Ep.1: ประธานสุดหล่อ
ครูซประธานหนุ่มหล่อสุดฮอตขวัญใจพนักงานสาวในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งโสดและไม่โสด ทุกครั้งที่ครูซเดินผ่านพวกเธอก็พากันพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองสะดุดตาครูซ เผื่อว่าวันหนึ่งเขาจะหันมามองหรือสนใจพวกเธอบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปทุกครั้งเพราะครูซไม่เคยแม้แต่จะชายตามอง
‘แก... นั่น คุณครูซ กรี๊ดดดดด’
‘กรี๊ดดด คนอะไรโคตรหล่อ มองมุมไหนก็หล่อ’
‘ไม่ใช่แค่หล่อนะรวยล้นฟ้าอีกต่างหาก’
‘จริง ฉันอยากได้เขาเป็นแฟนต้องทำยังไงแก’
‘ถ้าฉันรู้ ฉันก็ทำไปแล้วสิ จะมามัวยืนมองแบบนี้ได้ยังไง’
‘เออ... จริง’ ฯลฯ แต่เสียงพูดคุยเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ครูซสนใจแม้แต่น้อย เขาเดินตรงไปที่ลิฟท์ส่วนตัวกดไปยังชั้นบนสุดที่เป็นห้องทำงานโดยมีผู้ช่วยคนสนิทอย่างกายเดินตามมาด้วยอีกคน ขณะที่อยู่ในลิฟท์เสียงคนข้าง ๆ ก็ดังขึ้น
“คุณครูซไม่คิดจะมองหรือส่งยิ้มให้พนักงานสาว ๆ ของเราบ้างเหรอครับ”
“....” ครูซมองหน้ากายด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายใจพร้อมกับถอนหายใจยาวออกมา เฮ้อ... ก็เขาไม่สนใจแล้วจะให้เขายิ้มเพื่อให้ความหวังที่ไม่มีทางสมหวังไปทำไม
“โธ่... เป็นผมหน่อยไม่ได้จะแจกจ่ายรอยยิ้มไปให้สาว ๆ พวกนั้นเอาไปฝันถึงเลยคอยดู” กายพูดด้วยน้ำเสียงขบขัน ด้วยความที่เขาทำงานกับครูซมานานเลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากจนเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องสามารถพูดคุยหยอกล้อกันได้
“ทำไมไม่ทำ??”
“ก็พวกเธอไม่ได้สนใจผมนี่ครับ เขาสนใจคุณครูซคนเดียว” กายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลก ถึงเขาจะหล่อแต่ก็สู้ความหล่อของครูซไม่ได้ เลยทำให้สาว ๆ ไม่เคยชายตาแลเขา ยิ่งเวลาไปไหนมาไหนกับครูซสาว ๆ ก็จะพากันสนใจแต่ครูซกันหมด
“น่าเบื่อ...” ครูซส่ายหัวไปมาแล้วเดินออกจากลิฟท์ตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง ในจังหวะที่เดินผ่านโต๊ะเลขาหน้าห้องอย่างลินดาสาววัยกลางคน เธอก็รีบหยิบสมุดบันทึกของตัวเองแล้วเดินตามเขาเข้ามาในห้องอีกคน
หลังจากครูซนั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน ลินดาก็เริ่มรายงานตารางงานประจำวันของครูซ ซึ่งมันเป็นหน้าที่ประจำที่เธอต้องทำทุกวัน
“ตารางวันนี้คุณครูซมีนัดคุยงานกับคุณเมธาตอนบ่ายค่ะ”
“อื้ม” ครูซพยักหน้ารับรู้พร้อมเค้นเสียงตอบรับในลำคอ เพียงแค่นั้นลินดากับกายก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาไป ปล่อยให้ครูซอยู่กับความเงียบและงานกองโตบนโต๊ะตามลำพัง
บ่ายวันนั้น ครูซและกายเดินเข้ามาในห้องอาหารของโรงแรมด้วยท่าทางสงบนิ่งแต่ดึงดูดสายตาคนรอบข้างให้หันมามองได้เป็นอย่างดี กายกวาดสายตามองหาที่นั่งซึ่งเลขาได้แจ้งไว้ ทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะก็พบกับผู้ชายวัยกลางคน และข้าง ๆ เขาเป็นผู้หญิงสาวสวยในชุดเดรสหรูที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ขอโทษครับที่มาช้า” กายกล่าวพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้เมธาโดยอีที่กฝ่ายก็ยิ้มตอบอย่างเป็นกันเองเช่นกัน
“โอ๊ยยย ไม่ช้าเลยครับ ผมต่างหากที่มาก่อนเวลา เชิญคุณครูซกับคุณกายนั่งเลย”
“ขอบคุณครับ/ขอบคุณครับ” ครูซและกายตอบพร้อมกันก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเมธาและหญิงสาว ยิ่งพอเห็นแววตาเชิญชวนที่เธอมองมาเขาก็ได้แต่นิ่งทำเหมือนไม่เห็นไม่รับรู้อะไรเพื่อรักษามารยาท
“ผมขอแนะนำ นี่หนูมุก ลูกสาวผมครับ เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศมา ผมเลยให้มาคอยช่วยประสานงานกับคุณครูซ คงไม่ว่าอะไรนะครับ” เมธาพูดพลางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
"ครับ" กายตอบรับด้วยคำสั้น ๆ แต่แอบสบตาครูซซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างรู้กันโดยไม่ต้องพูดอะไรออกมา
ครูซสังเกตเห็นได้ทันทีว่าการที่หนูมุกถูกพามาในวันนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อมาคุยงาน แต่ดูเหมือนเมธาจะมีความหวังบางอย่าง แม้ว่าหนูมุกจะเป็นผู้หญิงสวย มีเสน่ห์ด้วยรูปร่างและการแต่งตัวที่โดดเด่น แต่เธอกลับไม่ใช่สเปคของครูซเลย เขาเห็นเจตนาที่ชัดเจนของเมธา แต่ก็เลือกที่จะนิ่งไว้ไม่แสดงออก
เมธาพยายามผลักดันให้ลูกสาวเป็นคนเริ่มบทสนทนา แต่ครูซนั่งฟังเงียบ ๆ ปล่อยให้กายเป็นฝ่ายเจรจาเรื่องงานแทน ขณะการเจรจากำลังดำเนิน ครูซอดจะคิดในใจไม่ได้ว่า ‘นี่ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจแล้ว แต่น่าจะเป็นการพาลูกสาวมาดูตัวเขามากกว่า’ ถึงจะรู้ความตั้งใจแต่เขาก็เลือกที่จะเงียบและไม่แสดงอะไรออกมา ปล่อยให้กายดำเนินการพูดคุยเรื่องตัวเลขและข้อตกลงธุรกิจไป
“คุณครูซ คงทราบดีว่าโปรเจคนี้สำคัญแค่ไหน ความร่วมมือของเราจะช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดใหม่ได้เร็วขึ้น” เมธาเริ่มด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ครูซพยักหน้าเล็กน้อยและตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ
“ครับ ผมมองเห็นศักยภาพในโครงการนี้เช่นกัน แต่บางเงื่อนไขอาจต้องปรับเพื่อให้สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ที่เท่าเทียม”
แม้การเจรจาจะดำเนินไปด้วยดี แต่ครูซยังคงสังเกตท่าทีของหนูมุกที่แอบมองเขาด้วยสายตาเชื้อเชิญอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่เมธาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าหวังจะสร้างความเชื่อมโยงที่มากกว่าธุรกิจ เมื่อการเจรจาสิ้นสุดลงเมธายิ้มกว้างและแสดงความพึงพอใจ
“ผมรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่หวังไว้”
“เช่นกันครับ”
“ทุกอย่างราบรื่นและชัดเจนดี”
“ขอบคุณมากครับที่สละเวลาคุยกัน” ครูซและกายจับมือกับเมธาก่อนที่ทั้งสองเตรียมตัวออกมา แต่เสียงของเมธาเอ่ยชวนดังออกมาก่อน
“ไหน ๆ ก็จบงานแล้ว ไปดื่มกันต่อไหมครับ ผมรู้จักบาร์ดี ๆ ใกล้ ๆ เหมาะกับการผ่อนคลายหลังผ่านเรื่องเครียด ๆ” เมธาพูดพร้อมกับหันไปยิ้มกับหนูมุกอย่างรู้กัน ครูซกับกายสบตากันก่อนที่กายจะตอบอย่างสุภาพ
“ขอบคุณมากครับ แต่เกรงว่าคงต้องขอตัว เพราะผมกับคุณครูซมีงานค้างที่ต้องรีบกลับไปจัดการ” หลังได้ยินเสียงปฏิเสธของกาย เมธายิ้มแห้งๆ แต่ยังคงพยายามโน้มน้าว
“ไม่ต้องรีบหรอกครับ งานก็จบแล้ว แค่พักผ่อนกันบ้างก็ดี หนูมุกเองก็ยังอยากได้คำแนะนำจากคุณครูซ”
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับ วันนี้ผมไม่สะดวก” ครูซปฏิเสธด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แต่ในใจเขากลับอยากเดินออกจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย เมธาหัวเราะเบา ๆ ยอมรับ
“ได้ครับ ไว้คราวหน้าเรานัดกัน”
หลังจากนั้น ครูซและกายลุกขึ้นจากโต๊ะทั้งสองก้มศีรษะให้เมธาก่อนเดินออกจากห้องอาหาร กายหันมาพูดกับครูซทันทีเมื่อเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ในลานจอด
“คุณเมธาพยายามทุกทางจริง ๆ ที่จะให้ลูกสาวได้ใกล้ชิดคุณครูซ”
ครูซเพียงหัวเราะออกมาเบา ๆ “พยายามมากไปนิด แต่ไม่แปลกสำหรับคนอย่างเมธาคงคิดว่าการให้ลูกสาวมาเป็นส่วนหนึ่งในเกมธุรกิจจะเพิ่มความได้เปรียบ”
“แล้วได้ผลไหมครับ?”
“ไม่เลย” ครูซยิ้มมุมปากขณะเปิดประตูเข้าไปนั่งลงในรถ แล้วทั้งสองก็ขับรถออกจากโรงแรม