หลังจากผ่านช่วงเดือนที่สามไป…เคเดนก็เริ่มมีอาการต่างๆ น้อยลง…
กาสิโนที่เมืองเพอร์สันใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว…กำหนดเปิดคือเดือนหน้า…ส่วนเรื่องร้านตัดชุดของไคโรก็ไม่ต้องพูดถึง…กราฟสีเขียวพุ่งขึ้นมาจนแทบจะทะลุกระดาษ
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคามิเลียนั้นมีความสามารถในการทำงานมากเลยทีเดียว…เธอสามารถมองเห็น..ปัญหาเล็กๆ ที่นำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวกับยอดขายได้…
ในระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนนี้…เขาคุกเข่าขอเธอแต่งงานนับครั้งไม่ถ้วน…
คำตอบเธอก็คือปฏิเสธเช่นเดิม..จนเคเดนเริ่มจะท้อแท้แล้ว…
เขาเงยหน้าจากกระดาษมองคามิเลียที่นอนหลับอยู่บนเตียง…ถึงแม้จะยังไม่ได้แต่งงานแต่คามิเลียก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่คฤหาสน์ไคโร…
คนที่มีความสุขก็หนีไม่พ้นแม่ของเขา…ท่านแม่ตื่นเต้นมากที่จะมีหลาน…
แต่ถึงเธอไม่แต่งงานกับเขา..เขาก็สามารถวางใจเรื่องชายอื่นที่จะมายุ่งกับเธอได้เลย…
เคเดนให้เซอร์ชาล็อตปล่อยข่าวลือระหว่างคามิเลียและเขาตลอด…บางวันก็ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์..
ความสัมพันธ์ลับๆ ของไคโรและแบรนเดอร์…
เขาแสยะยิ้ม..อย่าพึงพอใจเมื่อมองหนังสือพิมพ์หน้าแรก…ช่วงนี้คามิเลียง่วงนอนบ่อย…ท่านแม่ของเขาบอกว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่กำลังท้องอยู่…
เคเดนลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน…เขาเดินตรงไปที่เตียงก่อนจะนอนลงข้างเธอ…
ตอนนี้แก้มของเธอใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย…เหมือนแม่กระต่ายไปทุกวัน…เขายกมือขึ้นมาลูบแก้มของเธอเบาๆ..
เคเดนไม่ได้แตะต้องสตรีใดเลยมาร่วมสี่เดือน…ตั้งแต่คามิเลียท้อง….
นี่มัน…ออกจะยากเย็นไปสักหน่อย…แต่เขาก็ไม่อยากจะรบกวนเธอเรื่องนี้…เขาจึงได้แต่เก็บเรื่องพวกนี้ไว้ในใจเท่านั้น
“อื้อ!!…ทำงานเสร็จแล้วหรือคะ?”
คามิเลียค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ
“อืม…ขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้าตื่น….วันนี้มีงานเลี้ยงฉลองพิธีบรรลุนิติภาวะในวัง…เจ้าจะไปด้วยไหม?”
“ข้าไม่ได้เตรียมตัวเลยค่ะ…อีกอย่างวันนี้ข้าจะนัดกับแอสรันไว้ที่โบสถ์…ว่าจะไปขอพร”
“….ให้ข้าไปส่งไหม?”
คามิเลียส่ายหน้า
“ท่านไปที่งานเลี้ยงเถอะค่ะ…วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะหาลูกค้าไปกาสิโนที่ใหม่…..”
“มีสักครั้งไหมที่ในหัวน้อยๆ ของเจ้าจะไม่คิดถึงเรื่องเงิน….”
คามิเลียยกยิ้ม..ก่อนจะก้มลงซุกที่อกของเคเดน..
“…..ไม่มีหรอกค่ะ…ยิ่งลูกของข้าใกล้จะเกิดมาข้ายิ่งต้องหาเงินให้เยอะๆ”
เคเดนหลับตาลง….เขายกแขนขึ้นมาโอบกอดเธอไว้แนบอก…
ใช่แล้วลูกของเรากำลังจะเกิดมาสินะ…
…….
แอสรันนั่งรออยู่ที่หน้าโบสถ์ วันนี้คามิเลียนัดเขาให้มาขอพรเป็นเพื่อนเธอ… เขาอยู่ในชุดของนักเวทย์เพราะหอคอยเวทมนตร์กับโบสถ์นั้นอยู่ใกล้กัน เขาเลยไม่ได้แวะเปลี่ยนชุด
“ช่วยด้วย!!!..”
มีสตรีผู้หนึ่งกำลังวิ่งหนีชายราวสามคน…เธอวิ่งด้วยหน้าตาที่ตกใจอีกทั้งเธอกำลังวิ่งมาที่เขา
“ที่รักคะ!!!…ช่วยข้าด้วย!!”
….ห๊ะ!..เธอเรียกเขาว่าอะไรนะ?
“หมับ!!”
สตรีผู้นั้นวิ่งมาสวมกอดเขาที่กำลังนั่งอยู่…เธอหอบหายใจอย่างเหนื่อยหอบก่อนจะ…จูบเขา…
“!!!!…”
แอสรันตกใจมาก..ทว่ามือทั้งสองข้างของเขาก็ดันแข็งค้าง…จากตอนแรกที่ว่าจะผลักเธอออก!!
“เห้ย!!..นี่ชุดของนักเวทย์!!..พวกเราแยกย้ายกันไป…”
ชายร่างยักษ์ที่วิ่งตามสตรีผู้นี้มาต่างก็รีบหนีกันไปคนละทิศคนละทาง…
สตรีผู้นั้นถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่เธอจะผละออกจากริมฝีปากของเขา…เธอช้อนสายตาขึ้นมองแอสรันอย่างเอียงอาย…
เขายกมือขึ้นจับที่ใบหน้าของเธอก่อนจะก้มลงจูบเธออีกครั้ง….สตรีผู้นั้นในตอนแรกเธอก็ใช้มือดันตัวเขาออกแต่พอลิ้นของเราได้พัวพันกันสักพักจากที่ดันตัวเขากลับกลายมาเป็นกอดคอเขาเอาไว้….
“อะ..แอ่ม!!..”
แอสรันตกใจจึงผละออกจากริมฝีปากของเธออย่างเชื่องช้า
“ที่นี่หน้าโบสถ์นะครับท่านนักเวทย์…หากท่านทั้งสองจะแสดงความรักกันก็เชิญเข้าไปด้านหลังของโบสถ์น่าจะดีกว่านะครับ..”
แอสรันหัวเราะน้อยๆ ให้นักบวชเกรนเพื่อนของเขา…ก่อนจะก้มมองสตรีน้อยที่นั่งหน้าแดงอยู่บนตักของเขา
“….ขะ…ข้าขอตัวก่อนค่ะ…”
เธอทำราวกับว่าจะลุกขึ้นวิ่งหนีแต่แอสรันก็รีบคว้าหางเปียของเธอเอาไว้
“อย่าได้คิดที่จะหนีนะ!!..เข้าไปด้านในกับข้าเดี๋ยวนี้…”
เธอมองหน้าเขาก่อนจะเม้มปาก
“ท่านจะทำ…ต่อจากเรื่องที่เราทำค้างไว้ เมื่อครู่งั้นหรือคะ.?”
แอสรันยกมือขึ้นมาตีที่หน้าผากของเธอเบาๆ
“ข้าจะเข้าไปคุยว่าเรื่องที่อยู่ๆ เจ้ามาจูบข้านั้นมันเกิดขึ้นมาจากอะไร!!”
เธอถอนหายใจออกมา
“…เช่นนั้นข้าไม่ไปได้ไหมคะ…อุตส่าห์คาดหวังว่าจะไปทำเรื่องต่อจากนี้”
อ่า..ยัยเด็กบ้านี่มันอะไรกัน!!…แล้วหน้าตาที่ดูเสียดายเช่นนั้นคืออะไร!!!
เขายังคงไม่ปล่อยมือจากหางเปียของเธอ…
“เข้าไปด้านในเถอะ…ไปคุยกัน…”
ดรุณีน้อยผู้นั้นหน้ามุ่ยแต่เธอก็ยอมเดินตามเขา….แอสรันชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นคามิเลียยืนยิ้มอยู่
“…เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่!!!”
“พึ่งมา..ว่าแต่เด็กน้อยผู้นี้คือ?”
“ว้าว…สวยจังเลยค่ะ…พี่สาวคนนี้เป็นคนรักของคุณลุงเหรอคะ!!!”
ห๊ะ!!…เธอเรียกเขาว่ายังไงนะ!!
“ฟังนะ..นางเป็นเพื่อนของข้าไม่ใช่คนรัก…อีกอย่างอย่าเรียกข้าว่าคุณลุงอีก!!…”
คามิเลียยกยิ้ม…เป็นครั้งแรกที่เธอนั้นเห็นคนที่สามารถกวนประสาทของแอสรันได้….
“เจ้าไปคุยกับนางเถอะ…เดี๋ยวข้าเข้าไปสวดขอพรสักครู่…ไม่ทราบว่าเจ้าชื่อ….”
“เรรินค่ะ…เรียกข้าว่าเรรินได้เลย….”
คามิเลียพยักหน้า
“เรริน…ไปคุยกับแอสรันก่อนได้เลยนะ หลังจากข้าสวดขอพรเสร็จขอเชิญเจ้าไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อ…”
“คามิเลียไปชวนทำไม…”
“ไปค่ะ…คุณลุงไปด้วยใช่ไหมคะ?”
“จิ๊…มานี่เลย!!”
หลังจากนั้นแอสรันก็ลากเด็กน้อยผู้นั้นไปที่ห้องด้านหลังของโบสถ์…คามิเลียเดินเข้ามาด้านในจนถึงหน้ารูปปั้นของพระเจ้า…
“คามิเลีย…บังเอิญจังเลยครับ…”
ลูก้ากำลังจัดดอกไม้ในแจกัน…เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเช่นเคย
“นี่คือ…งานอดิเรกงั้นหรือคะ…ท่านทำได้งดงามมากเลย…”
ลูก้ายกดอกกุหลาบขึ้นมาใส่ในแจกัน
“ชมเกินไปแล้วครับ…ข้ามาที่โบสถ์เป็นประจำอยู่แล้ว…ข้าชอบดอกกุหลาบมากเลยครับ..มันเป็นดอกไม้ที่ดูเข้มแข็ง…ยิ่งเป็นดอกกุหลาบสีแดงดำด้วยแล้ว…ยิ่งงดงาม…”
“ท่านดู…ชอบสิ่งของที่แตกต่างจากหน้าตาตัวเองนะคะ…ใบหน้าของท่านช่างอ่อนโยนข้าคิดว่าท่านจะชอบพวกดอกลิลลี่หรือว่าทิวลิป….”
ลูก้าส่งยิ้มให้เธอก่อนที่เขาจะตัดก้านดอกกุหลาบออก….เขานำดอกกุหลาบดอกนั้นไปทัดไว้ที่หูของเธอ…
“ความจริงแล้วข้ายังมีดอกไม้ที่ชอบมากกว่าดอกกุหลาบอยู่นะครับ…ข้าชอบ..ดอกคามิเลียครับ…ชอบมาก..ตั้งแต่แรกเห็นเลย…”
อ่า..ให้ตายเธอไม่ควรจะมาเขินกับเรื่องอะไรเช่นนี้เลย!!
“ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่…ดอกคามิเลียพวกนั้นจะชอบข้ากลับหรือว่าดอกคามิเลียถูกตัดไปอยู่ในแจกันของผู้อื่นแล้วก็ไม่รู้…”
“ฮะ…ฮ่า..ข้าเองก็ชอบเช่นกันค่ะ ดอกคามิเลียนั้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ…แต่หากว่าเด็ดมาใส่แจกันจะอยู่ได้ไม่นาน….”
ลูก้ายกยิ้ม เขายกดอกกุหลาบขึ้นมาปักลงในแจกัน
“ข้ารบกวนท่านรึเปล่าครับ..หากว่าท่านจะสวดขอพรก็เชิญเลยครับ…”
คามิเลียเพียงส่งยิ้มจางๆ ให้เขา…
……
“นี่เจ้าเป็นเด็กมีปัญหารึไง? …แล้วมันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ถูกวิ่งไล่มาเช่นนั้น!!!”
เรรินยกมือขึ้นกอดอก เธอทิ้งตัวลงนั่นบนโซฟาในห้องพักของแอสรัน เขามาที่นี่บ่อยจนมีห้องพักเป็นของตัวเอง…
“ข้าต้องแต่งงานค่ะ…แต่งงานกับชายที่ข้าไม่เคยเห็นหน้าเลย…”
“อืม..แล้ว?”
“ข้าก็เลยหนีออกจากบ้านมา…ข้าคิดว่าหากข้านั้นไม่ใช่หญิงสาวที่ถือครองพรหมจรรย์ข้าก็ไม่ต้องแต่งงาน…ก็เลยคิดว่าจะหาชายสักคนมาร่วมรักด้วย…”
“เจ้าก็เลยไปหานักเลงพวกนั้น…?”
“ใช่ค่ะ…ในตอนแรกเขารับปากว่าจะทำคนเดียวแต่ไปๆ มาๆ เขาทั้งสามคนจะ….ข้า”
แอสรันยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ
“เจ้าอายุเท่าไหร่?”
“สิบหกค่ะ..ข้าอยู่ในวัยที่จะมีสามีแล้วค่ะ!!!”
“เฮ้อ!!..ฟังนะ..เจ้ากลับบ้านไปเถอะ…ป่านนี้พ่อกับแม่ของเจ้าคงจะกำลังเป็นห่วงเจ้ามาก…”
“ชิ!..ไม่จริง..หากพวกท่านรักข้าคงไม่ส่งข้าไปแต่งงานไกลขนาดนั้นหรอก!!”
….เป็นครั้งแรกที่แอสรันรู้สึกว่าเขานั้นกำลังปวดหัวอย่างหนัก…
เขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเลยจริงๆ