ฉันเดินเข้ามาในห้องด้วยจิตใจที่ร้อนรุ่ม คำพูดฮานยังก้องกังวานอยู่ในหัวราวกับโดนฝังชิป มองลูกที่กำลังหลับอยู่บนเตียง อารมณ์น้อยใจปนขุ่นเคืองอัดแน่นอยู่ในอก ฉันผิดเองที่ไม่หนักแน่น ยอมคล้อยตามเพียงเพราะเห็นแก่ความสบายของตัวเอง ฉันเก็บกระเป๋าเงียบๆ เอาแค่ของที่จำเป็นไม่กี่อย่าง หาเสื้อคลุมให้ลูกที่กำลังหลับใส่ก่อนอุ้มลูกออกจากห้อง ข้างนอกไร้เงาของฮาน ไม่รู้อยู่ในครัวหรือว่าอยู่ที่ห้องทำงาน แต่ดีแล้วล่ะจะได้พาลูกออกไปได้อย่างสะดวก “ไปไหน” ฉันที่กำลังจะเอื้อมมือไปแตะลูกบิดประตูหัวใจกระตุกวาบ ลูกสะดุ้งนิดหน่อยแต่โชคดีที่ยังไม่ตื่น ฉันไม่คิดจะหันไปตอบฮาน ยิ่งเขาปรากฏตัวฉันยิ่งต้องรีบ เปิดประตูออกมาอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงเข้าลิฟต์ มือหนึ่งก็ส่งข้อความหาพี่ลีไทน์เพื่อเช็กว่าเขาถึงไหนแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ฉันส่งข้อความไปหา ขอให้เขามารับที่นี่ โชคดีที่พี่ลีไทน์อ่านและตอบตกลงโดยไม่ถามอะไรมาก

