ตอนที่ไม่มีจุดเริ่มต้น เปาโลชื่อ
ในเขตชนบทรอบนอก ณ อาณาจักร คาเวีย
“เรามาอยู่ที่ต่างโลกนี้ก็ราวๆครึ่งปีเห็นจะได้” เปาโลชายหนุ่มวัย25ปีในชุดเก่าๆสวมผ้าคลุมขาดๆทั้งตัวกล่าวขึ้นพร้อมกับสูบยาสูบเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นควันออกมา
ย้อนกลับในโลกก่อนเขาเป็นเพียงขอทานคนนึงที่พิการแขนขา เขาถูกพวกนักเลงรุมทำร้ายจนตายและพอลืมตาขึ้นมาเขาก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ที่ต่างโลกแห่งนี้แล้ว
และตอนที่ตื่นขึ้นมา ข้างๆกายของเขาก็มีหนังสือเล่มยักษ์เล่มนึงวางอยู่ข้างๆ
เปาโลลองเปิดอ่านดูก็พบว่าในหนังสือเล่มยักษ์มีแต่ตัวอักษรที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย แต่ทว่าจู่ๆในเวลานั้นเองตัวอักษรแปลกประหลาดพวกนั้นก็ค่อยๆไหลออกจากหนังสือและพุ่งตรงเข้ามาในหน้าผากของตนจนเขาลบไปอีกครั้งนึง
…………………..
หลังจากสลบสไลไปกว่า3วัน เมื่อเปาโลตื่นขึ้นมาก็พบว่าในหัวของตนเองนั้นมีอักขระแปลกๆล่องลอยอยู่ในความทรงจำของเขาเต็มไปหมด
เปาโลใช่เวลากว่าครึ่งปีในการเรียนรู้อักษรโบราณในหัวและเขาก็เริ่มออกเดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกใบนี้
โลกใบนี้แตกต่างกับโลกที่เขาอยู่เป็นอย่างมาก นั่นก็คือเวทมนต์ แน่นอนถ้าเรื่องเวทมนต์สำหรับโลกก่อนของเขานั่นก็คือเรื่องนิทานหลอกเด็ก
แต่ที่นี่ไม่ใช่
ที่นี่นอกจากเวทมนต์ก็ยังมีสัตว์อสูร ยังมีผู้คนเผ่าต่างๆที่มีหน้าตาแปลกประหลาดและก็มีพระราชา ทหารเกาะเงิน บลาๆ ราวกับในหนังย้อนยุคไม่มีผิดเพี้ยน
ส่วนเรื่องอักขระต่างๆที่อยู่ภายในหัวของเปาโลนั้น ที่แท้ก็คือ อัขระในการร่ายเวทมนต์ต่างๆ ซึ่งเปาโลไม่รู้ว่าใครที่ส่งตนเองมาอยู่ที่นี่ แต่ในเมื่ออยู่ที่นี่เขามีแขนขาครบ ไม่ต้องพิการเหมือนกับโลกก่อน เขาก็จะใช้ชีวิตให้ดีต่อไปในแบบความสุขของเขาเอง
………
ณ โรงนํ้าชาข้างทางก่อนเข้าตัวเมืองคาเวีย
เปาโลกินไก่ย่างและยกซดเหล้าไหอย่างเอร็ดอร่อย ที่ต่างโลกนี้หลายๆอย่างอาจจะไม่เหมือนที่โลกก่อนของเขา แต่ทว่าที่เหมือนกันอย่างนึงก็คือเรื่องเงิน!
สุดท้ายเงินก็ยังเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ดี ไม่ว่าจะโลกไหนๆ
การหาเงินของเปาโลในโลกนี้นั่นก็คือล่าสัตว์อสูรตัวเล็กๆมาขายให้กับร้านค้า ซึ่งถ้าเป็นสัตว์ที่หายากราคาก็จะค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ด้วยที่เปาโลได้เรียนเวทมนต์ในหัวมามากมาย การจัดการสัตว์อสูรหายากจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่เหลือบากกว่าแรงอะไร
หลังกินจนอิ่มเปาโลก็เลือกที่จะเข้าไปในตัวเมืองคาเวียร์เพื่อจะซื้อหาซื้อผ้าดีๆสะอาดๆใส่
เมื่อมาถึงหน้าประตูเมืองคาเวียร์ทหารเกาะเงินนายนึงก็หยุดเปาโลไว้
“บัตรล่ะ”
“ผมไม่มี” เปาโลสายหัวอย่างงงๆ เขาไม่เคยเข้ามาในตัวเมืองมาก่อน จึงไม่รู้ว่าการเข้าเมืองจะต้องใช้บัตรด้วย
“ไม่มีบัตรผ่านก็เข้าไม่ได้!” นายทหารเกาะเงินกล่าวและไล่เปาโลออกไปทันที
เปาโลเหมือนจะคิดอะไรออก เขามองซ้ายขวาด้วยท่าทางมีพิรุธและยัดเหรียญเงินกว่า 10 เหรียญใส่มือนายทหารเกาะเงิน
“พี่ชาย ข้าเข้าไปทำทุระแปบเดียว ไม่สร้างปัญหาแน่นอน ถือว่าช่วยข้าหน่อยนะ”
นายทหารเกาะเงินลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว
“อ่ะๆ ข้าจะยกเว้นให้เจ้าครั้งนึง ห้ามก่อเรื่องในเมืองเด็ดขาด! ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน ไปๆเข้าไป!”
“ขอบคุณท่านมาก ข้าจะไม่ลืมบุญคุณท่านเลยครับ”
………..
ในตัวเมืองคาเวียนั้นกว้างมากๆ ผู้คนหลากหลายเผ่าต่างก็สัญจรไปมา ทำให้ไม่ว่าจะไปตรงไหนก็จะมีผู้คนเดินพลุกพล่านเต็มไปหมด
จุดหมายของเปาโลคือร้านเสื้อผ้า เมื่อมาถึงร้านเสื้อผ้าเปาโลก็เลือกชุดธรรมดา 2 -3ชุดและก็ดาบเล่มนึงพร้อมกับฟักดาบเอาไว้สะพ่ายหลัง
ผู้คนที่นี่ไม่ว่าจะเป็นทหารเกาะเงิน นักผจญภัย หรือใครหลายๆคนต่างก็มีอาวุธคู่กายกันทั้งนั้น เปาโลที่มีความรู้เรื่องเวทมนต์มากมายจึงอยากมีอาวุธคู่กายกับเขามั่ง
จะให้ถือคธาเขาก็ไม่ชอบ
เปาโลจึงเลือกที่จะใช้ดาบ เพราะในความทรงจำของเขานั้น นอกจากคถาเวทมนต์แล้วยังมีทักษะวิชาดาบอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าตนเองยังพอมีเงินเหลืออีกหลายร้อยเหรียญเงินเปาโลก็เลือกที่จะเช่าห้องเล็กๆห้องนึงเพื่อเอาไว้พักผ่อน ซึ่งห้องเช่าที่นี่ก็ไม่ค่อนแพงเท่าไหร่แค่ 20 เหรียญเงินเท่านั้น
ในช่วงคํ่าหลังจากอาบนํ้าอาบท่าเปาโลก็แต่งตัวและออกไปยังจุดหมายต่อไปนั่นคือ ซ่องประจำเมืองคาเวียนั่นเอง!
หลังจากสอบถามคนที่นี่ เปาโลก็ได้รู้ว่าที่นั่นเขาเรียกกันว่า”หอราตรีแดง”
สำหรับเปาโลในโลกก่อนเขาพิการแขนขาจึงไม่มีโอกาสได้ลิ้มร้องสตรีเลยสักนิด ทว่าในโลกนี้เขามีแขนขาครบมีหรือจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในศิลในธรรม
เกิดเป็นชายทั้งที่ก็ต้องสัมผัสเหล้าเคล้านารีสิ ถึงจะถูก!
เนื่องจากหอราตรีนั่นอยู่อีกฟากของเมือง จึงใช้เวลานั่งรถม้าราวๆครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย
“อลังการซะจริง”
เปาโลมองไปที่หอราตรีซึ่งเป็นตึกไม้เนื้อดีที่มีทั้งหมด5ชั้นประดับไปด้วยโคมไฟและผ้าม่านสีแดง ดูหรูหราไม่เบาเลยทีเดียว
เมื่อเข้ามาด้านในเปาโลก็เห็นว่ามีคนมากมายหลากหลายเผ่ากำลังนั่งดื่มนั่งกินกันอยู่ ซึ่งแทบจะเต็มทุกโต๊ะเลยก็ว่าได้
“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ คุณลูกค้า ตอนนี้ด้านล่างเหลือห้องส่วนตัวห้องนึง คุณลูกค้าสนใจหรือไม่เจ้าค่ะ” เสียงหวานๆของหญิงสาวในชุดเกาะอกผ้าไหม กระโปรงยาวสีแดงกล่าวขึ้น
“อะแฮ่ม! พอดีว่าข้ามาจากต่างแดน ไม่ทราบว่าราคาห้องส่วนตัวนี้ราคาเท่าไหร่กันรึ”
“ราคาห้องที่นี่เพียง 20 เหรียญเงินเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“อ่อ งั้นก็ตกลง”
20 เหรียญเงิน ถือว่าได้อยู่ เปาโลขายซากสัตว์อสูรหายากมาหลายตัวเขาจึงมีเงินเก็บอีกมากพอที่จะให้เขาหาความสำราญได้อย่างไม่ต้องกังวล
หญิงสาวชุดแดงได้นำทางเปาเข้าไปด้านในของชั้นหนึ่ง ซึ่งจะมีการแบ่งเป็นห้องๆ มีอยุ่หลายสิบห้อง
เมื่อเข้ามาด้านในห้อง เปาโลก็เห็นว่ามีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องและมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณ 5-6 ตัว รอบๆห้องถูกตกแต่งด้วยรูปภาพอย่างดี ซึ่งถือว่าใช้ระดับนึงเลยสำหรับห้องส่วนตัวราคานี้
“คุณลูกค้าเชิญนั่งพักก่อนนะเจ้าคะ ข้าจะไปตามเด็กๆมาให้ท่านเลือก ส่วนเรื่องเมนูอาหารวางอยู่บนโต๊ะ ท่านสามารถเลือกและสั่งเด็กๆได้เลยนะเจ้าคะ”
เปาโลพยักหน้าให้หญิงสาวชุดแดงเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงรินชาอย่างใจเย็น
……………