EP.1_เสือปะทะสิงห์

1056 Words
สายลมกระโชกแรงพัดเอาต้นสนลู่เอนเหมือนจะโค่น เศษใบไม้ทั้งสดและแห้งฟุ้งกระจายไร้ทิศทาง อากาศเย็นจัดบวกกับความเค็มที่ถูกพัดพาขึ้นมาจากทะเลส่งให้เกิดละอองฝนเล็กๆเป็นดั่งม่านหมอกสีเทาปกคลุมไปทั่วหุบเขา ท้องฟ้าสีดำทะมึนเหนือทะเลส่งเสียงร้องเปรี้ยงปร้างราวกับเหล่าเทวดากำลังสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งมนุษย์.. ...หวืดดด... หน้ามรสุมของผืนดินที่มีสายแร่ทองคำเหลืองอร่ามมูลค่ามหาศาลซุกซ่อนอยู่กำลังจะใกล้เข้ามา.. เรื่องราวความขัดแย้งได้เริ่มอุบัติขึ้นอีกครั้งเฉกเช่นทุกๆปี รั้วหนามขนาดใหญ่ถูกขึงเป็นแนวยาวตลอดทิวเขาไปจนสุดลูกหูลูกตา รั้วเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ใช้แบ่งแยกอาณาจักรของเหมืองทองสิงหราชกับเหมืองทองพิภพ.. กลุ่มชายฉกรรจ์บนหลังม้ามีจำนวนนับร้อยแบ่งข้างออกเป็นสองฝักสองฝ่ายโดยมีแนวรั้วขวางกั้นตรงกลางราวกับเป็นเน็ตเทนนิส บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดอึมครึมชวนขนลุกไม่ต่างจากท้องฟ้าที่เริ่มส่งเสียงคำรามเป็นระลอก ...ครืนนนน... ใบหน้าของชายฉกรรจ์ที่ต่างฝ่ายต่างจ้องจะเข่นฆ่ากันให้แตกหักย่อยยับตายกันไปข้าง.. ขอเพียงแค่นายเหมืองสั่ง ทุกคนก็พร้อมจะพลีชีพเพื่อแหล่งพักพิงอันอุดมสมบูรณ์ของครอบครัว.. ...เปรี้ยงง!... สายฟ้าฟาดลงมากลางหุบเขา นั่นเป็นสัญญาณบอกกลายๆว่าพายุลูกใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกที สายลมเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกเท่าตัว แต่ใช่ว่าจะมีใครสนใจ.. ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันและกันอย่างเหนียวแน่นอยู่บนหลังม้าทั้งๆที่พายุกำลังจะพัดผ่านกลางวง และจะหอบหิ้ว กวาดล้าง กอบโกยเอาทุกอย่างที่ขวางหน้าลงทะเลไปด้วย.. เหมือนเช่นรุ่นพ่อในอดีตที่ผ่านมา เคยโดนหอบลงทะเลไปแล้วนับสิบคน "พวกผู้ชายตัวโตมีกล้ามเป็นมัดๆ มักจะมีสมองเล็กเท่าเม็ดถั่ว ศักดิ์ศรีกินไม่ได้แต่มันทำให้อิ่มเป็นวันๆ" แก้มใส ลูกสาวเสือใหญ่เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ..บรื๊นนนน.. เสียงรถจิ๊บเคลื่อนตัวฝ่าแนวชายชุดดำบนหลังม้าเข้ามาช้าๆราวกับไม่รู้สึกถึงลมที่กำลังโหมเข้าใส่จนรถโยกไหว... ร่างกำยำสูงใหญ่ตระหง่านเหมือนภูเขาหินลูกย่อมๆก้าวลงมาจากรถจิ๊บด้วยท่าทีองอาจ มัดกล้ามขยับไหวอย่างสวยงามราวกับนักเพาะกายรุ่นใหญ่..  พิภพ ตฤณโชติสกุล (ฉายา_เสือใหญ่) อดีตพระเอกดาวร้ายชื่อดัง : คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว "นายพิภพพวกมันไม่ยอม!" หนึ่งในกลุ่มคนงานบนหลังม้าพูดสียงดังฟังชัด.. จงใจให้อีกฝ่ายหลังแนวรั้วหนามได้ยิน "มึงพูดหมาๆแบบนี้ได้งัยวะ! เหมืองพิภพของมึงนั่นแหละที่ไม่ยอมเปิดทางไปสะพานเรือน้ำลึก" ฝ่ายตรงข้ามไม่คิดจะนิ่งเฉย เสียงห้วนกระด้างตะโกนสวนกลับทันควัน "พวกมึงนั่นแหละ! ต้องเปิดฝายกั้นน้ำก่อน" ชายคนเดิมบนหลังม้าโต้กลับ.. กะอีแค่ใครเปิดก่อน เปิดหลังมันมีผลต่อศักดิ์ศรีจนยอมกันไม่เคยได้.. ตั้งแต่อดีตกาลนานโพ้น..  เหมืองทองของสิงหราชได้เปรียบที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมต้นน้ำทางธรรมชาติทั้งหมด น้ำตกขนาดใหญ่เริ่มต้นที่เหมืองของนายสิงห์ และไหลลดคดเคี้ยวลงมาจากหุบเขากลายเป็นลำธารสายย่อยไหลผ่านเหมืองของพิภพออกสู่ทะเล.. ส่วนเหมืองพิภพได้เปรียบที่มีอาณาบริเวณติดกับทะเลน้ำลึก ผูกขาดการขนส่งทางเรือทั้งหมด.. ทะเลด้านที่เป็นของเหมืองสิงหราชจะเป็นหาดทรายและแนวหิน บวกกับแนวประการังเป็นส่วนใหญ่ทอดยาวหลายสิบกิโลเมตร.. ปัญหาความขัดแย้งบาดหมางจึงอุบัติขึ้น ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ส่งกันมาเป็นทอดๆ จนถึงรุ่นปัจจุบัน.. --------------------------------- ¥¥♡¥¥ --------------------------------- "นายสิงห์เราบุกไปพังคันกั้นสะพานเรือน้ำลึกของพวกมันเลยดีกว่า!" หนึ่งในชายบนหลังม้าตะโกนแข่งกับสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา.. ชายหนุ่มรูปร่างกำยำสูงใหญ่พอๆกับพิภพก้าวลงมาจากรถออฟโรดขับเคลื่อนสี่ล้อ.. ผมดกหนาสีดำสนิทไม่ต่างจากดวงตาลึกลับเหมือนคืนเดือนมืดที่ใครหลายๆคนนึกขยาดไม่กล้าแม้แต่จะสบตา.. ใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรี จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบที่บ่งบอกถึงอำนาจ และความเด็ดขาด.. สิงหราช อนันธฤทธิ์ (สิงห์) (ฉายา_เขี้ยวสิงห์) เจ้าของเหมืองทองสิงหราช : เจ้าชู้ หื่น ดิบ เถื่อน "เสือใหญ่เราบุกเข้าไปโจมตีฝายกั้นน้ำของพวกมันให้พังพินาศไปเลย!” "พวกมึงจะเอายังงัย!?" เสียงตะโกนเซ็งแซ่ยั่วยุกันไปมา แข่งกับเสียงของลมพายุและสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย..  "ตายกันไปข้างซิโว้ย! รออะไร!" "เอาเลยกูก็เบื่อพวกดีแต่เห่าเต็มทน!" "แน่จริงมึงเข้ามาซิ!" “กูอยากซัดปากหมาๆของมึงฉิบหาย!” ในขณะที่พวกผู้ชายใหญ่แต่ตัว แต่มีสมองเล็กจิ๊ดเดียว ถนัดแต่ใช้กำลัง ทำเสียงฮึ่มฮั่มขู่จะฆ่ากันตายเสียให้ได้.. ต่างฝ่ายต่างก็ท้ากันไปมา แต่ยังไม่กระโจนเข้าหากันสักที ด้วยเพราะมีอุปสรรคใหญ่เป็นรั้วลวดหนามขวางกั้น.. โชคดีหน่อยที่มีกฎเหล็กอีกข้อ สมัยรุ่นคุณทวดได้ตั้งกฎขึ้นมาพร้อมกับมีการลงนามเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย.. คงเป็นเพราะลางสังหรณ์ของคนรุ่นเก่าที่รู้ว่าความบาดหมางจะยืดเยื้อกินระยะเวลายาวนานจนชั่วลูกชั่วหลาน.. ถ้าจะพูดให้ง่ายๆตรงๆไม่ต้องตีความมาก คนรุ่นปู่ย่าคงกลัวลูกหลานจะเข่นฆ่ากันจนตายห่าหมดนั่นเอง สัญญาที่เป็นดั่งคำสาบานของทั้งสองฝ่ายจึงบังเกิดขึ้น.. "ห้ามใช้อาวุธทุกชนิด ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดคำสัญญานี้จะถูกนำตัวส่งฝ่ายตรงข้าม และยินยอมให้ฝ่ายตรงข้ามลงโทษอย่างสาสม" คำว่า.. "ลงโทษอย่างสาสม" ยังเป็นปริศนามาถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะลอง.. --------------------------------- ¥¥♡¥¥ ---------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD