@ ณ บ้านหลังใหญ่สองฉัน อีกฝากฝั่งของประเทศไทย
“แกคงคิดว่าพ่อแกรักแกมากสินะ ถึงทำตัวหยิ่งผยองพองขนแบบนี้ นังอลิซ”
กิริฎาเปิดฉากต่อว่าลูกเลี้ยงทันทีหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น นางพยายามเอาคืนทุกครั้งที่ลูกสาวตนกับลูกเลี้ยงทะเลาะกัน
“...” (เงียบ!)
“ฉันพูดนี่ หูแกเสียหรือไงนังอลิซ!”
“...” (เงียบ! อีก!)
เพล้ง! เสียงจานใบเล็กถูกเหวี่ยงมากระทบกับเก้าอี้ข้างโซฟาที่อลิซนั่งอยู่
“แกอย่ายั่วโมโหฉันนังอลิซ”
“แล้วคุณต้องการอะไรจากอลิซมิทราบ!” อลิซตอบกลับไปอย่างเผ็ดดุ หลังจากที่ทนพฤติกรรมของอีกฝ่ายไม่ได้
“ฮึ พูดได้แล้วสิ ฉันต้องการให้แกเลิกยุ่งกับธาวิศแฟนชิดา”
“โอย ตาย! สองแม่ลูกนี่ยังไง พูดเป็นพันๆ รอบแล้วไม่เข้าใจประโยคบอกเล่า หรือภาษากันแน่ ถึงฟังไม่เข้าใจคะ”
“แกว่าใคร”
“ใครอยู่ตรงนี้ล่ะคะ”
“แก! อีนังอลิซ ทำไมตอนนั้นแกไม่ตายไปตามแม่แกไปเลย ยังอุตส่าห์รอดชีวิตกลับมาอีกนะ”
กิริฎาโต้กลับอย่างเดือดดาล และพูดถึงเหตุการณ์ครั้งก่อน ที่นางวางแผนการให้อลิซประสบอุบัติเหตุ แต่หญิงสาวกลับรอดราวกับปฏิหาริย์มันน่าเจ็บใจนัก ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดรู้นอกจากนางและลูกสาวการวางแผนที่แนบเนียน ไม่สามารถสาวมาถึงนางได้
“อ่อ ดวงอลิซคงแข็งค่ะ ความชั่วร้ายมันเลยเจาะไม่เข้าค่ะ ถ้ามีครั้งต่อไปคงต้องแรงมากกว่านี้นะคะคุณกิริฎา!”
“แก! อย่ามาท้าทายฉันนะ”
“อุ้ย! เหมือนใครบางคนจะยอมรับแล้วนะ ทำชั่วอะไรไว้สักวันมันจะคืนสนองจนล้มหน้าหงายไปเลยก็ได้นะ ฮ่า ฮ่า”
กรี๊ดดดดดด เสียงร้องของกิริฎาดังสนั่นทั่วบ้านปลุกให้คนรับใช้ออกมาดูอย่างตกใจ
“อ่อ คงไม่แค่หน้าหงายแล้ว หลอดเสียงคงแตกไปด้วยละสิ เสียงดีขนาดนี้ ไปขายกล้วยกับอ้อยอยู่ข้างถนนเลยค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
อลิซหัวเราะด้วยความสะใจที่ต่อกรแม่เลี้ยงได้อย่างเผ็ดมัน ความอดทนมันจบสิ้นลงเมื่อหลายปีที่แล้ว ที่อลิซต้องทนสองแม่ลูกนี้มาตลอด ความหยาบคายที่สองคนได้ทำกับอลิซมันมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ทำให้อลิซต้องใช้ความหยาบคายโต้กลับไปด้วยเช่นกัน
“แก! แกจะได้เห็นดีกันเลยคอยดู”
“อลิซเห็นดีอยู่แล้วค่ะ แต่กับบางคนคงเห็นแต่ความชั่วละสินะ เข้าวัดบ้างนะคะจิตใจจะได้สงบ”
“แก!!!!!!!”
กิริฎากระทืบเท้าด้วยความโมโหก่อนเดินออกจากห้องรับแขก ในใจเดือดอย่างที่สุด จะหาวิธีจัดการอีนังเด็กคนนี้ได้ยังไง
“เฮ้อ...เบื่อจริงๆ”
อลิซบ่นออกมาอย่างระอา วันๆ อลิซต้องสู้รบกับคนพวกนี้จนเหนื่อย เมื่อไหร่อลิซจะเรียนจบสักทีชักจะรอไม่ไหวแล้ว
ติ๊ง ติ๊ง เสียงแอพลิเคชันแชทดังขึ้น อลิซเลื่อนเปิดอ่าน
“อลิซ เราไปกินMKกันมั้ย ฉันอยากกินอ่ะ”
“^^”
“แกกินมา 3 ครั้งแล้วนะเดือนนี้” อลิซพิมพ์ตอบกลับเพื่อนรัก
“แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกอ่ะ ออกมาเจอหน่อยสิ...นะ”
ไอราพยายามตื้อเพื่อนรัก
“อืม ก็ได้ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
อลิซตอบตกลงก่อนนัดหมายสถานที่ จริงๆ แล้วออกนอกบ้านก็ดีเหมือนกัน อลิซไม่อยากอยู่บ้าน
....................
@ ณ ร้านMKตามการนัดหมาย
“เอ่อ แกพี่ธาวิศมาด้วย พี่ธาวิศอยากเจอแก เพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย ฉันเลยให้พี่เขามาด้วยอ่ะ”
ไอราบอกเพื่อนสาว เมื่อเห็นใบหน้าสวยของเพื่อนเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“แต่แก ฉันพึ่งผจญกับแม่เลี้ยงฉัน เพราะพี่ธาวิศนี่แหละ”
อลิซบอกไอราอย่างตรงๆ ต่อหน้าชายหนุ่มธาวิศที่เป็นพี่ชายของไอรา จนอีกฝ่ายรีบชิงพูดขึ้น
“อลิซ พี่ขอไอรามาเอง พี่อยากอธิบายครับ”
ชายหนุ่มวิศวะนามว่า ‘ธาวิศ’ หนุ่มหล่อที่ครองใจสาวทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ เป็นหนุ่มฮอทที่สาวๆ ต่างหมายปองแม้กระทั่งชิดาพี่สาวของอลิซก็เช่นกัน
“แต่ อลิซไม่มีอะไรคุยกับพี่ธาวิศแล้วนี่คะ อลิซไม่อยากมีปัญหาตามมาอีกค่ะถ้าพี่ชิดารู้เรื่อง อลิซคงต้องโดนอีกแน่ค่ะ”
“เอ่อ เอาเป็นว่าตอนนี้เรานั่ง และสั่งอาหารก่อนนะ ไหนๆ พี่ธาวิศก็มาแล้ว ฉันว่าให้พี่ธาวิศอธิบายดีกว่านะแก”
ทั้งสามนั่งลงพร้อมสั่งอาหารตามเมนู แต่ธาวิศได้แต่จ้องมองหน้าหญิงสาวหน้าหวานคมตรงหน้าแบบไม่วางตา หญิงสาวที่มีผิวพรรณเนียนขาวอมชมพู ดวงตาสีน้ำเงินฟ้าคม ขนตาหนาและงอนริมฝีปากเรียวบางสีชมพูน่าสัมผัส
“พี่วิศ พี่ พี่ธาวิศ!” เสียงอันแหลมคมของน้องสาวกระแทกเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ อะไรของแกไอรา พี่ตกใจหมด”
“เอิ่มมม พี่ธาวิศ พี่โปรดดูตัวพี่เองด้วยค่ะ น้องเรียกพี่ตั้งหลายครั้ง พี่เอาแต่จ้องมองอลิซจนตาพี่แทบจะถลนออกมานอกเบ้าแล้วพี่ แหม”
“เอ่อ อ่าว เหรอ” ธาวิศรู้สึกตัวเอ่ยแบบเขินๆ ชายหนุ่มจ้องมองอลิซด้วยความหลงไหลที่มีมาเนิ่นนาน แต่เพราะความผิดพลาดที่ผิดฝาผิดตัวที่ทำให้เขาจับพลัดจับพลูต้องมาเป็นแฟนชิดาพี่สาวของอลิซอย่างงงๆ
“พี่ธาวิศเลิกคิดกับยัยอลิซได้แล้วนะ ไหนบอกจะมาอธิบายกับอลิซไง แต่ตอนนี้เหมือนพี่จะมาสารภาพรักอลิซนะเนี่ย”
“แก กินไปก่อนได้ไหม ถ้าแกหิวจะได้ไม่ต้องพูด”
ธาวิศบอกน้องสาวจอมบงการของตัวเอง ที่คอยแซะเขาตลอด เพราะคงหวงและห่วงเพื่อนรักมาก
“แหม พี่ธาวิศ ตอนจะขอน้องมาด้วยนี่พูดอีกแบบเลยนะ คนละเวอร์ชั่นเลย แล้วดูตอนนี้สิ”
“^^”
“พี่ธาวิศ อลิซอยากให้พี่ไปคุยกับพี่ชิดาให้เข้าใจค่ะพี่ ว่าพี่กับอลิซไม่มีอะไรกัน พี่ช่วยอธิบายพี่ชิดาให้หน่อยได้ไหมคะ”
อลิซเอ่ยขึ้นแทรกระหว่างการสนทนาของสองพี่น้องคู่นี้ ดูแล้วทั้งสองคงต้องต่อกรกันอีกนานถ้าหญิงสาวไม่ตัดบท
“เอ่อ พี่ พี่บอกไปแล้วนะครับ แต่ว่าชิดาไม่ยอมฟังครับ”
“พี่ธาวิศของน้องหล่อมาก เป็นใครเขาก็หวงทั้งนั้นแหละค่ะ” ไอราเอ่ยถึงพี่ชายอย่างภาคภูมิใจ
“แต่พี่ก็เคยยื่นคำขาดไปแล้วนะครับ ว่าถ้าชิดาไปยุ่งกับ
อลิซอีก เราจะเลิกกันครับ”
อุ๊บ! เสียงแห่งการสำลักเกิดขึ้นแทบจะทันทีของทั้งสองสาว
“โอ้ย ไอ่พี่ธาวิศ พี่ไปบอกกับพี่ชิดาแบบนั้นได้ยังไง มิน่าล่ะ นางถึงเล่นบทแรงกับอลิซ จนอลิซหัวแตกเลยพี่เห็นไหม”
“แล้วแกจะให้พี่ทำยังไงไอรา พี่หมดคำที่จะอธิบายกับชิดาแล้ว ชิดาตามตื้อพี่จนพี่ไม่ไหวแล้วเนี่ย แกช่วยพี่มั่งสิ”
“พี่ธาวิศก็หาวิธีที่ทำยังไงก็ได้ให้ชิดาหายกังวลสิคะ” อลิซเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นบ้าง
“วิธีไหนละครับ แต่พี่ไม่ได้ชอบชิดานะ พี่...เอ่อ พี่...”
“No! หยุด! Stop หยุดวาจาของพี่เดี๋ยวนี้ พี่จะชอบอลิซไม่ได้ ถ้าพี่ชอบอลิซ ความบรรลัยเกิดขึ้น แหงมๆ เชื่อน้อง”
“แกจะให้พี่ทำยังไง พี่ชอบอลิซนะ พี่ไม่ได้ชอบชิดา”
ธาวิศพูดตรงๆ ต่อหน้าหญิงสาวทั้งสองคนที่สนิทกันจะแทบจะไม่เหลือความอายใดๆ แล้ว
“เอ่อ พี่ธาวิศ อลิซไม่ได้ชอบพี่นะคะ อลิซนับถือพี่เป็นพี่ชายของอลิซนะคะพี่ เรื่องนี้อลิซเคยบอกพี่แล้วนี่คะ”
“แกร๊วววว!” ^^
เสียงน้องสาวตัวแสบแทรกมาแทบจะทันที
“พี่เข้าใจครับ พี่ก็พยายามตัดใจจากอลิซแล้ว แต่พี่ก็ทำไม่ได้สักที”
“มันไม่ใช่แค่พี่ธาวิศนะคะ อลิซก็หนักใจที่จะต้องเผชิญกับพี่ชิดาทุกวัน พี่ธาวิศช่วยพยายามอีกสักครั้งได้มั้ยคะ”
“T….T”
“อย่าเสียใจไปเลยพี่ธาวิศของน้อง พี่ชิดาออกจะสวยนะ หุ่นดี หุ่นแซ่บ นมใหญ่ หน้าสวย ขาวน่าเจี๊ยะ เสียอย่างเดียว อย่างเดียวจริงๆ นะ คือ ‘นิสัยแย่’ไปหน่อย ^^ แค่นั้นเอ้งงง”
น้องสาวหยอกไม่ปล่อยด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าไอ่น้องคนนี้นางเป็นน้องใครกันแน่ ที่ไม่เคยสนับสนุนพี่ชายเลยสักนิด เมื่อหล่อนรู้ว่าธาวิศชอบอลิซนางกลับหวงซะงั้น อาจจะเป็นเพราะความเจ้าชู้ของพี่ชายหรืออย่างไรที่ทำให้นางหวงเหมือนงูจงอางหวงไข่!
“พี่จะพยายามเพื่ออลิซนะครับ อลิซจะได้ไม่เจ็บตัวเพราะพี่อีก”
“ขอบคุณค่ะพี่ธาวิศ พี่ชายที่แสนดีของอลิซ”
“T….T”
...................
“อลิซไปไหนใครรู้บ้าง” นนธิวรรธน์ถามถึงผู้เป็นลูกกับสาวใช้ภายในบ้านที่กลับมาไม่เห็นลูกสาวของตน
“มันไปกับเพื่อนมันข้างนอก ทำไมไม่ถามถึงริฎาและลูกบ้างคะ ถามถึงแต่ลูกตัวดีของคุณ” เสียงกิริฎาตอบ
“เห้อ...ริฎา” นนธิวรรธน์ส่ายหัวไปมาอย่างระอา
“นนท์คะ ริฎามีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ ผมมาเหนื่อยๆ ขอน้ำผมสักแก้วได้ไหม”
“นังบุ้งไปยกน้ำให้คุณผู้ชายสิ ได้ยินอยู่ มานั่งประเจ๋อทำไม”
“ค่ะ” สาวใช้รับคำก่อนเดินออกไปตามคำของนายสาว
“ว่าไง มีอะไรรึ กิริฎา”
“เอ่อ ริฎาอยากปรึกษาคุณน่ะค่ะ ช่วงนี้งานบริษัทของเราไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่แล้ว ริฎาอยากให้คุณพาครอบครัวไปเที่ยวบ้างน่ะค่ะ เราไปเที่ยวต่างประเทศดีมั้ยคะ”
“หือ...ไปเที่ยว! คุณเนี่ยนะอยากจะไปเที่ยว ตั้งแต่อยู่กันมาคุณไปต่างประเทศไม่ถึงห้าครั้งด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ผมเห็นคุณไปแต่งานสังคมของคุณนี่ นึกยังไงถึงอยากไปเที่ยวต่างประเทศ”
“แหม คุณก็ ริฎาเห็นเพื่อนริฎาไปกันนี่คะ เพื่อนของริฎาแนะนำให้ไปประเทศคาเลวีเนียค่ะ ที่นั่นมีอัญมณีทองคำสวยงามมากนี่คะ ริฎาอยากไปเที่ยวดูสักครั้ง”
“ห๊า ไปประเทศแถบทะเลทรายด้วย คุณนึกยังไงของคุณ”
“ก็เพื่อนเค้าไปมากันและได้ของสวยๆ กลับมาทั้งนั้น และอีกอย่างช่วงนี้งานบริษัทก็ไม่มีอะไร และเราพาลูกๆ ทั้งสามคนของเราไปเที่ยวด้วยนะคะ ”
กิริฎาพยายามเกลี้ยกล่อมผู้เป็นสามีเพื่อให้คล้อยตามนาง เพราะกว่านางจะคิดแผนนี้ขึ้นมาได้มันยากเย็นกว่าครั้งก่อนมาก แผนกำจัดลูกเลี้ยงตัวดีของนาง กำจัดให้สิ้นซากจะได้ไม่รอดอีกเหมือนครั้งที่แล้ว
“เอ่อ คุณพาอลิซไปได้เหรอ คุณจะไม่ทะเลาะกันเหรอครับ ผมเห็นพวกคุณเข้าหน้ากันไม่ได้เลยสักครั้ง”
“แหม ก็ต้องเอามัน เอ้ย เอาเค้าไปอยู่แล้วค่ะ ถ้าอลิซไม่ไปคุณจะเที่ยวกับริฎาอย่างมีความสุขเหรอคะ”
“อืม”
“และอีกอย่างนะคะ ถ้าพวกเราได้ไปด้วยกันทั้งครอบครัว เราอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ดีก็ได้นี่คะนนท์ คุณลองคิดดูสิคะ พวกเราแทบจะไม่ได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าเลยสักครั้ง”
“อืม งั้นผมต้องถามอลิซดูก่อนนะครับว่าลูกจะไปไหม”
“แหม คุณเป็นพ่อ ก็ต้องอยากให้ลูกไปเปิดหูเปิดตาบ้างใช่ไหมคะ อย่างน้อยยัยอลิซก็ได้ไปดูโลกกว้างบ้างค่ะ”
กิริฎาพูดเสริมอย่างเอาใจ เพื่อแผนการของตัวเองจะได้สำเร็จอย่างไม่มีข้อสงสัย นางต้องยกความดีนี้ให้กับลูกสาวของตนที่คิดวิธีกำจัดลูกเลี้ยงของตนได้อย่างแยบยล ถ้ามันสำเร็จเสี้ยนหนามนี้คงออกไปจากอกของนางซะที...