่นหมองไม่สดชื่นสดใสเพราะมีเรื่องหนักหนาในชีวิตให้ต้องขบคิด จากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อ ตัวคนเดียว ไม่มีที่พึ่งพิง ญาติพี่น้องก็แทบไม่มีใครที่ให้นึกถึง เธออาศัยอยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กได้ทุนเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของประเทศก็นับว่าเป็นต้นทุนทางการศึกษาในระดับหนึ่ง ผลการเรียนของเธออยู่ในเกณฑ์ดีมากแต่ต้องมาสะดุดเพราะ... “ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” เสียงทุ้มติดห้วนดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ร่างบางในชุดนักศึกษาชะงักไปครู่ โดยที่ยังไม่หันไปมองโสตประสาทของเธอก็จำได้ว่าเป็นเสียงใครรวมถึงกลิ่นตัวที่ลมพัดพามาก็ยังติดตรึงในความรู้สึก คนที่เอ่ยเรียกทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของเธอแทน วารีรินเหลือบตามองผู้ชายหน้าบึ้งด้วยแววตาเฉยชาไม่ต่างกัน เมื่อตัดแล้วก็ต้องตัดให้ขาด “มีอะไร” ยังไม่ทันได้ตอบ มือหนาก็ฉวยข้อมือเล็ก ตาสบตา ก่อนจะลากแขนเธอไปคุยในที่ที่ไม่มีใครเห็น นั่นก็คือ ในรถบีเอ็มดับเบิลยูของเขา ทั้งคู่นั่งเงียบปล่อยให้บรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดห่มคลุมก่อนชายหนุ่มจะหันมามองใบหน้าด้านข้างของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “เรื่องท้อง เธอโกหกจริง ๆ ใช่มั้ยว่าน” เขาถามย้ำ เหมือนจะแน่ใจแต่ลึก ๆ กลับยังลังเล วารีรินหันมามองเขาด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา “พี่สบายใจได้ค่ะ” ลาภิศร์มองหน้าเธอด้วยสายตาเอาเรื่อง “พี่สบายใจแน่ ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “ถ้ามันเกิดขึ้นจริงพี่จะทำยังไงล่ะ” “จะให้ทำยังไง อนาคตทั้งพี่และเธอก็จบไงถามมาได้” เขาตะคอกเสียงใส่หน้าเธอ อย่างที่ไม่อยากรับความจริงหากมันเกิดขึ้นแล้ว เขาในตอนนี้คิดสภาพตัวเองเป็นพ่อเด็กคนหนึ่งไม่ออกหรอกนะว่ามันต้องทำอย่างไร วารีรินทร์มองเข้าไปในดวงตาที่แข็งกระด้างคู่นั้นที่ฉายแววรังเกียจเธอมาก ก่อนจะพยักหน้ายอมรับเรื่องทั้งหมดไว้กับตัวเอง ‘อนาคตพี่ไม่จบหรอกค่ะ ให้อนาคตว่านจบคนเดียวก็พอ ว่านผิดที่ปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้น ว่านขอรับผิดชอบคนเดียว’ “ว่านก็บอกให้พี่สบายใจได้อยู่นี่ไงคะ ต่อไปนี้พี่จะไปคบใครก็แล้วแต่พี่เลย” สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นดูแคลน เขาไม่ได้แคร์อะไรเธอ ต่อให้ยังคบกัน เขาจะมีคนใหม่ก็แค่บอกเลิก ไม่เห็นจะมีอะไรยาก “มันแน่อยู่แล้ว เรื่องจะคบหรือจะจบกับใครมันก็แล้วแต่พี่ ถึงเธอจะท้องจริงพี่ก็จะบอกให้ว่าเด็กคนเดียวไม่สามารถทำให้พี่หยุดอยู่กับเธอได้หรอก” หญิงสาวกล้ำกลืนความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา มันทั้งเจ็บปวด เสียใจ และผิดหวัง พลางเอ่ยเสียงต่ำ “งั้นก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วมั้ง” “ดี งั้นก็ตามนี้ จากนี้ไปเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แล้วอย่าคิดจะมาเรียกร้องเอาอะไรทีหลัง เพราะพี่ไม่มีวันรับของอะไรที่ไม่ต้องการ” “กลัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ ย้ำหลายรอบมาก” วารีรินยิ้มยั่ว “งั้นก็ไปตรวจให้แน่ใจเลยไป จะได้จบ ๆ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ว่านบอกไม่ได้ท้องก็ไม่ได้ท้องสิ” “ก็เธอออาจโกหก” “ไม่โกหกหรอก ว่านเห็นสันดานของพี่แล้วว่านไม่ได้อยากได้พี่เป็นพ่อของลูกว่าน ไม่อยากได้พี่เป็นสามี ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับคนอย่างพี่อีก” “ว่าน” เขาปราม “มีอะไรจะคุยอีกมั้ย ถ้าไม่มีก็จบแค่นี้” “พี่ไม่ได้อยากคุยอะไรกับเธออีกนอกจากเรื่องนี้” “ก็เคลียร์แล้วไง” “เออ เคลียร์” “จบ!” เธอหันไปจ้องตากับเขา สายตาจับจ้องอวัยวะทุกส่วนบนใบหน้า เพื่อจดจำเอาไว้ว่าไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้แหละที่มันเลวกับเธอขนาดไหน จะได้ไม่หวนกลับไปเชื่อคำพูดหวานหูในตอนแรกที่มันพ่นใส่จนเธอหลง “จ้องหน้าแบบนี้ อยากโดนในรถก่อนแยกจากอีกมั้ยล่ะ” พลางพูดใบหน้าหล่อใสก็ยื่นเข้ามาพร้อมกับส่งท่อนแขนมาโอบรัดร่างบางในชุดนักศึกษาพอดีตัว วารีรินดิ้นขัดขืนตอนนี้ในความรู้สึกมีแต่ความขยะแขยงผู้ชายคนนี้ เพี้ยะ! จังหวะหนึ่งที่หญิงสาวได้โอกาสเหมาะ ตวัดฝ่ามือฟาดลงไปที่แก้มข้างหนึ่งเต็มแรงจนอีกฝ่ายหน้าหัน หยุดการกระทำป่าเถื่อนลงได้ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเธอ ยกยิ้มมุมปาก ในขณะที่วารีรินอยู่ในอารมณ์เดือดดาล “ตบแปลว่าอ่อย” “ทุเรศ! เปิดประตูให้ฉันลง” “พี่ก็เสียดายเธออยู่นะว่าน เอางี้มั้ย ระหว่างที่พี่ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เธอก็หางานทำรอพี่อยู่ที่นี่ พี่จะส่งเงินค่าเลี้ยงดูมาให้เธอบ้าง” “ไม่” “พี่เสนอทางเลือกที่ดีให้เธอแล้วนะ” “นี่ดีเหรอ หึ” “ก็ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วไง ถ้าจะให้ดีกว่านี้คงให้ไม่ได้” “ฉันไม่รับมัน นายจะไปทำอะไรที่ไหนก็แล้วแต่เถอะ อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย เปิดประตูไม่งั้นฉันเอาปากกาเมจิกเขียนรถนายแน่” วารีรินมีปากกาสีหลายแท่งในกระเป๋าทำท่าพร้อมจะหยิบออกมา เธอรู้ว่าลาภิศร์ก็เป็นคนที่รักรถมาก เมื่อเห็นอย่างนั้นชายหนุ่มทำหน้าตื่น “อย่าทำอะไรบ้า ๆ ฉันไม่อยากเสียเวลาเพราะเรื่องแบบนี้” “ก็เปิดประตูสิ” “หึ เก่งให้ได้ตลอดแล้วกัน ถ้าคิดถึงผัวคนแรกขึ้นมาให้รีบโทร.หาภายในสามวัน ถ้าไม่โทร.แปลว่าเราขาดกันโดยสมบูรณ์” คนหลงตัวเองยักคิ้ว พร้อมกับกดปลดล็อกประตูให้ เขาคิดว่าข้อเสนอนี้วารีรินต้องรับมันไว้อย่างแน่นอน หญิงสาวก้าวลงจากรถก่อนจะปิดประตู เธอก็ยิ้มหวานตอบกลับ “เปลี่ยนใจเหรอจ๊ะน้องสาว” “ค...” สิ่งที่ลาภิศร์ได้กลับมาคือ ‘นิ้วกลาง’ จากเธอ “ยัยตัวแสบ กล้าให้ ‘ค’ ฉันเหรอ มีแต่ฉันสิที่จะใส่เข้าไปในตัวเธอน่ะ บ้าชิป ฉันจะรอดูความเก่งของเธอ หึ!” ^ ^ ^ ***โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ไหวไปต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD